นักแสดงนะ…ไม่ใช่แค่นักร้อง

พัฒนาการของ Academy Fantasia : AF ตั้งแต่รุ่น 1-3 กลายเป็น “โมเดลธุรกิจบันเทิง” ยุคใหม่ที่มีคำตอบชัดเจน สูตรการปั้นศิลปิน พ.ศ. นี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมุ่งสู่เป้าหมายการสร้างศิลปินที่ก่อให้เกิดมูลค่ารายได้สูงสุด หมายถึงการเป็น “ศิลปินแสดง” มากกว่าที่จะให้ยืนถือไมค์อย่างเดียว

1
ไม่ว่าจะถูกหรือผิด แต่สูตรการคัดเด็กเหล่าบรรดานักล่าฝัน ตั้งแต่ AF1 นั้น ไม่ได้ให้ความสำคัญกับความสวยความงามของบรรดานักล่าฝัน เป็นเงื่อนไขสำคัญ จะเห็นได้ว่านักล่าฝันทั้ง 12 คนในปีแรกนั้น จะมีหนุ่มสาว หน้าตาดี ไม่ดี สูงต่ำ ดำขาว คละเคล้ากันไป

นั่นเพราะสูตรการคิดและคัดในครั้งนั้น ยังเป็นเรื่องใหม่ และผูกยึดติดกับไบเบิลต้นแบบจากเม็กซิโก ทำให้การคัดสรรนักล่าฝันจึงเทน้ำหนักไปที่ความสามารถในการร้องเพลง และการแสดงบนเวทีเป็นหัวใจสำคัญ ขณะที่การปีนบันไดสู่ความดารานักแสดงต่อไปได้หรือไม่นั้น เป็นโชคและวาสนาที่จะตามมาต่อไป

กล่าวเป็นตรงไปตรงมา คือ ครั้งนั้นแกรมมี่ต้องการปั้นศิลปินนักร้อง มากกว่าเป็นนักแสดงนั่นเอง !

2.
มาถึงรุ่น AF2 ดูเหมือนว่านโยบายของการคัดเด็กนักล่าฝัน จะเริ่มฉายสู่แววสู่เป้าหมายการปั้นให้เป็นศิลปินนักการแสดงมากขึ้น โดยมีบริษัท ยูบีซี แฟนเทเชีย เป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่ เข้ามาพร้อมๆ กับการปรับ Positioning ใหม่ มุ่งเป้าหมายการสร้างศิลปิน AF ให้เป็นนักร้องและนักแสดงควบคู่กันไป

การคัดเลือกเด็กรุ่นนี้ จึงมีวิถีทางในการคัดเด็ก โดยเน้นรูปร่าง หน้าตา ให้ดูดี มีคาแร็กเตอร์ที่ดูโดดเด่นมากขึ้น แต่ความสามารถพื้นฐานในการร้องเพลงยังเป็นเงื่อนไขสำคัญ ถ้าคะแนนเต็ม 5 รุ่นนี้จะอยู่ระดับ 4 และ 5 คะแนนเต็ม

อย่างไรก็ดี AF2 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ในการเกิดเป้าหมาย Artist Management หรือการบริหารศิลปิน หมายถึง ขายเพลงอย่างเดียว แต่ยังต่อยอดไปถึงงานแสดงอื่นๆ เช่น พรีเซ็นเตอร์โฆษณา นักแสดง และพิธีกร

AF2 รุ่นนี้ จึงมีบรรดานักล่าฝันออกมาวาดลวดลายในงานแสดง ทั้งละคร ภาพยนตร์ และพรีเซ็นเตอร์โฆษณาอย่างคับคั่ง

3
AF3 นับเป็นโมเดลที่เกิดขึ้นด้วยรูปแบบ Artist Management หรือการบริหารศิลปินอย่างแท้จริง กรรมการคัดเลือกนักล่าฝันปีนี้ จากผลความสำเร็จในการต่อยอดของ AF2 ในการสร้างมูลค่าของศิลปิน จึงมีการประชุมอย่างชัดเจนว่า การคัดเลือกนักล่าฝัน AF3 จะมุ่งเน้นไปเรื่องรูปร่าง หน้าตา เป็นประเด็นสำคัญ และที่ขาดไม่ได้ คือ แต่ละคนที่คัดจะต้องพลัง หรือเสน่ห์ อย่างที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความเป็นนักแสดง

เป้าหมายในปี 3 นี้ จึงเน้นปั้นนักล่าฝันให้เป็น “นักแสดง” มากกว่าศิลปินนักร้องเพียงอย่างเดียว ! ในขณะที่งานร้องเพลงเป็นผลพลอยได้ที่จะตามมาต่อไป

“หน้าตาไม่หล่อ ไม่สวย แต่ร้องเพลงดี กับหน้าตาหล่อ สวย แต่ร้องเพลงพอได้ เราจะเลือกใคร คณะกรรมการคัดเลือกส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า เราเลือกหน้าหล่อ สวย ไว้ก่อน การร้องเพลงค่อยสอนกันได้ คะแนนการคัดเลือกในครั้งนี้เต็ม 5 จะอยู่ในระดับ 3 หรือคะแนนปานกลางเป็นส่วนใหญ่ ไม่สูงเหมือนสองปีที่ผ่านมา”

ครูปุ้ม-อรวรรณ เย็นพูนสุข หนึ่งในเทรนเนอร์ด้านการร้องเพลง สะท้อนให้เห็นอีกว่า AF3 ทั้ง 13 คน มีคนร้องเพลงดี มีคุณภาพดีเพียง 3 คนเท่านั้น ที่เหลือพอร้องได้กับใช้ไม่ได้

“เป้าหมายปีนี้จะขายความเป็นนักแสดงมากกว่า ซึ่งทุกคนต้องฝ่าการทดลองได้ทุกบทบาท เหมือนลูกบอลกลิ้งไปได้ทุกบทบาท ไม่ใช่ร้องเพลงเก่งอย่างเดียว มีสิทธิ์ตกรอบ” วรภร เฮง หัวหน้าทีมผู้ประสานงานของอะคาเดมี่ แห่งเจนเอ็กซ์ กล่าว

Singer Artist ?

สอดคล้องกับ กิตติกร เพ็ญโรจน์ บอสใหญ่ ค่ายยูบีซี อะคาเดมี่ ระบุว่า ศิลปิน AF จากนี้ไปจะทำงานเป็น ศิลปิน-Artist เต็มตัว ซึ่งเป็นทิศทางใหม่ของบริษัทที่ได้ปรับไปสู่ บริษัทบริหารจัดการศิลปิน-Artist Management แทนที่เน้นเป็นค่ายเพลงผลิตงานเพลงเป็นหลัก

ดังนั้น ในการคัดเลือกเด็ก AF ปีนี้ ทีมงานจึงไม่ได้มองแต่เพียงความสามารถด้านการร้องเพลง แต่ยังรวมไปถึง “การมีแววศิลปิน” หมายถึง บุคลิกภาพ รูปร่าง หน้าตา ที่มีคาแร็กเตอร์บางอย่างที่สามารถนำไป “ ต่อยอด”บทบาทในงานแสดง

ศิลปิน AF จากรายการเรียลลิตี้ Academy Fantasia ปีนี้จะถูกวาง Positioningใหม่ …ไม่ใช่แค่ “นักร้อง – Singer” ร้องเพลง-เต้นรำ บนเวทีเท่านั้น แต่ก็ต้อง “ ศิลปิน-Artist” ที่สามารถ “แสดงบทบาท” ใน Value Chains ต่างๆ ในวงการบันเทิง ไม่ว่า “ นักแสดงละครทีวี… ภาพยนตร์…พรีเซ็นเตอร์โฆษณา…พิธีกรรายการ …ดีเจจัดรายการวิทยุ” อย่างครบวงจร

ความสำเร็จศิลปิน AF แต่ละปีน่าจะยืนยันความสำเร็จในเส้นทางนักล่าฝันได้เป็นอย่างดี ว่าพวกเขาไม่ใช่แค่นักร้อง แต่ยังต้องเป็นแบบมืออาชีพ ในคราบ “ศิลปินบันเทิง” เนื่องจากดีกรีความดังนั่นเองที่ฉุดไม่อยู่ ไปเข้าตาบรรดาผู้จัดละคร ผู้สร้างภาพยนตร์ และเจ้าของสินค้า ที่ต้องการอาศัย “บารมี-ชื่อเสียง” ของบรรดานักล่าฝันเหล่านี้ไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบ

กลุ่มศิลปิน AF ปี 1 ทั้งทีม ถูกจ้างไปแสดงภาพยนตร์ “Ghost Game ล่าท้าผี” หลังจากเสร็จสิ้นการประกวดไปเข้าสังกัดทำเพลงกับเครือแกรมมี่ บางคนที่มีบุคลิก หน้าตา และมีแววนักแสดง เข้าตาผู้จัดละครอย่างจัง ก็ได้งานด้านบันเทิงไปแบบเต็มๆ เช่น จุ้มจิ้ม – กิตติลักษณ์ จุลลัษเฐียร ละคร ‘เสือ สิงห์ กระทิง โสด’ ช่อง 3, ละคร ‘99 วันฉันรักเธอ’ ช่อง 7, หรือ น้ำตาล- ศุภัทรศิริ ปฐมนุพงษ์ ได้เล่นละครเรื่อง “ อยู่กับก๋ง” ทางช่อง 5

ขณะที่ศิลปิน AF ปี 2 ก็ยังแรงไม่แพ้รุ่นพี่ ด้านงานด้านละครและพรีเซ็นเตอร์ โดยทั้งทีม 12 คน ได้เล่นละคร ซีร่าส์ “เพื่อรรัก นักล่าฝัน” ของค่ายบีบีทีวี โปรดักส์ชั่นส์ จำกัด ออกอากาศทางช่อง 7 สี ขณะที่ “บางคน” โดนใจ “ เจ้าของสินค้า” ได้งานพรีเซ็นเตอร์โฆษณา “รถจักรยานยนตร์ฮอนด้า คลิก” อาทิ “ อ๊อฟ-ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ, บอย-พิษณุ นิ่มสกุล, เปรี้ยว-อนุสรา วันทองรักษ์, ว่าน-ธนกฤต พานิชวิทย์, กุ๊กไก่-อลิสา ซิม, โจ-ภาณุพล เอกเพชร ขณะที่ 2 สาวสุดฮอตอย่าง “เปรี้ยว-อนุสรา” ยังพ่วงงานจากค่ายคอนซูเมอร์ยักษ์อย่างพีแอนด์จี พรีเซ็นเตอร์-โอเลย์ โททัล ไวท์ ส่วน “ พัด- พัดชา เอนกอายุวัฒน์” พรีเซ็นเตอร์- แชมพูแพนทีน

นอกจากนี้ อาจเป็นเพราะว่าตลาดเพลงไทยปัจจุบันค่อนข้างอิ่มตัว การแข่งขันจากค่ายเพลงใหญ่ที่รุนแรงต่อเนื่องตลอดมา ดังนั้น อาจส่งผลกระทบต่อศิลปิน AF หากยังมุ่งเน้นขายผลงานเพลงและคอนเสิร์ต ในแง่ปริมาณงานและรายได้ ทางออก คือ ต้องพัฒนาศักยภาพด้านการแสดง เพิ่มจากพื้นฐานนักร้อง ที่ถูกปูขั้นพื้นฐานมาก่อนแล้ว

ที่เด่นชัดปีนี้ ปรากฏการณ์ สาวลูกครึ่ง (V4 ซาร่า-นลินธารา โฮเลอร์, V11 บลูน่า-โชติกา เบนเนลลี่) หรือ กิมมิกฝาแฝดคู่ซี้เชอร์รี่-แอปเปิ้ล ล้วนหน้าตา บุคลิกเด่น กลายเป็นตัวเลือกชูโรง เรียกสีสันเสน่ห์รายการได้ไม่น้อยทีเดียว

เรียกได้ว่า เส้นทางของนักล่าฝันรุ่นต่อไป คงไม่สามารถ “จำกัด” บทบาทตัวเองแค่ “นักร้อง” อีกต่อไป หากพวกเขาต้องการ “สานฝันตัวเอง” แจ้งเกิดแบบมืออาชีพตัวจริง ต้องสามารถเป็น “ศิลปิน” ได้ไม่แพ้กัน !!!

Did you know ?

ศิลปิน-Artist AF ทุกคนต้องเซ็นสัญญาเป็น Asset บริษัท ระยะยาว 5 ปี โดยเงื่อนไขหลัก บริษัททำหน้าที่ดูแล จัดการคิว หางาน ป้อนรายได้ และส่วนแบ่งให้กับงานที่ศิลปินได้ทำงานไป โดยต้องเชื่อฟังทีมงานที่ทำหน้าที่ดูแลจัดการที่เรียกว่า Artist Management Team

เปรียบเทียบเป้าหมายการคัดเลือกนักล่าฝันรุ่น 1-3

รุ่น AF1
ไฮไลต์ 1.มีผู้สมัครเพียง 1 พันคน 2.การคัดเลือกทั้ง 12 คน เน้นทักษะการร้องเพลงไม่เน้นหน้าตา
เป้าหมาย สร้างนักล่าฝันเป็นศิลปินนักร้องสังกัดค่ายแกรมมี่

รุ่น AF2
ไฮไลต์ 1.มีผู้สมัคร 5-6 พันคน 2.การคัดเลือกทั้ง 12 คน ยังมุ่งเน้นทักษะการร้องเพลง แต่เน้นบุคลิกภาพและรูปร่างหน้าตามมากขึ้น
เป้าหมาย สร้างนักล่าฝันเป็นนักร้อง และนักแสดงภายใต้บริษัท ยูบีซี แฟนเทเชีย

รุ่น AF3
ไฮไลต์
1.มีผู้สมัครนับหมื่นคน
2.การคัดเลือกทั้ง 13 คน เน้นบุคลิกภาพและรูปร่างหน้าตาเป็นเงื่อนไขสำคัญ ขณะที่ความสามารถในการร้องพอใช้ได้ หรือว่าสอบผ่าน
3.มีคู่ฝาแฝดเข้ามาร่วมแข่งขันเป็นจุดสนใจ แต่การตัดสินจะถือเป็นคนเดียวกัน
เป้าหมาย เน้นสร้างนักล่าฝันเป็นนักแสดงเป็นเป้าหมายหลัก ขณะที่การเป็นศิลปินนักร้องเป็นเป้าหมายรอง อยู่ภายใต้บริษัท ยูบีซี แฟนเทเชีย

ที่มา : POSITIONING รวบรวม