หากฝ่ายบริหารบ้านเมืองทุกคนทำหน้าที่เป็น”ตงฉิน”ได้เหมือนนายแพทย์มงคล ณ สงขลา เชื่อแน่ว่าประเทศไทยของเราคงมีโอกาสเจริญรุดหน้ากว่าที่เป็นอยู่ นับแต่อดีต ขณะดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข หมอมงคลผู้นี้เคยมีประวัติต่อสู้กับฝ่ายการเมืองในคดีทุจริตยา จนในที่สุดนักการเมืองผู้นั้นต้องนอนชดใช้กรรมของตนเองในคุก เขามีบทบาทต่องานสาธารณสุขไทยทั้งในระดับรากหญ้าและระดับนโยบายแห่งชาติ จนได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และก็ไม่ผิดหวัง เมื่อแต่ละแคมเปญที่ออกมาล้วนแล้วเป็นไปเพื่อการปฏิรูปสังคมที่ไร้รูปไร้รอยมานาน
ด้วยบุคลิกกล้าคิดกล้าตัดสินใจ กอปรกับความมุ่งมั่นเพื่อการรังสรรค์สิ่งดีเพื่อสังคม ทำให้ชื่อของ “นายแพทย์มงคล ณ สงขลา” หรือ “หมอมงคล” กลายเป็นฮีโร่คนหนึ่งของคนไทย
“ผมคงไม่แลกกับชีวิตประชาชน” นายแพทย์มงคล ณ สงขลา กล่าวยืนยันกับคนไทยภายหลังถูกกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในกรณีที่ต้องการให้ไทยถอนการ ”ลงนาม” ใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา (Compulsory Licensing : CL)
ทว่า ในขณะที่บริษัทยาข้ามชาติเห็นชีวิตคนเป็นเพียงตัวประกันต่อรองผลกำไรของบริษัท หมอมงคลในฐานะรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงลุกขึ้นสู้โดยเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อชี้แจงในนามรัฐบาลไทย
ภาพที่ปรากฏสู่สังคมคือ “รัฐบาลไทยได้รับเสียงเชียร์” จากพันธมิตรทั้งระดับรัฐบาล องค์กรเอกชน เอ็นจีโอ ทั้งในและต่างประเทศอย่างกว้างขวาง ซึ่งนับเป็นภาพที่ไม่ปรากฏให้เห็นบ่อยนัก
เพราะไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตผู้ด้อยโอกาสในประเทศ หากแต่ความมุ่งมั่นของ “โรบินฮูดเมืองไทย” ผู้ปัน”เศษกำไร” จากบริษัทยาอันร่ำรวย (มาจุนเจือผู้ป่วยอนาถา) ยังได้ช่วยเหลือคนในประเทศกำลังพัฒนา ”ทั้งโลก”
ด้วยการใช้ชีวิตตามปรัชญาของแพทย์ชนบท ทำให้หมอมงคลรู้ซึ้งถึงปัญหาสาธารณสุขตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนถึงระดับชาติ
“ผู้ป่วยเอดส์มีความจำเป็นต้องใช้ยาต้านไวรัส ซึ่งมีราคาสูงเพราะมีการจดสิทธิบัตรและมีการนำเข้า ผู้มีรายได้น้อยไม่อาจซื้อได้เพียงพอ เป็นผลให้ภาครัฐต้องให้ความช่วยเหลือ …ทั้งที่มีงบประมาณอันจำกัด”
วันนี้ไม่เฉพาะแต่คนไทย หมอมงคลยังได้รับอีเมลและหนังสือหลายร้อยฉบับจากหลายประเทศทั่วโลก เพื่อให้กำลังใจแพทย์ผู้ช่วยเหลือคน โดยไม่คิดทอดทิ้งหรือถอดใจ
ปัญหาเร่งด่วนอีกเรื่องหนึ่งซึ่งอยู่ในลิสต์ของหมอมงคล คือการแก้ปัญหา ”สุขภาวะ” ของคนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งยัง ”ต่ำ” กว่าจังหวัดอื่นๆ เนื่องจากการเข้าถึงบางพื้นที่ทำได้ลำบาก
หมอมงคลผลักดันการทำงาน ”เชิงรุก” มากขึ้น เพราะหากทำงานเชิงรับอย่างเดียว งานสาธารณสุขจะกลายเป็นงานแก้ปัญหา ไม่สามารถจะ ”สร้างเสริม” สุขภาพของประชาชนให้ดีขึ้นมาได้ นำไปสู่การจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจด้านสาธารณสุขขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาในภาคใต้
การเดินหน้าโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งท่านเป็นผู้ริเริ่มสมัยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ถูกนำมาสานต่อหลังจากการเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 2 สัปดาห์ โดยประกาศยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียม 30 บาท ”อย่าให้เงิน 30 บาทเป็นสิ่งขัดขวางในการให้บริการประชาชน”
อีกหนึ่งความฮือฮาที่แม้แต่วัยรุ่นก็รู้จักชื่อรัฐมนตรีคนนี้ คือการเข็นกฎหมายแบนโฆษณาน้ำเมาตลอด 24 ชั่วโมง และการผลักดัน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ …งานนี้แพทย์ชนบทดีเด่นผู้สร้างความสุขและเรียกกระแสสำนึกจากสังคมได้รับทั้งเสียงเชียร์และเสียงคัดค้านจนถึงปัจจุบัน
Profile
Name : นายแพทย์มงคล ณ สงขลา
Age : 65 ปี
Education
2535 ปริญญาบัตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร วปอ.รุ่นที่ 34 (วปรอ. 344)
2525 สาธารณสุขศาสตร์ (M.P.H Netherland), Tropical Institute Amsterdam
2513 แพทย์ศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
Career Highlights
2549 รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข
2541 ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
2542 อธิบดีกรมการแพทย์
2540 เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
2539 อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
2538 รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
2534 รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา