น่าสนใจไม่น้อย เมื่อเห็นวิธีการทำการตลาดขายเครื่องปรับอากาศของบริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยดึงนักวิศวกรรมมาเป็นนักขายแอร์ ต้องยอมรับว่ามีนัยสำคัญยิ่งในการทำตลาด
วิศวกรรมที่พูดถึงนี้ เป็นทีมขายใหม่ โดยแอลจี ได้ดึง ชาติชาย พิสุทธิบริบูรณ์ นักวิศวกรรมที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมด้านเครื่องปรับอากาศมานานเกือบ 30 ปี มานั่งเป็นผู้อำนวยฝ่ายขายเครื่องปรับอากาศ
“ผมเข้ามาประมาณ 6 เดือน มีเพื่อนๆ วิศวกรในแอลจีแนะนำเข้ามา ตอนนี้ฝ่ายขายมีทีมวิศวกรประมาณ 5 คน ดูแลงานขาย และทีมขายทั้งหมด 30 คน ซึ่งแอลจีได้แยกทีมขายทีมนี้ออกมาโดยเฉพาะ” ชาติชายเล่าถึงทีมขาย
การตลาดแบบทีมวิศวกร เป็นวิธีการขยายตลาดที่แอลจีเห็นแสงสว่างไปสู่เป้าหมายว่า การใช้นักวิศวกร เชื่อมต่อไปยังตลาดโครงการก่อสร้าง โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งช่วงนี้ขยายโครงการขึ้นเป็นดอกเห็ด เป็นวิธีหนึ่งที่สามารถทำให้เกิดช่องทางขยายยอดขายได้เป็นอย่างดี
ใช่แล้ว, วิศวกรรมเหล่านี้ ล้วนมีสายสัมพันธ์กับโครงการก่อสร้างหลายๆ แห่งเป็นอย่างดี เพราะหลายโครงการมีนักวิศวกรรมที่เป็นเพื่อนๆ กันในวงการ ทำให้การบุกตลาดเพื่อสร้างยอดขายในโครงการบ้าน เป็นจุดขยายที่เติบโตขึ้นอีกมาก เพราะโครงการแต่ละแห่งใช้เครื่องปรับอากาศนับร้อย นับพันยูนิต บางโครงการถึงหมื่นยูนิต
นอกจากนี้ ประสบการณ์ของทีมวิศวกรยังสามารถเข้าใจระบบเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ถือเป็นนโยบายของแอลจี ที่เชื่อมั่นว่าทีมวิศวกรจะเป็นพลังส่วนหนึ่งให้แอลจีสามารถขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดภายในปี 2010 ซึ่งในปี 2007 แอลจีได้ทุ่มงบถึง 500 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดเครื่องปรับอากาศ เน้นโฟกัสไปที่ตลาดไฮเอนด์ โดยเฉพาะรุ่นดีไซน์ Art Cool เป็นเครื่องปรับอากาศดีไซน์ที่คาดว่าจะทำรายได้เพิ่มขึ้น
ปัจจุบันถ้ามองตลาดโดยรวม แอลจียังถือเป็นน้องใหม่ในตลาด เพิ่งเข้ามาทำตลาดเพียง 5 ปี หากจัดอันดับอยู่ประมาณเบอร์สามในตลาดขายแอร์ รองจากแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง มิตซูบิชิ และพานาโซนิค
Did you know?
ผลการสำรวจของแอลจี พบว่า ประเทศไทยมีผู้ใช้เครื่องปรับอากาศเพียงร้อยละ 12 ของประชากรทั้งหมด
