สู่โลก ช้อปปิ้งออนไลน์ กับ วิลล่า มาร์เก็ต

ถ้าสามารถซื้อ ผักสด ไวน์ ขนมขบเคี้ยว จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยไม่ต้องนั่งรถออกจากบ้าน ไปต่อแถวชำระเงิน ให้หงุดหงิด แถมยังเสียค่าน้ำมัน ก็น่าเป็นทางออกที่ดีของนักช้อปยุคนี้

เป็นสาเหตุให้ “วิลล่า มาร์เก็ต” ซูเปอร์มาร์เก็ตไทยอายุกว่า 35 ปี ตัดสินใจขยายช่องทางจำหน่ายในรูปแบบห้างออนไลน์ โดยให้บริการผ่านเว็บไซต์ www.weloveshopping.com ของ True หวังจะใช้เป็นเครื่องมือกระตุ้นการซื้อสินค้าเพิ่มจากเดิม โดยขายผ่านสาขาในเขตกรุงเทพฯ 12 แห่ง และกำลังขยายไปต่างจังหวัด อาทิ เมืองพัทยา ในต้นปีหน้า

กลยุทธ์นี้ยังนำมาใช้ตอบโต้ คู่แข่งขัน อาทิ เทสโก้ โลตัส หรือท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ที่กำลังขยายสาขาให้ถึงหัวบันไดบ้าน

วิลล่า มาร์เก็ต เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่จับตลาดลูกค้าระดับบน เป็นชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย 70-80% ที่เหลือเป็นกลุ่มคนไทยที่มีกำลังซื้อและเลือกซื้อสินค้าคุณภาพดี ไม่เกี่ยงราคา เน้นความสดใหม่ และสินค้าสำเร็จรูปนำเข้าจากต่างประเทศ ทำเลที่ตั้ง จะอยู่ที่การตั้งอยู่ใจกลางเมือง โดยสาขาที่เป็นเรือธงนำดั้งเดิม “ซอยสุขุมวิท 33” ติดริมถนนสุขุมวิท

พิศิษฐ์ ภูสนาคม กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิลล่า มาร์เก็ต เจพี ผู้ดำเนินธุรกิจ “วิลล่า ซูเปอร์เปอร์ มาร์เก็ต” บอกว่า การลงทุนแต่ละสาขาต้องใช้เงินมาก และมีปัญหาในเรื่องหาทำเล ช่องทางใหม่ๆ ในการทำตลาด โดยเฉพาะบนออนไลน์ที่น่าจะสร้างความสะดวกสบายให้ลูกค้า โดยควบคู่ไปกับการเปิดสาขาใหม่ที่มีโอกาส และคาดว่าจะทำให้ธุรกิจเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 10-15% จากเดิม 5-10%

ซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ของ “วิลล่า มาร์เก็ต” จะรองรับกับการจำหน่ายสินค้ากว่า 1,000 รายการ ตั้งแต่ แยม ไวน์ เนื้อสัตว์ อาหารกระป๋อง เครื่องปรุงอาหาร ตลอดจนขนมขบเคี้ยวต่างๆ ไม่ต่างจากซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป

การเข้าสู่โลกออนไลน์ครั้งนี้ “วิลล่า มาร์เก็ต” เลือกใช้บริการผ่านเว็บไซต์ weloveshopping.com ของ True ซึ่งทำขึ้นเพื่อให้บริการช้อปปิ้งออนไลน์โดยเฉพาะ ซึ่งทรูได้พ่วงเอาบริการโทรศัพท์มือถือ “ทรูมูฟ” ให้ลูกค้าอัพเดตข่าวสารสินค้าใหม่ หรือแม้แต่การสั่งซื้อสินค้า และการร่วมประมูลสินค้าพิเศษผ่านมือถือ “ทรูมูฟ” และชำระเงินผ่านบริการ “ทรูมันนี่”

ลูกค้าทรูมูฟ สามารถช้อปปิ้งผ่านมือถือได้ แม้ไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ต อาทิ ซื้อตั๋วคอนเสิร์ต AF3 สั่งซื้ออาหารงานปาร์ตี้ตอนเย็นขณะอยู่ในที่ทำงาน เป็นต้น

“คนรุ่นใหม่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจเพิ่มมากขึ้น และนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาลดต้นทุน การทำธุรกิจในรูปแบบออนไลน์เป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูง เพราะใช้ต้นทุนต่ำ และไม่ต้องลงทุนเองทั้งหมด” อติรุฒม์ โตทวีแสนสุข ผู้อำนวยการบริหาร ด้าน Office/SME Solution & Wireless Access บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น หรือ True ผู้ให้บริการเช่าพื้นที่และบริหารจัดการเว็บไซต์ www.weloveshopping.com อธิบาย

ทุกวันนี้ เว็บไซต์ weloveshopping.com ให้บริการเช่าพื้นที่กับผู้ประกอบการร้านค้าไปแล้วกว่า 40,000 ราย มีสินค้าจำหน่ายกว่า 100,000 รายการ ด้วยค่าเช่ารายเดือนเริ่มต้นที่ 200-300 บาทต่อจำนวนสินค้าไม่เกิน 50 รายการ แต่สามารถเพิ่มเป็น 1,000 รายการอย่าง “วิลล่า มาร์เก็ต”

นอกจากให้เช่าพื้นที่แล้ว True สร้างกิจกรรมบนตลาดออนไลน์ เพื่อกระตุ้นการซื้อ ให้บริการเทคโนโลยีให้กับร้านค้า ตั้งแต่ดีไซน์ตกแต่งหน้าร้านออนไลน์ ประสานงานระบบการจัดส่งสินค้า และระบบการชำระเงิน ตลอดจนบริการสั่งซื้อสินค้า ผ่านโทรศัพท์มือถือทรูมูฟ และคอลเซ็นเตอร์ Shop Buddy

“เป้าหมายของ True คือเป็นห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น จึงมีทั้งอาหาร และเครื่องดื่ม เพิ่มจากเดิมจำหน่ายสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า กระเป๋า ตลอดจนสินค้าไอที และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น ‘วิลล่า มาร์เก็ต’ จึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเรา”

True พยายามใช้จุดขาย ด้วยการรวมเอาบริการต่างๆ อาทิ บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์ โทรศัพท์มือถือ ตลอดจนระบบ e-Commerce ให้บริการแก่ลูกค้าองค์กร (B2B) เพื่อให้ลูกค้ามีศักยภาพจำหน่ายสินค้าให้บริโภค (B2C) ง่ายขึ้น

“วันนี้เราสามารถจองและซื้อตั๋วคอนเสิร์ตได้แม้จะใส่ชุดนอนอยู่ในบ้าน หรือร่วมประมูลของหายากก่อนเวลาเวลาเข้าประชุมเพียง 5 นาที รวมทั้งสั่งรายการอาหารไว้จัดปาร์ตี้ตอนเย็น แม้จะทำงานเกินเวลาจนไม่ได้ไปซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต แต่ก็ช้อปปิ้งออนไลน์ได้จากที่บ้านหรือที่ทำงาน”

อย่างไรก็ตาม อติรุฒม์ บอกว่า สินค้าที่มีโอกาสในตลาดออนไลน์ต้องมีจุดขาย และมีความทันสมัย แต่หากจะเปิดร้านค้าเองพิจารณาแล้วไม่คุ้มกับการลงทุน อาทิ สินค้าดีไซน์ ไอที หรือแฟชั่น ตลอดจนสินค้าที่ต้องการซื้อกลับไปทานที่บ้าน แต่หากจะทำธุรกิจภัตตาคารแล้วทำตลาดผ่านออนไลน์ก็คงไม่คุ้ม เพราะลูกค้าต้องการที่นั่งรับประทาน และต้องการบรรยากาศ”

ตลาดออนไลน์มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่ และมีไลฟ์สไตล์การบริโภคที่ทันสมัย นิยมสินค้านำเข้า หรือตามแฟชั่นอินเทรนด์ แต่ก็มีไม่น้อยที่สินค้าดีไซน์ที่ไม่ซ้ำแบบใคร อาทิ สินค้า OTOP ไทยก็ประสบผลสำเร็จในตลาดออนไลน์ได้เช่นกัน

ไทยใช้อินเทอร์เน็ต 12 ล้านคน

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกที่จำนวนมากกว่า 100 ล้านคน ส่วนในไทย มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 12 ล้านคน เนื่องจากพฤติกรรมคนรุ่นใหม่นิยมใช้อินเทอร์เน็ตหาข้อมูล ติดต่อสื่อสาร และสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น

Top 5 เว็บไซต์ยอดนิยมสิงหาคมปีนี้
– บันเทิง 41.57%
– ข่าว-สื่อ 7.66%
– บุคคล-สังคม 7.01%
– ช้อปปิ้ง 6.76%
– อินเทอร์เน็ต 5.69%
– อื่นๆ 31.31%***

***ส่วนอื่นๆ เป็นเว็บไซต์ประเภทต่างๆ อาทิ ธุรกิจ เกม บันเทิงผู้ใหญ่ คอมพิวเตอร์ และยานยนต์ เป็นต้น โดยแต่ละประเภทมีสัดส่วนต่ำกว่า 5%
ที่มา: www.truehits.net