อาณาเขตไร้พรมแดนของ “เนสท์เล่”

บนตึกที่ขึ้นชื่อว่าทันสมัยและโอ่อ่าที่สุด และยังตั้งตระหง่านอยู่จุดศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ คือที่ตั้งของสำนักงานชั้นนำระดับโลกหลายแห่ง 1 ในนั้นคือกลุ่มเนสท์เล่ประเทศไทย ที่ดำเนินธุรกิจหยั่งรากลึกในเมืองไทยมากว่า 113 ปี ถึงคราวต้อง Reshaping Nestle Thailand ด้วยการย้ายนิวาสถานจากอาคารอัมรินทร์ พลาซ่า ที่ทำการเดิมเมื่อกรกฎาคม 2548

การแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ ใหญ่และหรูกว่าเดิมนี้ กินพื้นที่กว่า 12000 ตารางเมตร หรือ 5 ชั้นครึ่ง (ครึ่งหนึ่งของชั้น 38- ชั้น 43) เกิดขึ้นเพื่อเป็นที่บรรเจิดไอเดียของพนักงานกว่า 700 คน

นับว่ากลุ่มเนสท์เล่ประเทศไทยเป็นผู้เช่าที่ได้วิวสูงสุดของอาคาร และเป็นผู้เช่ารายใหญ่และลูกค้ารายสำคัญของอาคารสำนักงาน ดิ ออฟฟิศเสท แอท เซ็นทรัล เวิลด์ เลยทีเดียว

คิดนอกกรอบ

ด้วยความต้องการสร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ให้พนักงานเนสท์เล่ทุกคนรู้สึกอิสระและมีความมั่นใจในรูปแบบการทำงานใหม่ๆ ที่ไม่ต้องทำตามกรอบเดิมๆ ที่ซ้ำซากและไร้ซึ่งความท้าทาย เป็นแนวทางสู่การหลุดพ้นเพื่อแสวงหาไอเดียใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำซาก เพียงแต่กล้าและเสี่ยงที่จะทำ เกรแฮม แคมพ์เบลล์ ประธานกรรมการบริหารและประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มเนสท์เล่ประเทศไทย บอกกับ POSITIONING

DWP (Design Worldwide Partnership) Cityspace บริษัทออกแบบที่รู้จักกันดีในแวดวง รับหน้าที่เป็นผู้ไขโจทย์ดังกล่าว ภายใต้การนำของ คริสติน่า ซานิก ดีไซเนอร์มือฉมัง 1 ในผู้ก่อตั้งบริษัท ที่ทำงานอย่างใกล้ชิดกับแคมพ์เบลล์

โจทย์ถูกไขกระจ่างด้วยคำตอบที่ว่า “เปิดอาณาเขตไร้พรมแดน” คำตอบดังกล่าวถูกถ่ายทอดอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อที่จะทำให้พื้นที่ขนาดใหญ่ไร้สิ่งกีดกั้นอย่างชัดเจน พื้นที่ทุกส่วนสามารถเข้าออกถึงกันได้ รวมถึงการตกแต่งโปร่ง โล่ง สบาย กอปรกับเพดานสูงลดความตึงเครียดของการทำงาน อีกทั้งวิวมหานครสุดบรรยาย ทำให้ออฟฟิศแห่งนี้ของกลุ่มเนสท์เล่ประเทศไทย ดูไฉไลและแอ็กทีฟกว่าออฟฟิศเดิมมากนัก

“เรายอมรับออฟฟิศใหม่สะท้อนภาพลักษณ์ได้ดีขึ้นและพนักงานมีความภาคภูมิใจมากขึ้น”

หลากสี ก่อเกิดความสร้างสรรค์

สีสันเฉดแปลกตาหลากสี เช่น สีแดงเลือดนก สีเขียวใบตองอ่อน ถูกนำมาใช้ในการตกแต่งออฟฟิศใหม่ของเนสท์เล่ (ไทย) แตกต่างกันแต่ละชั้นทั้งในส่วนของผนัง เฟอร์นิเจอร์ ที่กลมกลืนกัน เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้พนักงานกล้าคิดต่าง ไม่ใช่ Conventional Approach อีกต่อไป

กราฟิกอักษร…ใช่แค่สวย

ตัวอักษรขนาดใหญ่ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษบนแผ่นกระจกใบโตที่ดิ่งตัวลงมาจากชั้น 43 ต่อเนื่องมาจนถึงชั้น 39 นั้นได้บอกเล่า คุณสมบัติหลัก 5 ประการที่เนสท์เล่ปรารถนาให้พนักงานจดจำและปฏิบัติตาม ก็คือ Teamwork, Empowerment, Leadership, Passion for Great Performance และ Energised People ซึ่งเป็นการบอกเล่าอย่างไร้พิถีรีตองแต่กลมกลืนกับการตกแต่งที่ทันสมัยและสามารถสร้างการรับรู้ได้โดยปริยาย

“แทนที่เราจะใช้รูปภาพ แต่การสื่อสารบางอย่างถ้อยคำจะทรงประสิทธิผลที่สุด ตัวอักษรดังกล่าวไม่ได้บอกกล่าวอย่างโจ่งแจ้งหรือซีเรียส แต่เราคาดหวังให้พนักงานเกิดการรีไมนด์ และซึมซับได้โดยอัตโนมัติจากที่เขาเดินขึ้นลงบันได ดังนั้นจุด Glass Panel นี้จึงได้ทั้งความสวยงามและการสื่อสารภายในองค์กร”

ห้องประชุมมุมกาแฟ Relax & Talk Zone

เอสเพรสโซ่ กาเฟ่ โอ เล เป็นส่วนหนึ่งของชื่อมุมกาแฟที่ตกแต่งด้วยบรรยากาศสบายๆ จำนวนทั้งสิ้น 5 มุม โดยกระจายชั้นละมุม บริเวณลิฟต์แก้วและบันได มีเนสกาแฟบริการพร้อมที่นั่งพักผ่อน หรือประชุมแบบไม่เป็นทางการ โดยมีพลาสม่าทีวีขนาดใหญ่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับองค์กรทั้งภาพยนตร์โฆษณา โปรแกรม Tie-in ในรายการต่างๆ รวมถึงการอวยพรวันเกิดพนักงานผ่านจอนี้ด้วย

ขณะที่เนสกาแฟ พ้อยท์ ขนาดใหญ่จะอยู่ใกล้ๆ กับ เดอะ เลาน์จ ที่พักผ่อนสังสรรค์ บนชั้น 43

ส่วน จัสมิน แบมบู ทุเรียน เว้ หลวงพระบาง อิระวดี สุโขทัย และอื่นๆ อีกรวมกว่า 30 ห้อง คือชื่อที่ใช้เรียกขานห้องประชุมรูปไข่ใหญ่น้อยของเนสท์เล่ ที่ถูกจัดวางด้วยแนวคิดโปร่งโล่งสบายด้วยกระจกใส เช่นส่วนอื่นๆ ของออฟฟิศ

ชื่อผลไม้ ดอกไม้ รวมถึงเมืองสำคัญของประเทศไทยและเพื่อนบ้านดังกล่าว เป็นแนวคิดที่ได้มาจากการที่กลุ่มเนสท์เล่ประเทศไทยต้องรับผิดชอบดูแลเนสท์เล่ อินโดไชน่า ซึ่งประกอบด้วยพม่า กัมพูชา ลาว และเวียดนามด้วย และเป็นการสะท้อนถึงการคิดนอกกรอบ ซึ่งไร้สีสันและซ้ำซากจำเจเช่นการตั้งชื่อห้องประชุมเป็นชื่อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ขององค์กร นับเป็นสิ่งที่ทำกันในหลายๆ บริษัท โดยเขามองว่าซีเรียสและไร้ชีวิตชีวาจนเกินไป

“ออฟฟิศเดิมห้องประชุมไม่พอ ย้ายมาที่ใหม่เรารู้ความต้องการจึงจัดสรรเนื้อที่ทำห้องประชุมเสียเยอะ รวมถึงที่นั่งพูดคุยกันกลุ่มเล็กๆ ตามชั้นต่างๆ ตอนแรกเกรงว่าจะไม่มีใครใช้บริการ แต่ปรากฏว่าพื้นที่มุมกาแฟได้รับความนิยมมาก เพราะเขาสามารถแชร์ไอเดียกันได้ตลอดเวลา สมความตั้งใจที่ต้องการให้เป็น Breakout Zone”

Product Display…ผลิตผลของชาวเนสท์เล่

สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นสะดุดตาคือบรรดาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของเนสท์เล่ที่ถูกจัดวางอย่างเรียบง่ายบนชั้นวางในแต่ละชั้น แต่ที่ดูแปลกตาและน่าสนใจเป็นพิเศษคือ การจัดวางผลิตภัณฑ์เป็นแฉกๆ ภายในโต๊ะกระจกทรงกลมบริเวณล็อบบี้รับแขก สอดรับกับเรื่องราวที่บอกเล่าผ่านรูปภาพของชาวเนสท์เล่หลายชีวิตที่ปฏิบัติการเพื่อสุขภาพเป็นภาพเรียงรายเต็มผนัง เร้าความสนใจได้เป็นอย่างดี