ได้โอกาสเว้นวรรคจากสมรภูมิ “ราคา” ชั่วคราว มาเป็นเจ้าของ “พ็อกเกตบุ๊ก” เล่มกะทัดรัด มีชื่อว่า “ซิมของเรา” ขายคู่กับ “ซิมคู่” ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่มีเลขหมายติดกัน ราคาขาย 299 บาท ผลิตออกมาแค่ 1 แสนชุดหมดแล้วหมดเลย
ไฮไลต์ของแคมเปญครั้งนี้ ไม่ได้อยู่เรื่องของซิมคู่ ที่มีหมายเลขเรียงติดกัน แต่อยู่ที่ตัว “พ็อกเกตบุ๊ก” ที่นำเสนอเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง “คู่” เพื่อนรัก คู่รัก คู่ทำงาน คู่ซี้ 10 คู่ โดยไม่มีเรื่องเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือแม้แต่บรรทัดเดียว
ธนา เธียรอัจฉริยะ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจพรีเพด ผู้ซึ่งเป็นทั้งเจ้าของไอเดีย และเป็นบรรณาธิการ บอกว่า ต้องการทำแคมเปญโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องการแข่งขันราคา แต่ต้องนำเสนอเรื่องราวความสัมพันธ์ของคน ซึ่งถือว่าเป็น “ความสุข” ในอีกรูปแบบหนึ่ง ธนาบอกว่า เขาได้แรงบันดาลใจมาจากคู่เพื่อน ปัญญา นิรันดร์กุล และ จิก ประภาส ชลชรานนท์ ที่หาจุดลงตัวในการร่วมกับสร้าง “เวิร์คพอยท์” ให้ประสบความสำเร็จ โดยปราศจากความขัดแย้ง
“แคมเปญนี้ไม่ได้หวังกำไรหรือยอดขาย ถ้าจะเปรียบแล้วงานนี้ผมเหมือนกับพี่เก้ง จิระ มะลิกุล ที่ขอทำหนังเรื่อง มหาวิทยาลัยเหมืองแร่ คือ ไม่ได้ทำเพื่อหวังกำไร อย่างเรื่องของการขายซิมคู่ หรือหมายเลขเรียงติดกัน สิทธิพิเศษต่างๆ เป็นเรื่องที่เรามาคิดกันทีหลัง”
งานแถลงข่าวที่จัดขึ้น บนชั้นสูงสุดของอาคาร CRC ทาวเวอร์ ชั้น 52 ที่เรียกได้ว่าเป็นการฉีกรูปแบบงานแถลงข่าวเปิดตัว “แคมเปญ” ที่แล้วมาอย่างเห็นได้ชัด เพราะงานนี้เป็นการจำลองละครเวที เพื่อนำเสนอเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างคน 4 คู่ ที่บรรจุอยู่ในพ็อกเกตบุ๊ก เช่น เด๋อ และสายัณห์ ดอกสะเดา คู่นักดนตรี สรีวันท์ และสมรรถยา วาทะวัฒนะ ทายาทของอี๊ดฟุตบาธ และ เบิร์ท กับฮาร์ท คลอด้วยเสียงเพลงบรรเลงจากวงออเครสตร้า
ทำเอาบรรดาผู้มาร่วมงานซาบซึ้งใจกับเสียงหัวเราะที่เคล้าด้วยน้ำตา โดยเฉพาะในช่วงที่ ศรัญยู วงศ์กระจ่าง ซึ่งรับหน้าที่เป็นทั้งพิธีกร และพูดปิดท้ายถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขา และ ส.อาสนจินดา ฐานะนักแสดงต่างวัยแต่มีจุดยืนร่วมกัน
น้ำตาของ “ศรัญยู” ที่ไหลลงมาอาบแก้มระหว่างที่ “อิน” กับความหลังในอดีต ทำเอาทีมงานของดีแทคตื่นตระหนกกันไปตามๆ กัน เพราะขึ้นชื่อว่า “Happy” แล้ว ต้องมีความสุขเท่านั้น
แม้จะผิดคิวไปบ้าง แต่ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี โดยเฉพาะถ้ามองในแง่มุมของทำการตลาด Emotional Marketing หรือการตลาดที่ใช้อารมณ์ความรู้สึก และการสร้างความแตกต่าง ก็ต้องถือว่างานนี้สอบผ่าน ส่วนยอดขายธนาบอกว่าไม่หวังอะไรมาก ทำมาขายแค่ 1 แสนชุดเท่านั้น ส่วนตัวธนาเองงานนี้เรียกว่า ได้ทำสิ่งทั้งสองเจ้าตัวชอบ ก็คือ บรรณาธิการหนังสือ และนักการตลาดมือถือ เรียกว่าได้สวมหมวกทั้ง 2 ใบในคราวเดียวกัน
