“พรีเซ็นเตอร์”เงินล้าน

“ครั้งที่เท่าไหร่ ฉันเองก็ไม่ได้นับ ไม่เห็นเธอโทรกลับ โทรไปก็ยังไม่รับสาย” เพลงฮิตติดชาร์ตหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือที่ยังคุ้นหู ก็ต้องประโยคนี้ ”ไม่ว่างจริงๆ หรือว่ามีคนอื่น ต่อสายเธอทั้งคืน ก็เจอแต่ฝากข้อความ”

ด้วยน้ำเสียง ร้องสไตล์ Nasal Voice ขึ้นจมูกนิดๆ กับแนวเพลง R&B ของ “ลิเดีย” จากค่ายอาร์เอส อาจไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ถูกนำมาขึ้นแท่น เป็น”พรีเซ็นเตอร์” ให้กับโทรศัพท์มือถือระบบวัน-ทู-คอล แต่เป็นเพราะเนื้อร้องที่ย้ำเรื่องที่เกี่ยวพันกับโทรศัพท์มือถือ ได้ยินกันทั่ว ทำให้วัน-ทู-คอล ปัดฝุ่นแผนการตลาดที่อาศัย ”พรีเซ็นเตอร์” เป็นตัวนำสร้างแบรนด์ขึ้นมาอีกครั้ง

เพียงไม่กี่วันหลัง ”วิเชียร เมฆตระการ” ขึ้นแท่นนั่งเก้าอี้ “กรรมการผู้อำนวยการ” ของเอไอเอส กับไอเดียฝากมาคิด จากซีอีโอ บริษัทแม่ “ชินคอร์ปอเรชั่น” “บุญคลี ปลั่งศิริ ว่าถึงเวลาว่าที่เอไอเอสจะมีพรีเซ็นเตอร์อีกหรือไม่ ซึ่งไม่กี่วันจากนั้น “วัน-ทู-คอล” บริการฮัลโหลแบบเติมเงินของเอไอเอส ก็ประกาศเปิดตัว “ลิเดีย”

ฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด เอไอเอส อธิบายแผนล่าสุดนี้ว่า “สถานการณ์ตอนนี้ ไม่ได้เล่นเรื่องราคา ก็น่าจะเหมาะที่จะใช้พรีเซ็นเตอร์ ซึ่งเอไอเอสเองได้ใช้ และมีความชัดเจนในการใช้พรีเซ็นเตอร์มาโดยตลอด นอกจาก วัน-ทู-คอลแล้ว ยังพิจารณาให้มีพรีเซ็นเตอร์ในแบรนด์ จีเอสเอ็ม 1800 กับแอดวานซ์ อีกด้วย”

หากไล่เรียงพรีเซ็นเตอร์ในเครือเอไอเอส ตั้งแต่ ”GSM” รุ่นแรกๆ เป็น ”ดีเจไก่-สมพล” ส่วน“วัน-ทู-คอล” ก็ผูกติดกับศิลปินจากค่ายเพลงยักษ์แกรมมี่ เริ่มตั้งแต่ “นิโคล” จากนั้นก็หันมาปั้นพรีเซ็นเตอร์เอง อย่าง “โน้ต& ตูน” และ”ซาร่า” ก่อนจะกลับมาใช้แกรมมี่อีกครั้ง เพราะความฮอตของ ”ปาล์มมี่” ที่สะท้อนความเป็นอิสระ ตามคอนเซ็ปต์ Freedom ของวัน-ทู-คอล ทิ้งห่างประมาณ 3 ปี มาลงตัวที่ ”ลิเดีย” เปลี่ยนค่ายมาเป็นอาร์เอส ตามสถานการณ์ขาขึ้นที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับค่ายศิลปินจากแกรมมี่

“ลิเดีย” ศิลปินหน้าใหม่ อายุยังน้อย เพียง 19 ปี มีความสามารถทั้งร้องเพลง และเรียนเก่ง มีความมั่นใจ อิสระที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองเลือก” ชำนาญ เมธปรีชากุล รองกรรมการผู้อำนวยการ เอไอเอส บอกถึงสาเหตุการเลือกลิเดีย ซึ่งจะมีอายุสัญญา 1 ปี ค่ายอาร์เอสได้รายได้ส่วนหนึ่ง และศิลปินได้ส่วนหนึ่งในระดับเงิน 7 หลัก

”ฐิติพงศ์” บอกว่า การเลือกพรีเซ็นเตอร์เป็นผู้หญิง จะได้ฐานลูกค้าที่กว้างกว่าใช้พรีเซ็นเตอร์ผู้ชาย ซึ่งจะได้กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้หญิงส่วนใหญ่ เพราะผู้ชายด้วยกันจะเกิดความรู้สึกหมั่นไส้มากกว่าชื่นชม

เอไอเอสเชื่อว่า การมีพรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้ ภาพของวัน-ทู-คอล สดใหม่มากกว่าเดิม เพราะภาพของ อย่างนี้ ถึงจะ ”โทรไป ก็ยังไม่รับสาย” เพราะ ”ไม่ว่างจริง ๆ“ ก็คงไม่เป็นไร เพราะทั้งพรีเซ็นเตอร์ ค่ายเพลง และเอไอเอส ก็ Win Win Win ไปด้วยกันได้

Tip เลือกพรีเซ็นเตอร์

การ“พรีเซ็นเตอร์” มาช่วยสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง การมีโอกาสออกสื่อที่หลากหลาย และมีความถี่ สร้างความจดจำให้นึกถึงแบรนด์ โดยเฉลี่ยสัญญาจ้างอยู่ที่ 1 ปี เพราะศิลปินอาจมีภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไป โดยการคัดเลือกพรีเซ็นเตอร์ต้องให้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับสินค้าที่มีอยู่ เช่น วัน-ทู-คอล เน้นกลุ่มวัยรุ่น ที่รักอิสระ