สรยุทธ งามจันทร์ผลิ “ผมเลือกสร้างโอกาส…ไม่ใช่นั่งรอ”

“สิ่งที่ท้ายทายคือการได้ทำงานที่สนุก ตื่นเต้น และได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ผมจึงเดินเข้ามาหาโอกาสนี้ในธุรกิจ Mobile Phone เพราะมีการแข่งขันสูง แต่ยังเติบโตไปได้อีกไกล จึงเป็นเรื่องใหม่ที่น่าสนใจและท้าทายกว่า”

เหตุผลสั้นๆ ที่นักการตลาดหนุ่มหน้าตาสะอาดสะอ้าน “สรยุทธ งามจันทร์ผลิ” หรือ “เก่ง” บอกถึงเหตุผลที่ย้ายข้ามห้วยจากธุรกิจคอนซูเมอร์อย่าง “ฟิโต-เลย์” มาดูแลฝ่ายขายสินค้าเครื่องโทรศัพท์มือถือให้ Motorola เกือบ 3 ปี

ก่อนก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารที่ดูแลตลาดช่องจัดจำหน่ายให้บริษัทโมโตโรล่า (ประเทศไทย) พร้อม
โชว์ผลงานเปิดตัวร้าน “MOTO Flagship Store” บนชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เพื่อใช้เป็นร้านต้นแบบในการแสดงเทคโนโลยีมือถือ “สไตล์โมโต” แห่งแรกในประเทศไทย และยังสมบูรณ์ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“ทุกวันนี้โทรศัพท์มือถือเน้นขายความเป็นไลฟ์สไตล์ ตลาดจึงมีเซ็กเมนต์ใหม่ๆ ที่กระจายไปสู่ลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นช่องทางการขายก็จะเปลี่ยนไปตามกลุ่มลูกค้า เราจึงไม่มองเพียงแค่ร้านค้า หรือตู้ขายโทรศัพท์ แต่เราจะให้ลูกค้าซื้อโทรศัพท์มือถือได้จากทุกที่เขาไป”

“สรยุทธ” สั่งสมประสบการณ์การตลาดธุรกิจคอนซูเมอร์มากว่า 5-6 ปี โดยเริ่มต้นชีวิตการทำงานตำแหน่ง Management Trainee ที่บริษัท เนสท์เล่ ด้วยดีกรีด้านบริหารจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และปริญญาโทด้านการจัดการจากมหาวิทยาลัยมหิดล (ภาคอินเตอร์) ก่อนจะเข้าร่วมงานที่ “ฟิโต-เลย์” จนก้าวขึ้นเป็น Brand Manager ในช่วงเวลาไม่ถึง 2 ปี

“Mobile Industry เป็นธุรกิจที่หยุดนิ่งไม่ได้ ต้องแข่งกับตัวเอง และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เพราะคู่แข่งเขาเดินไปข้างหน้าทุกนาที”

ตรงกับบุคลิก “สรยุทธ” ที่เป็นคนแอ็กทีฟ นำสมัย และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญ เขายังเป็นผู้บริหารตัวแทนคนรุ่นใหม่ เขาจึงเข้าใจตลาด และรู้จักไลฟ์สไตล์ลูกค้า รวมทั้งรู้ว่าจะหยิบกลวิธีที่จะสื่อสินค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย

ทุกวันนี้เราจึงเห็น Motorola มีกิจกรรมที่สร้างสีสัน และทำตลาดไปในช่องทางใหม่ๆ มากขึ้น อาทิ การจัดโครงการ “โมโต ตะลอน ทัวร์” ไปยังห้างสรรพสินค้ากระจายทั่วภาคอีสาน และภาคเหนือ เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับในต่างจังหวัดมากขึ้น

“ผู้บริหารยุคนี้ต้องลงไปลุย กล้าไปคลุกกับตลาด เพราะไลฟ์สไตล์และตลาดเซ็กเมนต์ใหม่ๆ ไม่ได้มีเฉพาะในตำรา ทฤษฎีไม่สามารถใช้ได้ทั้งหมด แต่ต้องประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับความต้องการลูกค้า ผมจึงต้องลงพื้นที่ไปหาคู่ค้า พาพนักงานเข้าหาตลาดในต่างจังหวัด ผมต้องลงพื้นที่ไปกับเขา”

“สรยุทธ” ยังใช้เวลาทุกวันศุกร์ 2-3 ชั่วโมง เข้ามาดูแลช็อป “โมโตโรล่า” ด้วยตนเอง เพื่อตอบคำถามและให้ข้อมูลกับลูกค้า และรับฟังคำแนะนำจากผู้บริโภคโดยตรง “ผมจะบอกพนักงานว่าต้องรับฟัง และตอบทุกคำถามของลูกค้า” ซึ่งเขาบอกว่าตรงนี้เป็นหัวใจการทำตลาดสินค้าคอนซูเมอร์ในยุคนี้

“ฟีดแบ็กจากผู้บริโภคเป็นข้อมูลการตลาดชั้นดี เพื่อนำไปประยุกต์การทำตลาดผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ลูกค้า เวลาเราคุยลูกค้าจะบอกเราว่าเขาอยากได้อะไร เช่น การเลือกสีโทรศัพท์เข้ามาทำตลาด เดิมเราตั้งใจนำเข้ามาเท่ากันทุกสี แต่ผู้บริโภคบอกไม่ชอบบางสี เราก็ลดจำนวนลง”

ทุกวันนี้ “สรยุทธ” เป็นหัวเรือใหญ่ที่ต้องขับเคลื่อนช่องทางจัดจำหน่าย ซึ่งประสานกับฝ่ายการตลาด เพื่อกระตุ้นให้ Motorola มียอดขายตามเป้าที่วางไว้ รวมทั้งเพิ่มส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกจาก 10% เป็น 20-30% ภายใน 3 ปีข้างหน้า แม้จะยังเป็นเบอร์ 2 รองจาก Nokia ก็ตาม

“ในฐานะ Brand Challenge ที่ยังตามหลังเบอร์หนึ่งกว่าครึ่ง เราต้องคิดอะไรที่แตกต่าง เพื่อสร้างโอกาสให้สินค้าโดดเด่น จนเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าจับตามอง และผู้บริโภคก็เข้าถึงเราได้ง่ายขึ้น”

เขาบอกว่า โมโตโรล่ามีจุดขายด้านดีไซน์ และเครื่องที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค ตั้งแต่กลุ่มเริ่มต้นใช้งาน ผู้นิยมเครื่องแฟชั่น เน้นการฟังเพลง หรือใช้เพื่อธุรกิจ เพราะทุกวันนี้คนส่วนใหญ่นิยมใช้โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยบ่งบอกความเป็นไลฟ์สไตล์ของตนเอง

ทำให้โทรศัพท์มือถือรุ่นดีไซน์ V3 Laser เป็นที่นิยมในตลาดเครื่องบาง สามารถกู้ชื่อ Motorola ให้กลับมาได้ หลังจากถูกแบรนด์น้องใหม่กลืนตลาดไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

วัฒนธรรมการทำงานมีส่วนผลักดัน “สไตล์การบริหารงานของโมโตโรล่าเป็น American Firm เปิดโอกาสให้เราสามารถแสดงความคิดและวางแผนงานได้เต็มที่ ผมจึงมุ่งมั่น สนุก และรู้สึกท้าทายที่จะทำงานให้ได้ตามเป้าหมาย แต่ถ้าผิดพลาดก็ต้องรีบแก้ไข เพื่อให้งานออกดี”

“สรยุทธ” เป็นหนึ่งในตัวแทนผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ Balance ชีวิตการทำงานกับชีวิตส่วนตัวได้ดี โดยเขาเลือกให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นดันดับแรก เพราะเขาเชื่อว่าครอบครัวที่อบอุ่นและกำลังใจจากคนที่รักจะช่วยให้แรงใจในการทำงานได้เต็มที่ แม้เจอปัญหาในการทำงานก็มีแรงก้าวต่อไปได้

“ชีวิตผมครอบครัวต้องมาที่ 1 ทุ่มเทให้ความสุขกับครอบครัว ดูแลภรรยาและลูกชายให้เต็มที่ เพราะพวกเขาเป็นแรงส่งให้ผมทำงานได้ไม่เหน็ดเหนื่อย แต่ก็ไม่ลืมที่จะดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย และหากิจกรรมในวันว่างตอบแทนคืนสู่สังคม”

เขาใช้เวลาว่างในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์เป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชาการตลาดให้นักศึกษาคณะ……….. มหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อใช้ประสบการณ์ตรงไปถ่ายทอดให้กับคนรุ่นใหม่ๆ ได้นำไปประยุกต์ใช้ในการทำตลาดต่อไป

“หลักการทำงานของผม คือ แข่งขันกับตัวเองด้วยความความมุ่งมั่น และมีเป้าหมายว่าต้องชนะ เพราะการทำงานไร้จุดหมายก็ไม่รู้ว่าต้องสู้เพื่อใคร ทำงานไปเพราะอะไร ผมจึงมีเป้าหมายในการทำงานทุกครั้ง”

Profile

Name : สรยุทธ งามจันทร์ผลิ (เก่ง)
Age : 34 ปี
Education :
– ปริญญาโท การจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (ภาคอินเตอร์)
– ปริญญาตรี บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC)
– มัธยมศึกษา โรงเรียนเตรียมอุดม พัฒนาการ
Career Highlights :
ปัจจุบัน ผู้จัดการฝ่ายการตลาดช่องทางการจัดจำหน่ายของโมโตโรล่า
พ.ศ. 2546 ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท โมโตโรล่า (ประเทศไทย) จำกัด
พ.ศ. 2544 Brand Manager บริษัท ฟริโต-เลย์ (ประเทศไทย) จำกัด