ยืดเยื้อยาวนานข้ามปี จนได้บทสรุป เปิดแถลงข่าวกันก่อนตรุษจีน สำหรับการขายหุ้น…ของ ”ตัน ภาสกรนที” ในบริษัทโออิชิ กรุ๊ป ให้กับบริษัทนครชื่น จำกัด ที่มี ”เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี” และครอบครัวเป็นเจ้าของ และบริษัท Bengena ที่มี Ma Wah Yan นักลงทุนฮ่องกงเป็นเจ้าของ
ทั้ง ”ตัน” “ธนิต ธรรมสุคติ” ตัวแทนของครอบครัวสิริวัฒนภักดี และ ”อุดมศักดิ์ ชาครีย์วณิช” กรรมการผู้อำนวยการบริษัทหลักทรัพย์ เอเชียพลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของการซื้อกิจการต่างแถลงด้วยรอยยิ้มแบบแย้มริมฝีปากเพียงเล็กน้อย เพราะสิ่งที่เห็นวันนี้เป็นคำตอบที่ย้ำชัดว่าสิ่งที่ปฏิเสธก่อนหน้ากลายเป็นจริง ที่ทั้ง ”นครชื่น” และเบียร์ช้าง ภายใต้บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ต่างก็อยู่ในอาณาจักรของ ”เสี่ยเจริญ “ มหาเศรษฐีร่ำรวยอันดับ 5 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการจัดอันดับประจำปี 2548 ของนิตยสารฟอร์บส์ และเป็นคนไทยคนเดียวที่ติดอันดับทอปเทน
“ตัน” ณ นาทีนี้รับเงินใส่กระเป๋าไปแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท เขาบอกแผนการใช้เงินก้อนนี้ว่าส่วนหนึ่งไว้ซื้อความสุขสำหรับครอบครัว และลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยจะไม่มีการนำมาลงทุนผลิตภัณฑ์และสินค้าอื่นใดอีก เพราะเขาพร้อมอย่างเต็มที่ในการเป็นผู้ถือหุ้น แม้เวลานี้จะถืออยู่เพียงประมาณ 10% ในบริษัทเดิมที่เขาก่อตั้งมากับมือ แต่ก็พร้อมกว่า 100% ในการเป็นลูกจ้างให้กับ”เสี่ยเจริญ” ด้วยคำมั่นสัญญาที่ว่า
”แม้จะถือหุ้นน้อยลง แต่ผมก็ยืนยันว่าทำงานให้เต็มที่ ประวัติผมทั้งที่เคยเป็นลูกจ้าง หรือเจ้าของกิจการ ยืนยันว่าไม่เคยทำงานครึ่งราคา”
ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องทำให้สมกับราคาที่ ”ตัน” ได้ยินจาก ”เสี่ยเจริญ” มาด้วยว่า “โออิชิ ถ้าไม่มีคุณตันบริหารด้วย ให้ฟรียังไม่เอาเลย”
นับจากวันนี้ ”ตัน” บอกว่าต้องเรียนรู้ว่าธุรกิจของเสี่ยเจริญมีอะไรบ้างที่จะต่อยอดชาเขียวโออิชิ ด้วยอย่างน้อยก็คาดหวังว่าโรงแรมของเสี่ยเจริญ ก็ควรมีชาเขียวโออิชิเสิร์ฟ ไม่ใช่ใช้ชาเขียวยี่ห้ออื่น โรงงานของกลุ่มไทยเบฟฯก็น่าจะเป็นฐานในการขยายโรงงานชาเขียวได้ หรือช่องทางจำหน่ายในต่างประเทศก็สามารถให้ชาเขียวเข้าไปร่วมใช้ด้วย
แต่ที่แน่ๆ ภายใต้แบรนด์ “โออิชิ” จะแตกแขนงธุรกิจออกไป อีก 3 กลุ่มธุรกิจ เครื่องดื่ม อาหาร และขนม ซึ่งเป็นกลุ่มล่าสุด โดยมี ขนมโออิชิ เซนเบ้ ออกมาชิมลางเป็นสินค้าตัวแรก
“ยืนยันว่าเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ผู้ถือหุ้น ต่อไปโออิชิถือว่ามั่นคงกว่าเดิม และดีกว่าเดิม”
เป็นแผนที่ชัดเจนว่าสามารถต่อยอดธุรกิจชาเขียวให้สดใสได้อย่างแน่นอน โดยจะมีการรับทีมงานเข้ามาดูแล ทั้ง 3 แต่ยังยึดคติเดิม คือ คนน้อยงานมาก
แต่ใช่ว่า ”ตัน” ผู้ที่เรียกตัวเองว่า ”นักมาร์เก็ตติ้งที่ดี” จะหยุดนิ่งอยู่เพียงเท่านี้ เพราะสิ่งที่คาดเดากันอยู่ว่างานนี้ ”เสี่ยเจริญ” ซื้อโออิชิ แถม ”ตัน” หรือซื้อ ”ตัน” พ่วงโออิชิ แบบแผนซื้อเหล้าพ่วงเบียร์กันแน่ ยังต้องติดตามต่อไป เพราะแม้แต่ ”ตัน” เองก็ไม่กล้ายืนยันอนาคตตัวเอง ว่าวันหนึ่งข้างหน้าจะเปลี่ยนเก้าอี้ไปปลุกปั้นน้ำเมาของไทยเบฟฯที่กำลังเผชิญกับการแข่งขันอย่างเข้มข้นหรือไม่ และกระแสต้านไทยเบฟฯเข้าขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯจนต้องไปซบอกตลาดสิงคโปร์แทน
คำตอบ ณ เวลานี้ จาก ”ตัน” มีเพียงว่า “ไม่ขอตอบ ตอบได้แต่เพียงว่า ชีวิตนี้อย่าไปรับรองว่าไม่แต่งงาน ตอนนี้เอาใกล้ๆ ก็พอ”