เพราะชีวิตคือการเดินทาง

เป็นเวลาเกือบศตวรรษที่สินค้าภายใต้แบรนด์บริษัท Samsonite ยังคงเป็นผู้นำด้านกระเป๋าเดินทาง ถึงแม้ว่าวันนี้ปรัชญาการผลิตได้มีเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับวิสัยทัศน์ในการผลิตสินค้าให้ขยายออกไป จากบทพิสูจน์ความสมบุกสมบัน (World Proof) จึงกลายเป็นความหมายของ “การเดินทาง” (Life’s journey!)

มีการปรับโลโกเพื่อให้สอดรับความทันสมัย ลายดอกไม้อันคลาสสิกของแบรนด์ถูกนำเข้ามาผสานในตัวอักษร ทั้งนี้ เพื่อสื่อไปยังผู้บริโภคโดยนัยว่า Samsonite พร้อมแล้วที่จะมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้า เพราะไม่เพียงแค่กระเป๋าเดินทาง หากแต่อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง เห็นได้จาก Footware หลากหลายรุ่นที่ได้เริ่มทยอยวางจำหน่ายในปีนี้รวมถึง Accessories ที่หลากหลาย ทำให้ภาพการส่งเสริมไลฟ์สไตล์ของผลิตภัณฑ์หลักอย่างกระเป๋าเดินทางเริ่มชัดเจนขึ้น

Samsonite อยู่ในตลาดเมืองไทยมากว่า 35 ปี ทว่า บริษัท แซมโซไนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ถือกำเนิดขึ้นจากการร่วมทุนระหว่างแซมโซไนท์และกลุ่มบริษัทเซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (CMG) ด้วยสัดส่วน 60-40% ทำให้เกิด Operation โดยตรง โดยปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้าการเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 30% จากปีก่อน

การวางตำแหน่งสินค้าของแบรนด์ Samsonite ทำให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของนักเดินทางได้ทุกระดับภายใต้ชื่อแบรนด์ต่างๆ

Samsonite Black Label ถูกกำหนดให้เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มนักเดินทางระดับบน ด้วยราคาที่สูงและดีไซน์อันหรูหรามีระดับ จากนักออกแบบระดับโลกอาทิ Alexander McQueen และ Mark Newson

Samsonite หรือ Samsonite Original เน้นการปรับตำแหน่งของแบรนด์ให้เป็นสินค้าที่ทันสมัยควบคู่กับคุณภาพสูง เป็นแบรนด์ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดสำหรับกระเป๋าเดินทางมากที่สุดในตลาดโลก

Sammies แบรนด์เจาะตลาดแม่และเด็ก

American Touristers เน้นจับกลุ่มเป้าหมายระดับกลางถึงล่าง โดยประสบความสำเร็จในจีนและญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก สำหรับตลาดเมืองไทยกลยุทธ์หนึ่งคือ การสร้างความต่างของสินค้าด้วยสถานที่จำหน่าย

Lacoste และ Timberland กลายเป็นอีกตลาดระดับกลางของ Samsonite เกิดจากการ Takeover (เฉพาะในส่วนของกระเป๋า) โดย Samsonite แข่งกับสินค้ากลุ่ม Luxury ในแบรนด์อื่นๆ พยายามยกระดับให้พรีเมียมมากขึ้น ค่อยๆ นำตัวที่ราคาต่ำออกไป ทำให้ช่องว่างของฐานพีระมิดมีปริมาตรมากขึ้น

American Touristers พลังการขับเคลื่อนของแบรนด์ใต้ชายคาแซมโซไนท์ นโยบายด้านราคาของ Samsonite ในไทยคือ การทำราคาให้แข่งขันได้ในระดับโลก กล่าวคือ แบรนด์ Samsonite และ Samsonite Black Label จะมีราคาสูงกว่าฮ่องกง 10% ในขณะที่ แบรนด์ American Touristers จะมีราคาต่ำกว่าในยุโรป 10%

เช่นเดียวกับแผนการขยายช่องทางในการจัดจำหน่าย โดยมีเป้าหมายในการขยายจำนวนร้าน Samsonite ให้มีครบ 8 สาขา และร้าน Samsonite Black Label ที่เป็น Freestanding อีก 2 สาขา ภายในระยะเวลา 3 ปี

นอกจากนี้ บริษัทยังมีนโยบายที่จะเปลี่ยนสัดส่วนการกระจายสินค้า Retail shop : Department store ให้เป็น 30 : 70 จาก 18 : 82 ในปีที่แล้ว และวางแผนเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายด้วยธุรกิจแฟรนไชส์

Did u Know?

Samsonite Shop ในเมือง Milan เป็นแห่งเดียวในโลกที่ผลิต ”เสื้อผ้า” ภายใต้แบรนด์ Samsonite