Tuesday, December 23, 2025
Home Blog Page 1857
สิงห์ เอสเตท ร่วมอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันแนวปะการังสำหรับวางทุ่นไข่ปลาให้แก่อุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ พพ5 เพื่อใช้ปฏิบัติการในพื้นที่บริเวณอ่าวโละบาเกา เกาะพีพีดอน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาความยั่งยืนขององค์กร Sustainable Diversity มุ่งมั่นสร้างความหลากหลายที่สมดุลระหว่างธุรกิจ ชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็นองค์กร Carbon Neutrality ในปี 2030 ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ กล่าวว่า เนื่องจากหมู่เกาะพีพีเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมจากทั่วโลก ดังนั้นการวางแผนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกภาคส่วนควรมีส่วนร่วมเพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ทางทะเล โดยล่าสุดมีการพบปะการังน้ำตื้นที่อ่าวโละบาเกา ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเป็นตัวอ่อนปะการังจากเกาะยูง เนื่องจากอ่าวโละบาเกามีระยะทางห่างจากเกาะยูงเพียง 6 กิโลเมตร ซึ่งปะการังมีการผสมพันธ์ออกไข่ และปล่อยสเปิร์มผสมกันในน้ำ กลายเป็นตัวอ่อนปะการังล่องลอยไปเป็นแพลงก์ตอน จนถึงเวลาเหมาะสมจึงลงเกาะพื้น เติบโตเป็นปะการังใหม่ ขยายพื้นที่ไปทั่ว ซึ่งเกาะยูงเป็นแหล่งพ่อแม่พันธุ์ปะการังที่มีทิศทางกระแสน้ำเหมาะสมที่จะพัดพาตัวอ่อนปะการังไปในบริเวณหมู่เกาะพีพี รวมถึงอ่าวโละบาเกา แต่อย่างไรก็ตามต้องทำการศึกษาวิจัยต่อไป นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า...
ประมาณ 83% ของกลุ่มผู้นำกระแสที่อาศัยอยู่ในเขตชุมชนเมือง (Urban Early Adopter) เชื่อมั่นว่าภาวะโลกร้อนจะทวีความรุนแรงขึ้น โดยอุณหภูมิทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 1.5°C หรือสูงกว่านี้ ภายในสิ้นปี ค.ศ.2030 เกือบ 59% ระบุว่านวัตกรรมและเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญเพื่อรับมือความท้าทายในชีวิตประจำวันที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับวิธีการทำงานและเวลาที่ต้องทำงาน ประมาณ 99% ของกลุ่มผู้นำกระแสด้านเทคโนโลยีทั่วโลกกว่า 15,000 ราย ที่ให้ข้อมูลกับอีริคสัน (NASDAQ: ERIC) กล่าวว่า ภายในปี ค.ศ.2030 การใช้อินเทอร์เน็ตและโซลูชั่นการเชื่อมต่อจะเป็นแบบเชิงรุก ที่แต่ละคนจะรับมือกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อนที่เจาะจงมากขึ้น โดยสถิตินี้อยู่ในผลการวิจัยประจำปีล่าสุด 10 Hot Consumer Trends จาก Ericsson ConsumerLab ซึ่งในปีนี้ให้ชื่อเรียกว่า Life in a Climate-Impacted Future (ชีวิตในโลกอนาคตที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ) รายงานที่เผยแพร่ในเดือนมกราคมปีนี้ เป็นฉบับที่ 12 ที่ให้ภาพรวมของข้อกังวล ความคาดหวังของผู้บริโภค ตลอดจนความคิดเห็นในการใช้เทคโนโลยีส่วนบุคคลสำหรับรับมือกับปัญหาด้านสภาพอากาศในปี ค.ศ.2030 83% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าอุณหภูมิโลกจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 1.5 องศาเซลเซียสหรือสูงกว่านั้น (สูงกว่าระดับก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม) ซึ่งเกินขีดจำกัดตามข้อตกลงระหว่างประเทศ...
บริษัท ยัสปาล จำกัด ผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าแฟชั่นของไทย พร้อมมุ่งสู่ผู้นำ Regional Fashion and Lifestyle Retailer เผยเป้าหมายการขยายธุรกิจในตลาดต่างประเทศปี 2566 จะมียอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากยอดขายต่างประเทศโดยตลาดต่างประเทศหลักคือ กลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีธุรกิจในประเทศเวียดนาม กัมพูชา และมาเลเซีย ทั้งนี้ในปี 2566 บริษัทจะขยายธุรกิจเข้าไปยังประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งนับเป็นประเทศที่มีแนวโน้มตลาดเติบโตสูงเพิ่มเติมอีกด้วย โดยชูแบรนด์เรือธงสำหรับการบุกตลาดอาเชียน อาทิ LYN, CC DOUBLE O, Jelly Bunny, Lyn around, CPS CHAPS และ JASPAL รวมไปถึงแบรนด์นำเข้าในกลุ่มพรีเมี่ยมแบรนด์และสปอร์ตแบรนด์ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ได้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย นายยศเทพ สิงห์สัจจเทศ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร...
บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ วีจีไอ (“VGI”) ผู้นำการตลาด Offline-to-Online (“O2O”) Solutionsบนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ตอกย้ำความเป็นผู้นำโซลูชั่นส์แห่งอนาคตคว้ารางวัล Most Innovative (O2O) Marketing Campaigns & Solutions จากเวทีระดับสากล The Global Economics Awards 2022 ซึ่งจัดโดย The Global Economics นิตยสารการเงินชั้นนำจากสหราชอาณาจักร ในฐานะองค์กรชั้นนำที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยด้านโซลูชันส์การตลาดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการผสมผสานโลกออฟไลน์และออนไลน์ไว้ด้วยกัน ผ่านอีโคซิสเต็ม (ecosystem) ที่แข็งแกร่งประกอบด้วย 3 แพลตฟอร์มคือธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจการจัดจำหน่ายจนเกิดเป็นการ Synergy...
นายณัฐสิทธิ์ สุนทราณู ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ในปีนี้เคทีซีเตรียมรุกตลาดบัตรเครดิต ด้วยกลยุทธ์ Less is More โดยเน้นทำในสิ่งที่สำคัญ เป็นประโยชน์และเป็นความต้องการของสมาชิกอย่างแท้จริง เพื่อให้สมาชิกเกิดความประทับใจและผูกพันกับแบรนด์เคทีซีผ่านประสบการณ์ตรงจากการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการ โดยช้อปออนไลน์ถือเป็นหมวดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง แม้เมื่อเกิดวิกฤติจากโควิด-19 เพราะวันนี้ตลาดช้อปออนไลน์สามารถครอบคลุมทุกหมวดสินค้าอย่างไม่มีข้อจำกัด และยังช่วยเพิ่มความสะดวกและลดขั้นตอนบางอย่าง ทำให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้าที่ง่ายขึ้นและปลอดภัยด้วยวิธีการชำระที่เชื่อถือได้ และยังได้รับความคุ้มค่าที่มากกว่าการใช้เงินสด ทั้งคะแนน KTC FOREVER เครดิตวงเงิน การผ่อนชำระ ฯลฯ ส่งผลให้จำนวนกลุ่มนักช้อปออนไลน์ขยายตัวมากขึ้นต่อเนื่อง” “ในไตรมาสแรกนี้ เคทีซีจึงได้ผนึกความคุ้มค่าของคะแนนสะสมเคทีซี ซึ่งสมาชิกให้การตอบรับดีมาโดยตลอดเข้ากับช้อปปี้ (Shopee) อีคอมเมิร์ซยอดนิยมในไทย จัดโครงการให้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีสามารถใช้คะแนนผ่านแอปฯ  KTC Mobile...
นักธุรกิจชั้นนำของประเทศอิตาลีและประเทศไทย ร่วมเจรจาทางการค้าในการประชุมอิตาเลียน-ไทย บิสซิเนส ฟอรั่ม  (Italian-Thai Business Forum) ครั้งที่ 8 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง หอการค้าไทย, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ สถานทูตอิตาลีประจำประเทศไทย โดยปีนี้มีนักธุรกิจชั้นนำจากประเทศอิตาลีและประเทศไทยเข้าร่วมรวม 25 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทจากอิตาลี 12 บริษัท และบริษัทจากไทย 13 บริษัท ครอบคลุมหลากหลายภาคธุรกิจ เช่น พลังงาน, เครื่องจักรอุตสาหกรรม, อุตสาหกรรมการบิน, การเงินและประกันภัย, อุตสาหกรรมยาง,  อุตสาหกรรมยางรถจักรยาน-ยางรถมอเตอร์ไซค์, การก่อสร้าง, การเกษตร, อาหารและเครื่องดื่ม, ธุรกิจค้าปลีกและการบริการ และยังได้รับเกียรติจาก ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย และ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ในการเข้าร่วมประชุมอีกด้วย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างบริษัทสมาชิกอิตาลีและไทย ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการค้ารวมกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ การประชุมอิตาเลียน-ไทย บิสซิเนส ฟอรั่ม มีวัตถุประสงค์หลักในการสานสัมพันธ์  พร้อมต่อยอดความร่วมมือระหว่างสมาชิกกลุ่มธุรกิจในการร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจระหว่างภาคเอกชนไทยและอิตาลี ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของสหภาพยุโรป โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ วาเลนตีโน วาเลนตีนี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในอิตาลี, กล่าวเปิดการประชุม ที่ได้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและอิตาลีซึ่งมีมายาวนาน โดยปี 2023 เป็นปีแห่งการครบรอบ 155 ปีของความสัมพันธ์ทวิภาคีของทั้งสองประเทศ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตได้มีแผนที่จะดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์อย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง สิ่งแวดล้อม...
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าสื่อใหญ่อย่าง CNN จำต้องปลดพนักงานเพื่อลดต้นทุนกว่า 100 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะยังมีสื่ออีกหลายหัวที่ต้องปลดพนักงานในปีนี้ เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจทำให้บริษัทต้องลดต้นทุนลง
ผลสำรวจจากสมาคมนักเศรษฐศาสตร์ธุรกิจของสหรัฐอเมริกาชี้ว่าบริษัทในสหรัฐเกือบ 20% เริ่มวางแผนปลดพนักงาน ขณะเดียวกันก็ยังมองว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมายอดขายของบริษัทเหล่านี้ไม่ได้กระเตื้องขึ้นมากนักนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2022 เป็นต้นมา ทำให้เห็นถึงสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังจากนี้อาจเข้าสู่สภาวะถดถอยอย่างแท้จริง
เบิกฤกษ์ เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนปีเถาะ เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน ชวนเสริมพลังเฮงรอบด้าน รับพลังสุดปังตลอดปีกระต่ายทอง พร้อมสัมผัสไฮไลท์กับป๊อปอัพสโตร์สุดคูล ในกิจกรรม JOY LUCK LOVE 2023 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ร้านชำ นำเฮง” คัดสรรหลากหลายไอเทมสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษเสริมพลังความเฮง ทั้งแฟชั่น, บิวตี้, ไลฟ์สไตล์ สินค้านำโชคเสริมดวงของแต่ละนักษัตร โดยหมอบอย เคลียร์ชัด จาก HOROSOCIETY รวมถึงกิจกรรมมูเตลูสุดคูล และโปรโมชั่นมากมาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์สายมู ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน สำหรับกิจกรรม JOY...
“ธนาคารกรุงไทย” เผยผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่ง กำไรสุทธิปี 2565 เท่ากับ 33,698 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 56 จากปีที่ผ่านมา และกำไรไตรมาส 4 ปี 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 64 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาจากรายได้รวมที่ขยายตัวได้ดี โดยสินเชื่อเติบโตอย่างสมดุล รายได้ดอกเบี้ยเติบโตตามทิศทางอัตราดอกเบี้ย เดินหน้าดูแลลูกค้ากลุ่มเปราะบางปรับตัวรับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจ นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2565 ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวได้ดี  กิจกรรมเศรษฐกิจภายในประเทศทยอยกลับมาเป็นปกติมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี รวมถึงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 ช่วยให้ภาคการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง จากสงครามรัสเซียและยูเครนกดดันราคาพลังงานให้เพิ่มขึ้น   ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อคุมภาวะเงินเฟ้อ และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้ ธนาคารตระหนักถึงผลกระทบต่อลูกค้าประชาชน  จึงพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่รายได้ยังไม่กลับมาปกติ ผ่านมาตรการความช่วยเหลือที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยคำนึงถึงศักยภาพและโอกาสในการปรับตัวของลูกค้า เพื่อรองรับทิศทางเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว พร้อมดูแลผู้ฝากเงินให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่งเสริมการออมเพื่อความมั่นคงทางการเงินในอนาคต สำหรับผลการดำเนินงานปี 2565 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร เท่ากับ  33,698  ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 56.1 สาเหตุหลักจากรายได้รวมจากการดำเนินงานที่ขยายตัวร้อยละ 8.3 จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของสินเชื่อที่มุ่งเน้นคุณภาพ โดยสินเชื่อไม่รวมสินเชื่อภาครัฐ เติบโต ร้อยละ 4.3 จากสิ้นปี...