รูดปรื๊ด…ไร้กังวล ป๋าดัน E-Commerce

เคยไหม…ชอบมากเลยของชิ้นนี้ แต่ไม่ได้ซื้อ เพราะขายหน้าผ่านเว็บไซต์ ที่ต้องจ่ายเงินโดยใช้บัตรเครดิต จะดีเหรอ ถ้าคีย์เลขที่บัตรเครดิตลงไป จะถูกแฮกฯหรือเปล่า… หรือจะขายของผ่านอินเทอร์เน็ตกับเขาบ้าง ส่งไปถึงลูกค้าที่สั่งซื้อแล้ว จะถูกโกงหรือเปล่า…สารพัดความกังวล จนไม่ได้ของ และคนขายของก็ขายไม่ได้ นี่เองที่ทำให้ อี-คอมเมิร์ซ พุ่งๆ ดับๆ อยู่อย่างนี้

ธนาคารกสิกรไทย ประกาศตัวเองว่าเป็นธนาคารไฮเทค ได้เข้าสู่บททดสอบอีกครั้ง กับการลงทุนระบบเทคโนโลยีตกพันล้านบาทต่อปี ซึ่งหนึ่งในผลผลิตนั้นคือ การสร้างระบบชำระเงินผ่านอินเทอร์เน็ตที่ให้ความมั่นใจกับทั้งผู้ซื้อสินค้า ในฐานะเจ้าของบัตร กับเจ้าของสินค้า

ประยุทธ ตัณฑ์ศรีสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย อธิบายบริการของธนาคารว่าเป็นที่รู้จักในชื่อบริการ K Payment Gateway เป็นบริการที่แบงก์ออกมาจัดการหน้าบ้านให้กับเว็บไซต์ที่ขายสินค้าต่างๆ

“แน่นอนว่าคนซื้อสินค้ากับคนขายสินค้าไม่เห็นหน้ากัน ไม่สามารถจ่ายเงินสดได้ ก็ต้องใช้บัตรเครดิต และบริการนี้ก็ทำให้สินค้าไทยไปได้ทั่วโลก เหมือนอย่างกล้วยไม้ไทย หรือกางเกงนักมวย ก็มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงลูกค้ากลุ่มสายการบินที่ขายตั๋วออนไลน์”

สำหรับ Key Success ของบริการ K Payment Gateway คือระบบที่มีความซับซ้อนกว่าปกติ จากระบบการขายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตที่ผู้ซื้อผู้ขายไม่เห็นหน้ากัน ทำให้ตรวจสอบบัตร กับผู้ถือบัตรไม่ได้ เหมือนระบบปกติ จึงได้ใช้ระบบ Fraud Warning Light

ระบบนี้ทำให้ผู้ประกอบการผู้ขายสินค้าสามารถตรวจดูระบบการสั่งซื้อแต่ละรายการว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ หรือรายการสั่งซื้อนั้นมีโอกาสทุจริตหรือไม่

ในระบบการชำระเงินโดยทั่วไปจะมีเพียงการให้ใส่เลขที่บัตรเครดิต 16 หลัก และเลข 3 หลักท้าย และวันหมดอายุของบัตร แต่ของกสิกรไทย ให้ระบุว่าบัตรนี้ออกที่ประเทศใด นอกจากนี้ยังได้ซื้อข้อมูล IP Address ที่ระบุที่มาของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ต้องการฉ้อโกงนำเลขที่บัตรไปใช้ต่อ ไม่สามารถสุ่มได้ เพราะต้องมีการระบุประเทศ ที่ต้องตรงกับ IP Address ด้วย

ในระบบจะแสดงให้ผู้ประกอบการเจ้าของสินค้ารู้ว่าคำสั่งซื้อนั้นปลอดภัยหรือไม่ หากข้อมูลประเทศไม่ตรง หรือผิด 1 จุด ก็แสดงสีเหลือง หากผิด 2 จุด ก็แสดงสีแดง หากตรงกันหมดเป็นสีเขียว มีความปลอดภัยสูง

สิ่งยืนยันว่ามาถูกในธุรกิจนี้นั้น กสิกรไทยบอกว่าดูจากยอดลูกค้าที่เข้ามาใช้ระบบนี้มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องปัจจุบันมีลูกค้าประมาณ 400 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงแรกที่เปิดให้บริการเมื่อปีครึ่งที่ผ่านมา ที่มีลูกค้าประมาณ 100 รายเท่านั้น และภายในสิ้นปีนี้คาดมีลูกค้าประมาณ 600 ราย

หากคำนวณในด้านมูลค่าของการซื้อขายที่เกิดขึ้น ปี 2548 มีมูลค่า 150 ล้านบาท ภายในปี 2549 คาดว่าจะได้ 1,200 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 400-500%

ตัวเลขพุ่งกระฉูดขนาดนี้นี่เอง ที่ทุกวันนี้เว็บไซต์ E-Commerce ผุดเป็นดอกเห็ด กลับมาในโลกออนไลน์อีกครั้ง …และเรียกได้ว่า KBANK เขามาถูกทาง