เป็นที่รู้กันว่าสินค้าและบริการไอทีนั้นเปลี่ยนแปลงเร็วจี๋อยู่ตลอดเวลา ธุรกิจก็อยากผลักดันของใหม่ที่ดีกว่าให้ลูกค้าอยู่เสมอ แต่มักต้องเจอกับอุปสรรคที่ลูกค้ายังไม่อยากจะควักเงินเพิ่มหรือเริ่มลองใช้สิ่งใหม่ๆ
True ที่เป็นเจ้าตลาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้วิจัยตลาดในไทยเมื่อมีนาคม 2549 ที่ผ่านมา พบว่ารวมทุกแบรนด์แล้ว ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยมีที่เป็นความเร็วสูงอยู่ราว 4 แสนคน ส่วนพวกที่ใช้ dial up ผ่านโมเด็มแบบเดิมๆมีถึงกว่า 1 ล้านคน เป็นกลุ่มที่ทรูหมายมั่นปั้นมือจะดึงให้อัพเกรดมาเป็นลูกค้า hi speed ให้ได้เพราะมีคอนเทนต์ทั้งเพลงและทีวีออนไลน์อย่าง UBC Academy Fantasia, Trueworld.net และอื่นๆมากมายรออยู่
นนท์ อิงคุทานนท์ รองผู้อำนวยการหัวหน้าสายงาน Broadband Service เล่าให้ POSITIONING ฟังว่า “เราสำรวจมาพบว่าลูกค้า dial up ส่วนใหญ่อยากใช้เน็ตความเร็วสูง แต่ไม่ยอมจ่ายเพิ่ม จากปกติที่ใช้ราวเดือนละ 200 ถึง 300 บาทคิดตามชั่วโมง เพราะหากใช้ไฮสปีดก็จะกลายเป็นจ่ายเหมาเดือนละราว 6 ร้อยบาทขึ้นไป ลูกค้ากลุ่มนี้มองว่าไม่คุ้มเพราะเขาใช้เน็ตไม่บ่อยนัก”
ทรูจึงผ่าทางตันด้วยการออกแคมเปญใหม่ “hi speed junior” ที่ลดความเร็วลงจากไฮสปีดทั่วไปแต่ยังเร็วกว่า dial up และเร็วพอที่จะดูจะฟังเนื้อหามัลติมีเดียได้ และใช้ราคา 295 บาทใกล้เคียงเน็ต dial up และจำกัดโปรโมชั่นไว้ที่ 30 ชั่วโมง
“ทั้งหมดนี้อิงจากงานวิจัยที่บอกไป เพื่อดึงผู้ใช้ dial up มาใช้ hi speed กันให้ได้ ลูกค้ากลุ่มนี้จะใช้มากกว่า 30 ชั่วโมงก็ได้ แต่ชั่วโมงที่ 31 ขึ้นไปจะเป็นชั่วโมงละ 12 บาท จากที่ 30 ชั่วโมงแรกราว 9 บาท แต่รวมแล้วจะไม่เกิน 590 บาท ขยับไปเท่าโปรโมชั่นหลัก นั่นคือผู้ใช้มีทางเลือกจะลองใช้แค่ในงบ 295 บาทก็ได้ หรือจะเขยิบไปใช้เป็นแบบปกติที่ไม่จำกัดเวลาก็ได้ในงบ 590 บาท”
ปัจจุบันคู่แข่งโดยตรงของ True Hi-speed Junior นี้คือโปรโมชั่นในราคาเท่ากันของ TOT
หนึ่งเดือนหลังเริ่มออกแคมเปญจูเนียร์นี้ นนท์เล่าว่าช่วยดึงผู้ใช้ dial up มาสนใจ hi speed internet กันมากขึ้น และยอดผู้สมัครต่อเดือนเพิ่มขึ้นทุกโปรโมชั่นรวมไปถึงโปรโมชั่นเดิมด้วยจากเดือนก่อนๆ ถึง 30%
นอกจากแคมเปญไฮสปีดจูเนียร์ล่าสุดนี้ ที่ผ่านมาทรูก็ได้ออกแคมเปญที่อิงกับการวิจัยพฤติกรรมผู้ใช้มาอยู่เรื่อยๆ เช่นแคมเปญการใช้เน็ตแบบ wifi ในบ้าน, ตามจุด hot spot ต่างๆ, และแบบ GPRS ผ่านมือถือแบบ mobility สุดๆ
ทรูเป็นเจ้าตลาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในไทยด้วยส่วนแบ่งตลาด 70% และหากแบ่งย่อยเฉพาะใน กรุงเทพฯ ทรูครองส่วนแบ่งถึง 80%
ประเทศไทย True70% รายอื่นๆ30%
กทม. True80% รายอื่นๆ20%
ในจำนวนลูกค้า hi speed ราวกว่า 4 แสนรายของทรูเอง เป็นลูกค้าประเภทธุรกิจหรือองค์กร 10% คือราว 4 หมื่นราย แยกได้เป็นธุรกิจขนาดกลางและย่อม (SME) 3 หมื่นราย และธุรกิจหรือองค์กรขนาดใหญ่ 1 หมื่นราย โดยที่ค่าบริการต่อเดือนประเภทธุรกิจนี้เริ่มที่ 5 พันบาทขึ้นไปต่อเดือนและมีบริการเสริมต่างๆเพิ่มขึ้นมากจากแบบลูกค้าบุคคล
ลูกค้าบุคคลตามบ้าน
90 % (~3.6 แสนราย)
ลูกค้าธุรกิจองค์กร
10% (~4หมื่นราย)
– SME 75% (~3หมื่นราย)
– ธุรกิจองค์กรใหญ่ 25%(~1หมื่นราย)