8 ปรากฏการณ์ แจ๊ซ ปะทะ ยาริส

ศึกรถยนต์ 5 ประตู ระหว่าง ฮอนด้าแจ๊ซ กับ โตโยต้ายารีส ถ้าเปรียบเป็นมวย ศึกครั้งนี้ถือเป็นกรณีศึกษาที่ โดยเฉพาะกลยุทธ์ทางการตลาด ต่างมีชั้นมีเชิง มีฟุตเวิร์ก มีหมัดหนึ่งสอง แลกกันอย่างสนุก ยิ่งฮอนด้าเปิดแจ๊ซรุ่นใหม่ สไตล์เหลืองอินเทรนด์ ขึ้นมาหวังน็อกยารีสให้สลบ ปรากฏการณ์นี้จึงดุเดือด และน่าวิเคราะห์อย่างยิ่งในประเด็นต่อไปนี้

1.เล่นกับสี – มองในเชิงยุทธ์เรื่องของสี ซึ่งฮอนด้าใช้สีเหลืองของแจ๊ซรุ่นใหม่ เป็นหมัดเด็ดในการส่งแจ๊ซขึ้นเป็นรถยนต์ยอดนิยมของตลาดรถซับคอมแพ็กต์หรือรถยนต์ 5 ประตูเหนือยารีส ของค่ายโตโยต้า เหตุผลสำคัญไม่ใช่อันใดอื่น แจ๊ซสีเหลือง เฮลิออส รุ่นนี้ ขายดิบขายดีชนิดเปรี้ยงปร้างที่แดนอาทิตย์อุทัย และผู้บริหารฮอนด้า เชื่อว่า เทรนด์นี้จะขย่มตลาดเมืองไทยได้เช่นกัน เพราะความนิยมในสไตล์ญี่ปุ่นมีความคล้ายคลึงกันกับบุคลิกของตลาดคนไทย ซึ่งนิยมเรื่องการของดีไซน์ ทั้งนี้ แจ๊ซรุ่นใหม่แตกต่างจากแจ๊ซรุ่นเดิม คือ เน้นปรับโฉมในสไตล์รถสปอร์ต พร้อมไฟท้าย LED ใหม่ มีอุปกรณ์ใหม่ๆ แตกต่างจากรุ่นเก่า เช่น มีมาตรวัดเรืองแสง กระจกข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า มีไฟอ่านแผนที่ มีสปอยเลอร์หลัง เป็นต้น

2.เหลืองอินเทรนด์ – อาจเป็นเรื่องบังเอิญที่มีนัย กลยุทธ์สีเหลือง หรือการใช้สีเหลืองเป็นธีมจัดงานปาตี้ ที่อินซ์ คลับ ถนนรัชดาภิเษก เปิดตัวแจ๊ซใหม่ มีการตั้งคำถามแบบทีเล่นทีจริงกับ มร.ฮิโรชิ โทดะ ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ว่า การใช้เฉกสีเหลืองครั้งนี้ของฮอนด้า เป็นการใช้สถานการณ์การเมืองอันร้อนแรง เป็นกระแสพ่วงการขาย หรือไม่ คำตอบจากผู้บริหารฮอนด้า ยืนยันว่า ใช่, แต่มิได้หมายว่าฮอนด้าจะไปร่วมกับพลังสีเหลืองกู้ชาติ แต่ยอมรับว่า ใครเห็นสีเหลืองช่วงนี้ “ย่อมตื่นตาตื่นใจ” มีผลต่อความสนใจในแง่ทางการตลาด

3.เปิดศึกน็อกยารีส – แม้ แจ๊ซ เฮลิออส เหลือง จะผลิตออกมาเป็น limited กำหนดไว้ประมาณ 1,500 คัน แต่ถือเป็นธงนำในการนำ แจ๊ซรุ่นใหม่นี้เจาะตลาด ซึ่งยังมีอีก 5 สีให้เลือก ทั้งเทรนด์ขาว ม่วง ดำ เทา และเงิน การเปิดฉากครั้งนี้ เหมือนจะออกหมัดสวนสู้กับ “โตโยต้า ยารีส” สีแดง ซึ่งกำลังออกหมัดเก็บคะแนน แย่งส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างเมามัน เพราะตั้งแต่ยารีสเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 49 ที่ผ่านมา กระทุ้งยอดขายไปแล้วถึงเกือบหมื่นคัน ทุบแจ๊ซที่เคยเด่นผงาดอยู่ในตลาดรถ 5 ประตูมานานนับสองปีกว่า ศึกนี้แจ๊ซย่อมทนไม่ได้ที่ยารีสจะมาครองตลาดกันแบบหน้าตาเฉย

4.สงครามราคา – ยารีส 5 ประตูของโตโยต้า เปิดตัวอย่างกระหึ่มใช้ The Style by Toyota สยามสแควร์เป็นฐานรบเปิดตัว ความโดดเด่นของยารีส มองภายนอกรูปทรงกระเดียดไปทางรถยุโรป แต่เมื่อลองมาจอดวัดความกว้างภายในตัวรถ หลายคนประเมินแล้วพบว่า ความกว้างภายในตัวรถนั้นไม่ต่างกันมากนัก ยารีสดูจะด้อยกว่านิดๆ ด้วยซ้ำ ยิ่งยารีสตั้งกำแพงราคารถไว้สูงกว่าแจ๊ซประมาณแสนสองแสน โดยยารีสตั้งไว้ 7 แสนกว่าบาท ขณะที่แจ๊ซเริ่มที่ 5 แสนกว่า แต่ยารีสพยายามชูเรื่องความปลอดภัยด้านระบบเบรก ABS หรือ AIR BACK เป็นจุดขาย บางเกจิทางการตลาดบอกว่า เป็นจิตวิทยามาร์เก็ตติ้ง แบบ “ยิ่งแพงยิ่งดีกว่า” แม้ในระยะสั้นยารีสจะมาแรง แต่เมื่อยารีสดูจะแพงเกินไปสำหรับรถสไตล์นี้ ทำให้ฮอนด้า แจ๊ซ ยังเกาะกุมตลาดรถ 5 ประตูแบบซึมลึกอย่างต่อเนื่อง

5.ระบบไฮเทคยารีส – เปรียบเทียบกันที่เทคโนโลยีภายในระบบเครื่อง ยารีส ดูจะมีภาษีเหนือกว่า ด้วยระบบเครื่องยนต์เป็นเครื่องเดียวกับวีออส คือ 1NZ-FE VVT-i 1500 ซีซี DOHC 16 วาล์ว 109 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ Super ECT แบบ Gate Type, ระบบกันสะเทือนหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัท และระบบกันสะเทือนหลังแบบทอร์ชั่นบีม, พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ด้วยวงล้อที่แคบสุดเพียง 4.7 เมตร ทำให้ผู้ขับยารีสหลายคนบอกว่า คุณภาพของอัตราเร่ง ระบบควบคุมภายในตัวรถ ถือว่ามีประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ดี พวงมาลัยเบา ช่วงล่วงของรถดูจะดีกว่าแจ๊ซที่บางเกินไป แม้แจ๊ซรุ่นใหม่จะมีเครื่องยนต์ VTEC 1.5 ลิตร 110 แรงม้า และเครื่องยนต์ i-DSI 1.5 ลิตร 88 แรงม้า แต่ดูเหมือนว่ายารีสจะมีความทันสมัยสไตล์เครื่องยุโรปดีกว่า

6.จุดขายที่แตกต่าง – แจ๊ซ พยายามโชว์จุดขายด้านการดีไซน์ความเป็นรถสปอร์ตแบบฉบับเทรนด์เอเชีย ทั้งสี และไฟหน้า ไฟท้าย รวมทั้งการโปรโมตว่า มีวงจรประหยัดน้ำมัน (Oil-separating circuit) ทำให้มีประสิธิภาพด้านการประหยัดน้ำมันสูงสุด แตกต่างจากยารีสที่นอกจากจะเน้นความไปเทคของเครื่องยนต์แล้ว ยังใช้จุดขายด้านความปลอดภัยมีครบตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก Euro NCAP เช่น ถุงลมนิรภัย SRS ด้านคนขับ, เข็มขัดนิรภัย ELR แบบ 3 จุด ทุกที่นั่ง เบาะนั่งแบบ WIL Concept ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนด้านหลัง ลดอาการบาดเจ็บบริเวณต้นคอ และแผ่นหลังตอนบน, ระบบเบรก ABS, กุญแจรีโมต Immobilizer ป้องกันกุญแจเลียนแบบไม่ให้สามารถสตาร์ทเครื่องได้ โดยระบบจะตรวจสอบ ID Code ของกุญแจว่าตรงกับที่บันทึกไว้ใน ECU หรือไม่

7.เจาะคนรุ่นใหม่ – กลุ่มเป้าหมายของแจ๊ซ และยารีส มีความคล้ายคลึง คือ การเน้นเจาะกลุ่มคนอายุ 20-25 ปี เพราะสองค่ายนี้มองพลังทางการตลาดแล้วพบว่า รถสไตล์ 5 ประตู แบบสั้นๆ อ้วนๆ นี้ เหมาะสมกับคนรุ่นใหม่ อีกทั้งราคาก็พอสมน้ำสมเนื้อ ดังนั้นทั้งแจ๊ซและยารีสจึงพยายามหาช่องทางกิจกรรมทางการตลาดที่พยายามเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย อย่างแจ๊ซพยายามกิจกรรมทางการตลาด แบบ Below the line เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ จัดโชว์ ขบวนรถแจ๊ซคันเหลืองขึ้นที่สยามดิสคัฟเวอรี่ เซ็นเตอร์ และขยายกิจกรรมไปสู่ 16 จังหวัดทั่วประเทศไทย ขณะที่ยารีส ใช้ The Style by Toyota สยามสแควร์ เป็นศูนย์กลางในการอวดโฉมรถยารีส ซึ่งจะว่าไปแล้ว สองค่ายรถนี้ใช้สยามสแควร์ เป็นตัวสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ในสไตล์คล้ายๆ กัน อยู่ที่ว่าใครจะทำกิจกรรมได้ดีกว่า

8.เดิมพันกันที่ยอดขาย – แม้ภาพรวมของตลาดรถยนต์จะมีทีท่าไม่โสภาสถาพรนักในปีนี้ แต่ฮอนด้าแจ๊ซ ประกาศก้องปีนี้จะเขย่ายอดขายให้ได้ 20,000 คัน ขณะที่ยารีสก็หวังลึกๆ ว่าจะทำยอดขายให้ได้ใกล้เคียงกัน และอาจจะมากว่า เพราะยารีสเคยสร้างปรากฏการณ์มาแล้วในช่วง 3 เดือนของการเปิดตัว สามารถสร้างยอดจำหน่ายไปแล้วเกือบ 10,000 คัน และว่ากันว่า ยารีสกำลังซุ่มเงียบทำการตลาดอย่างหนัก เพื่อฟัดกับแจ๊ซโฉมใหม่ ศึกครั้งนี้จึงน่าจับตามองอย่างยิ่งว่า สองค่ายนี้จะเปิดศึกด้วยกลยุทธ์เช่นใดอีก

…ศึกการตลาดรถยนต์ 5 ประตูนาทีนี้ จึงดุเดือด เข้มข้น มีศักดิ์ศรีของค่ายรถยนต์เบอร์หนึ่งและสองเป็นเดิมพัน

……………………………………………………………………………………………………………………………

เหลืองมาร์เก็ตติ้ง

สีเหลือง เป็นโทนสีที่จัดอยู่ในกลุ่มโทนร้อน ทางจิตวิทยามองว่า เป็นสีแห่งพลัง ความกระฉับกระเฉง กระตุ้น ดึงดูดใจ การมีสัมพันธภาพกับผู้คน ในเชิงการตลาด สีเหลืองนับสีที่มีอิทธิพลสีหนึ่ง กระตุ้นทางอารมณ์ ให้เกิดพลังอยากซื้อ อยากจ่าย เป็นสีที่ผลทางจิตวิทยามาร์เก็ตติ้งสูง

กลุ่มรถยนต์นั่ง
ยอดจำหน่ายรวมของรถยนต์นั่ง ระหว่างเดือน ม.ค.-ธ.ค. 48 มีจำนวน 188,210 คัน โดยมีสัดส่วนของแต่ละกลุ่มดังนี้
– รถขนาดซับคอมแพ็คท์ 45.9 %
– รถขนาดคอมแพ็กต์ 35.2%
– รถขนาดกลาง 8.1%
– รถ MPV 6.8%
– รถระดับหรู รถสปอร์ต 3.0%