เจาะตลาดบาร์เทนเดอร์

ด้วยรสชาติอันหลากหลายของค็อกเทลที่สามารถดื่มเพื่อสร้างบรรยากาศความสนุกให้กับงานปาร์ตี้ได้ยาวนานกว่าการดื่มสุรา อีกทั้งมีนัยที่แสดงถึงความมีรสนิยม แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ในการเข้าสังคมของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ทำให้ในปัจจุบัน “วัฒนธรรมการดื่มค็อกเทล” เติบโตสวนทางธุรกิจการดื่มสุราดั้งเดิมอย่างวิสกี้ที่ครองตลาดชาวไทยมาเป็นเวลานานอย่างไม่น่าเชื่อ

และที่ขาดไม่ได้สำหรับค็อกเทลคือ ส่วนประกอบหลักอย่าง “ลิเคียว (Liqueur)” ซึ่งมีอัตราการเติบโตในตลาดไทยถึง 22%
ลิเคียวหรือ ”เหล้าหวาน” ได้มาจากการผสมเหล้ากับน้ำผลไม้เพื่อให้ได้รสชาติ ”หวาน” สมชื่อ แต่ด้วยดีกรีความแรง 18-60% จึงทำให้ความมึนเมาของลิเคียวไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าสุราประเภทอื่นแต่อย่างใด

“BOLS” นับเป็นแบรนด์ ”พรีเมียม” ของลิเคียวระดับโลก นำเข้าโดยบริษัท แม็กเซี่ยม ฟายน์ ไวนส์ แอนด์ สปิริตส์ (ประเทศไทย) และจัดจำหน่ายโดยบริษัท แอมโบรสไวน์ จำกัด โดย Bols ถือเป็นแบรนด์ที่ขับเคลื่อนธุรกิจของแม็กเซี่ยม เป็นอันดับสาม รองจาก Absolute Vodka และ Gimbeam ตามลำดับ

ไม่เพียงเท่านั้น BOLS ยังเป็นผู้นำตลาดลิเคียว เพราะถือครองสัดส่วนการตลาดไว้ถึง 31% ตามมาด้วย Hiram Walker และ Wenneker ส่งผลให้ แผนการตลาดของ BOLS ในปี 2550 นี้เป็นไปเพื่อการรักษาตำแหน่งผู้ครองตลาดและมุ่งตอกย้ำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในหมู่นักดื่มชาวไทยมากยิ่งขึ้น

งบประมาณเพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาดจำนวน 15 ล้านบาท ได้รับการวางแผนให้เป็นไปเพื่อมุ่งเน้นการ ”ปลูกฝัง” วัฒนธรรมสำหรับเครื่องดื่มค็อกเทล ด้วยการส่งเสริมให้เกิดบริการที่เป็นมาตรฐานระดับโลก

กล่าวคือ การทำการตลาดของลิเคียวนั้นแตกต่างการทำตลาดของสินค้าอื่นตรงที่ ไม่ได้มีการมุ่งเน้นไปยังกลุ่มผู้บริโภคโดยตรง หากแต่ทำการสื่อสารผ่านเจ้าของธุรกิจและ ”บาร์เทนเดอร์” ผู้เป็นประตูสู่ผู้บริโภคอีกทอดหนึ่ง โดยเกาะไปกับกระแส วอดก้า ยิน และลิเคียว ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนอาศัยแรงผลักดันจากธุรกิจบันเทิงและท่องเที่ยวที่ยังคงได้รับความนิยมในฐานะธุรกิจแห่งไลฟ์สไตล์ ภายใต้แคมเปญ “Total Cocktail” แสดงถึงการทำตลาดของ BOLS เพื่อบาร์เทนเดอร์ โดยมีการตั้งเป้าดึงบาร์เทนเดอร์ชาวไทยเข้าร่วมอบรมไม่ต่ำกว่า 500 คน ตลอดจนมีการจัดแข่งขันมิกซ์ค็อกเทลระดับชาติ เพื่อเฟ้นหาผู้ชนะที่จะมีโอกาสฝึกปรือวิทยายุทธ์ที่ “BOLS Academy” ณ กรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองต้น

กำเนิดเหล้าหวาน BOLS

ไม่เว้นแม้แต่การออกแบบขวดที่มีลักษณะเหมือนพินโบว์ลิ่ง ก็เป็นไปเพื่อให้บาร์เทนเดอร์สามารถหยิบจับได้โดยไม่หลุดมือ
การสร้างสรรค์นวัตกรรมของสินค้าด้วยรสชาติใหม่ๆ กว่า 30 รสชาติ เป็นอีกมนต์สเน่ห์ของ BOLS สำหรับในไทยมีการนำเข้า BOLS เพื่อวางจำหน่ายแล้วประมาณ 20 รสชาติ ความสำเร็จอีกประการหนึ่งของ BOLS เกิดจากความชัดเจนในการกระจายสินค้า ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านค้ากลางคืนโดยเฉพาะ Exclusive Bar ที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ทางบริษัทต้องสร้างทีมทำแผนแบ่งประเภทของร้านหรือบาร์เพื่อเจาะกลุ่มความต้องการที่ไม่เหมือนกัน

มีการตั้งเป้ายอดขายของ BOLS ณ สิ้นปีไว้ที่ 60 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อเป็นขวดมากขึ้นจากที่แต่เดิมจำหน่ายในลักษณะแก้วค็อกเทล โดยราคาอยู่ที่ขวดละ 400-600 บาท ในขณะที่ราคาขายปลีกตกอยู่แก้วละประมาณ 280 บาท สำหรับโรงแรมระดับห้าดาว

Did u know?

ไวน์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีอัตราการเก็บภาษีสูงสุดคือ 400% ในขณะที่ลิเคียวมีอัตราเรียกเก็บ 280%