ก่อนกระแส “กู้ชาติ” จะเริ่มต้นเมื่อช่วงปลายปี 2548 เว็บข่าวของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการแห่งนี้ทำสถิติมีเรตติ้งอันดับหนึ่งในบรรดาเว็บข่าวทั้งหมด (ข้อมูลจาก news.truehits.net ของเนคเทค) ด้วย Positioning ที่นักท่องเว็บยอมรับในจุดขายหลายด้าน ทั้งด้านความเร็วจัดที่ข่าวต่างๆ ขึ้นมาใหม่ 24 ชั่วโมง ด้านการเปิดกว้างให้คนอ่านได้เมาท์ได้ปะทะคารมกันต่อท้ายข่าว และอาจจะรวมถึงด้านสีเทาในคอลัมน์ซุบซิบวงการบันเทิงสุดฮอต “บีบสิว” ของคอลัมนิสต์ลึกลับนาม “ซ้อเจ็ด” โดยรวมทำให้เว็บนี้ไปไกลกว่าการเป็นแค่หนังสือพิมพ์ออนไลน์ไปมาก
แต่เมื่อกระแส “กู้ชาติ” โหมขึ้นในสังคมไทย เว็บนี้ได้กลายเป็น “ฐานที่มั่น” สำคัญยิ่งของทุกคนที่ต่อต้านพฤติกรรมและนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลทักษิณ และ manager.co.th นี้ก็เล่นทั้ง 2 บทบาท คือเป็นทั้ง “สื่อ” ที่เสนอข่าวความเคลื่อนไหวของฝ่ายชุมนุมควบคู่ไปกับการตอบโต้ของฝ่ายรัฐ และเป็นทั้ง “ผู้เล่น” ที่แฉความไม่ชอบมาพากลต่างๆ ของรัฐบาล, เป็นที่ลงประกาศนัดหมายชุมนุม, และเป็นสภากาแฟขนาดยักษ์ให้ผู้อ่านเข้ามาคุยการเมือง
การควบ 2 บทบาทนี้ถ้าเป็นฟุตบอลก็ราวกับการให้โรนัลดินโญ่ติดกล้องเหน็บไมค์ลงวิ่งทำเกมในสนามไปก็รายงานข่าวไปพร้อมกันเลยทีเดียว
ในช่วงแรกของกระแสกู้ชาติที่สื่อหลักทั้งฟรีทีวีและหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ต่างพากัน “ลืม” เสนอความเคลื่อนไหวตรวจสอบรัฐบาล manager.co.th เป็นสื่อแรกๆ ที่นำเสนอการ “จุดเทียนแห่งปัญญา” ของสนธิ ลิ้มทองกุล จนต่อมาเมื่อแนวร่วมขยายกว้างจนเป็น “กองไฟแห่งปัญญา” แล้วกลุ่มสื่อกระแสหลักถึงเพิ่งจะหันมาเสนอข่าวนี้กันบ้าง
ประวัติศาสตร์การเมืองไทยยุคนับแต่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 เป็นต้นมา การเปลี่ยนแปลงสำคัญๆล้วนมาจาก “ชนชั้นกลาง” คนวัยทำงานตอนต้นไปถึงวัยกลางคนทั้งสิ้น ในยุคนี้ก็คือคนเมือง มีโทรศัพท์มือถือ และใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งจากการสำรวจทางสถิติ ผู้อ่านเว็บผู้จัดการส่วนใหญ่ก็เป็นคนกลุ่มนี้นี่เอง เว็บผู้จัดการจึงเป็นพลังทางการเมืองสำคัญอย่างแน่นอนในฐานะที่เป็น Online Community ของชนชั้นกลางที่สนใจการเมือง
และเอเยนซี่โฆษณาจึงส่งป้ายโฆษณาที่ส่วนใหญ่เป็นโครงการหมู่บ้าน คอนโดมิเนียม รถยนต์ และโทรศัพท์มือถือเข้ามาจับจองพื้นที่สายตาและขอข้อมูลตอบกลับจากชนชั้นกลาง
Manager.co.th ยังเป็นแหล่งที่จะได้เห็นเทคโนโลยีบนเว็บแทบทุกอย่าง ตั้งแต่ความเป็น “มัลติมีเดีย” จากคลิปวิดีโอและถ่ายทอดสดข่าวจาก ASTV ในเครือผู้จัดการ ไปจนถึงรูปแบบการให้คนอ่านเขียนเรื่องประจำวันที่เรียกว่าบล็อกใน “M Blog”
จะเป็นเช้าวันไหนที่การเมืองเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ บ่ายวันไหนที่มีข่าวใหญ่ของดาราดัง หรือจะเป็นคืนของกีฬานัดสำคัญ เว็บ Manager ก็มักถูกเรียกหาหลายล้านครั้งจากคอมพิวเตอร์หลายแสนเครื่องต่อวัน และ Talk of the town หลายๆ เรื่องก็เกิดจากที่นี่
Online Community ขนาดยักษ์แห่งนี้ มีคนไทยในต่างประเทศไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกเข้ามาถึงราว 1 ใน 5 ของผู้เข้าเว็บทั้งหมด
และนั่นคืออิทธิพลทางความคิดหลากหลายทางที่ผู้อ่านจะได้รับทั้งจากข่าว จากคอลัมนิสต์ และจากผู้อ่านด้วยกันเอง
ยอดผู้เข้าชมเฉลี่ยต่อวันของแต่ละปีย้อนหลัง
– 2001 4.1 แสนคน
– 2002 1.1 ล้านคน
– 2003 2.5 ล้านคน
– 2004 3.8 ล้านคน
– 2005 6.3 ล้านคน
– 2006 ?


