Youthful Marketing ทำตลาดอย่างไรให้โดนใจคนรุ่นใหม่

การแข่งขันทางด้านการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่นในยุคนี้ ดูเหมือนจะมีกลยุทธ์และวิธีการใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิมอยู่มาก ซึ่งมีหลากหลายสิ่งที่เราควรจะเรียนรู้และศึกษาเพื่อก้าวตามให้ทันโลกการตลาดในปัจจุบัน เพื่อเป็นแนวคิดในการทำธุรกิจให้ทันสมัย ถูกใจคนยุคใหม่ และที่สำคัญ เพื่อความสำเร็จของธุรกิจ

The Filter Group Youth/Young Adult Marketing and Research Agency (ร่วมก่อตั้งโดย Mr. Ian Stuart ซึ่งทำงานในเอเชียมาแล้วถึง 15 ปีกับบริษัท Coca Cola, MTV, Oglivy เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2000 ในโตเกียว ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และในประเทศไทย) โดยการค้นคว้าข้อมูลของกลุ่ม The Filter Group ใช้หลักตามนี้

-การคาดเดาเทรนด์ โดยผู้นำด้านแฟชั่น, ดนตรี, เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์
-การรับเอาเทรนด์มาใช้ของผู้บริโภคกลุ่มแรกๆ
-การทดสอบคอนเซ็ปต์

The New Trend แบรนด์ดังของโลกหลายแบรนด์ เช่น Adidas, Samsung, Chivas Regal, MTV ใช้เทคนิคการเน้นคุณภาพและปริมาณของสินค้า ร่วมกับการคาดเดาเทรนด์ โดยผู้รอบรู้ในด้านต่างๆ และขั้นตอนต่อมาคือ การทดสอบกับผู้ใช้ผู้บริโภค

วิถีการกำเนิดของ Trend

ผู้นำด้านความคิด
– กลุ่มรับเทรนด์กลุ่มแรกๆ
– กลุ่มคนทั่วไปส่วนใหญ่

จากผลการสำรวจของกลุ่ม Filter พบว่าประเทศไทยเรารับเอาเทรนด์จากทั้งทางประเทศแถบตะวันตกและประเทศญี่ปุ่น สูงสุดเป็นอันดับ 1 เมื่อเปรียบเทียบกับหลายประเทศในแถบเอเชียด้วยกัน แต่ก็เป็นที่น่าโล่งใจว่าเรายังไม่ถูกกลืนโดยวัฒนธรรมจากต่างชาติไปเสียทั้งหมด เพราะอิทธิพลของไลฟ์สไตล์แบบไทยๆ ที่มีต่อคนในประเทศของเรายังมีมากที่สุดถึง 62 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว

* interesting facts : ประชากรในประเทศแถบเอเชียมากถึง 35 เปอร์เซนต์ที่พอใจรับเอาไลฟ์สไตล์แบบตะวันตกมาเป็นแบบอย่าง และตามเทรนด์จากญี่ปุ่นรองลงมาเป็น 27 เปอร์เซ็นต์

*interesting facts : ประชากรวัยรุ่นชาวญี่ปุ่นมากกว่า70 เปอร์เซ็นต์ ชื่นชอบการแต่งกายและวัฒนธรรมแบบผสมผสาน (mixing style and cultures) เช่น การนำของราคาแพงมีแบรนด์เนมมาใช้ร่วมกับของราคาถูก หรือการผสมผสานเครื่องประดับของใช้แบบใหม่ร่วมกับแบบย้อนยุค เป็นต้น

สิ่งที่กลุ่ม Filter สนใจและให้ความสำคัญก็คือ การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบไลฟ์สไตล์ของคนเมืองรุ่นใหม่ ทั้งในเอเชีย และทั่วโลก ซึ่งลักษณะของกลุ่มคนเมืองที่ว่าก็คือกลุ่มชายหญิงชั้นกลางขึ้นไป อายุตั้งแต่ 20 ปี มีการศึกษา และใช้ชีวิตทันสมัยแบบคนเมืองยุคใหม่ มีความกระตือรือร้นและให้ความสนใจในข่าวสารเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา ใส่ใจดูแลตัวเองสม่ำเสมอ มีความเชื่อมั่นและประสบความสำเร็จในชีวิต

* Interesting facts : กลุ่มผู้บริโภคอายุ 20 กว่าเหล่านี้ คือกลุ่มลูกค้าพื้นฐานที่สำคัญมาก เพราะคนกลุ่มนี้คือกลุ่มผู้นำเทรนด์ที่มีผลกระทบต่อกลุ่มที่มีอายุมากกว่า และกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่าอีกด้วย

* Interesting facts :ในโลกยุคปัจจุบันนี้ วิธีการทำนายเทรนด์หรือการสร้างเทรนด์ใหม่ขึ้นมานั้น มีขั้นตอนที่ค่อนข้างจะเป็นระเบียบแบบแผนมากยิ่งขึ้น โดยวิธีการค้นคว้าและร่วมทำงานกับกลุ่มที่สร้างเทรนด์ (trend setters) และคนกลุ่มแรกๆ ที่รับเทรนด์มาใช้

14 เทรนด์ของผู้บริโภคยุค New Generation

1.Forever Young ความเป็นหนุ่ม-สาว ตลอดกาล เปรียบเหมือนกับ ปีเตอร์ แพน แห่งดินแดนเนเวอร์แลนด์ ที่ไม่ไม่วันแก่ เทรนด์ความเป็นหนุ่มสาวนี้นำเสนอความคิดที่ว่า คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวเองให้แก่ตามอายุของคุณ คุณอาจจะอายุ 40 ปี แต่ยังสดใสได้เหมือนคนอายุ 30 เป็นกลุ่มคนที่รู้ว่าเวลาไหนที่ควรจะจริงจัง และเวลาไหนที่ควรจะใช้ชีวิตให้สนุกสนานเหมือนอย่างเด็กๆ (ตัวอย่างของสินค้า เช่น วิดีโอเกม เสื้อผ้าลำลอง-สปอร์ตแวร์ เฮลโลคิตตี้ หรือตัวการ์ตูน อย่างเช่นแบรนด์ดัง หลุยส์ วิตตอง ก็นำมาใช้ในสินค้า และยังมี พูม่า รถมินิ คอมพิวเตอร์แอปเปิล ต่างก็ขยายตลาดมาเจาะกลุ่มเทรนด์ forever young นี้ด้วย

2. Six Degrees/Authorship/Passion group

3. Wellness/Simplicity ชีวิตที่เรียบง่ายอย่างมีคุณภาพ คือแบบอย่างของเทรนด์นี้ เฉกเช่นการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายไร้การรีบเร่งแข่งขันแบบคนในเมืองใหญ่

4. Retro เทรนด์ย้อนยุค เหมือนการย้อนกลับไปในอดีตเพื่อการก้าวไปข้างหน้า เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมป็อปที่แพร่หลายไปทั่ว ปัจจุบันนี้การนำของเก่ากลับมาใช้ใหม่ก็เป็นเทรนด์ที่มีเสน่ห์ซึ่งคนรุ่นใหม่ชื่นชอบ เพราะดูมีคุณค่าและเรื่องราวมากกว่าของใช้ดีไซน์ล้ำสมัย และการนำประวัติความเป็นมาของแบรนด์มานำเสนอเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีในการเพิ่มเติมความใกล้ชิดกับผู้บริโภค และยังสร้างสีสันให้แก่แบรนด์อีกด้วย

5. Field Trip Travel การเที่ยวตามท้องทุ่ง กลับสู่ชนบท เป็นอีกเทรนด์สำหรับคนเมืองที่ต้องการกลับไปสู่ความเป็นธรรมชาติ รักอิสระและชอบเดินทางท่องเที่ยว

6. Documentation/Librarian/Content Management/Data Storage เทรนด์เกี่ยวกับด้านเทคโนโลยี การสื่อสาร การจัดเก็บข้อมูลต่างๆ และความนำสมัย ไฮเทค เป็นสิ่งที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่อยู่สูงมาก

7. Fusion เทรนด์การผสมผสานทางด้านวัฒนธรรม ในโลกยุคโลกาภิวัฒน์ (globalization) และ localization ตัวอย่างเช่น การที่คนไทยหันมากินพิซซ่าของตะวันตกแต่มีการดัดแปลงเป็นหน้าต้มยำกุ้งคงรสชาติแบบไทยๆ เอาไว้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเทรนด์แฟชั่น (เช่นการแต่งตัวตามเทรนด์ญี่ปุ่นของคนไทย) หรือดนตรี (แนว hip hop ที่กำลังแพร่หลายอย่างมากทั่วโลกตามอย่างคนผิวดำในอเมริกา) แต่ในปัจจุบันนี้ประเทศในแถบเอชียเราจะรับเทรนด์จากเอเชียด้วยกันมากกว่าจากฝรั่งฝั่งตะวันตก

8. Genuineness เทรนด์แห่งความเท็จจริงของข้อมูลข่าวสาร เนื่องจากความกระหายใคร่รู้ข่าวสารข้อเท็จจริงมีอยู่ในมนุษย์และรอบๆ ตัวเรา ไม่ว่าจะในภาพยนตร์ แฟชั่น ดนตรี และสื่อต่างๆ เราต่างอยากทราบถึงความจริงจากทุกแง่มุมและเบื้องลึกเบื้องหลังของทุกๆ สิ่งรอบตัว ดังนั้นวิธีการเสนอให้ผู้บริโภคเห็นอย่างกระจ่างชัดแจ้งในตัวแบรนด์ด้วยวิธีการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สินค้าแฟชั่น hi-end ทั้งหลายนิยมนำมาใช้

9. Immortality/Fatalism/Crisis Management

10. Self enhancement การเติมความรู้ให้สมอง และเพิ่มคุณค่าให้แก่ชีวิต ให้มีมากยิ่งขึ้น เช่นการใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์โดยการเรียนเพิ่มเติม ซึ่งในปัจจุบันนี้มีโรงเรียนเปิดสอนกันหลากหลายมากมายทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายเสริมสุขภาพ เช่น เรียนเต้นรำ โยคะ การเรียนรู้ทำอาหารนานาชนิด มีเปิดให้เลือกเรียนกันได้ครบทุกชนิดและชนชาติ

11. Intimate Experiences ใหญ่ๆ เราไม่ แต่เล็กๆ เราทำ คือแนวของเทรนด์นี้ จากซูเปอร์คลับใหญ่โตแบบก่อนมาเป็นเพียงบาร์เล็กๆ แต่บรรยากาศอบอุ่น เพราะว่าผู้คนหันมาชอบความสบายและเป็นส่วนตัวกันมากขึ้น คลับบาร์ที่ต้อนรับเฉพาะสมาชิก หรือ members only จึงมีให้เห็นกันมากขึ้นตามมาด้วย บางคนถึงกับกล่าวว่า “สมัยนี้การอยู่บ้านก็เปรียบเสมือนการไปเที่ยว” เพราะว่าคนเราหันมานิยมความสะดวกสบายเป็นส่วนตัวกันมากขึ้นนั่นเอง

12. Mix and Match /Cut ‘n paste / Customization เทรนด์แห่งการผสมผสานหลากที่หลายไร้ข้อจำกัด เนื่องด้วยวัยรุ่นยุคใหม่มีความเป็นตัวเองสูง จึงไม่จำเป็นที่ทุกคนจะต้องแต่งกายตามกันเหมือนก่อน ความนิยมในเทรนด์นี้จึงมีอยู่สูง ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาของแพงมาใช้ร่วมกับของถูก หรือการนำเอาเสื้อเก่า ที่ตัดเย็บเองมาใส่ร่วมกับกางเกงแบรนด์เนม เป็นต้น

13. Luxury Twisted เทรนด์แนวหรูหราแบบไฮโซ การใช้ของราคาแพงแบรนด์เนมเพื่อแสดงฐานะของผู้ใช้ เพื่อจับกลุ่มตลาด hi-end สตางค์เยอะ ก็เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่แบรนด์ดังต่างๆ มักใช้กันมาอยู่เรื่อยๆ

14. Indie Spirit เทรนด์จิตวิญญาณแบบชาวอินดี้ ความดิบเถื่อนตามสัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์ เราจะเห็นเทรนด์นี้ได้ชัดเจนที่สุดในด้านของดนตรี สังเกตได้ว่าเทรนด์ดนตรีได้เปลี่ยนจากเพลงตามสมัยนิยมของอเมริกาและเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์มาเป็นวงดนตรีอิสระจากฝั่งอังกฤษซึ่งมีอิทธิพลมากขึ้น

รวมไปถึงหนังแนวอินดี้ หรือนักออกแบบอิสระหน้าใหม่ในวงการแฟชั่น ก็ต่างมีบทบาทกันมากขึ้นด้วย กลุ่มคนเหล่านี้อาจเป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเทรนด์ในอนาคตที่มนุษย์มีเสรีภาพและอิสระทางด้านความคิดกันมากขึ้นก็เป็นได้ ลอนดอนเป็นเมืองที่สังเกตทิศทางและอนาคตของเทรนด์อินดี้ได้ชัดเจนมากที่สุดเมืองหนึ่ง หรือสไตล์การแต่งตัวเด็กแนวของวัยรุ่นไทยก็จัดเป็นเทรนด์อินดี้อีกรูปแบบหนึ่งด้วย

ข้อมูลจาก The Filter Group

สุวิทย์ ฉัตรเที่ยงธรรม แปล/เรียบเรียง