โซนี่ สไตล์ (Sony Style) ที่เพิ่งตัดริบบิ้นเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ บริเวณชั้น 2 โซนด้านในติดบันไดเลื่อนของห้างสรรพสินค้าหรูย่านปทุมวัน Siam Paragon Shopping Complex ไปเมื่อกลางเดือนธันวาคม 2548
ที่ผ่านมาได้สะท้อนถึงความพยายามรักษาภาพลักษณ์แบรนด์ในระดับบนของ Sony เพื่อหนีตลาดสงครามราคาที่รุ่นแรงมากขึ้นในปัจจุบัน
ด้วยการยกระดับมาจากร้าน Sony Universe ขึ้นเป็นโชว์รูมคอนเซ็ปต์ใหม่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 475 ตารางเมตรที่ใหญ่ที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อเป็นศูนย์กลางในการโชว์เทคโนโลยีใหม่ ผลิตภัณฑ์ และสร้างแบรนดิ้งให้กับสินค้าปรากฏแก่สายตาลูกค้าระดับกลางถึงบน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกับ Siam Paragon
หลังจากเคยประสบผลสำเร็จสามารถสร้าง Sony ในห้างหรูกลางเมือง Shopping ที่ประเทศฮ่องกง หรือร้านต้นแบบในญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา
บรรยากาศในร้าน Sony Style จึงให้ความรู้สึกที่พิเศษกว่า Sony Shop แบบเดิมๆ เริ่มจากการดีไซน์ร้านให้โปร่ง และมีการจัดวางสินค้าไม่มากนัก โดยเน้นทรีมงานเป็นสีขาวสลับดำ มีมุมโชว์สินค้าบนตู้โชว์สีขาว โดยที่โดดเด่นเป็นพระเอกภายในร้านได้แก่ จอ LCD TV รุ่น Bravia ที่ถูกจัดวางจอขนาดใหญ่โชว์การใช้งานจริงในมุมห้องนั่งเล่น และแขวนจอขนาดเล็กติดผนัง เพื่อโชว์ความบางเบาของจอภาพ
รวมทั้งพยายามเพิ่มความเป็นไลฟ์สไตล์เรียบหรู ด้วยการนำจอภาพ Grand VEGA จัดวางเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องเสียงในห้องรับแขกขนาดใหญ่ที่มีโซฟาดีไซน์หรูทันสมัย สื่อให้ถึง positioning ของสินค้าในรูปแบบ luxury มากขึ้น
ไม่เว้นแต่ชุดพนักงานในร้านที่มีการออกแบบใหม่ ดีไซน์ให้ทันสมัยมากขึ้น ด้วยชุดผู้หญิงในสูทสีเทา-ดำคอตั้งมิดชิด ปักโลโก้ Sony Style ที่อกซ้าย ผู้ชายใส่สูทเทา-ดำผูกไทปักโลโก้ที่อกซ้ายเช่นกัน จึงทำให้ชุดแตกต่างจากชุดพนักงานในร้าน Sony หรือร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วไปที่ใส่เสื้อคอโปโลปักโลโก้ Sony เท่านั้น
โลโก้ Sony Style ยังใช้ลูกเล่นในการดีไซน์ตัวอักษรสีดำเป็นเส้นบางๆ ผสมกับหยดน้ำสีเขียว เพื่อให้รู้สึกทันสมัย แต่มีสไตล์เฉพาะของ Sony
ภายในร้านยังดีไซน์มุมแคชเชียร์ให้เป็นมินิบาร์ ด้วยเก้าอี้ทรงสูงสีขาว 4 ตัวไว้ให้ลูกค้านั่งรอแบบสบายๆ ในเวลาจ่ายเงิน หรือสอบถามข้อมูลสินค้าที่หน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ซึ่งทั้งหมดเป็นผลงานออกแบบของทีม Progress
ดีไซเนอร์และสถาปนิกชื่อดังในเมืองไทย
คาซูโอะ ซูยาม่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด อธิบายว่า Sony Style เหมาะที่จะอยู่ในห้างหรูอย่าง Saim Parakon เพราะเป็นห้างที่มีกลุ่มเป้าหมายเดียวกับโซนี่ โดยต้องการนำเสนอสินค้าและแบรนด์ Sony ไปยังลูกค้าระดับกลางถึงบน ทั้งลูกค้าคนไทย หรือนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ เพราะเชื่อว่าลูกค้ากลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูง แต่ต้องการบริการที่ดีกว่า และรู้สึกคุ้มค่า แม้จะต้องจ่ายเงินเพิ่มจากปกติ 5-10%
สินค้าและบริการในร้าน Sony Style จะสูงกว่า Sony Shop หรือร้านดีลเลอร์ประมาณ 5% เพื่อให้ positioning แตกต่างจากร้านปกติและไม่ลงแข่งขันราคากับคู่ค้า เพราะเชื่อมั่นว่าลูกค้ากลุ่มบนหรือ luxury ใช้ความพอใจเป็นเกณฑ์ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า จึงเชื่อว่าราคาไม่ใช่ประเด็นสำคัญ