งานแถลงข่าวภายใต้วิสัยทัศน์ “OSOTSPA GOES GLOBAL” ขึ้นป้ายตัวใหญ่เบิ้มว่า “OSI” ด้วยโลโก้เรียบง่าย นี่คือชื่อบริษัท โอสถสภา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่โอสถสภาจะใช้เป็นหัวหอกในการเดินเครื่องรบด้วยการสร้างแบรนด์เต็มรูปแบบในตลาดต่างแดนอย่างจริงจัง เทงบโฆษณาและส่งเสริมการตลาดกว่า 10,000 ล้านบาทในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ โดยมี Shark และ M150 เป็น Flagship Brand
115 ปีแห่งการก่อตั้งโอสถสภา กำเนิดจากร้านขายยาเล็กๆ จนเติบโตเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ตลาดไทยดูจะคับแคบเกินไปเสียแล้ว เหตุจากตลาดเครื่องดื่มให้กำลังงานกำลังเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว มีอัตราเติบโตเพียงปีละ 1-2% โดยที่โอสถสภามี Corporate Share เป็นผู้นำกว่า 65%…ครั้งนี้เป็นการก้าวสู่ตลาดโลกอย่างจริงจังพร้อมกิจกรรมการตลาดอย่างเต็มเหนี่ยว เป็นการก้าวเข้ามาในจังหวะที่เหมาะเจาะกับการเติบโตของตลาดเครื่องดื่มให้กำลังงานโลกที่โตเฉลี่ยปีละมากกว่า 15%
นั่นเป็นคำประกาศของรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด
“เราจะดำเนินนโยบายแบบ Out-Out Strategy ในประเทศที่มีศักยภาพด้วยการตั้งโรงงานที่นั่นและจัดจำหน่ายในประเทศนั้นๆ เช่น บังกลาเทศ จีน และอินเดีย โดยจะผลิตรูปแบบผงจำหน่ายเหมือนตลาดอินโดนีเซีย เนื่องจากมีประชากรจำนวนมากและมีรายได้น้อย อีกทั้งจะมีการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ อีก อาทิ Joint Venture กับบริษัทท้องถิ่น เช่นในอินโดนีเซีย เป็นต้น ในตลาดเอเชียเราสู้เต็มที่โดยจะมีแบรนด์ M150 เป็นตัวรุกตลาดชนกับกระทิงแดง…ภายใน 5 ปี เราจะเป็นที่ 1” สุนทร เก่งวิบูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอสถสภา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บอก
ส่วนการสู้ศึกในตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกาจะใช้ Shark บุกตลาด ด้วยการสร้างความแตกต่างหลีกเลี่ยงการปะทะโดยตรงกับ Red Bull เจ้าตลาด โดยเข้าไปสนับสนุนกิจกรรมกีฬาทางทะเล อาทิ เจ็ตสกี วินเซิร์ฟ วอลเล่ย์บอลชายหาด เป็นต้น ขณะที่ Red Bull เน้นอีเวนต์ยักษ์อย่างการแข่งรถ เป็นต้น
แม้จะเป็นเรื่องยากยิ่ง ด้วย Brand Image ที่แข็งแกร่งของ Red Bull อีกทั้งคู่แข่งอื่นๆ ที่ดาหน้ารอรับน้องใหม่อีกกว่า 100 แบรนด์ ทำให้การ GOES GLOBAL ของโอสถสภาครั้งนี้ จะเห็นผลได้ชัดเจนจากตลาดเอเชียมากกว่า โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรกนี้ ทำให้น่าจะเรียกปฏิบัติการในเบื้องแรกนี้ว่า OSOTSPA GOES REGION เสียมากกว่า
หากการสร้างแบรนด์ในต่างแดนของ Shard และ M150 เป็นผลสำเร็จ ผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่นๆ ของโอสถสภา จะถูกส่งประชันในเวทีโลกตามมา เช่น HANG เป็นต้น
TOP 3 Energy Drink Company in Global
1. ทีซี มัยซิน + Red Bull ออสเตรีย
2. โอสถสภา
3. ไทโช ญี่ปุ่น (ลิโพวิตัลดี)
ปี 2548 ปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มให้กำลังงานทั่วโลก มีประมาณ 12,000 ล้านยูนิต (ขวดหรือกระป๋อง) คิดเป็นมูลลค่ารวม 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 320,000 ล้านบาท โอสถสภามีส่วนแบ่งในตลาดโลก 9 % และ 5 ปีข้างหน้าตลาดจะมีมูลค่า 550,000 ล้านบาท และคาดว่าโอสถสภาจะมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นเป็น 12-15%
1. ปริมาณการบริโภค
– แบบธรรมดา 76% (ส่วนใหญ่บริโภคโดยชาวเอเชีย)
– แบบคาร์บอเนต 24% (ส่วนใหญ่บริโภคโดยชาวยุโรปและอเมริกัน)
2. มูลค่าของเครื่องดื่มให้กำลังงาน
– แบบธรรมดา 40%
– แบบคาร์บอเนต 60%
3. ส่วนแบ่งตลาด จากตลาดเครื่องดื่มให้กำลังงานประเทศไทยมูลค่า 18,000 ล้านบาท (by brand)
– M150 50%
– กระทิงแดง 19%
– ฉลาม 8%
– ลิโพวิตัลดี 6%
– แมกนั่ม 2%
– อื่นๆ 15%