ไท หรือ สิงห์ เป็นจิราธิวัฒน์รุ่น 3 ที่มีความโดดเด่นในเรื่องรูปร่างหน้าตา จากการเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมด้วยรูปสมบัติและทรัพย์ศฤงคาร ขณะที่ฝีไม้ลายมือได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าไม่ธรรมดา
ไท บอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจของเขา ทั้งในฐานะของบุตรชายคนที่ 2 ของสุทธิชาติและแมรี่แอนน์ รวมถึงในบทบาทของผู้จัดการฝ่ายการเงิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
หนุ่มลูกครึ่งผู้นี้ โบกมือลาเมืองไทยไปเรียนต่อยังต่างแดนตั้งแต่จบเกรด 8 ที่โรงเรียนร่วมฤดี โดยเริ่มเรียนต่อที่คอนเนคติกัต 1 ปี และต่อด้วยที่แมสซาชูเซตส์อีก 4 ปี คว้าปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์-บัญชี และวิชาโทด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์มรครองได้สำเร็จ เป็นโปรไฟล์หรูตามแบบฉบับของตระกูลนี้
“ตอนแรกจะเรียนด้านสถาปัตยกรรม แต่สุดท้ายมาลงตัวที่สาขานี้ เพราะสามารถประยุกต์ใช้งานได้กว้างกว่า”
หลังจบก็กลับมาเมืองไทยตามคำเรียกร้องของบุพการี เมื่ออายุประมาณ 22 ปี เริ่ม เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานที่แอคเซนเจอร์และหลักทรัพย์ ภัทร ก่อนเข้ามาช่วยงานในธุรกิจครอบครัว ซึ่งเขาบอกว่าประสบการณ์และความรู้ที่ได้มีประโยชน์ไม่น้อย แม้จะต้องเรียนรู้ภาษาไทยใหม่พอสมควร เนื่องจากความเคยชินกับการใช้ภาษาอังกฤษตั้งแต่เยาว์วัย
ทุกวันนี้ ไท จะรับผิดชอบดูแล Coporate Finance เจาะจงเป็นพิเศษกับโปรเจกต์ใหม่ๆ ทำตัวเลขเบื้องต้น ดูค่าใช้จ่าย รายได้ ความคุ้ม ทำ Property Fund นอกจากนี้ เขายังดูแลในส่วนของ IR หรือ Investor Relation โดยจัดตั้งระบบ ทำ News Letter รายงานความเคลื่อนไหว ทำ Presentation มี Company Visit คุยกับนักลงทุนต่างชาติที่เดินทางเข้ามา และเดินทาง Road Show 5-6 ครั้งต่อปี ไปยังฮ่องกง สิงคโปร์ ยุโรป และอเมริกา
แม้เขาเพิ่งจะเข้ามาร่วมงานกับเซ็นทรัลพัฒนาได้เพียงปีเศษ บทบาทของเขาดูแล้วเสมือนหนึ่งเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการของบริษัทฯ ติดต่อกับนักลงทุน เป็นด่านหน้าสร้างความประทับใจให้กับคู่ค้า
“ชอบสื่อสารและชอบที่จะรู้ฟีดแบคกับสิ่งที่เราสื่อสารออกไป ว่าเขาคิดอย่างไร ข้อดีข้อเสียเราเป็นอย่างไร อยากให้เราปรับปรุงตรงไหน และติดตามถึงผลความสำเร็จจากการเจรจานั้นๆ จากนั้นก็มาคุยกันในทีมว่าจะจัดการกันแบบไหนต่อไป”
ในฐานะทายาท เป็นความกดดันอันดับแรกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะต้องเผชิญ แต่ทว่าการทำงานในฐานะทายาทรุ่นที่ 3 เป็นที่จับตาของทั้งคนในและนอกตระกูลไม่น้อยว่าจะรุ่งหรือร่วง เป็นบทพิสูจน์ที่ยากขึ้นอีกขั้น
“ตามทั่วไปแล้วคนจะมองว่าถ้าเป็นรุ่นที่ 3 จะถูกสปอยด์ ใช้เงินเก่ง แล้วสุดท้ายธุรกิจจะล่มจม แต่รุ่น 3 ของเซ็นทรัล ได้เรียนรู้จากรุ่น 2 ตลอดเวลา รุ่นที่ 3 ต้นๆ ของเราทำงานมากัน 15 ปีแล้ว ช่วงอายุกว้างมาก เรามีการถ่ายโอนวิสัยทัศน์ ประสบการณ์ และความรู้ต่างๆ ที่จะช่วยให้การแข่งขันเพื่อขยายธุรกิจไทยให้เติบโตยิ่งขึ้นทั้งในเมืองไทยและระดับอินเตอร์ ในส่วนตัวผมเอง รุ่น 3 ที่อายุใกล้เคียงกันอย่างผม คุณชนะวัฒน์ คุณอิศเรศก็ต้องขยันมากขึ้น”
ด้านการใช้ชีวิต “คำพ่อสอน” มีอิทธิพลต่อเขาอย่างมาก ทำให้เขาเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย แม้จะมีเงินทองมากมาย แต่ดำรงชีวิตอยู่แบบไม่ฟุ้งเฟ้อ
“คุณพ่อสอนแบบพอเพียง นิสัยส่วนตัวของท่านจะเป็นคน Low Key ไม่ค่อยนิยมออกงานสังคม แต่ชอบทำบุญ สอนว่ามีเงินเท่าไหร่ ก็ต้องบริหารจัดการเอง ไม่เคยให้เงินเลยนะ น้อยมากเลย ต้องไปทำงานที่อื่นก่อนเก็บเงินเพราะที่อื่นเงินเยอะกว่า (หัวเราะ) ตอนเป็นเด็กคุณพ่อพาไปอังกฤษ ไม่ได้ไปเที่ยว แต่ไปเพื่อจะให้เราเรียนรู้การช่วยเหลือตัวเอง เขาจับเราทำอาหารเอง ทำอาหาร ล้างจานเอง ซักผ้า ทำบ้าน ล้างรถ ทำหมดเลย เขาจะให้ไปเรียนรู้ชีวิตแบบนี้ประมาณเดือนครึ่งต่อปี”
ขณะที่ ทศ จิราธิวัฒน์ เป็น Role Model ด้านการทำงานของเขา เขาบอกเพียงสั้นๆ ว่าชื่นชมทศ เพราะ “ความเก่ง ฉลาด และพูดตรง” ส่วนด้านการใช้ชีวิต แน่นอน สุทธิชาติและแมรี่แอนน์ ที่สอนให้รู้จักใช้ชีวิตพอประมาณ ทำกุศล ให้ทุนการศึกษาเด็ก
ด้านการพัฒนาศักยภาพ ไทเล่าถึงระบบบริหารจัดการของตระกูล ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากว่า ได้ปรับตัวตามยุคสมัยจากเดิมเน้นให้ลูกหลานเรียนรู้เฉพาะภาษาอังกฤษ แต่ปัจจุบันเริ่มให้ติดอาวุธทางภาษาเพิ่มเติมขึ้นโดยเฉพาะภาษาจีน ที่จ้างครูมาสอนที่ออฟฟิศของ CPN สัปดาห์ละ 2 ครั้ง หลังเวลาเลิกงาน เพื่อรองรับการเปิดตลาดที่เมืองจีน
“คนพันกว่าล้านคนพูดภาษาจีน ถ้าเราพูดภาษาเดียวกันกับพวกเขาเราก็ได้เปรียบ”
ทุกวันนี้ไฟในการทำงานของเขาลุกโชติช่วงอยู่เสมอ นอกจากงานประจำที่ CPN แล้ว ช่วงเสาร์อาทิตย์เขายังทุ่มให้กับโปรเจกต์ใหม่ที่ทำให้กับ CRC อีกด้วย และเขายังมีแผนทำกิจการของตัวเองที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกงสีบริษัท ด้วยการลงทุนร่วมกับชาติ จิราธิวัตน์ พี่ชาย และแคทเทอลีน น้องสาว เปิดร้านอาหาร ซึ่งเป็นความชอบของเขา โดยเป็นแบรนด์ที่ติดอันดับ Top 10 ของ New York Times ที่ชั้น 6 เซ็นทรัล เวิลด์ มีกำหนดเปิดบริการมีนาคม ปีนี้
“เป็นการเรียนรู้การเป็นเจ้าของกิจการในระยะสั้น เพราะได้รู้ระบบบริษัททั้งหมดเลยว่าทำอะไรบ้าง ต้องดูแลเองตั้งแต่ Operation พนักงาน กฎหมาย ถ้าทำบริษัททั่วๆ ไปกว่าจะรู้หมดทุกอย่างแบบนี้ก็ต้องเป็นระดับ Executive แล้ว…เหมือนเราเปิดโรงเรียนเพื่อเรียนรู้เอง และเป็นโรงเรียนที่แพงด้วย ซ้ำยังโดดไม่ได้เลย (หัวเราะ)”
ไท ใช้ช่วงวันล่างไปกับการเล่นกีฬา ยกเวท ตีเทนนิส เตะฟุตบอล และเล่นกอล์ฟ โดยเฉพาะกอล์ฟเล่นตามคุณพ่อ เขาเป็นนักกีฬาหัดวงสวิงตั้งแต่อายุ 12 ชอบกอล์ฟมากถึงขั้นสะสมลูกกอล์ฟที่ระลึกจากสนามต่างๆ ไว้กว่า 200 ลูก ส่วนใหญ่จะเป็น Limited Edition
นอกเหนือจากการเป็น Sport Man แล้ว เขายังรักการเดินทางท่องเที่ยวอีกด้วย
“เดินทางเพื่อ Relax และ Leisure ชอบไปญี่ปุ่น จีน ชอบดูวัด ดูวัฒนธรรมของเขา” และช่วงนี้
ขณะที่ไลฟ์สไตล์ของเขายังเทให้กับดนตรีไม่น้อย
“ชอบดนตรีทุกแนว เพลงไทยก็ฟังเหมือนกัน แต่ไม่ชอบแนว Country ตอนอยู่ไฮสคูล เข้าวัดทุกวัน ร้องบทสวด ร้องเพลงในโบสถ์ เล่นเปียโน”
ทุกวันนี้เขาจะแยกออกมาอยู่คอนโดมิเนียมกลางเมืองหลังโรงแรมบันยันทรี เพียงคนเดียว ตามประสาหนุ่มโสดเป็นชีวิตที่เขาคุ้นเคยนับตั้งแต่เมื่อครั้งโลดแล่นศึกษาในต่างแดน
Profile
Name ไท จิราธิวัฒน์
Education ปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์และการบัญชี จาก Claremont McKenna College และ Harvard Summer School
Career Highlights
2548-ปัจจุบัน Financial Manager บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
2548-2545 Investment Banking (Associate) บริษัท หลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน)
2548-2546 Information Technology & Management Consulting
บริษัท แอคเซนเจอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
Family บิดา มารดา สุทธิชาติ-แมรี่แอนน์ จิราธิวัฒน์ พี่ชาย-ชาติ น้องสาว-แคทเทอลีน และจีนี่
