ความพิเศษสุดที่เกิดขึ้นภายในสนามบินสุวรรณภูมิที่พลาดไม่ได้ต้องพูดถึง และถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของแผ่นดินทองแห่งนี้คือ TG Lounge หรือห้องรับรองผู้โดยสารสำหรับลูกค้าการบินไทย ที่งานนี้บริษัทการบินไทยทุ่มสุดตัวเพื่อให้เป็นแม่เหล็กดึงนักเดินทางมาเป็นผู้โดยสารของบริการเอื้องหลวงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“วิภาดา วัชระคุปต์” ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนผลิตภัณฑ์ และบริการ การบินไทย เล่าว่าความแตกต่างของ Lounge การบินไทยที่ดอนเมืองกับที่สุวรรณภูมิ เริ่มตั้งแต่พื้นที่ที่มากกว่าที่ดอนเมือง 4 เท่า จากประมาณ 3,000 ตารางเมตร เป็น 13,000 ตารางเมตร และจัดวางห้องรับรองไว้ถึง 10 พื้นที่ มีจุดให้บริการทั้งระดับ First Class Business Class และ Economy Class
สำหรับระดับ First Class จะได้รับความประทับใจตั้งแต่เดินเข้าสู่อาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ (Curbside Service) เริ่มจากจุดแรกคือบริเวณเช็กอินตั๋วโดยสาร ชั้น 4 ของอาคาร เมื่อผู้โดยสาร First Class เข้าสู่พื้นที่การบินไทย Royal Orchid Premium ก็จะมีเจ้าหน้าที่ต้อนรับ ที่ในส่วนนี้ การบินไทยได้ Redesign เคาน์เตอร์เช็กอินใหม่ เมื่อลูกค้าของการบินไทยนั่งพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว ได้รับการต้อนรับด้วย Welcome Drink เจ้าหน้าที่ของการบินไทยจะนำตั๋วไปดำเนินการเช็กอินให้เป็นที่เรียบร้อย
หากผู้โดยสารคนใดมีงานเร่งด่วน ต้องประชุมก่อนที่จะเดินเข้าไปเตรียมขึ้นเครื่อง ในส่วนนี้ จะมีห้องประชุมเป็น Business Center ไว้บริการจำนวน 5 ห้อง และมีส่วนของการบริการเสิร์ฟอาหาร แบบ A-la-Carte
เมื่อถึงเวลาที่ผู้โดยสารต้องการเดินทางสู่พื้นที่ด้านอาคารผู้โดยสาร เพื่อเตรียมขึ้นเครื่อง จะมีเจ้าหน้าที่พาไปผ่านด่านช่องตรวจหนังสือเดินทางพิเศษ ที่จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำเป็นพิเศษ ไม่ปะปนกับผู้โดยสารอื่น
สำหรับผู้โดยสารชั้น Business Class จะได้รับบริการบางส่วนคล้ายกับ First Class จะมีต่างบ้างเช่น ต้องเช็กอินเอง แต่การบินไทยได้เตรียมเคาน์เตอร์เช็กอินพิเศษไว้ โดยให้ผู้โดยสารนั่งใช้บริการ ไม่ต้องยืนเข้าแถวเช็กอิน มีสิทธิใช้บริการบางส่วนของ First Class โดยจ่ายค่าบริการเพิ่มเติม ซึ่งค่าบริการทั้งหมดอยู่ในแพ็กเกจเดียวกับราคาตั๋วแล้ว
หลังจากผู้โดยสารเดินเข้าอาคารเทียบเครื่องบินแล้ว เจ้าหน้าที่จะเชิญไปใช้บริการในส่วนของ VIP Lounge บริเวณชั้น 3 ที่มีพื้นที่ประมาณ 3,750 ตารางเมตร แบ่งเป็น Royal First Class สำหรับผู้โดยสาร First Class และ Royal silk Class และผู้โดยสารชั้น Business
แน่นอนว่าการตกแต่งจะต้องให้เห็นถึงความหรูหรา แบ่งระดับด้วยโทนสี และบริการบางส่วน เช่น First Class ใช้โทนสีทอง ส่วน Business Class จะใช้สีม่วงเผือก หรือม่วงอ่อน ด้วยคอนเซ็ปต์เน้นย้ำความอบอุ่น และความเป็นไทย โดยมีผลงานศิลป์จากอาจารย์ ปรีชา เถาทอง
ในพื้นที่นี้จะมีทั้ง ห้อง VIP ห้องทานอาหาร เพราะผู้โดยสารบางคนชอบทานอาหารให้เรียบร้อยก่อนขึ้นเครื่อง มีห้องสมุดสำหรับ First Class มีห้องประชุม 6 ห้อง
“สปา” จะมี Royal Spa Lounge Spa Sweet ห้องอาบน้ำ แบบมีอ่างจากุชชี่ และ Shower อบไอน้ำ ซาวน่า มีบริการนวดแผนไทย ห้องออกกำลังกายแบบฟิตเนส และโยคะ ที่เรียกว่าบริการ ฤาษีดัดตน รวมไปถึงห้องพักส่วนตัว หากต้องอยู่ที่สนามบินเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ ยังดูแลลูกค้า “วีไอพี” ของการบินไทย ที่เดินทางเข้าประเทศ ที่ต่างจากสายการบินอื่น คือ Arrival Lounge สำหรับผู้โดยสารขาเข้า พื้นที่ 250 ตารางเมตร ให้ผู้โดยสารสามารถอาบน้ำ หรือสร้างความสดชื่น ก่อนที่ต้องไปเดินทาง หรือไปประชุมต่อ
ไม่เพียงแต่ระดับวีไอพีที่การบินไทยดูแลเป็นพิเศษเท่านั้น ผู้โดยสารชั้นประหยัด Economy Class ที่กำลังออกแบบ และตระเตรียมพื้นที่ให้บริการ โดยเน้นการใช้บริการด้วยตัวเอง ในส่วนบริการเพิ่มเติม เช่น อาหาร และเครื่องดื่ม ก็สามารถซื้อเพิ่มได้
ทั้งหมดการบินไทย ลงทุนไปประมาณ 300 ล้านบาท และคาดหวังว่าจะให้ผู้โดยสารทั้งของการบินไทย และกลุ่มสตาร์อัลลายแอนซ์ หรือพันธมิตรการบินไทย เฉลี่ยปีละ 1.3 ล้านคน
เพียงเท่านี้ เรียกได้ว่าบริการพิเศษ สุดวีไอพี ช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ Brand การบินไทย ให้ดึงดูดลูกค้าได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ
ตัวอย่างพื้นที่ให้บริการ TG Lounge
ประเภทห้องรับรอง ขนาดพื้นที่ (ตารางเมตร)
– Spa Lounge 650
– Arrival Lounge 250
– 2 Transit Passenger Lounge 650
– Domestic Lounge 650
– 2 Lounge for 650
– Partner Airlines
TG Lounge เป็นโครงการหนึ่งที่การบินไทยรับผิดชอบ ในสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งหมดมี 6 โครงการด้วยงบลงทุนรวม 13,735.51 ล้านบาท ประกอบด้วย
1) กิจกรรมการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ รองรับสินค้า 1.26 ล้านตันต่อปี
2) กิจกรรมครัวการบิน สามารถผลิตอาหารในระยะแรกได้ 65,000 – 70,000 ชุดต่อวัน และขยายตัวได้ใน 10 ปีข้างหน้า สามารถผลิตได้สูงสุด 85,000 ชุดต่อวัน
3) กิจกรรมบริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น บริการซ่อมและบำรุงอุปกรณ์เครื่องบินภาคพื้น
4) กิจกรรมศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ที่สามารถซ่อมเครื่องบินได้ตั้งแต่ขนาดเล็กและใหญ่ จนถึงเครื่องบิน A380 พร้อมกัน 3 ลำ
5) กิจกรรมบริการลูกค้าภาคพื้น นอกจากเลานจ์สุดหรูแล้ว ยังมีบริการระบบเช็กอินที่ทันสมัย การเช็กอินด้วยตัวเอง ผ่านตู้ KIOS ผ่านเทคโนโลยีสื่อสารใหม่ทั้งอินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือ
6) กิจกรรมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์กลางของลูกเรือการบินไทย ที่มีระบบบริการพร้อมทั้งก่อนขึ้นเครื่องและหลังลงจากเครื่อง