นัยที่ซ่อนเร้น

วิธีคิดของอาร์เอสในการตอกย้ำแบรนด์ใหม่ให้เกิดความต่อเนื่องน่าสนใจไม่น้อย ยิ่งมองผ่านในงานเปิดตัวผู้บริหารคนใหม่ มณฑิรา ลิมปนารมณ์ รองเอ็มดี ที่มานั่งดูแลฝ่ายขายทั้งหมดในเครือธุรกิจ ถือเป็นมุมที่สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์พีอาร์ และหวังผลทางการสร้างพาร์ตเนอร์ธุรกิจในอนาคต

มีนัยตั้งแต่การเลือกสถานที่แถลงข่าว อาร์เอสเลือกใช้พื้นที่ตึกยูบีซี 2 ซึ่งเป็นตึกบัญชาการของบัตรเครดิตเคทีซี งานนี้เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ บิ๊กใหญ่คนสำคัญของอาร์เอส เป็นคนตัดสินใจเลือกเอง ทำให้ใครๆ รู้สึกแปลกใจ ทำไมมาจัดที่นี่ แทนที่จะไปเปิดตัวที่บริษัทอาร์เอส หรือเลือกสยามพารากอน ดังที่เคยจัดมาทุกครั้ง

ผู้ใกล้ชิดเฮียฮ้อ บอกว่า ดูสถานที่มาหลายแห่ง แต่เลือกที่เคทีซีเพราะเหตุผลหนึ่ง อาร์เอสอยากได้สถานที่ซึ่งดูทันสมัย สดใส และเคทีซีเป็นแบรนด์ที่ใกล้เคียงกับอาร์เอส ประเด็นที่สอง คือ เฮียฮ้อมีแผนที่จะร่วมมือทางธุรกิจกับเคทีซี จึงใช้งานครั้งนี้เริ่มต้น

การเปิดตัวผู้บริหารคนใหม่ มองแล้วไม่มีอะไรใหม่ เพราะ มณฑิรา ลิมปนารมณ์ อดีตบิ๊กบริหารของเจเอสแอล ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการขายโฆษณาอย่างเชี่ยวชาญ เข้ามานั่งอยู่อาร์เอสเกือบปีแล้ว เพียงแต่ประเด็นหลัก คือ การเพิ่มบทบาทให้ผู้บริหารหญิงผู้นี้ดูแลงานขายทั้งหมดในเครือ แบบ One Stop Service สอดรับกับโมเดลธุรกิจใหม่ เน้นบริหารสินทรัพย์ทำรายได้ 360 องศา

มองแล้วน่าจะเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้บริหารหญิงคนนี้ เนื่องจากเป้าหมายของอาร์เอสต้องทำรายได้ในปีนี้ถึง 3.5 พันล้านบาท หรือเติบโตจากปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ซึ่งปีก่อนมีรายได้ 3,140.2 ล้านบาท ยิ่งภาวะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ถือว่าเหนื่อยมาก

สิ่งหนึ่งที่อาร์เอสกำลังหารายได้อย่างขะมักเขม้นคือ การจับมือกับพาร์ตเนอร์สินค้า ซึ่งช่วงนี้มีทั้ง เนสท์เล่ เป๊ปซี่ ยามาฮ่า และเซเว่นอีเลฟเว่น เพื่อนำคอนเทนต์อาร์เอสไปสร้างมูลค่าทางการตลาดผ่านการโปรโมตสินค้า

โมเดลใหม่ของอาร์เอสแบบ 360 องศา แม้จะถูกตีข่าวมาตอลดช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนจะไม่ลดกระแสลงแม้แต่น้อย ส่วนหนึ่งเพราะกลยุทธ์พีอาร์ ซึ่งมีการจัดแถลงข่าวหาประเด็นใหม่ๆ มาให้นักข่าวแทบทุกสัปดาห์ เป็นการสร้างแบรนด์บนหน้าหนังสือพิมพ์ต่อเนื่อง

ถือว่าเฮียฮ้อมาถูกทาง สมกับการรีแบรนด์ใหม่ของอาร์เอส

Did you know?

รายได้ของอาร์เอส แบ่งเป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือ คอนเทนต์ 80% และมีเดีย 20% มีข้อน่าสังเกตคือ รายได้จากธุรกิจทีวีของอาร์เอสในปีนี้ตกลงอย่างมาก จากปีก่อนมี 30 รายการ ปีนี้เหลือเพียง 15 รายการเท่านั้น