เธอคนนี้…เคยทำสถิติเป็นผู้หญิงอายุน้อยที่สุด (25ปี) ที่บริษัทบริการขนส่งอเมริกัน UPS โปรโมตเป็น MD หญิงคนแรก เมื่อหลายปีก่อน…วันนี้ เธอคนเดิม “อังสนา สุนทเรกานนท์”ได้รับการยอมรับจากสายการบินอินเดีย Jet Airways ให้มานั่งบริหารและบุกเบิกธุรกิจแอร์ไลน์ในเมืองไทย ในฐานะ Country Manager ประจำประเทศไทย ท่ามกลางธุรกิจแอร์ไลน์ข้ามชาติที่แข่งขันกันดุเดือด
“สายการบิน เป็นธุรกิจที่วิ่งตลอด ต้องตามให้ทัน และมีรายละเอียดมาก แต่ละส่วนมีผลต่อกันและกัน เพราะเครื่องบินแต่ละลำกว่าจะบินได้ ต้องมีกระบวนการทำงาน ดีลงานจำนวนมาก มันเป็นงานที่พรีเม็ตชัวร์ และท้าทายมาก สำหรับสายการบินที่มีสถิติ 44 Destination 320 ไฟล์ต่อวัน” อังสนาบอกกับ POSITIONING
วันที่เธอพบกับทีมงาน POSITIONING เพื่อสัมภาษณ์นั้น เป็นช่วงเวลาเย็นๆ ประมาณ 6โมง ที่ออฟฟิศชั้น 4 ตึกคาเธ่ย์เฮ้าส์ ย่านสาทร เธอสวมสูทกางเกงสีเข้ม เมกอัพอ่อนๆ ใบหน้ายิ้มแย้ม ท่วงท่ากระตือรือร้น แม้ต้องเร่งทำงานมาตลอดทั้งสัปดาห์ เพื่อเปิดไฟล์แรกของสายการบิน Jet Airways เมื่ออังคารที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา
“เริ่มไฟล์แรกไม่มีปัญหาเลย เพราะเราล็อกปัญหาแต่ละจุด ปกติการเปิดสายการบินใหม่มักขลุกขลักมาก กว่าจะได้เปิด แต่เครื่องบินก็มาก่อนกำหนดราว 30 นาที ถือว่าเร็วมาก เพราะ Jet Airways เป็นสายการบินที่ On Time มาก” เธอเล่าพร้อมรอยยิ้มปลาบปลื้ม
ความสำเร็จครั้งนี้ สำหรับเธอถือเป็น “สัญญาณที่ดี” กับ การเริ่มต้นงานในธุรกิจสายการบิน ที่ขึ้นชื่อว่าทั้งแข่งขันสูง เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ที่สำคัญธุรกิจนี้ “ผู้ชาย”กุมบังเหียนผู้บริหารระดับบิ๊กๆ ดังนั้น เธอเรียนรู้ และสามารถปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติธุรกิจ ซึ่งโชคดีเธอมีคุณสมบัติที่กลมกลืน สอดคล้องไปกับงานได้เป็นอย่างดี
“ พี่เป็นคนไม่จุกจิก ตรงไปตรงมา คุยกันจบก็คือจบ ทำงานกับผู้ชายมากเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ มีเพื่อนร่วมงานเป็นผู้ชาย ทำให้ไม่ค่อยแตกต่างมากนัก ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย คำตอบอยู่ที่ความสามารถ”
นอกจากเป็นเวิร์คกิ้งวูแมน ที่มีบุคลิกแบบนักบริหารมืออาชีพแล้ว อังสนาคร่ำหวอดอยู่ในวงการลอจิสติกส์มากว่า 20 ปี มีดีกรีความรู้ปริญญาโทจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุบันนอกจากจะเป็น “นักบริหารธุรกิจ” เธอยังเป็นที่ปรึกษาด้านลอจิสติกส์นานาชาติให้กับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นวิทยากรกิตติมศักดิ์นักศึกษาหลักสูตรปริญญาตามมหาวิทยาลัยชั้นนำอีกด้วย
แม้มีแบ็กอัพการศึกษาที่ดี แต่กว่าที่เธอจะก้าวขึ้นมาเป็น “ผู้บริหาระดับสูง” ในองค์กรข้ามชาติ
สำหรับเธอ ต้องฟันฝ่าและพิสูจน์ความสามารถไม่น้อย กว่ามาเป็น Managing Director หญิงคนแรกของ UPS ประเทศไทย
“ตอนทำงานที่ยูพีเอส เป็นช่วงที่บริษัทเพิ่งตั้งใหม่ๆ ถูกจับย้ายไปทำงานทุกอย่าง ตั้งแต่งานด้าน Sales, Customer Affairs, Telemarketing, Industrial Engineering, Finance, Ground and Air Operation ทำได้สักพักถูกย้ายไปประจำที่สิงคโปร์ ไปดูแลงานด้าน Operation และ Engineer วางแผนโครงสร้าง ต้นทุน และคุณภาพ เพื่อให้เกิดผลคุ้มค่ากับธุรกิจ”
ในฐานะเอ็มดีสาว เธอยังได้สร้างชื่อกับผลงานชิ้นโบแดง คือ รางวัลระดับ Worldwide ที่เรียกว่า Gold Eagle Worldwide Reconigtion Award ในฐานะผู้ดูแลการตลาดและพัฒนาธุรกิจที่สร้างอัตราเติบโตองค์กรสูงถึง 300 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่เป็นช่วงวิกฤตปี 2540 แต่เธอก็พิสูจน์ตัวเอง แปลงวิกฤตให้เป็นโอกาสได้สำเร็จ
แต่ความสำเร็จครั้งนั้น กลับเป็นเหรียญสองด้าน เพราะเธอรู้สึกว่าการทำงานที่ UPS กลับไม่ท้าทายอีกต่อไป เนื่องจากงานบริหารยิ่งสูง ก็ยิ่งนิ่ง จึงลาออกและหันมาทำงานใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิม ในฐานะCountry Manager—ประจำประเทศไทยที่มีภารกิจหลัก คือ สร้างตลาดและแบรนด์ Jet Airwaysให้เป็นที่รู้จักกับลูกค้าคนไทย และต่างชาติให้มากที่สุด ซึ่งเธอยอมรับว่า “เป็นงานที่ท้าทายมาก แต่ก็สนุก เพราะต้องเรียนรู้ และปรับตัวให้ทันกับธรรมชาติธุรกิจสายการบินที่ไม่หยุดนิ่ง เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
สำหรับงานผู้จัดการสายการบินฯ อังสนาบอกว่า เป็นงานที่มีรายละเอียดมาก ในการทำงานแต่ละวันเธอมักเคลียร์งานให้จบแบบวันต่อวัน เคล็ดลับกันลืมสำหรับเธอ ใช้วิธีจัดตารางประจำสัปดาห์ ประจำวัน ต้องอะไรบ้าง อะไรที่ยังไม่ได้ทำ และยังคั่งค้างอยู่
หากงานมีรายละเอียดมาก เธอมักจดใส่สมุดโน้ตที่พกติดตัว และมีผู้ช่วยสำคัญ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ Sony C990i โน้ตบุ๊กขนาดเล็กสะพายบ่า ที่สามารถติดต่องานทั้งส่งอีเมลและแฟกซ์ได้ตลอดเวลา
“งานแต่ละวันจะเคลียร์ให้จบ เพื่อมีเวลาสำหรับงานวางแผน ที่สำคัญ หากมีผู้ช่วยทำงานเก่ง จะช่วยได้มากทีเดียว ทำให้งานเสร็จเร็วและเป็นไปตามเป้าหมายอีกด้วย”
สำหรับเทคนิคบริหารงาน เธอก็มีกลเม็ดหลักสั้นๆ “Right Man, Right Job” แต่ต้อง Right Time ด้วย กล่าวคือ เลือกใช้คนให้ถูกกับงาน และถูกจังหวะด้วย ที่สำคัญต้องดู Scope งานว่าอยู่ตรงไหน สรรหาคนที่มีประสบการณ์ใกล้เคียงกับงานเลือกเอามาก่อน และดูว่าคนนั้นสามารถปรับเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรและงานได้หรือไม่
“มองเป้าหมายเป็นหลัก หากข้างหน้ามี 10 ต้องเดินไปให้ถึง วิธีการจะเดินอย่างไร ไม่สนใจ หากเป็นไปตามเป้าหมาย ในเวลากำหนด ถือว่าโอเค ขณะเดียวกัน ต้องให้เกียรติคนที่ทำงานให้เรา ปล่อยให้เค้ารู้จักคิด กล้าคิด เป็นสิ่งสำคัญ และเป็นคนที่ชอบมีลูกน้องเก่งๆ ยิ่งเก่งมากยิ่งดี หรือลูกน้องที่เก่งกว่า ช่วยทำให้ประสบความสำเร็จเร็วขึ้น อีกทั้งยังถือว่าโชคดีที่สุดอีกด้วย
สำหรับนักบริหารมืออาชีพ เธอให้ทัศนะว่า ต้องสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ และต้องปรับตัวเข้าให้ได้ “สไตล์” เป็นเรื่องที่ปรับได้ แต่วิธีคิดเป็นเรื่อง Subconscious สุดท้าย ถ้าหากไปถึงเป้าหมาย วิธีการใดๆ ก็ได้ “ผู้หญิงเป็นเพศอ่อนนอกแต่แข็งใน และมีความยืดหยุ่นสูง มองความผิดเป็นเรื่องบทเรียน ที่สามารถแก้ไข ปรับปรุงให้ดี ไม่รู้สึกว่าเสียหน้า แต่เป็นโอกาสได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ เป็นจุดได้เปรียบของผู้หญิง รวมถึงการเข้าหาผู้ใหญ่ ผู้หญิงได้รับการเอ็นดูช่วยเหลือ หลายครั้งเวลามีโอกาสเข้าไปคุยผู้ใหญ่ รู้สึกว่าเค้าอยากแนะนำ ช่วยเหลือเรา และยิ่งเราเป็นผู้หญิงที่ไม่จู้จี้จุกจิก ทำให้ทำงานเร็วขึ้น”
ขณะเดียวกัน ยังต้องรู้จัก “บริหารจิตใจ” ให้เกิดประสิทธิผลอีกด้วย สำหรับสาวแกร่งผู้รักการเล่นเทนนิส และว่ายน้ำ บอกว่า “การนั่งสมาธิ” ช่วยให้ตั้งสติ นิ่งและหาทางออกได้เร็ว เวลาที่เกิดปัญหาอุปสรรคต่างๆ “พยายามตั้งสติให้มีสมาธิ นิ่งก็เห็นทางออกและจุดแก้ไขปัญหา ช่วงออกพรรษาชอบไปนั่งสมาธิ อ่านหนังสือธรรมะ ประวัติหลวงพ่อ เพราะเป็นหนังสือมีคำสอน และแทรกเรื่องราวทำอย่างไรให้ชีวิตมีความสุข อย่างน้อยเป็นการชำระล้างจิตใจใน 1 ปี เป็นกิจกรรมทำทุกปี มันจะดีมากๆ ได้ผ่อนคลายจิตใจ”
สำหรับภารกิจงาน Working Women ที่ต้องก้าวให้ทันโลก ทำให้เธอต้องคอยอัพเดตข้อมูล ข่าวธุรกิจและการค้า ด้วยการดูข่าวช่อง CNN CNBC และ BBC รวมไปถึงช่องรายการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ทำให้เธอได้ไอเดียและวิธีการต่างๆ อีกด้วย
สำหรับครอบครัว เธอยังแบ่งเวลาให้คุณแม่เช่นกัน ด้วยการนั่งดูละครทีวีน้ำเน่า เพราะถือว่าเป็นการสร้างบาลานซ์ชีวิตอีกวิธีหนึ่ง ทั้งยังเป็นการให้เวลากับครอบครัวทางอ้อม ด้วยการพูดคุยกันวันละครึ่งชั่วโมง
อีกกิจกรรมโปรด หากมีเวลามาก เธอชอบ “อ่านหนังสือ” แนวหนังสือที่สนใจ มักหลากหลายแนว ทั้งวรรณกรรมเด็ก อาทิ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ความสุขของกระทิ ไปจนถึง หนังสือบริหารจัดการ
หนังสือเล่มโปรดปรานที่สุด คือ แนวบริหารของอดีตผู้นำอเมริกา “อับบราฮัม ลินคอนน์” ซึ่งเป็น Role Model ที่เธอศรัทธามากที่สุดคนหนึ่ง เพราะเขาเป็นนักบริหารที่ดีที่สุดในโลก เป็นคนเก่ง กล้าคิด กล้าตัดสินใจ เป็นนักพูดที่มีศาสตร์และศิลป์ในตัวเอง
ทั้งหมดนี้ จึงเป็นคำตอบว่า ทำไมผู้หญิงคนนี้จึงกลายมาเป็น “ผู้หญิงคนแรก” บริษัทข้ามชาติทั้งในธุรกิจบริการขนส่งและสายการบิน ที่ผู้บริหารระดับบิ๊กๆ มักเป็น “ผู้ชาย” เกือบทั้งหมด
Profile:
ชื่อ:นามสกุล อังสนา สุนทเรกานนท์
อายุ: 43 ปี
การศึกษา: ปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
การทำงาน:
2549-ปัจจุบัน Country manager, Jet Airway
ผู้จัดการอาวุโสประจำประเทศไทยและภาคพื้นอินโดจีน บริษัท ยูไนเต็ด พาร์เซล เซอร์วิส จำกัด ( UPS )
