ที่สุดของ “สุวรรณภูมิ”

เดือนกันยายน 2549 จะเป็นอีกช่วงเวลาที่คนไทยจะต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากการย้ายไปใช้สนามบินแห่งใหม่ ซึ่งรัฐบาลกำลังโปรโมตสนามบินสุวรรณภูมิอย่างเข้มข้น โดยมี อสมท หรือ mcot รับไปดำเนินการ ด้วยงบ 200 ล้านบาท

ช่วงนี้จึงเห็นทั้งโฆษณา และรายการที่เกี่ยวกับสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งในสื่อที่เป็นเครือข่ายของ อสมท รวมถึงสื่อของต่างประเทศ เช่น นิตยสาร Newsweek ก็เป็น 1 ในแผนประชาสัมพันธ์ ซึ่งก็คงจะคึกคักไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่สนามบินเปิดใช้จริง

ถ้าหากมองในด้านของความเป็น “ที่สุด” แล้ว “สนามบินสุวรรณภูมิ” รวมความเป็นที่สุดไว้ในหลายๆ ด้าน

ด้านระยะเวลา เป็นโครงการที่ใช้ระยะเวลายาวนานถึง 46 ปี ผ่านมาแล้วเกือบทุกรัฐบาลตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จนมาถึงรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร

หากจะจัดอันดับโครงการของรัฐที่ “อื้อฉาว” ที่สุดแล้ว สนามบินสุวรรณภูมิติดอันดับแรก เพราะจากการสำรวจแบบไม่เป็นทางการ สิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่คิดถึงสนามบินสุวรรณภูมิ คืออะไร คำตอบแรกเลย คือ ความทุจริต ปัญหาการคอรัปชั่น ที่ตกเป็นข่าวเกรียวกราวมาทุกรัฐบาล

แต่ถ้ามองกันในอีกด้านหนึ่ง สนามบินสุวรรณภูมิคือบทสะท้อนถึงบริบทใหม่ของ“สนามบิน” ซึ่งไม่ใช่แค่สถานที่ไว้ให้เครื่องบินขึ้นหรือลงเท่านั้น แต่ได้พัฒนากลายเป็น “เมืองสนามบิน”

ในต่างประเทศถึงกับนิยามศัพท์ใหม่ขึ้นมาว่า เป็น “Aerotropolis” หรือเมืองสนามบิน

ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะมันได้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร โรงแรม จนถึงความบันเทิงผ่อนคลาย ครบวงจร รองรับทั้งผู้โดยสารและประชาชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง และยังส่งผลให้ชุมชนในบริเวณใกล้เคียงถูกพัฒนากลายเป็นเมืองใหม่

สนามบินทั่วโลกเวลานี้พัฒนาตัวเองให้เป็น Aerotropolis ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ญี่ปุ่น อังกฤษ เยอรมัน ที่มีบริการที่ว่านี้ บางแห่งมีทั้งกาสิโนและพิพิธภัณฑ์ ไว้ในสนามบิน

สุวรรณภูมิแห่งนี้ก็เช่นกัน ที่ถูกวาง Positioning ไว้เป็นศูนย์กลางการบิน แหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง ร้านอาหาร ฟู้ดเซ็นเตอร์ สปา หรือจะหิ้วโน้ตบุ๊กมาเล่น อินเทอร์เน็ต รับส่งอีเมล ด้วยบริการ Wi-Fi ที่ติดรอบสนามบิน มินิเธียเตอร์ สปา

ผู้บริหารของการท่าอากาศยานคาดหวังไว้ว่า นอกจากสถาปัตยกรรมแล้ว ดิวตี้ฟรีของสนามบินสุวรรณภูมิจะแข่งขันกับดิวตี้ฟรีของประเทศดูไบได้สบายๆ

ดิวตี้ฟรีของสนามบินสุวรรณภูมิ ดำเนินการโดย บริษัท King Power ได้รับสิทธิ์บริหารพื้นที่ร้านค้าทั้งหมดในสนามบินแห่งนี้เพียงรายเดียว

อาณาจักรทางธุรกิจของเจ้าพ่อดิวตี้ฟรีรายนี้ คือ ภาพสะท้อนของธุรกิจที่ได้รับโอกาสจากสัมปทานผูกขาดอีกรายของไทย

เรื่องราวของสนามบินสุวรรณภูมิ จะเป็นสกู๊ปอีกชิ้นที่ทีมงาน POSITIONING ได้ร่วมแรงร่วมใจ ใช้เวลารวบรวมข้อมูล สัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง เก็บภาพ เกือบ 2 เดือนเต็ม เพื่อให้ได้ทั้งเนื้อหา ภาพ และรูปแบบการนำเสนอ ให้ผู้อ่านได้ครบทุกมิติ

ที่พลาดไม่ได้ คือ 6 พื้นที่หวงห้ามของสนามบินสุวรรณภูมิ และอาณาจักรของ คิง เพาเวอร์ เป็นเนื้อที่ Exclusive เฉพาะผู้อ่านนิตยสาร POSITIONING เท่านั้น

โปรดติดตาม