ท่ามกลางฝุ่นที่ยังตลบอยู่ในกลุ่มบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่มชิน เกี่ยวกับผู้ถือหุ้น ”เทมาเส็ก” กองทุนจากสิงคโปร์ ที่ถือหุ้นไขว้กันไปมาในนามบริษัท ”กุหลาบแก้ว” ว่าจะโมฆะหรือไม่ เพราะเข้าข่ายเป็นต่างด้าวแอบแฝง แต่ ”แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส” หรือเอไอเอส ก็มีความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้บริหารคนใหม่ ในตำแหน่ง “กรรมการผู้อำนวยการ” หรือที่เรียกกันภายในเอไอเอสว่า “President”
“วิเชียร เมฆตระการ” ในฐานะลูกหม้อได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการเอไอเอสให้เป็น President ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2549 เป็นการนั่งเก้าอี้แทน ”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่ลาออกไปตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังครอบครัวชินวัตรขายหุ้นทั้งหมดให้เทมาเส็ก
ฝีไม้ลายมือด้านเทคนิคของโทรศัพท์มือถือนั้นไม่มีปัญหา แต่ความสามารถด้านการทำตลาดยังเป็นคำถาม ”วิเชียร” บอกว่าไม่กังวล เพราะในบริษัทมีผู้บริหารด้านการตลาดที่มีความสามารถหลายคน แต่ที่ยังยืนยันนำเสนอเป็นจุดขายของเอไอเอสคือคุณภาพเครือข่าย
“เครือข่ายเป็นจุดแตกต่างที่เอไอเอสยังทิ้งห่างคู่แข่ง และแม้จะห่างไม่มากในขณะนี้ แต่นโยบายของเราคือจะลงทุนมากขึ้นเพื่อพัฒนาให้คุณภาพดีกว่าคู่แข่งมากขึ้นอีก”
เบื้องหลังการรับตำแหน่งครั้งนี้ แน่นอนมีทั้งบิ๊กบอส “บุญคลี ปลั่งศิริ” หนุน และไฟเขียวจากเทมาเส็ก จึงทำให้ ”วิเชียร” บอกว่าหลังรู้มติบอร์ด ก็นอนไม่หลับ เพราะ ”ภาระครั้งนี้หนัก” แต่ก็ได้รับคำแนะนำดี ๆ จากบิ๊กบอส ทั้งหลักการทำงาน และคำแนะนำในการทำตลาด เช่นข้อเสนอแนะว่า “เอไอเอส น่าจะมีพรีเซ็นเตอร์ใหม่อีกหรือเปล่า”
ผลตอบแทนครั้งนี้สำหรับ ”วิเชียร” อาจไม่มากจนน่าฮือฮานักด้วยเงินเดือนที่เพิ่มประมาณ 10% และรถประจำตำแหน่งที่แพงขึ้นจาก 3.4 ล้านบาท เป็น 4.5 ล้านบาท แต่ผลตอบแทนด้านความท้าทายในหน้าที่การทำงานแล้วต้องบอกว่าสุดคุ้ม ท่ามกลางธุรกิจมือถือที่แข่งขันรุนแรง และโดยเฉพาะความเป็นเอไอเอสที่ถูกภาพการเมืองทับซ้อนอย่างที่เป็นอยู่
“วิเชียร เมฆตระการ” ปัจจุบันอายุ 52 ปี จบมัธยมจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน แล้วศึกษาต่อที่คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เพียง 1 ปี เกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ หนีเข้าป่า ทำหน้าที่เป็นหน่วยข่าว หลังออกจากป่าบินไปอยู่กับครอบครัวที่ไปตั้งรกรากที่สหรัฐอเมริกา รับทำงานพิเศษทั้งบริการส่งไปรษณีย์ และขายโดนัท พร้อมเรียนช่วงเย็นในสาขาอิเล็กทรอนิกส์ ได้เกรดโดยเฉลี่ยที่ระดับ 4 จึงตัดสินใจเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ (เกียรตินิยม) จาก California Polytechnic State University สหรัฐอเมริกา เริ่มต้นการทำงานที่บริษัท Hughes Aircraft, Radar System สหรัฐอเมริกา นับเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดาวเทียม จนเข้ามาร่วมงานในกลุ่มชิน เป็นพนักงานคนที่ 3 ของบริษัทชินแซทเทลไลท์ ในโครงการดาวเทียมไทยคม จากนั้นได้เข้ารับผิดชอบงานติดตั้งและพัฒนาเครือข่ายโทรศัพท์ของเอไอเอส ตั้งแต่ปี 2538