เมื่อธุรกิจขายเพลงไม่ได้หอมหวานเหมือนในอดีตอีกต่อไป ยักษ์ใหญ่อย่างแกรมมี่จึงต้องหันมาเอาดีในการ “ขายสิทธิในตัวศิลปิน” คือ สิทธิในการนำศิลปินไปโชว์หรือแสดงความสามารถเพื่อความบันเทิงและประโยชน์ทางธุรกิจ โดยมีบริษัท Aratist บริษัทในเครือมาทำหน้าที่บริหารสิทธิ
“มีแนวโน้มที่คนยังใช้เงินไปกับกิจกรรมด้านบันเทิงมากขึ้น และทุกธุรกิจก็พยายามเอาคนบันเทิงมาใช้สร้างสีสันในกิจกรรม โดยเฉพาะเวลาช่วงเศรษฐกิจแย่” เกรียงไกร กาญจนะโภคิน MD บริษัทอราทิส บอกถึงที่มาของบริษัทบริหารศิลปินแบบครบวงจร ทว่าเบื้องหลังก็คือ ตัวเลขรายได้จากธุรกิจขายเพลงที่เติบโตแบบหดตัว อันเนื่องมาจากอิทธิฤทธิ์ของเทปผีซีดีเถื่อน และ MP3
ไม่เพียงแต่ผ่าทางตันในธุรกิจขายเพลง อราทิสยังแก้ปัญหาเรื้อรังภายในของแกรมมี่ได้ด้วย เช่น อาการ “ถูกดอง” ของศิลปินใหม่ที่มีมากมาย แต่ยังไม่อาจลงทุนโปรโมตได้เต็มที่ จนกว่าจะได้ออกอัลบั้ม รวมถึงปัญหาศิลปินจะดังอยู่แค่ช่วงโปรโมต พอหยุดก็ไม่ได้ออกสื่อจึงถูกลืมได้ง่าย ฯลฯ
ขณะที่ผู้ใฝ่ฝันตะกายดาว อราทิสจะเป็นบันไดที่ชักนำเข้าสู่วงการได้ไม่ยาก เพราะที่นี่มีทั้งแผนก “คัดสรรปั้นแต่ง” และก็มีช่องทาง (channel) ซึ่งเป็นสื่อในมืออยู่ไม่น้อย ทั้งรายการวิทยุ รายการโทรทัศน์ นิตยสาร VCD ภาพยนตร์ ละคร ออกอัลบั้ม และงานอีเวนต์โดยมี Index Event Agency ที่พร้อมจะป้อนงานให้ไม่ขาดสาย
ถ้าศิลปินออกงานบ่อยย่อมหมายถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้น พร้อมกับชื่อเสียงที่สั่งสมของศิลปิน ยิ่งชื่อเสียงถูกผูกยาวเป็นตำนาน มูลค่าของศิลปินก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งต่อไปถึงงานที่จะตามเข้ามามากขึ้นด้วย และหากศิลปินนั้นเป็นนักร้อง ชื่อเสียงที่ยังวนเวียนอยู่ก็อาจจะกลับไปส่งผลต่ออัลบั้มเพลงได้ด้วย ซึ่งเป็นผลพลอยได้ที่แกรมมี่เองก็ยังแอบหวัง
เกรียงไกรเสริมว่า ปีที่ผ่านมา แกรมมี่มีส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจบริหารศิลปินอยู่ถึง 70% แต่ทว่ายังเป็นตัวเลขที่ไม่น่าพอใจ เพราะตลาดรวมมีมูลค่าเพียง 501 ล้านบาท โดยเขาหวังจะกระตุ้นรายได้ในส่วนนี้ของแกรมมี่ให้สูงถึงพันล้านบาท ภายใน 2 ปี ซึ่งจะเป็นจริงก็ต่อเมื่อ Aratist มีศิลปินที่มีศักยภาพที่หลากหลายจำนวนมาก และมีการบริหารจัดการศักยภาพของศิลปินที่ดี ภายใต้เงื่อนไขคือ ตลาดเอนเตอร์เทนเมนต์ขยายตัว
Company Aratist ในเครือ GMM Grammy
– Products
1. Artists & Talents
1.1 Music Services การใช้ศิลปินในสังกัดไปแสดงในงาน เช่น ร้องเพลง เล่นดนตรี แสดงออเคสตร้า ร้องคอรัส ฯลฯ
1.2 Non-music Service การใช้ศิลปินไปแสดงความสามารถด้านอื่น เช่น เดินแบบ เป็นนักแสดง MC พิธีกรงาน celeb หรือแข่งกีฬา (โบลิ่ง ฟุตบอล และกอล์ฟ) ฯลฯ
2. Consulting Service รับเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายหรือเป็นตัวแทนให้กับศิลปินทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
– Target
1. ลูกค้าทั่วไปที่ต้องการนำศิลปินไปให้ความบันเทิง เช่น ปาร์ตี้วันเกิด งานเลี้ยงบริษัท
2. ลูกค้าที่ต้องการศิลปินไปสร้างความบันเทิงเพื่อหารายได้ เช่น ผับ บาร์ หรืองานอีเวนต์ต่างๆ
3. ลูกค้าที่ต้องการนำชื่อเสียงและศิลปินไปใช้เพื่อรูปแบบการค้า เช่น present สินค้า ฯลฯ
– จุดยืน One Stop Service for Entertainment&Gateway to Entertainment
– จุดแข็ง
1. ศิลปินในเครือแกรมมี่ 750 ชีวิต
2. ไม่มีข้อจำกัดของค่าย เพราะเปิดกว้างให้กับ talents&artists หน้าใหม่
3. มีการจับมือกับ Elite Model Worldwide ซึ่งจะเป็นประตูนำนางแบบอินเตอร์เข้ามา และเป็นช่องทางส่งนางแบบไทยไปโกอินเตอร์
4. มีสื่อในเครือครบวงจร (www.grammy.co.th)
5. ได้มือดีจากวงการ below the line media มาเป็นแม่ทัพช่วย set-up ระบบ
– คู่แข่ง
(ที่คล้ายกัน) IAM (Image & Asset Management) ของ R.S. Promotion ซึ่งเป็นธุรกิจบริหารสิทธิและภาพลักษณ์ของศิลปินนักร้องในค่าย และ AMTAR (Administration and Management of Thai Artist’s Rights) เกิดจากการร่วมทุนระหว่างศิลปินและผู้กำกับชาวไทย (สังกัดช่อง 3) กับบริษัท Bain Bridge & Mcclean จากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการบริหารสิทธิให้กับศิลปินที่เป็นดารานักแสดง


