ถูกจับตามาพักใหญ่ สำหรับ 2 อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ผู้ก่อตั้งกลุ่ม “มัชฌิมา”และ “พินิจ จารุสมบัติ” ว่าเป็นผู้สืบทอดอำนาจ คมช. เป็นสองอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ที่ถูกจับตามาตลอดว่าเป็นผู้ที่สืบทอดอำนาจให้กับ คมช. ในการลงเล่นการเมือง หลังจากที่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น
หลังจากปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มวังน้ำเย็น เป็นกลุ่มแรกๆ ที่รีบสลัดตัวเองออกจากพรรคไทยรักไทย โดยมาตั้งกลุ่มมัชฌิมา มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างคึกคัก ทั้งวิธีคิดที่มาของการตั้งชื่อ
หลายคนประเมินว่า การเคลื่อนไหวของสมศักดิ์ในครั้งนี้ เป็นเพราะการที่สามารถต่อเข้ากับขั้วอำนาจใหม่ได้อย่างไม่มีปัญหา นอกจากมั่นอกมั่นใจว่าคดียุบพรรคคงไม่มีปัญหาแน่ และกลุ่มมัชฌิมาที่ตั้งขึ้นมาใหม่นี้ เพื่อรอให้ผู้ที่มีอำนาจจาก คมช. ได้ลงเล่นการเมืองเต็มตัว
ท่าทีที่ผ่านมาของสมศักดิ์จึงดูไม่กังวลกับคดีการยุคพรรคอย่างที่ควรจะเป็น แถมยังเชื่อมั่นว่าจะเป็นพรรคตัวเลือกที่มีบทบาทแน่
แต่ปรากฏว่า ผลไม่ได้เป็นไปตามคาดหมาย พรรคไทยรักไทยถูกยุบ และยังตัดสิทธิ์กรรมการพรรคทั้ง 111 คน นั่นหมายความว่า สมศักดิ์ ซึ่งเป็น 1 ในกรรมการพรรค ต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี
ประกอบกับมีเสียงครวญจากของสมศักดิ์ว่า งานนี้ “ถูกหลอกใช้” ทำให้จุดโฟกัสเปลี่ยนมาเป็น“พินิจ จารุสมบัติ” อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยแล้ว ที่ถูกมองว่า นี่คือ ตัวแทนสืบทอดอำนาจคมช. ที่เป็นตัวจริงเสียงจริง
นับตั้งแต่การขึ้นนั่งเก้าอี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สายการเมือง เป็นเรื่องที่เกินความคาดหมาย
ซึ่งการได้รับแต่งตั้งในครั้งนั้น จึงมีการประเมินว่า มาจากสายสัมพันธ์อันดี กับ พล.อ.วินัย ภัททิยะกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)
พล.อ.วินัยมีความสนิทสนมใกล้ชิดกับระบอบทักษิณ และยังเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเซนต์คาเบรียล รุ่นเดียวกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล และศิริทัช โรจนพฤกษ์ แห่งคอมลิงค์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่สนับสนุนทางการเมืองให้กับพินิจ จารุสมบัติ มาตลอด
อันเป็นที่มาของ “เซนต์คาเบรียล คอนเนกชั่น” ที่ถูกมองว่ามีบทบาทอย่างมากต่อการสืบทอดอำนาจ คมช . ในอนาคต โดยที่มี “พินิจ” เป็นผู้เดินเกมทางการเมือง
ในอีกด้านหนึ่ง ก็มีกระแสข่าวว่า พินิจได้เดินเกมการเมือง ด้วยการเตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ และแกนนำในพรรคใหม่นี้มีชื่อของสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และพล.อ.วินัย ภัททิยะกุล ร่วมด้วย โดยที่หัวหน้าพรรคนั้น มีชื่อของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล หรือ หม่อมอุ๋ย หรือ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นตัวเลือก
การตั้งพรรคการเมืองใหม่ของพินิจในครั้งนี้ ก็จะไม่ต่างไปจากที่เขาเคยทำมาแล้ว สมัยที่ตั้งพรรคเสรีธรรม หลังยุค รสช.
ขณะเดียวกัน ก็มีการประเมินการจับขั้วกันระหว่างพินิจ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ สุวิทย์ คุณกิตติ ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ โดยมีการะบุถึงความสัมพันธ์ระหว่างสุวัจน์ และ พล.อ.วินัย ที่คุ้นเคยกันมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่น้าชาติ พลเอกชาติชาย ชุณหวัณ ยังมีชีวิตอยู่
ไม่ว่ารายชื่อของพรรคใหม่ของพินิจจะเป็นใครก็ตาม แต่ที่แน่ๆ “เซนต์คาเบรียล คอนเนกชั่น” ที่มี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล และ พล.อ.วินัย ภัททิยะกุล ที่มี พินิจ จารุสมบัติ เป็นผู้เดินเกม คงเปิดตัวขึ้นในไม่ช้า
มีการตั้งข้อสังเกตมากกว่านั้น การสืบทอดอำนาจของ คมช. ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในสมัยรัฐบาลทหารที่เข้ามายึดอำนาจตั้งพรรคการเมืองเพื่อสืบทอดอำนาจก็เคยมีมาแล้ว จอมพล ป. พิบูลสงคราม ก็มีการตั้งพรรคเสรีมนังคศิลา พล.อ.สุจินดา คราประยูร ก็ยังตั้งพรรคสามัคคีธรรม ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกพรรคใด และใครจะเป็นผู้นำพรรค
แต่ที่แน่ๆ ทั้งสมศักดิ์ เทพสุทิน และพินิจ จารุสมบัติ คือสองนักการเมืองที่มีเป็นตัวแปรของการสืบทอดอำนาจทางการเมืองของ คมช. ที่จะเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์หนึ่งของการเมืองไทยหรือไม่ และการสืบทอดอำนาจนี้จะมีการต่อท่อไปยังขั้วอำนาจเก่าหรือไม่ ไม่นานคงรู้ผล



