จะคับ เอ บี ซี หรือคับไหนๆ ก็ตาม ดูเหมือนว่าสินค้าชุดชั้นใน จะเป็นสินค้าเฉพาะผู้หญิงที่มีแรงเหวี่ยงทางธุรกิจพุ่งสูง ไม่เคยตก ยิ่งตอนนี้ทั้งแบรนด์ไทย แบรนด์นอก ไม่ได้สู้กัน ด้วยเรื่องฟังก์ชัน แต่หันมาห้ำหั่นกันด้วยดีไซน์และสีสัน ทำให้ตลาดแฟชั่นชุดชั้นในเปิดศึกกันอย่างดุเดือด
“รสนิยมของผู้หญิงไม่เคยหยุดนิ่ง” คำกล่าวนี้ ดูจะเป็นความร้อนแรงของตลาดชุดชั้นในไทย ทั้งแบรนด์ไทย แบรนด์นอก นับร้อยแบรนด์ พยายามเปิดศึก สร้างแฟชั่นใหม่ๆ เข้ามาโดนใจกลุ่มสาวๆ
ไม่ว่าจะเป็นเบอร์หนึ่งอย่างวาโก้ ขยับเขยื้อนมาสองสามปี เปิดตลาดแฟชั่นชุดชั้นในอย่างเต็มตัว ใส่ดีไซน์สุดๆ มีคอลเลกชั่นใหม่ออกมาทุกๆ 3 เดือน อย่างเช่น “Wacoal Nude” ชุดชั้นในคอลเลกชั่นที่มีนวัตกรรมการดีไซน์ให้สามารถใส่โชว์พร้อมกับแฟชั่นเสื้อตัวนอกได้อย่างลงตัว ชุดชั้นในประดับคริสตัลจากสวารอฟสกี้ และ “วาโก้ Sexy 3D” เอาใจสาวไทยด้วยนวัตกรรม 3D Cutting ช่วยลดข้อด้อยของเนินอก เป็นต้น
หรือไม่เว้นแต่แบรนด์เก่าแก่อย่างจินตนา ก็ดึงเอาตัวลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม มาร่วมทุน ใช้ชื่อแบรนด์ “Metinee” เสนอความเป็นแฟชั่นแบบสุดตัว ขายกลุ่มลูกค้าระดับบี หวังโกยตลาดนี้กันสุดฤทธิ์
ไม่ใช่แค่แบรนด์ไทย เทรนด์ชุดชั้นในแบรนด์นอกที่หลั่งไหลเข้ามาเขย่าตลาดเพิ่มขึ้นทุกๆปี เช่น มอร์แกน, เพลย์บอย, Trance, ไคร่า ฯลฯ ต่างก็ออกคอลเลกชั่นใหม่ๆ ที่ใช้ทั้งโทรสี ลวดลายดีไซน์ครึ่งเต้า เต็มเต้า ยั่วน้ำลายสาวๆ กันเป็นว่าเล่น
ดูเหมือนว่าทุกแบรนด์ ทุกค่ายสินค้า จะค้นพบว่าพฤติกรรมของผู้หญิงทุกวันนี้ ชุดชั้นในไม่ใช่ของเร้นลับ ชั้นในที่หลบอยู่ภายใน แต่เป็นแฟชั่นที่สามารถสร้างความมั่นใจในการสวมใส่ ทั้งสามารถโชว์และเสริมทรวดทรวงให้สวยงามได้
ตลาดแฟชั่นชุดชั้นใน จึงเป็นตลาดใหญ่ที่น่าจับตามองที่สุดในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ตลาดกลุ่มนี้การตัดสินใจซื้อชุดชั้นในขึ้นอยู่กับดีไซน์ใหม่ๆ เป็นหลัก ลูกค้ากลุ่มแฟชั่น จะมีความถี่ซื้อกันมากถึงประมาณ 2 – 3 ครั้งต่อ 1 เดือน หลายแบรนด์จึงพยายามสู้รบกันด้วยดีไซน์และคอลเลกชั่นใหม่ออกมาเป็นระยะๆ
ชุดชั้นในจึงเป็นสินค้าเฉพาะผู้หญิง ที่ร้อนแรงที่สุดสินค้าหนึ่ง และตอบสนองผู้หญิงยุคใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
Did you know?
ข้อมูลบริษัท จินตนา อินเตอร์เทรด จำกัด ระบุว่า ตลาดชุดชั้นในแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ตั้งแต่กลุ่ม A ชุดชั้นในระดับพรีเมียม ราคาตั้งแต่ 700-1,000 บาทขึ้นไป มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 40% กลุ่ม B ที่เน้นแฟชั่น ราคา 400 -700 บาท ประมาณ 30% และกลุ่ม C ราคาไม่เกิน 300 บาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้คำนึงถึงอะไร แต่ชอบซื้อชุดชั้นในแบบยกโหล 30% จากมูลค่าตลาดรวมทั้งหมดถึง 20,000-30,000 ล้านบาท