ทำเอาประทับใจไปตามๆ กันสำหรับ coporate ad ล่าสุดของ DTAC ที่ได้ผู้กำกับฝีมือดี (พอๆ กับเสียงร้องทรงพลัง) แหม่ม-สุรัสวดี เชื้อชาติ หรือ มาม่า บลูส์ จากโปรดักส์ชั่นเฮาส์ชื่อดัง Matching Studio เป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานกระตุกหัวใจ เสริมสร้างสังคมไทยท่ามกลางกระแสวัตถุนิยมที่ท่วมปรี่ เป็นผลงานต่อเนื่องชิ้นที่ 10 ของ Matching Studio ที่ทำให้กับโครงการสำนึกรักบ้านเกิดของ DTAC ทั้งในบทบาทของเอเยนซี่และโปรดักชั่นเฮาส์
บุญชัย…ขอทำเพื่อแผ่นดิน
หลังการขายหุ้น DTAC ของตระกูล “เบญจรงคกุล” กับเส้นทางของบุญชัย ประธานมูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิด ที่มุ่งเน้นการสานโครงการสำนึกรักบ้านเกิดให้เห็นผลในวงกว้างมากยิ่งขึ้นอย่างจริงจัง เป็นการจับงานเพื่อสังคมด้วยภาพลักษณ์ที่หมดจดกว่าเดิม โดยภาพยนตร์โฆษณาชุด “แผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง” นี้ เน้นย้ำการนำแนวคิดตามพระราชดำรัสปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” มาใช้กับการดำเนินชีวิต เพื่อเกื้อกูลทั้งตนเองและสังคมให้มีความสุข
ภาพเหมือนต่างยุค…สื่อสารเร้าอารมณ์
เนื้อเรื่องนำเสนอด้วยการเปรียบเทียบย้อนอดีตก่อนเสียกรุงอยุธยาครั้งที่ 2 เป็นยุคสมัยแห่งความมั่งคั่งทั้งเงินทองและวัตถุ ที่ผู้คนต่างหลงระเริงมัวเมาในแสงสีและกามา ฉากหฤหรรษ์ของบรรดานางข้าบาท ที่ห้อมล้อมเอาอกเอาใจบรรดาพ่อค้า ขุนนางจากชนชาติต่างๆ โดยมีผู้มีอำนาจชาวสยามสำเริงสำราญกับเหล้า ยา ปลาปิ้ง อย่างสุดเหวี่ยงไม่แพ้กัน …หาได้มีสติไม่
กาลผ่านมาหลายร้อยปีผู้คนยุคสมัยปัจจุบันยังหลุ่มหลงในความสุขชั่วครั้งชั่วคราว ภาพของหนุ่มสาวระเริงปาร์ตี้แบบสุดขั้วริมสระน้ำหรู ด้วยท่วงท่าที่ดีดดิ้นกรีดกราย และเสียงร้องระริกเร่าประหนึ่งเป็นสุขล้นเสียเต็มประดา…ฤานี่จะเป็นประวัติศาสตร์ที่บันทึกความล้มเหลวของสังคมเช่นที่เคยเป็นมา…ก่อนเรื่องราวจะโปรยคำเตือนพลิกแผ่นดินไทยให้เป็นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง และภาพของความสุขที่อาบฉายอยู่ทั่วใบหน้าของผู้อิ่มบุญที่จูงไม้จูงมือร่วมกันใช้ชีวิตให้มีคุณค่า ณ ธรรมสถาน ปรากฏเป็นฉากสุดท้าย ตอกย้ำแก่นแท้ของชีวิต
สำนึกรักบ้านเกิด…ใช้ความรู้กู้ชุมชน
“เศรษฐกิจพอเพียง ทฤษฎีใหม่ขั้นที่ 3 คือ ทุนใหญ่ช่วยเหลือทุนเล็ก ซึ่งโครงการสำนึกรักบ้านเกิดนำมาเป็นนโยบายหลัก 8 ปีที่ผ่านมา การสร้างสรรค์กระตุ้นเร้าสังคมผ่าน TVC เป็นจำนวนทั้งสิ้น 9 เรื่องแล้ว ซึ่งด้านผลสัมฤทธิ์ของเยาวชนในโครงการปัจจุบันมีผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้วทั้งสิ้น 999 คน”
บุญชัยส่งผ่านความตั้งใจให้กับทีมครีเอทีฟเพื่อตอกย้ำการเป็นอยู่อย่างพอเพียง ให้คนไทยหันมาเหลียวแลและเกื้อกูลกับคนรอบข้างบ้าง ไม่ใช่มีความสุขอยู่แต่กับโลกแห่งวัตถุนิยมซึ่งเป็นสิ่งมัวเมาและจอมปลอม
“เพื่อกระตุ้นและสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนไทยมีความรักและภาคภูมิใจในแผ่นดินเกิด นำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาพัฒนาชุมชนของตนเอง”
ปณต อุดม Executive Producer บริษัท Matching Studio บอกกับ POSITIONING ว่า ประวัติศาสตร์ห้วงเวลานั้นเป็นยุคแห่งความรุ่งเรืองของสยามประเทศ เปรียบ ณ เวลานี้ ยังคงเป็นยุคที่ผู้คนนิยมวัตถุและชื่นชม นิยมผู้คนที่ร่ำรวย และเหล่าไฮโซ ที่จัดงานปาร์ตี้โก้หรูกันแทบทุกค่ำคืน ต่างยุคต่างสมัยแต่ฉายภาพที่คล้ายคลึงกัน หากคนเราไม่มีสติในการดำรงชีวิต ลืมตัว ก็ไม่แน่ว่าจะเกิดการเสียกรุงครั้งที่ 3 อีกหรือไม่
ด้านโปรดักชั่น ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ถ่ายทอดสีหน้าแววตาแห่งความอิ่มเอมในกิเลสได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์ล้วนตระการตายิ่งนัก เป็นภาพยนตร์โฆษณาชิ้นสวยที่อาศัยความประณีตในการถ่ายทำมากพอสมควร และทำให้ brand image ของ DTAC ดูน่าชื่นชมไม่น้อย
ปณต บอกว่า การถ่ายทำใช้เวลาทั้งสิ้น 4 วัน ทั้งในสตูดิโอที่กรุงเทพฯ และโลเกชั่นต่างจังหวัด ฉากวัดในตอนท้ายเรื่องเป็นวัดโบราณแห่งหนึ่งที่เพชรบุรี
การเลือกช่วงเวลาออนแอร์ในช่วงส่งท้ายเทศกาลปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งมีการจัดงานรื่นเริงกันเอิกเกริกทั่วบ้านทั่วเมือง ปณตบอกว่าเป็นการเตือนสติผู้คนในสังคมว่า อย่าหลงระเริงในความสุขภายนอก ให้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เกื้อกูลกัน ช่วยเหลือกัน ซึ่งเรื่องราวที่นำเสนอทั้งหมดผ่านการตีความจากคำว่า แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง