ตลาดคนดูหนังไม่โต เน้นโชว์นวัตกรรม

“ธุรกิจโรงภาพยนตร์” ที่มีเม็ดเงินราว 5 พันล้านบาทของตลาดรวมต่อปี ตัวเลขขยายตัวราว 10เปอร์เซ็นต์ หวั่นสถานการณ์การเมืองทำตลาดไม่โต รูปแบบของโรงหนังต้องเน้น Innovation ทั้งเก่าและใหม่ให้ทันสมัย สวยงามตลอดเวลา

“วิชา พูลวรลักษณ์ ซีอีโอใหญ่ของค่าย ให้ภาพรวมที่ค่ายเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดมากสุดถึง 75 เปอร์เซ็นต์” ฟันธงอุตสาหกรรมโรงหนังปีนี้ว่าเติบโตเพียง 6-7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมปีละ 10 เปอร์เซ็นต์ วิชาบอกว่าหากให้คะแนนภาพรวมก็แค่ระดับ B เท่านั้น

“ปี 2549 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงหนักในรอบ 11 ปี มีวิกฤตเศรษฐกิจ การเมือง ราคาน้ำมันสูง ดอกเบี้ยต่ำ ขณะที่หน้าหนัง (ภาพยนตร์ทำรายได้) ไม่แข็งแรง เพราะมีหนังไม่กี่เรื่องที่ทำรายได้เกิน 100 ล้านบาท” วิชาอธิบาย

สำหรับปี 2550 เขาประเมินว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจทั่วไปไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมากนัก ขณะที่ราคาน้ำมันน่าจะมีเสถียรภาพ ดอกเบี้ยขาลง ส่วนการเมืองคาดว่าจะมีนิ่งระดับหนึ่ง และปลายปีอาจมีการเลือกตั้งใหม่

ปีกุน-ลุ้น “ภาคต่อ” ทำเงิน

สำหรับธุรกิจโรงภาพยนตร์ เขากลับมองต่างออกไป มองว่าปี 2550 จะดีกว่าปี 2549 มาก เพราะมีหนังฟอร์มใหญ่ทำเงินทั้งไทยและเทศกำหนดออกฉายหลายเรื่องตลอดทั้งปี ที่เด่นๆ อาทิ ภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์ นเรศวร มีกำหนดฉาย 2 ภาค ต้นปีและปลายปี ส่วนฮอลลีวู้ด มีภาพยนตร์ชื่อดัง “ภาคต่อ” หลายเรื่องที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในภาคแรกมาแล้ว อาทิ Harry Potter, Spider Man, Pirate of the Caribbean

“ปีนี้โดยรวมหน้าหนังค่อนข้างดี มีภาพยนตร์หลายเรื่องที่การันตีความสำเร็จมาจากภาคต่อมาแล้วทั้งสิ้น”

ขณะที่แนวโน้มการดูหนังของคนไทย เขาประเมินว่า ปริมาณคนดูน่าจะเพิ่มขึ้นกว่าเดิม แต่หากเกิดสิ่งที่ปรากฏการณ์ทางการเมืองจะมีผลกระทบต่อคนดูอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการประท้วงการเมืองแบบที่มีคนเมืองร่วมจำนวนมาก เช่น ชุมนุมประท้วงหน้าสยามพารากอนเมื่อกลางปีทีผ่านมา เพราะทำให้คนไม่กล้าออกนอกบ้าน เพื่อมาเดินเที่ยว ช้อปปิ้ง หรือดูหนัง

“เห็นได้ชัดช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีการประท้วงยอดคนดูลดลงอย่างเห็นได้ชัดกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ เพราะ เวลาเกิดวิกฤตการเมือง กำหนดฉายหนังก็เปลี่ยน ไม่ออกฉายช่วงนั้น มันเหมือนโดน 2 เด้งเลย ทั้งเจ้าของหนัง คนดู ก็หลบไปเอาหนังเข้าฉาย และไม่ออกจากบ้านมาดูหนังที่โรงภาพยนตร์”

สถานการณ์แบบนี้ เขายอมรับว่า แก้ไขยาก ต้องปล่อยให้ผ่านไป หรือทำใจเตรียมพร้อม เพราะได้เรียนรู้เตรียมความพร้อมกับการเผชิญวิกฤตการณ์ก่อนหน้านั้น อาทิ โรคซาร์ส

ใหม่ๆ ทันสมัยโดนใจ

สำหรับมืออาชีพ ผู้คร่ำหวอดธุรกิจโรงภาพยนตร์มานานนับสิบปี การแปรวิกฤตให้เป็นโอกาสจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการรับมือ วิชาบอกว่าในปีนี้เมเจอร์ยังเน้นโฟกัส “ธุรกิจโรงภาพยนตร์” (เมเจอร์ลงทุนธุรกิจใหม่ๆที่ไม่ใช่โรงหนังต่อเนื่อง อาทิ ฟิตเนส-แคลิฟฟอร์เนียร์ ล่าสุดฟาสฟู้ดส์แมคโดนัลด์) ด้วยการเพิ่ม Innovative โรงภาพยนตร์ทั้งเก่าและใหม่ให้ทันสมัย สวยงามตลอดเวลา และเน้นสร้างประสบการณ์ใหม่ให้คนดู (Experience)

“ธุรกิจผมหยุดนิ่งไม่ได้ เพราะถ้าหยุดแสดงว่า หลุดเทรนด์ทันที ธุรกิจนี้ไม่ทำง่ายๆ เลย” วิชาย้ำและขยายความอีกว่า
สำหรับโมเดลธุรกิจ เมเจอร์ยังคงคอนเซ็ปต์ธุรกิจ Entertainment Lifestyle แต่เนื้อในแตกต่างกัน เหตุผลที่เลือกทำแนวคิดนี้ วิชาตอบว่า เขาไม่ต้องการทำโรงหนังที่มีรูปแบบให้คนเดาได้ออกว่าจะเป็นอะไร

“กรณี Esplanade หลายคนสงสัยทำอะไรอีกแล้ว เพราะผมคิดว่าเรื่อง Innovation สิ่งใหม่ๆ ที่แตกต่างจากเดิม) เป็นหัวใจธุรกิจ ที่จะทำให้คนออกมานอกบ้านเพื่อดูหนังได้

โรงหนังต้องมีมากกว่า ช่องขายตั๋ว เก้าอี้ดูหนัง แต่ต้องมีโบว์ลิ่ง ร้องเพลงคาราโอเกะ โรงหนังสามมิติไอเม็กซ์ ฟิตเนส ออกกำลังกาย เราพยายามทำให้คนมาสัมผัสกับไลฟ์สไตล์แบบนี้ เพราะมันเป็น Lifestyle ของคนทุกวันนี้ เพราะถ้าโรงภาพยนตร์เรียบๆ มีช่องขายตั๋ว ล็อบบี้เล็กๆ เดินเข้ามาผ่านช่องขายตั๋วแล้วเข้าถึงโรงฉายเลยคงไม่น่าดึงดูด เพราะฉะนั้นโรงหนังจึงต้อง Lifestyle และทันสมัยขึ้น”
สำหรับโรงภาพยนตร์สาขาเดิม เมเจอร์เน้นการรีโนเวตหรือปรับปรุงสาขาใหม่ กำหนดทยอยตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยเฉพาะสาขารัชโยธิน มีแผนปรับปรุงสาขา โปรเจกต์นี้วิชาบอกว่า เน้นทำให้สมบูรณ์แบบ เพื่อให้ได้ลูกค้าได้มากขึ้น ไม่เน้นเพิ่มจำนวนโรง แต่เน้นส่วนอื่นๆ เช่น ที่จอดรถมีการเพิ่มที่จอดรถอีก 800 คัน

นอกจากนี้ เมเจอร์ยังได้เตรียมระดมทุน สำหรับการขยาย “ธุรกิจใหม่” อีกครั้งด้วยการออก “ Property Fund” เป็นการเอาสินทรัพย์ที่มีอยู่ไปแปลงเป็นทุน โดยการขายให้กับกองทุน เพื่อเอาเงินมาลงทุนขยายธุรกิจ โดยกองทุนจะเป็นเจ้าของ Asset

“วิธีนี้ ธุรกิจโรงหนังในต่างประเทศนิยมทำกันมาก เพราะช่วยให้ขยายจำนวนโรงภาพยนตร์ได้มาก จากสิบเป็นร้อย และจากร้อยเป็นพันได้ไม่ยาก”

ภารกิจนี้ จะบรรลุผลหรือไม่…ส่งแรงเชียร์ กันหน่อย !!!!