กำแพงภาษี – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 02 Jul 2024 14:28:50 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 อินโดนีเซียเตรียมขึ้นภาษีสินค้าจีนบางรายการถึง 200% ชี้ผู้ประกอบการในประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักจนต้องปิดกิจการ https://positioningmag.com/1480645 Tue, 02 Jul 2024 05:58:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1480645 อินโดนีเซียเตรียมที่จะขึ้นภาษีสินค้าจีนบางรายการสูงสุดถึง 200% โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้ตามมาจากสินค้าจีนหลายประเภท เช่น สิ่งทอ เสื้อผ้า ฯลฯ ได้ทะลักเข้าสู่ประเทศมากเกินไป ส่งผลทำให้ธุรกิจสิ่งทอและผู้ผลิตเสื้อผ้าในประเทศได้รับผลกระทบจนต้องมีการปิดกิจการ

Reuters และ Channel News Asia รายงานข่าวว่า อินโดนีเซียเตรียมที่จะขึ้นภาษีสินค้าจีนบางรายการสูงสุดถึง 200% โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้ตามมาจากสินค้าจีนหลายประเภทได้ทะลักเข้าสู่ประเทศมากเกินไป จนทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการดังกล่าวออกมา

สินค้าจากจีนที่จะมีการขึ้นภาษีนั้นประกอบไปด้วย รองเท้า ผลิตภัณฑ์เซรามิก เสื้อผ้า สิ่งทอ เครื่องสำอาง เหล็ก โดยอัตราภาษีนั้นเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 100% และบางรายการนั้นปรับเพิ่มมากถึง 200%

Zulkifli Hasan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าอินโดนีเซีย ได้กล่าวว่า สินค้าจีนหลายประเภทได้ทะลักเข้าสู่ประเทศมากเกินไป ซึ่งผลดังกล่าวจะทำให้ธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก หรือแม้แต่ธุรกิจขนาดย่อมนั้นล่มสลายลงได้ และการปรับขึ้นภาษีนำเข้าจะทำให้สินค้าเหล่านี้ลดการทะลักเข้ามา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าอินโดนีเซีย ยังได้กล่าวเสริมในการสัมภาษณ์ของ Channel News Asia ว่า ผู้ประกอบการในประเทศได้รับผลกระทบโดยเฉพาะอุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้า เนื่องจากสินค้านำเข้ามีราคาถูกกว่าสินค้าที่ผู้ประกอบการในประเทศผลิต

สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลทำให้ผู้ประกอบการในประเทศอินโดนีเซียไม่สามารถแข่งขันกับสินค้านำเข้าจากประเทศจีนได้ มาตรการดังกล่าวนั้นออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ต้องปิดตัวลง หรือแม้แต่ต้องมีการปลดพนักงาน เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีการปิดตัวลงของธุรกิจประเภทดังกล่าว หรือแม้แต่การล้มละลายจำนวนมาก

สาเหตุที่ทำให้อินโดนีเซียต้องประกาศมาตรการดังกล่าวออกมานั้น เนื่องจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนที่ทวีความรุนแรง ทำให้สินค้าจากแดนมังกรที่ไม่สามารถส่งออกไปยังโลกตะวันตกได้ทะลักเข้าสู่หลายประเทศ ซึ่งอินโดนีเซียเป็นอีกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว

ในปี 2023 ที่ผ่านมา อินโดนีเซียได้ออกกฎระเบียบเพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้านำเข้ามากกว่า 3,000 รายการ ตั้งแต่ส่วนผสมอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ และสารเคมี เนื่องจากรัฐบาลต้องการให้มีการผลิตสินค้าในประเทศมากขึ้น ซึ่งทำให้บริษัทหลายแห่ง ไม่เว้นแม้แต่ Apple เรียกร้องให้ยกเลิกมาตรการดังกล่าว

จีนนั้นถือเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ 1 ใน 3 ของอินโดนีเซีย นอกจากนี้จีนยังเป็นประเทศที่นำเม็ดเงินลงทุน หรือ FDI เข้าอินโดนีเซียเป็นอันดับต้นๆ ด้วย

]]>
1480645
สหรัฐฯ อาจขึ้น “กำแพงภาษี” นำเข้า “รถอีวี” จากจีนเพิ่มอีก เพื่อดึงฐานผลิตรถกลับประเทศ https://positioningmag.com/1456709 Thu, 21 Dec 2023 08:38:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1456709 Wall Street Journal รายงานจากแหล่งข่าววงใน พบว่ารัฐบาลไบเดนกำลังพิจารณาปรับขึ้น “กำแพงภาษี” ในการนำเข้าสินค้าบางตัวจากจีน ซึ่งรวมถึง “รถอีวี” ด้วย เพื่อสร้างแรงจูงใจให้บริษัทรถย้ายฐานผลิตกลับมาอยู่ในสหรัฐฯ

China Merchants Bank International ประเมินว่าการส่งออกยานยนต์ของจีนจะยิ่งเติบโตขึ้นอีกในปี 2024 โดยคาดว่าจะโตถึง 25% คิดเป็นจำนวนผลิตรถยนต์ 5.3 ล้านคัน และหนึ่งในประเทศที่รถจีนส่งไปตีตลาดก็คือสหรัฐฯ

ทำให้มีความเคลื่อนไหวจากฝั่งรัฐบาลสหรัฐฯ จากแหล่งข่าวในสภาครองเกรสให้ข้อมูลกับ Wall Street Journal ว่า รัฐบาลกำลังวางแผนจะขึ้นกำแพงภาษีสินค้าหลายตัวจากจีนซึ่งหมายรวมถึง “รถอีวี” และจะมีการหาวิธีป้องกันไม่ให้จีนส่งสินค้าอ้อมจากเม็กซิโกเข้ามาสหรัฐฯ เพื่อหนีกำแพงภาษีนี้ด้วย

ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์จีนจะต้องเสียภาษี 25% เมื่อนำสินค้าเข้าสหรัฐฯ อัตราภาษีนี้เริ่มใช้มาตั้งแต่ยุคประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และยังคงใช้มาอย่างต่อเนื่องจนถึงยุครัฐบาลไบเดน

ส่วนการพิจารณาภาษีรอบหน้าในช่วงต้นปี 2024 คาดว่าจะมีการลดภาษีสินค้าบางตัวจากจีนที่รัฐบาลมองว่าไม่ได้สำคัญในเชิงกลยุทธ์ แต่จะขึ้นภาษีสินค้าตัวที่มองว่าสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าเกี่ยวกับพลังงานสะอาด

กลุ่มสมาชิกสภาของสหรัฐฯ เล็งเห็นมานานแล้วว่า แม้แต่ผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์อเมริกันยังไปตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในจีนและนำเข้ามาขายในสหรัฐฯ กัน นั่นหมายความว่าอัตราภาษีในระดับนี้ยังไม่เพียงพอที่จะจูงใจให้โรงงานรถยนต์สหรัฐฯ ไม่ย้ายฐานผลิต

ฝั่งรัฐบาลจีนแถลงข่าวโดยโฆษกประจำกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่าจีนจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และจะหาหนทางที่จำเป็นเพื่อลดผลกระทบต่อประโยชน์ของชาติให้มากที่สุด

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐฯ ยังไม่ให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการในประเด็นการขึ้นภาษีนี้

Source

]]>
1456709
ฝรั่งเศสขู่โต้กลับ หากทรัมป์ขึ้น “กำแพงภาษี” กระเป๋าหรู ไวน์ และชีส https://positioningmag.com/1259692 Wed, 08 Jan 2020 05:53:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1259692
  • ฝรั่งเศสเตือนสหรัฐฯ เตรียมโต้กลับหากทรัมป์ออกนโยบายกำแพงภาษีตามแผน ซึ่งจะกระทบสินค้าจากเมืองน้ำหอมมูลค่ารวมกว่า 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
  • รัฐบาล ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนตั้งแต่ปีก่อนว่าจะขึ้นภาษีสูงสุด 100% สำหรับผลิตภัณฑ์กระเป๋าถือ ไวน์ และสินค้าอื่นๆ จากฝรั่งเศส หลังจากฝรั่งเศสออกกฎหมายเก็บภาษีบริการดิจิทัลเมื่อเดือน ก.ค. 2019
  • สหรัฐฯ มีแผนที่จะขึ้นกำแพงภาษีต่อสหภาพยุโรปอยู่แล้ว เนื่องจากข้อพิพาทที่อียูอาจมีการให้เงินอุดหนุนผิดกฎหมายแก่บริษัท Airbus บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินคู่แข่งของ Boeing จากสหรัฐฯ
  • เมื่อวันจันทร์ที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ฝรั่งเศสออกโรงเตือนสหรัฐอเมริกาว่า รัฐบาลจะตอบโต้กลับหากสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าจากฝรั่งเศสตามแผนที่วางไว้ โดย “บรูโน่ เลอ แมร์” รัฐมนตรีการคลังของฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์ทางสถานีวิทยุว่า รัฐบาลฝรั่งเศสจะตอบโต้กลับทันทีหากสหรัฐฯ ขึ้นภาษี และจะดึงมือองค์การการค้าโลก (WTO) เข้ามาเกี่ยวข้อง

    รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีสูงสุดถึง 100% สำหรับสินค้าอย่างกระเป๋าถือ ไวน์ ชีส และสินค้าอื่นๆ จากฝรั่งเศส ซึ่งจะมีผลกระทบกับสินค้าฝรั่งเศสมูลค่ารวมกว่า 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ

    แผนการขึ้นภาษีครั้งนี้เป็นไปเพื่อโต้กลับหลังฝรั่งเศสออกนโยบายจัดเก็บภาษีจากบริษัทเทคโนโลยีหรือ “ภาษีดิจิทัล” เมื่อปีก่อน ฝั่งฝรั่งเศสให้เหตุผลในการจัดเก็บภาษีดิจิทัลว่า เป็นเพราะบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่มักจะเลี่ยงภาษีโดยการจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศอื่นแทน นอกจากฝรั่งเศสแล้ว ประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรปก็มีแผนที่จะเก็บภาษีดิจิทัลเช่นเดียวกัน

    ภาษีดิจิทัลของฝรั่งเศสนั้นจะจัดเก็บจากบริษัทเทคโนโลยีที่มีรายได้รวมทั่วโลกอย่างต่ำ 750 ล้านยูโร และมียอดขายดิจิทัลในประเทศฝรั่งเศสอย่างต่ำ 25 ล้านยูโร ซึ่งฝั่งสหรัฐฯ กล่าวว่า นโยบายนี้ “เป็นการกีดกันบริษัทอเมริกัน ไม่สอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของนโยบายภาษีระดับสากล และมีการผลักภาระอย่างไม่ปกติที่ส่งผลกระทบกับบริษัทอเมริกัน”

    “หากสหรัฐฯ ตัดสินใจจะใช้มาตรการทางภาษีต่ออียูเพื่อตอบโต้ภาษีดิจิทัลของฝรั่งเศส การกระทำนี้จะกระทบความสัมพันธ์ของสองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกอย่างลึกซึ้งและยาวนาน ในห้วงเวลาที่เราจำเป็นต้องยืนหยัดสามัคคีกันเช่นนี้” เลอ แมร์ เขียนในจดหมายที่ส่งถึง “โรเบิร์ต ไลท์ธิเซอร์” ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน

    นอกจากประเด็นใหม่อย่างภาษีดิจิทัล สหรัฐฯ มีแผนที่จะขึ้นภาษีกับอียูอยู่ก่อนแล้ว เนื่องมาจากประเด็นฟ้องร้องที่ทางสหรัฐฯ กล่าวว่าอียูมีการให้เงินอุดหนุนไม่เป็นธรรม โดยให้กู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่บริษัท Airbus ผู้ผลิตเครื่องบินรายสำคัญ และเป็นคู่แข่งของบริษัท Boeing จากสหรัฐฯ ทำให้สหรัฐฯ ต้องการขึ้นกำแพงภาษีสินค้าอื่นๆ เพื่อตอบโต้กลับ

    Source

    ]]>
    1259692