นับจากการสะบั้นสัมพันธ์ที่ยาวนานกว่า 12 ปี กับ UBC เมื่อ 31 ตุลาคม ปีที่ผ่านมา MTV ก็ได้ยาสมานแผลอย่างทันท่วงที เมื่อได้เปิดบ้านใหม่กับ Smile TV แม้จะปกปิดแผลใจด้วยการให้เหตุผลสั้นๆ กับสื่อมวลชนว่า “หมดสัญญา” แต่แล้วความอัดอั้นตันใจ ความเจ็บช้ำที่ต้องระเห็จออกจาก UBC ท่ามกลางกระแสข่าวลือด้านลบ ทำให้ อิทธิวัฒน์ เพียรเลิศ ผู้กุมบังเหียนบริษัท Media Communication Network (ผู้ถือหุ้นใหญ่ใน MTV Thailand) ออกมาเปิดอกถึงมรสุมลูกล่าสุดแบบหมดเปลือก
ในฐานะของ Global Brand การโดนผลักไล่ไสส่งเช่นนี้ ย่อมส่งผลต่อภาพลักษณ์โดยตรง
โดยต้นตอของปัญหา ผู้ที่ถูกพาดพิงคือผู้บริหารฝ่ายรายการของ UBC ที่เขาหลีกเลี่ยงจะเอ่ยชื่อ “จะไม่มีการฟ้องร้องเพราะเราไม่ได้มีปัญหากับองค์กร แต่มีปัญหากับคนเพียงคนเดียวที่ใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเองตามอำเภอใจและทำให้คนอื่นเดือดร้อน เขาเสนอกฎ 3 ข้อที่ไม่อาจจำยอมได้ คือ
1.True ขอเข้าถือหุ้นใน MTV Thailand ด้วย
2.UBC ยืนยันจะจ่ายค่าผลิตรายการในอัตราเดิม แม้ต้นทุนสูงขึ้น
3.UBC ขอให้ MTV Thailand ยกเลิกการดูแลรับผิดชอบช่องรายการเด็ก Nickelodeon กับ MTV Asia เพื่อที่จะนำเข้ามาดูแลเอง”
หลังวิกฤต MTV Thailand ได้พลิกเป็นโอกาส ด้วยช่องทางที่กว้างขึ้น คือ ผ่านเคเบิลทีวี เพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่ระดับแมส กลยุทธ์ที่จะนำมาใช้ ก็คือ การออกโรดโชว์ จัดกิจกรรมในต่างจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าของเคเบิลทีวีอยู่แล้ว
“เราต้องโฟกัสทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่เฉพาะในกรุงเทพฯ เหมือนเคย จะใช้ Below the line เป็นหลัก เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าเคเบิลทีวี 2 ล้านครัวเรือน”
พร้อมประกาศเดินหน้าเต็มสูบเพิ่มรายการใหม่ ไม่ง้อ UBC อีกต่อไป จาก 8 รายการเป็น 14 รายการ ทั้งนี้จากการเพิ่มช่อง Nickelodeon จะทำให้ MTV Thailand มีสัดส่วนรายได้เป็นจากช่อง MTV 80% VH1 15% และ Nickelodeon 5%
ในส่วนของช่อง MTV เอง กำลังขับเคลื่อนไปสู่การเปลี่ยนสัดส่วนเนื้อหารายการระหว่างดนตรีและไลฟ์ เป็น 50 : 50 เพื่อเนื้อหาที่หลากหลาย ขณะที่แนวทางการทำตลาดจะมุ่งเน้นหาสปอนเซอร์เป็น Consumer Product มากขึ้น โดยอยู่ระหว่างเจรจากับเครือสหพัฒนพิบูล เพื่อเจาะกลุ่มต่างจังหวัด โดยจะมีโฆษณาเหมือนฟรีทีวีเลยทีเดียว
งานเปิดบ้านใหม่ของ MTV ที่จัดขึ้น ณ สยามพารากอน เมื่อปลายปีที่ผ่านมา คลาคล่ำไปด้วยแขกเหรื่อ คนในวงการบันเทิงมากมาย ตลอดจนพันธมิตรเคเบิลทีวีท้องถิ่น นับเป็นเครื่องยืนยันที่ดีว่า MTV มีความแข็งแกร่งของแบรนด์เพียงใด