…คนหนุ่มสาวกว่าสิบชีวิต… แต่งตัวด้วยชุดพื้นบ้านประยุกต์ สะดุดตา มีสีสัน… ถือเครื่องเล่นดนตรีพื้นฐานจากถิ่นอีสาน แคน โปงลาง…ผสม ลีลา ร้อง เต้น เล่นมุก…จนสามารถสะกดคนดูได้ทุกครั้งที่พวกเขาออกโชว์…น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก “โปงลางสะออน” กลุ่มศิลปินคนรุ่นใหม่ที่สร้างชื่อ ระบือถิ่นไปทั่ว จนกลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ร้อนแรงที่สุดในวงการดนตรีไทยเวลานี้
ความสำเร็จ “โปงลางสะออน” วันนี้ไม่ใช่แค่มีจำนวนคนรู้จัก พูดถึงเขามากขึ้น แต่ซีดีการแสดงครั้งแรกในชีวิต ชุดแรกทุบสถิติแซงหน้าทะลุ 1 ล้านแผ่นภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ !
…คิวตระเวนโชว์ ออกแสดงคอนเสิร์ต ตามสถานที่ต่างๆ แน่นเอี๊ยดจนถึงปลายปี…นี่ไม่นับรวมผลงานด้านภาพยนตร์เรื่องแรก “รักจัง” ที่ถูกประกบเล่นกับ ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หนุ่มฮอตค่าตัวร้อยล้าน และอีกเรื่องหนึ่งที่กำลังเตรียมเปิดกล้องปลายปีนี้
“ภาพเมื่อก่อนที่วางไว้กับวันนี้พูดตรงๆ ว่า ไม่คิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้ กลายเป็นที่รู้จัก ตอนแรกที่ทำงานเพื่อสนุก ได้เงินไปเรียนหนังสือ ส่งเงินบางส่วนไปให้พ่อแม่ใช้ แต่พอมีชื่อเสียง เราก็ต้องคิดต่อยอดขึ้นไป ทำงานให้หนักขึ้น เพื่อให้อยู่ได้นานๆ “อี๊ด-สมพงษ์ คุนาประถม หัวหน้าวง บอกกับ POSITIONING เขาบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าเคร่งขรึม เมื่อถูกถามถึงความสำเร็จของวงโปงลางสะออนในวันนี้
จากนั้นสีหน้าของเขาดูผ่อนคลายขึ้น พร้อมบอกต่อไปว่า “หลังจากออกรายการตีสิบ ช่วงดันดารา ก็มีคนรู้จักระดับหนึ่ง แต่พอมาออก วีซีดี กระแสตอบรับดีมาก (ลากเสียงยาว) ขายได้เป็น 1 ล้านแผ่น ไปออกทัวร์ครั้งแรกที่ จ.สกลนคร ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนดูเป็นหมื่นคน แน่นขนัดจนล้นสนาม นึกในใจ โอ้โห มีคนรู้จักเรามากขนาดนี้เหรอ ”
และยิ่งประหลาดใจมากยิ่งขึ้น เมื่อเราถามว่า รู้สึกอย่างไรกับการได้เป็น 1 ใน 50 ผู้ทรงอิทธิพลในวงการบันเทิง กลุ่มศิลปินหน้าใหม่ อี๊ดตอบว่า “ได้ยินเป็นครั้งแรก ก็ขนลุกแล้วพี่” จากนั้นบรรยายอย่างสุภาพว่า “เราเป็นแค่ศิลปินพื้นบ้านที่ไม่เหมือนสตริงเพลงป๊อป หน้าตาก็ไม่หล่อ ไม่สวย แต่ได้รับเกียรติถึงขนาดนี้ ก็นับว่าโชคดีแล้ว”
โปงลาง ฟีเวอร์
ที่ทำให้เขาอดภาคภูมิใจอยู่ลึกๆ จนถึงวันนี้ คือ การที่เด็กรุ่นใหม่หันมาสนใจในเรื่องราว ดนตรีพื้นบ้านมากขึ้น เห็นได้จากบรรดาแฟนคลับที่คลั่งไคล้ ติดตามไปดูการแสดงของเขาแทบทุกที่ มีคนแน่นทุกครั้ง รวมไปถึงการแต่งตัวเลียนแบบ ถือเครื่องเล่นดนตรีพื้นบ้านอีสาน อย่างพิณ แคน โปงลางอย่างภาคภูมิใจ
แต่เขาปลื้มมากที่สุด คือ “เด็กในโรงเรียนหลายแห่งมีวงโปงลางสะออนเกิดขึ้น และขายดีมาก ทำให้สังคมเกิดความรักในความเป็นพื้นบ้าน เด็กๆ ที่ดูโปงลางสะออนไม่ใช่แค่ได้ดู แคน พิณ หรือการแสดงของพี่ลูลู่ พี่ลาล่า แต่เขาได้ซึมซับวัฒนธรรมเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ลำพังการนำเสนอดนตรีพื้นบ้านล้วนๆ อาจไม่สำเร็จเท่านี้…”
“… ทั้งเด็กนักเรียน คนรุ่นใหม่ เค้าไม่อายที่จะใส่ชุดแบบเรา แถมถือแคน พิณ โปงลางมายืนรอขอถ่ายรูปกับเรา แสดงว่าเราก็มีอิทธิพลต่อเค้า เพราะเค้ากล้าที่จะแต่งตัว ถือเครื่องเล่นดนตรีพื้นฐาน แต่งตัวแบบนี้ (โปงลางสะออน)ในสมัยก่อนเป็นเรื่องที่จะอายกันมาก”
นอกจากนี้ ยังมีแฟนคลับบางคน “อินมาก” เขียนจดหมายเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกวง สมัครเป็นนางรำ บ้างก็อยากแต่งเพลงให้วง ฯลฯ อนุรักษ์โปงลาง
ไม่เพียงแฟชั่นโปงลางฟีเวอร์แล้ว ยังมีวงดนตรีเกิดใหม่ๆ ที่อาศัยกระแสฟีเวอร์นี้ เดินแถวกันตามออกมา เช่น วงโปงลางสะอื้น หรือจะเป็นภาพยนตร์โฆษณาบางตัวได้นำคาแร็กเตอร์ไปใช้ในเป็นมุกในโฆษณา สร้างสีสันน่าชม ตอนนี้ทุกโรงเรียนในกรุงเทพฯ ต้องมีการเรียนการสอนวิชาโปงลาง
ที่มาแห่งความสำเร็จ อี๊ดยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะโปงลางสะออนเข้ามาเป็นศิลปินในสังกัดค่ายอาร์สยาม เครืออาร์เอส โปรโมชั่น ที่ช่วยให้โปงลางสะออนแข็งแกร่งขึ้นในแง่แบรนด์ ด้วยความพร้อมของสื่อที่มีอยู่ ไม่ว่า สื่อทีวี วิทยุที่ช่วยกันโปรโมต” ถ้าหากเราอยู่แบบระบบเดิม อาจไม่บูมมากขนาดนี้ อาร์สยามช่วยสานฝันเราให้เป็นจริงขึ้นมา ”
เขาบรรยายความรู้สึกต่อไปว่า “ก่อนตัดสินใจเข้าสังกัดผมก็คิดอยู่หลายรอบเหมือนกัน เพราะมีผู้สนใจหลายรายมาติดต่อเข้าสังกัด แต่พอคุยกัน ดูสัญญาแล้ว ก็ไปด้วยกันไม่ได้ เพราะผมต้องรับผิดชอบสมาชิกในวงกว่า 20 ชีวิต ดังนั้นเราต้องคิดถึงงาน จะมีนานมั้ย จะดังมั้ย คุ้มหรือเปล่า ต้องคิดยาวๆ มองล่วงหน้า 2-3 ปี ประเภทต้องร่างโครงการไว้เลย”
มาถึงขณะนี้ ล่วงเวลาเกือบปี ที่โปงลางสะออนได้เข้ามาอยู่ในชายคาอาร์สยาม และก็ไม่ทำให้ต้นสังกัดผิดหวังแซงหน้าวงอื่นๆ ขึ้นแท่นเบอร์ 1ของกลุ่มศิลปินน้องใหม่มาแรงที่สุด นั่นเป็นเพราะผลจากการทุ่มเททำงานอย่างหนัก ด้วยตั้งใจและจริงจัง
“มันเป็นผลที่เราได้ต่อสู้และใช้เวลามานาน ไม่ใช่แค่ 1-2 เดือน และเราก็ได้สร้างประสบการณ์จากสิ่งที่เราร่ำเรียนมาทางด้านนี้โดยตรง มันเลยได้ผลตอบรับนี้กลับมา”
แปลก แต่โดน
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความดังของโปงลางสะออนมาจากปัจจัยสำคัญ นั่นคือ โดนใจผู้ชม เพราะ ความแปลก แหวกแนว หัวหน้าวงบอกว่า จุดเด่นโปงลางสะออนมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ส่วนหนึ่งมาจากการวางคอนเซ็ปต์ที่ว่า
“มันต้องแปลก เพราะวงโปงลางมีให้เห็นกันทั่วไปอยู่แล้ว ตอนแรกร้องเพลงไม่เป็นเล่นแต่ดนตรีอย่างเดียว เพราะผมร่ำเรียนมาทางด้านนี้โดยตรง พอเวลาแสดงถึงเวลาจวนตัวก็ต้องหัดร้องเพลง หัดพูด ฝึกตัวเองให้พัฒนาเรื่อยๆ หากชื่นชอบใครก็จะไปหาซื้อหนังสือมาอ่าน ลงทุนไปเรียนเพิ่มเติม”
ที่สร้างเสน่ห์ สีสันให้วงได้อย่างดี “ลูกเล่น มุกฮาๆ” สไตล์โปงลางสะออน เน้นธรรมชาติ เปิ่นๆ ฮาๆ คำนึงคนดูและกาลเทศะ “เราควบคุมมากเรื่องมุกลามก ทะลึ่ง แต่เน้นคำตลกที่สุภาพ เราได้วางไว้แต่แรกเลยว่าต้องให้เป็นแบบนี้ ที่สำคัญมุกเก่าที่เคยเล่นไปแล้ว เราก็ไม่ค่อยเอามาเล่นซ้ำมากนัก ในแต่ละสถานที่ที่ไปเปิดการแสดงก็ต้องดูอารมณ์คนดูเหมือนกัน เวลาจะเล่นมุก ถ้าเป็นงานศพ งานแซยิดก็จะเล่นมุกแบบไม่หนักมาก ”
เทคนิคในการหา “มุขตลก” อี๊ดบอกว่า “ได้มาจากการสะสมเรื่อยๆ บางครั้งนั่งคิดได้จากรถก็จะจดเอาไว้ บางทีก็เอาจากคนอื่นแล้วก็มาดัดแปลงให้เข้ากับตัวเอง หรือหลายครั้งได้มาจากการดูหนัง ดูทีวี ฟังเพลง อ่านหนังสือบ้าง หรือเจอเหตุการณ์โดยตรง”
จึงไม่แปลกที่โปงลางสะออนสามารถเรียกรอยยิ้ม เสียงฮาจากคนดูได้ทุกหนแห่งที่พวกเขาได้ไปเปิดการแสดง!
เข้ม แบบรับผิดชอบ
ในอีกบทบาทหนึ่ง เขายังต้องทำหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่ บริหารดูแลสมาชิกในทีมอีกนับสิบคน ดังนั้น เขาจึงต้องวิธีบริหารจัดการที่บางครั้งทีมงานเองก็ขำไม่ออกเหมือนกัน
“…ผมจะเครียดมาก ก่อนขึ้นเวทีแสดง ดังนั้นไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าใกล้ผมในช่วงนั้น เพราะฉะนั้นใครมาสายก็จะไม่มีใครกล้ามาบอกผม ถ้ามาบอกปุ๊บ ผมจะอารมณ์เสียทันที แล้วก็จะทำให้งานไม่สนุก”
…แต่หลักๆ ผมเน้นพูดคุยกัน และความที่ทำงานอยู่ด้วยกันมานานก็จะรู้จักนิสัยใจคอ ถ้ามีอะไรผิดก็จะเรียกประชุมอย่างเดียว เช่น ใครมาสายก็จะเรียกคุยและติเลย และขอความร่วมมือคราวหน้าอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้”
แม้จะต้องสวมบทเข้ม เพื่อปกครองน้องสมาชิก แต่เป็นที่รู้กันดีว่า พี่อี๊ดคนนี้ก็ยึดหลัก “ยุติธรรม” เห็นได้ชัดจากการแบ่งสรรค่าแรง เขาบอกว่า “เรามาเป็นทีม ไม่อยากให้คิดว่าใครเด่นกว่าใคร แต่อยากให้ภูมิใจว่า พวกเรามาด้วยกันหมด อย่างค่าตัวแสดงจะแบ่งเท่ากันหมด ใครเล่นมากเล่นน้อยก็เท่ากันหมด”
อี๊ดให้เหตุผลว่า เขาต้องการให้สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในความรู้สึก ในการทำงานเป็นทีม ที่ทุกคนต้องแบ่งปันกัน และค่าแรงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สมาชิกทุกมีความรู้สึกกลมเกลียวกัน และระบบนี้เขาเชื่อมั่นว่า “จะทำให้โปงลางสะออนอยู่ด้วยกันได้นาน”
สำหรับอนาคต วงโปงลางสะออนจะเป็นอย่างไรนั้น หัวหน้าวงบอกว่า อยากพัฒนาการแสดงโชว์โปงลางให้ฝรั่งดูแล้วสนุกสนานเหมือนกับที่คนไทยดู และรู้จักเครื่องดนตรีไทยพื้นบ้านมากขึ้น “ทำไมเรารู้จักเครื่องดนตรี จีน อินเดีย ฝรั่งเยอะจัง ทำไมคนอื่น (ต่างชาติ) จึงไม่รู้จักโปงลาง แคน พิณ ซึ่งผมอยากจะเผยแพร่ และตอนนี้ก็พร้อมแล้ว” อี๊ดบอกด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
ขณะที่สมาชิกวงคนอื่น อย่าง ลาล่า เสริมว่า “ต้องไปเรียนภาษาเพิ่มขึ้น อย่างน้อยให้สื่อสารกับคนดูได้เข้าใจ ได้หัวเราะได้ทันเวลาที่พวกเราปล่อยมุก ” ส่วนลูลู่ บอกว่า ไม่แน่ปีหน้าเราอาจได้เอาโปงลาง แคน ไห ไปโชว์ให้ฝรั่งดู ให้ต่างประเทศรู้ว่าเมืองไทยยังมีของดีอยู่อีกเยอะ ”
…เส้นทาง โปงลางสะออน โชว์พื้นบ้านแบบครบทุกรส จะโกอินเตอร์สำเร็จหรือไม่ เวลาเท่านั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ !!!
Profile
อี๊ด-หัวหน้าวง โปงลางสะออน
Name : สมพงษ์ คุนาประถม
Birth Date : 15 กุมภาพันธ์
Education : ปริญญาตรี วิทยาลัยนาฏศิลป์กาฬศิลป์ เอกดนตรีไทย
Career Highlights : เล่นดนตรีครั้งแรกตั้งแต่สมัยเรียน ม.4 และเล่นดนตรีตามร้านอาหารอยู่ 6 ปี
จุดเด่นการแสดง เป็นหัวหน้าวงเล่นเครื่องดนตรีพื้นบ้าน โปงลาง พิณ และแคน บางครั้งร้องเพลง
ผลงานเด่น ออกอัลบั้มเพลง
ลูลู่ โปงลางสะออน
Name : ดวงฤดี บุญบำรุง
Birth Date : 20 มกราคม
Education : ปริญญาตรี สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล คลองหก ปทุมธานี
Career Highlights :
– อาจารย์พิเศษ สอนนาฏศิลป์ที่โรงเรียนกาญจนภิเษกวิทยาลัย เพชรบูรณ์
– ข้าราชการสังกัด กทม. งานดนตรีไทย และแสดงรำพื้นเมืองโปงลาง
จุดเด่นการแสดง นางรำมีคาแร็กำเตอร์เด่น สาวพม่าพูดไทยไม่ชัด แสดงประกบคู่ขาประจำ ลาล่า โปงลางสะออน
ลาล่า โปงลางสะออน
Name : ขวัญนภา เรืองศรี
Birth Date : 27 กันยายน
Education : ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
Career Highlights : ทำงานเป็นนางรำ ที่ร้านอาหาร
จุดเด่นการแสดง
เป็นนางรำมีคาแร็กเตอร์เด่น สาวฝรั่งพูดไทยไม่ชัด และท่าไม้เด็ดประจำตัว คือ สแคลชไห (สีไห) แสดงประกบคู่ ลูลู่ โปงลางสะออน