เมื่อผู้ผลิตกระดาษอย่าง “ดั๊บเบิ้ลเอ” ลุกขึ้นมาทำเมืองหนังสือ หรือ Thailand Book Tower ตามแบบเมืองใหญ่ของโลก โดยบริษัท บุ๊ค ทาวเวอร์ (ไทยแลนด์) ทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการ และโยก สมชาย ตันตาศนี อดีตผู้บริหารดั๊บเบิ้ลเอ มาเป็น CEO ของ Thailand Book Tower
กำหนดเปิดต้นปี 2549 ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 1.5 ล้านเล่ม รายได้ 300 ล้านบาท จากยอดผู้ใช้บริการที่คาดว่าจะมีราว 4,000 คนต่อวัน
นับว่าเป็นการตลาดเชิงรุกของดั๊บเบิ้ลเอ นอกจากรายได้จากค่าเช่าตึกแล้ว เมื่อสำนักพิมพ์มีช่องทางใหม่ๆ ขายหนังสือได้มากขึ้น การผลิตหนังสือใหม่ๆ ย่อมมากขึ้น และในฐานะพันธมิตรทางตรง การสั่งซื้อกระดาษจากดั๊บเบิ้ลเอมากขึ้นเช่นกัน
Reading Society จะเป็นสถานที่แรก ที่ทำให้สำนักพิมพ์หลายแห่งจะได้เป็นเจ้าของร้านหนังสือของตัวเอง เช่น นานมีบุ๊คส์ พัฒนาศึกษา แปลน ฟอร์คิดส์ เป็นต้น กิจกรรมส่งเสริมการตลาดจะถูกจัดขึ้นทุกวันเพื่อไม่ให้เมืองหนังสือกลายเป็นเมืองร้าง
“เคยขายไอเดียกับนายทุนหลายค่าย ว่าอยากมีร้านหนังสือแท้ๆ เหมือนกรุงโซล เซี่ยงไฮ้ จนกระทั่งได้คุยกับคุณโยธิน กรรมการผู้จัดการของดั๊บเบิ้ลเอ และเกิดแนวคิดตรงกัน” สุวดี จงสถิตวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด บอก
ตึกเก่าของบริษัท เกษตรรุ่งเรือง ริมถนนสาทร จะได้รับการ renovate ครั้งใหญ่ เพื่อเป็นเมืองหนังสือแนวตั้ง 9 ชั้น พื้นที่รวม 6,000 ตารางเมตร ด้วยงบตกแต่ง 150 ล้านบาท และงบการตลาด 50 ล้านบาท แต่ละชั้นจะแยกประเภทหนังสือ และจะมีบริการ search engine พร้อมทั้งพนักงานที่เป็น book specialists และ book consultants คอยให้คำแนะนำกับลูกค้า
“ศักยภาพด้าน location ของ TBT คือ ตั้งอยู่บนถ.สาทร บริเวณใกล้เคียงสถานีรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ และใกล้สถานศึกษา เช่น โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เซนต์หลุยส์ ฯลฯ และมีนักเรียนรวมกว่า 10,000 คน”สมชาย บอก
แต่การที่ ย่านสาทร เป็น office building เสียเป็นส่วนใหญ่ และไร้พื้นที่ของศูนย์การค้าที่จะดึงดูดผู้คนจำนวนมาก และ TBT ตั้งห่างจาก BTS สุรศักดิ์ อย่างน้อย 50 เมตร ทางบริษัทฯ จึงต้องบริการรถรับ-ส่ง เพื่อความสะดวกของลูกค้า
คาดการณ์รายได้ของ TBT
กำไรจากการจำหน่ายหนังสือ 80%
ค่าเช่าพื้นที่ 20%