การสร้างสรรค์ธุรกิจที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ย่อมสร้างโอกาสทางธุรกิจอัดงดงาม เฉกเช่นเดียวกับ U Channel สถานีโทรทัศน์ที่ออกอากาศในมหาวิทยาลัย ที่เกิดจากไอเดียของกฤษณะ ถนอมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีลิงค์ มีเดีย จำกัด วัย 27 ปี
U Channel หรือ Universitiy Channel ตั้งขึ้นเพื่อเป็น Teenage Edutainment Television เริ่มดำเนินการตั้งแต่สิงหาคม 2547 นับได้ว่าเป็นสื่อที่จับกลุ่มนิสิตนักศึกษาโดยตรง จุดเด่นที่ชัดเจนที่สุดของสถานีทีวีนี้ คือ Place ที่ตรงดิ่งเข้าไปจับกลุ่มเป้าหมายถึงสถานที่ที่เขาใช้ชีวิตการเรียนอยู่เลยทีเดียว
การออกอากาศ 9.00-18.00 น. จะถูกส่งตรงไปยังมหาวิทยาลัย 10 แห่ง ด้วยการลงทุนสร้างห้องปฏิบัติการประมาณ 5-9 ล้านบาท แล้วแต่พื้นที่ คือ อัสสัมชัญ ธรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ รังสิต หอการค้าไทย ธุรกิจบัณฑิต สยาม เกษมบัณฑิต เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ศรีปทุม ขณะที่สิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 12-15 แห่ง และยังออกอากาศไปยังสถาบันกวดวิชา 8 แห่งรวม 80 สาขาทั่วประเทศ เพื่อเจาะกลุ่มนักเรียนกระโปรงบานขาสั้นอีกด้วย
จุดขายประการต่อมา คือ การเป็นสื่อบังคับดู เนื่องจากตลอดระยะเวลา 9.00 – 18.00 น. ในรั้วมหาวิทยาลัยนั้น โทรทัศน์ทุกเครื่องที่อยู่ในสัญญาระหว่างบีลิงค์กับมหาวิทยาลัยนั้นๆ จะต้องออกอากาศเฉพาะรายการของ U Channel เท่านั้น
นักศึกษามาเรียน จะมีช่วงเวลาว่าง แต่ละคณะ แต่ละสาขาวิชาก็มีตารางเรียนที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ระยะเวลา 9 ชม. ต่อวันดังกล่าว ย่อมผ่านสายตาของ target ได้ครอบคลุม โดยเครื่องรับโทรทัศน์จะถูกนำไปตั้งในที่พักที่มี Trafficเยอะ เช่น โรงอาหารมหาวิทยาลัย โรงอาหารประจำคณะ พื้นที่นั่งเล่นใต้อาคารเรียน เป็นต้น ทั้งนี้จำนวนเครื่องรับโทรทัศน์รวมกันทุกมหาวิทยาลัยจะมีประมาณ 700 เครื่อง
อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวจะไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง หากเนื้อหาไม่สร้างสรรค์และไม่น่าดู กฤษณะและทีมงานต้องทำการบ้านอย่างหนักในการผลิตคอนเทนต์เองกว่า 40 รายการ รวมถึงการเปิดโอกาสให้เด็กมหาวิทยาลัยที่สนใจได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์รายการอีกด้วยทั้งในเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เป็นการสร้าง Community ขึ้นในมหาวิทยาลัยอีกกลุ่มหนึ่ง ทั้งนี้เนื้อหาของรายการจะประกอบด้วยทั้งสาระและบันเทิงที่ผ่านการกลั่นกรองว่าเหมาะสมกับคนวัยเรียน
“เราให้ความสำคัญกับคอนเทนต์มาก เพราะต้องรับผิดชอบต่อกลุ่มเป้าหมายและให้เกียรติสถานที่ ดังนั้นเนื้อหาที่ไม่ส่งเสริมสติปัญญา การเรียนรู้และสร้างคุณค่าให้จิตใจจะไม่ได้รับการผลิตจากเรา โดยจะมีทั้งรายการเพลง รายการวาไรตี้ รายการข่าว รายการการศึกษา”
จากแรกเริ่ม แต่ละมหาวิทยาลัยจะมีรูปแบบรายการที่ต่างกันไป แต่เมื่อมีมหาวิทยาลัยให้การตอบรับมากขึ้น กฤษณะจึงเล็งเห็นพลังแห่งเครือข่าย คอนเทนต์สำหรับมหาวิทยาลัยหนึ่งจะปรากฏที่อีกหลายมหาวิทยาลัยได้ เช่น หากมีคอนเสิร์ตที่ ม.รังสิต นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยอื่นๆ ในเครือข่าย U Channel ก็สามารถร่วมรับรู้ได้เช่นกัน โดยจะต้องลงทุนในเรื่องของเทคโนโลยี ดิจิตอล ลิสไลน์เพิ่มเติม และจะเปิดตัวเป็นแห่งแรกที่ ม.เกษตรศาสตร์ ในเดือนพฤษภาคมนี้
“เมื่อเป็น Digital Broadcasting แล้วจะทำให้ U Channel ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น และนักศึกษาจะมีสื่อที่ช่วยสร้างสัมพันธ์และการรับรู้ของเพื่อนต่างมหาวิทยาลัย เช่น การถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตจาก Head Office ที่วงเวียนใหญ่ ไปยังมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง และในแต่ละแห่งก็จะส่งสัญญาณภาพและเสียงผู้ชมในแต่ละพื้นที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันสดๆ เป็น Interactive Media อีกทางหนึ่งได้” นอกจากนี้เขายังมีแผนนำคอนเทนต์ที่มีไปออกอากาศในรูปแบบของฟรีทีวี เพื่อให้เกิดการรับรู้ในระดับแมสอีกด้วย
กฤษณะบอกว่าเป้าหมายทางการตลาดของ U Channel คือต้องการเป็น Branding Media ที่ช่วยในการสร้างแบรนด์ ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาและความถี่ในการสำเสนอสำหรับกลุ่มเป้าหมาย เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ในมหาวิทยาลัย ปัจจุบันมีลูกค้าหลักคือโออิชิ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา แบรนด์ i-mobile และสามารถ คอร์ปอเรชั่น
นอกจากนี้เขายังมี Variety of Service คือ กิจกรรมทางการตลาดอื่นๆ มาเสริม อาทิ การจัด Roadshow ในพื้นที่มหาวิทยาลัย เพื่อช่วยเหลือลูกค้าให้เกิดการสื่อสารรอบด้าน โดยบีลิงค์มีบริการรับจัดอีเวนต์ด้วย โดยส่วนมากจะเป็นในช่วงเปิดภาคเรียน ขณะที่ช่วงเวลาปิดภาคเรียน ถือเป็น Low Season แต่ก็ยังมีจำนวนนักศึกษาเข้ามาในมหาวิทยาลัยประมาณ 50-60% เพื่อใช้บริการห้องสมุด ใช้พื้นที่ทำกิจกรรม ตลอดจนการเรียนภาคฤดูร้อน ทาง U Channel จะงดรายการสดและกิจกรรมทางการตลาด แต่ก็ออกอากาศรายการอื่นๆ เช่นปกติ
ภายในสิ้นปี 2549 นี้ บีลิงค์จะต่อยอดธุรกิจอีกครั้งโดยการอาศัย Mobile & E-business มาช่วย เขาบอกว่า U Channel ได้เข้าถึงกลุ่มนักศึกษาโดยตรง ตามสมการ Right Place, Right Time และ Right Channel = Lifestyle Media
กฤษณะบอกกับ POSITIONING ว่า ศักยภาพของ U Channel นั้นสามารถเข้าถึงนักศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทกว่า 400,000 คน ในมหาวิทยาลัย 10 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 12 แห่งภายในเดือนมิถุนายน 2549 นี้ การวัดผลสื่อโฆษณา จากการออกอากาศ โฆษณาแบรนด์ซุปไก่สกัด เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ พบว่ากลุ่มตัวอย่าง 93% ได้เห็นโฆษณา และ 75% ได้เห็นและเข้าใจ
ทีมงานลงพื้นที่เดือนละ 1-2 ครั้ง โดยภาพรวมจะพบว่านักศึกษาที่มามหาวิทยาลัยมีโอกาสเห็นเกือบ 80% ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด
ด้านราคามีหลายแพ็กเกจ เช่น TVC 30 วินาที ออกอากาศ 50 ครั้งต่อสัปดาห์ คิดเป็นทั้งหมด 25 นาที ค่าใช้จ่าย 150,000 บาทต่อสัปดาห์ แบบสกู๊ป 1 นาที ออกอากาศ 10 ครั้งต่อสัปดาห์ ค่าใช้จ่าย 100,000 บาทต่อสัปดาห์ เป็นต้น