ปลดพนักงาน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 14 Nov 2024 08:50:52 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Booking.com เล็งปลดพนักงานเพื่อลดต้นทุน หลัง Q3 มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 13.6% https://positioningmag.com/1498243 Sat, 09 Nov 2024 06:19:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1498243 Booking Holdings (Booking.com) ผู้ให้บริการการเดินทางออนไลน์ เตรียมปลดพนักงานเพิ่ม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับองค์กร รวมถึงเป็นการควบคุมต้นทุน 

โดย Booking Holdings เป็นเจ้าของแบรนด์ต่าง ๆ อาทิ Booking.com (บริการจองตั๋วเครื่องบิน-ที่พัก) และ Kayak (เครื่องมือค้นหาข้อมูลการเดินทาง) ไม่ได้มีการเปิดเผยว่า การปลดพนักงานในครั้งนี้ จะมีผู้ที่ได้รับผลกระทบในส่วนงานไหน หรือจะกระทบทั้งหมดกี่ราย 

แต่กล่าวว่า จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาในการเลิกจ้างในภายหลัง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพนักงานและการเงินในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งช่วงสิ้นปี 2023 Booking Holdings  มีพนักงานทั้งหมดประมาณ 23,600 คน

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นนั้น เกิดเพียงไม่กี่วันหลังจากที่บริษัทฯ ได้รายงานอัตราค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานในไตรมาสที่สาม (Q3) ที่มีเพิ่มขึ้น 13.6% 

บริษัทฯ ระบุว่า ความพยายามในการปรับปรุงประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวขององค์กรมากขึ้น อีกทั้งการเพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัยและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดซื้อซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงขององค์กรให้ตอบสนองทั้งนักเดินทางและพันธมิตรได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ Booking Holdings ได้ยื่นเอกสารฯให้กับ สํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา ( SEC) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ที่มา : Reuters 

]]>
1498243
Dropbox ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั่วโลก 20% กระทบพนักงานกว่า 500 คน https://positioningmag.com/1497179 Fri, 01 Nov 2024 13:11:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1497179 Dropbox ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั่วโลก 20% กระทบพนักงานกว่า 500 คน

Dropbox ผู้ให้บริกาพื้นที่จัดเก็บไฟล์บนอินเทอร์เน็ตฟรี ประกาศว่าในขณะนี้ กำลังพิจารณาการเลิกจ้างพนักงานทั่วโลกอีก 20% หรือเทียบเท่ากับพนักงานกว่า 528 คน 

Drew Houston ซีอีโอของ Dropbox ระบุว่า การเลิกจ้างในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในการปรับโครงสร้างของบริษัทขึ้นใหม่ ให้มีประสิทธิภาพและรักษาระดับการลงทุนให้มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการลงทุนมหาศาลแต่ประสิทธิภาพการทำงานที่ได้กลับต่ำกว่าการคาดการณ์ 

โดยพนักงานที่ได้รับผลกระทบจะได้รับค่าจ้างชดเชย 16 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.2024 และจะได้รับค่าจ้างเพิ่มเติมตามอายุงานที่ได้ร่วมงานกับบริษัท

ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ในเดือนเมษายน 2023 บริษัทฯ ได้มีการปรับลดพนักงานไป 16% ซึ่งส่งผล กระทบต่อพนักงาน 500 คนในขณะนั้น ท่ามกลางปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจ อาทิ เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และนวัตกรรมเทคโนโลยี AI ที่มีการแข่งขันสูงขึ้น ทำให้บริษัทจําเป็นต้องลงทุนทรัพยากรในพนักงานต่อหัวมากขึ้น

Drew Houston แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า ปัจจัยภายนอกเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะจากการเก็บข้อมูลของ บริษัทฯ พบว่า ผู้บริโภคแสดงความเห็นว่าระบบการให้บริการของ Dropbox นั้นมีความซับซ้อนมากเกินไปส่งผลให้การทำงานเกิดความล่าช้ามากขึ้น รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ลดลงและการแข่งขันของภาคธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ Dropbox เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2008 เป็นบริการฝาก-ซิ้งค์รวมถึงแชร์ไฟล์ ที่ผู้ใช้บริการจะต้องทำการติดตั้งโปรแกรมของ Dropbox ในคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนก่อน จากนั้นจึงจะสามารถอัปโหลดไฟล์ลงโปรแกรมได้ ซึ่งไฟล์ต่างๆ จะถูกอัปโหลดเก็บไว้ใน Server ของ Dropbox 

ที่มา : CNBC

]]>
1497179
เลย์ออฟอีก!  “Meta” เลิกจ้าง-โยกย้ายพนักงาน “WhatsApp” – “Instagram” เพื่อลดต้นทุน https://positioningmag.com/1495167 Sun, 20 Oct 2024 05:05:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1495167 Meta (เมตา) บริษัทโซเชียลมีเดียเจ้าของแพลตฟอร์ม Facebook เลิกจ้าง โยกย้ายสถานที่ทำงาน โยกย้ายตำแหน่งงาน ในกลุ่มพนักงานบริษัท Instagram, WhatsApp และ Reality Labs ที่ Meta เป็นเจ้าของ โดยยังไม่ระบุจำนวนพนักงานที่ได้รับผลกระทบแน่ชัด

โฆษกของ Meta ระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัทฯ ทําการเปลี่ยนแปลงองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ระยะยาวและกลยุทธ์ด้านสถานที่ที่ได้วางไว้ โดยจะมีการย้ายทีมงานบางทีมไปยังสถานที่อื่น และมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งงานของพนักงานบางคนไปทำหน้าที่ส่วนอื่น รวมถึงการช่วยเหลือและมองหาโอกาสใหม่ๆ ให้กับพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการถูกเลิกจ้าง

ตามรายงานข่าวระบุว่า ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมจาก Meta ว่า จำนวนพนักงานที่ถูกเลิกจ้างในครั้งนี้มีจํานวนเท่าใด และ Meta ก็ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน 

โดยก่อนหน้านั้นในเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 Meta ได้ลดจำนวนพนักงานลงประมาณ 21,000 คน เพื่อลดต้นทุนของบริษัทฯ ไปรอบหนึ่งแล้วตามที่ มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก ซีอีโอบริษัทฯ เรียกว่าเป็นกลยุทธ์ “ปีแห่งประสิทธิภาพ”

ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ Meta สามารถสร้างรายได้ได้ดีกว่าความคาดหวังของตลาดโดยหุ้นของ บริษัทฯ พุ่งขึ้นมากกว่า 60% และมีการคาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 3 รายได้ของบริษัทฯ มีแนวโน้มเติบโตขึ้น บ่งชี้ว่าการใช้จ่ายด้านการโฆษณาแบบดิจิทัลที่แข็งแกร่งบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้

นอกจากนั้น Financial Times ยังรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Meta ได้ปลดพนักงานจำนวน 24 คนในลอสแองเจลิสออก เนื่องจากพบว่าพนักงานกลุ่มดังกล่าวมีการใช้เครดิตอาหารรายวันมูลค่า 25 ดอลลาร์ (ประมาณ 830 บาท) เพื่อซื้อของใช้ในครัวเรือน เช่น แผ่นแปะสิว แก้วไวน์ และน้ํายาซักผ้า แทนอาหาร ซึ่งการเลิกจ้างส่วนนี้ เป็นการเลิกจ้างที่แยกจากการปรับโครงสร้างทีมและทาง Meta ได้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปลดพนักงานกลุ่มดังกล่าว

ที่มา : Reuters 

 

]]>
1495167
UBS เตรียมปลดพนักงาน 5 ระลอกในปีนี้ ตามแผนลดต้นทุน นักวิเคราะห์คาดอาจต้องปลดพนักงาน 30,000 คนเป็นอย่างน้อย https://positioningmag.com/1470486 Mon, 22 Apr 2024 01:42:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1470486 ยูบีเอส (UBS) สถาบันการเงินรายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์มีแผนที่จะปลดพนักงาน 5 ระลอกในปีนี้ เนื่องจากต้องการที่จะลดต้นทุน รวมถึงจำนวนพนักงานที่เพิ่มมามากเกินไปหลังจากที่ได้มีการควบรวมกิจการกับเครดิตสวิส (Credit Suisse) ในปี 2023 ที่ผ่านมา

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวโดยอ้างอิงหนังสือพิมพ์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่าง SonntagsZeitung ว่า UBS สถาบันการเงินรายใหญ่สุดของประเทศนั้นกำลังเตรียมที่จะปลดพนักงาน 5 ระลอกในปี 2024 นี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการควบรวมกิจการ Credit Suisse

SonntagsZeitung ได้รายงานว่า UBS นั้นมีแผนที่จะปลดพนักงาน 5 ระลอกในปีนี้ โดยจะเริ่มต้นในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ และสื่อรายดังกล่าวได้อ้างแหล่งข่าวภายในว่าอดีตพนักงานของ Credit Suisse ประมาณ 50-60% จะถูกปลดภายใต้แผนการดังกล่าว

คาดว่ารอบการปลดพนักงานหลังจากเดือนมิถุนายนคือ สิงหาคม กันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน และพนักงานที่จะได้รับผลกระทบนั้นมีแทบทุกฝ่ายทั่วโลก

ก่อนหน้าที่จะมีการควบรวมกิจการ Credit Suisse เข้ามา UBS มีพนักงานราวๆ 45,000 คน แต่หลังจากควบรวมกิจการแล้วนั้นจำนวนพนักงานมีมากถึง 120,000 คน

แผนการปลดพนักงานของ UBS ครั้งนี้ตามหลังมาจากแผนการลดต้นทุน 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐที่สถาบันการเงินรายนี้ประกาศเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2023 ที่ผ่านมา แต่ SonntagsZeitung ได้ชี้ว่าสถาบันการเงินรายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์อาจประหยัดต้นทุนมากถึง 13,200 ล้านเหรียญจากแผนดังกล่าว

สาเหตุที่ทำให้ UBS ต้องเร่งปลดพนักงานไวขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลภาคการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ได้เร่งให้สถาบันการเงินรายนี้ต้องเร่งเพิ่มเงินทุนสำรองจากขนาดธุรกิจที่ใหญ่มากขึ้นหลังการควบรวมกิจการ

นักวิเคราะห์คาดว่าหลังจากการควบรวมกิจการของ Credit Suisse สำเร็จจะทำให้ UBS ต้องปลดพนักงานออกมากถึง 30,000 ถึง 35,000 คนทั่วโลก เพื่อที่จะลดต้นทุนดังกล่าว

]]>
1470486
Google ปลดพนักงานบางส่วนอีกครั้ง แต่ไม่ได้ระบุจำนวน ชี้ทำตามแผนปรับโครงสร้างองค์กรให้มีประสิทธิภาพขึ้น https://positioningmag.com/1470258 Thu, 18 Apr 2024 01:30:48 +0000 https://positioningmag.com/?p=1470258 Google ประกาศปลดพนักงานบางส่วนแต่ไม่ได้ระบุจำนวน ขณะเดียวกันก็มีแผนย้ายพนักงานไปประจำที่สำนักงานแห่งอื่นทั้งในและต่างประเทศ โดยแผนดังกล่าวตามมาหลังจากที่ CEO ของบริษัทเตรียมที่จะปรับโครงสร้างองค์กรอีกครั้ง

Business Insider และ Reuters รายงานข่าวว่า Google ได้เตรียมปลดพนักงานบางส่วน และยังเตรียมที่จะโยกย้ายพนักงานบางส่วน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้นเป็นช่วงเวลาที่บริษัทเทคโนโลยีนั้นต้องการที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายภายใต้สภาวะเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน

โฆษกของ Google ได้กล่าวกับ Reuters ว่าการปลดพนักงานในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการปลดพนักงานจำนวนมาก และมีผลกระทบแค่ในส่วนการบริหารภายใน อย่างไรก็ดีไม่ได้มีการบอกว่ามีการปลดพนักงานจำนวนมากน้อยแค่ไหน และระยะในการปลดพนักงานยาวนานแค่ไหน

นอกจากนี้โฆษกของ Google ยังได้กล่าวว่า นับตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2023 และปี 2024 เป็นต้นมาบริษัทได้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและทำงานได้ดีขึ้น ลดความซับซ้อนของโครงสร้างองค์กร และจัดสรรทรัพยากรให้สอดคล้องกับลำดับความสำคัญ

แผนกที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการปลดพนักงานรอบนี้คือแผนกการเงินและแผนกอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ดีในการปลดพนักงานครั้งนี้ พนักงานสามารถที่จะสมัครตำแหน่งงานภายในที่บริษัทได้เปิดรับได้

ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนที่จะโยกย้ายพนักงานบางส่วนไปยังสำนักงานอื่นๆ ที่ Google ได้ลงทุนทั้งในสหรัฐอเมริกา เช่น แอตแลนตา ฯลฯ หรือแม้แต่ในต่างประเทศ เช่น ในประเทศอินเดีย ไอร์แลนด์ ฯลฯ

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา Sundar Pichai ซึ่งเป็น CEO ของ Google ได้ส่งข้อความให้กับพนักงานในบริษัท โดยกล่าวว่าในปี 2024 นี้บริษัทอาจต้องมีการปลดพนักงาน เพื่อที่จะปรับโครงสร้างองค์กร รวมถึงรีดประสิทธิภาพขององค์กรด้วย

ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะต้นทุนทางการเงินที่ยังสูง จากอัตราดอกเบี้ยที่ยังไม่มีท่าทีที่จะลดลง ส่งผลทำให้บริษัทหลายแห่งต้องหันกลับมาลดต้นทุนในการปลดพนักงานอีกครั้ง ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งอาจมีการปลดพนักงานระลอกใหม่ตามมา

]]>
1470258
Tesla ปลดพนักงานมากกว่า 10% ขององค์กร Elon Musk ชี้ทำเพื่อลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพองค์กรและความคล่องตัว https://positioningmag.com/1470133 Mon, 15 Apr 2024 14:55:53 +0000 https://positioningmag.com/?p=1470133 เทสลา (Tesla) ได้ประกาศปลดพนักงานมากกว่า 10% ขององค์กร โดยให้เหตุผลเนื่องจากลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพองค์กรและความคล่องตัว ขณะเดียวกันสถานการณ์ดังกล่าวยังชี้ให้เห็นว่าช่วงเวลาของความยากลำบากของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกนั้นกำลังกลับมาอีกครั้ง

Electrek เว็บไซต์ข่าวที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวหลายแห่ง รวมถึงอีเมลภายในองค์กร ได้ชี้ว่า Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศปลดพนักงานเป็นจำนวนมากกว่า 10% ขององค์กร เพื่อที่จะลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพองค์กร

เว็บไซต์ดังกล่าวได้อ้างอิงจดหมายที่ Elon Musk ซึ่งเป็น CEO ของ Tesla ได้ส่งให้กับพนักงาน โดยชี้ว่าในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการขยายโรงงานขนาดใหญ่ไปทั่วโลก และเนื่องด้วยการเติบโตดังกล่าวทำให้มีหน้าที่ตำแหน่งงานที่ซ้ำซ้อน

ขณะเดียวกัน CEO รายดังกล่าวยังชี้ว่า การที่บริษัทต้องการจะเติบโตในก้าวต่อไปก็จะต้องมีการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว ทำให้หลังจากมีการพิจารณาบริษัทได้ตัดสินใจที่จะปลดพนักงานมากกว่า 10% แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบ แต่ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ เนื่องจากทำให้บริษัทมีความคล่องตัว มีนวัตกรรม และกระหายต่อการเติบโตในรอบต่อไป

Elon Musk เองยังได้กล่าวลากับพนักงานที่ถูกปลดด้วยความขอบคุณในการทำงานหนักและมีส่วนร่วมมากมายในภารกิจของบริษัท ขณะเดียวกันเขาได้กล่าวกับพนักงานที่ยังอยู่กับบริษัทต่อว่ายังมีภารกิจมากมายรออยู่

สำหรับพนักงานที่โดนปลดนั้นคาดว่าจะมีจำนวนมากกว่า 10% ของทั้งองค์กร ซึ่งคาดว่าจะอยู่มากกว่า 14,000 ราย

ข่าวการปลดพนักงานดังกล่าวนตามหลังมาจากยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทนั้นทำได้ต่ำกว่าที่คาด และในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาบริษัทต้องงัดกลยุทธ์ในการลดราคาเพื่อที่จะต่อสู้กับคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน หรือแม้แต่ผู้ผลิตหลายรายในยุโรปและสหรัฐอเมริกา

สถานการณ์ของ Tesla และผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลายรายทั่วโลกในเวลานี้ถือว่าไม่สู้ดีมากนัก เนื่องจากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้านั้นไม่เติบโตเท่าที่ควร และยังรวมถึงการแข่งขันอย่างดุเดือด จนทำให้ท้ายที่สุดบริษัทรายใหญ่จากสหรัฐอเมริการายนี้ต้องงัดมาตรการในการลดค่าใช้จ่ายด้วยการปลดพนักงานออกมา

]]>
1470133
CEO ของ Google บอกพนักงานว่ายังมีการปลดพนักงานเพิ่มในปีนี้ ให้เหตุผลปรับโครงสร้างบริษัทไม่ให้ซับซ้อน https://positioningmag.com/1459297 Thu, 18 Jan 2024 03:54:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1459297 Sundar  Pichai ซึ่งเป็น CEO ของ Google ได้ส่งจดหมายถึงพนักงาน โดยได้กล่าวว่าปีนี้จะยังมีการปลดพนักงานเพิ่ม โดยเขาให้เหตุผลถึงการปรับโครงสร้างบริษัทไม่ให้ซับซ้อน และยังรวมถึงการลงทุนของบริษัทที่ต้องใช้เม็ดเงินมหาศาล

The Verge รายงานข่าวโดยอ้างอิงจดหมายของ Sundar  Pichai ซึ่งเป็น CEO ของ Google ที่ได้ส่งให้กับพนักงานในบริษัท โดยหัวเรือใหญ่ของ Google กล่าวว่าในปี 2024 นี้บริษัทอาจต้องมีการปลดพนักงาน เพื่อที่จะปรับโครงสร้างองค์กร รวมถึงรีดประสิทธิภาพขององค์กรด้วย

จดหมายดังกล่าว Sundar ได้กล่าวว่า “เรามีเป้าหมายที่ทะเยอทะยานและบริษัทจะลงทุนในสิ่งที่สำคัญมากในปีนี้ แต่ในการลงทุนดังกล่าวต้องใช้เม็ดเงินมหาศาล และมันเป็นเรื่องที่น่าลำบาก” ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้น CEO ของ Google เตรียมที่จะปรับโครงสร้างองค์กรอีกครั้ง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้นตามมาจากบริษัทได้ปลดพนักงานฝ่ายขายโฆษณาเป็นจำนวนหลักหลายร้อยคน รวมถึงพนักงานของ Youtube ราวๆ 100 ราย

CEO รายดังกล่าวยังได้กล่าวเสริมว่าการปลดพนักงานในปีนี้ทำไปเพื่อปรับโครงสร้างในองค์กร รวมถึงลดความซับซ้อนขององค์กรลง และการปลดพนักงานครั้งนี้จะไม่เหมือนกับการปลดพนักงานในปี 2023 ที่ผ่านมาที่บริษัทได้ปลดพนักงานไปมากถึง 12,000 คน

Sundar ยังกล่าวว่าบางทีมนั้นอาจได้รับผลกระทบจากการปลดพนักงานดังกล่าว และเขาก็ทราบดีว่ามันยากมากที่จะเห็นเพื่อนร่วมงานและทีมได้รับผลกระทบจากปลดพนักงานในปีนี้

ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็น Google หรือแม้แต่ Amazon ยังมีการปลดพนักงานจำนวนมาก โดยสาเหตุสำคัญนั้นมาจากความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังรวมถึงต้นทุนทางการเงินจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังสูง ส่งผลทำให้บริษัทหลายแห่งยังต้องปรับลดพนักงาน

]]>
1459297
Amazon ปลดพนักงานในหลายธุรกิจทั้ง Twitch และ Prime Video รวมถึงธุรกิจภาพยนตร์อย่าง MGM https://positioningmag.com/1458449 Thu, 11 Jan 2024 08:25:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1458449 Amazon ได้ปลดพนักงานในหลายธุรกิจไม่ว่าจะเป็น Twitch และ Prime Video รวมถึง MGM ธุรกิจภาพยนตร์ของบริษัท ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าการปลดพนักงานนั้นยังไม่จบสิ้นสำหรับยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริการายนี้

สำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานข่าวว่า Amazon ประกาศปลดพนักงานในหลายส่วนธุรกิจของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น Twitch บริการแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดซึ่งเน้นไปยังสังคมของคนเล่นเกมเป็นหลัก ซึ่งมีการปลดพนักงานมากถึง 500 ราย คิดเป็น 35% ของพนักงานทั้งหมดของ Twitch

Dan Clancy ซึ่งเป็น CEO ของ Twitch ได้กล่าวใน Blog ของบริษัทว่า นี่เป็นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากและเจ็บปวด และพนักงานที่ประจำสำนักงานทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในสหรัฐอเมริกา บราซิล หรือแม้แต่สิงคโปร์ ต่างได้รับผลกระทบดังกล่าวหมด

หลังจาก Amazon ซื้อกิจการของ Twitch ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา แต่ธุรกิจของ Twitch เองยังไม่สามารถสร้างกำไรให้กับบริษัทแม่ได้ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีมาตรการปลดพนักงานออกมา

ขณะเดียวกัน Reuters รายงานข่าวว่า Amazon ยังได้ประกาศปลดพนักงานในส่วนของ Prime Video รวมถึงธุรกิจภาพยนตร์อย่าง MGM โดยในจดหมายของผู้บริหารในส่วน Prime Video ได้กล่าวว่า ต้องการที่โฟกัสการลงทุนในส่วนที่สร้างผลดีแก่บริษัท และลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็น

Amazon ได้รุกเข้าสู่ธุรกิจความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นดีลการซื้อกิจการ MGM มูลค่ามากถึง 8,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงปี 2021 และยังได้ลงทุนในหลากหลายคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นด้านความบันเทิง ไปจนถึงการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาในหลายประเทศ

อย่างไรก็ดีบริษัทได้ปลดพนักงานออกเป็นรวมกันเป็นจำนวนมากถึง 27,000 รายในปี 2023 ที่ผ่านมา และยังปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็นออก สาเหตุสำคัญที่บริษัทชี้แจงคือรายได้ของบริษัทที่ลดลงจากสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เนื่องจากผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย ขณะเดียวกันสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวนั้นส่งผลทำให้บริษัทต้องพิจารณาถึงการใช้จ่ายทั้งหมดเช่นกัน

ความเคลื่อนไหวในการปลดพนังานรอบใหม่ของ Amazon ในปี 2024 นั้นยังแสดงให้เห็นว่า แม้ว่า Amazon จะปลดพนักงานไปรอบใหญ่แล้วในปี 2023 เนื่องด้วยความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และต้นทุนจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง ยังทำให้หลายกิจการยังต้องประกาศปลดพนักงาน ซึ่งรวมถึงยักษ์ใหญ่ไอทีรายนี้ด้วย

ที่มา – CNBC, BBC, CNN

]]>
1458449
สรุปวงการ ‘ไอที’ 2023 ปีแห่ง เอไอ, การควบรวม และปลดพนักงาน  https://positioningmag.com/1457349 Thu, 28 Dec 2023 01:43:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1457349 สำหรับวงการไอทีในปีนี้คงต้องยกให้เป็นปีแห่งการ ควบรวม, เอไอ และการ ปลดพนักงาน อย่างแท้จริง เพราะทั้งไทยและต่างประเทศต่างก็มีดีลการควบรวมใหญ่ ๆ ที่สำเร็จเสร็จสิ้นในปีนี้ ขณะที่เอไอเองก็กลายเป็น Topic สำคัญที่ทุกคนพูดถึง แต่นอกจากเรื่องควบรวมกับเอไอ ยังมีเหตุการณ์อะไรน่าสนใจอีกบ้าง Positioning สรุปมาไว้แล้ว 

ควบรวม True-Dtac

หลังจากที่มีข่าวลือตั้งแต่ปี 2022 และแม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านจากหลาย ๆ ที่ แต่ในที่สุดวันที่ 1 มีนาคม 2023 True และ Dtac บอร์ 2 และ 3 ของตลาดโทรคมนาคมไทย (ตามลำดับ) ก็ควบรวมกันสำเร็จ โดยมีมูลค่าดีลสูงถึง 1.38 แสนล้านบาท พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

อย่างไรก็ตาม แม้จะควบรวมกันสำเร็จแต่ทั้ง True และ Dtac ก็ยังคงทำตลาดภายใต้แบรนด์เดิมไปอีก 3 ปี ตามเงื่อนไขของกสทช. และหลังจากที่ควบรวมกันได้ไม่ถึงปี หลายคนเริ่มบ่นว่าค่าบริการปรับแพงขึ้น แต่คุณภาพลดลง จนในที่สุด กสทช. ก็ออกมาลงดาบให้ต้องลดค่าบริการลง 12%

โดยหลังจากควบรวม ส่งผลให้ทรู คอร์ปอเรชั่นเป็น เบอร์ 1 ของตลาด มีลูกค้ารวม 51.7 ล้านเลขหมาย (True 32.6 + Dtac 19.1 ล้านเลขหมาย) แซงหน้า AIS ที่มี 42.8 ล้านเลขหมาย

ควบรวม AIS Fiber-3BB

ถ้า True ได้ Dtac ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ตลาดโมบาย AIS เองก็ขอดึง 3BB เข้ามาเป็นครอบครัวเพื่อขึ้นเป็นเบอร์ 1 ตลาดเน็ตบ้าน โดยดีลนี้ AIS ได้ยื่นเรื่องถึงกสทช. เพื่อขออนุญาตซื้อหุ้น TTTBB หรือ 3BB ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2022 ซึ่งบอร์ดก็ได้พิจารณาการควบรวมไปเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมา เรียกว่าใช้เวลาเกือบ 1 ปีพอดี กว่าดีลมูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท จะเสร็จสิ้น

ที่ผ่านมา 3BB มีลูกค้าจำนวน 2.31 ล้านครัวเรือน ถือเป็นเบอร์ 3 ของตลาด ขณะที่ AIS เป็นเบอร์ 2 ของตลาดด้วยจำนวนลูกค้า 2.38 ล้านครัวเรือน ซึ่งการควบรวมนี้ทำให้เอไอเอสมีลูกค้ารวม 4.69 ล้านครัวเรือน ขึ้นเป็นอันดับ 1 แซงหน้า True ที่มีลูกค้า 3.79 ล้านครัวเรือน

ปีของเอไอ

หลังจากที่ ChatGPT เอไอสุดอัจฉริยะที่พัฒนาโดย OpenAI สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก ทำให้ Microsoft ยอมที่จะควักเงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลงในทุนกับ OpenAI โดยได้ผลตอบแทนเป็นการใช้โมเดลของ OpenAI กับผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ อาทิ Microsoft Office ไม่ว่าจะเป็น Outlook, PowerPoint, Excel และ Word

หลังจากที่ Microsoft ได้ลงทุนใน OpenAI แล้ว บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อื่น ๆ ก็ไม่น้อยหน้า อย่าง Google ประกาศเปิดตัว Bard เอไอแชทบอทมาชนกับ ChatGPT จากนั้นก็เปิดตัว ตัวโมเดลเอไอของตัวเองในชื่อ Gemini ในเดือนธันวาคม นอกจากนี้ก็มี Adobe ที่เปิดตัว Firefly เครื่องมือช่วยสร้างภาพโดยเอไอ

ภาพจาก Shutterstock

Microsoft ปิดดีล Activision Blizzard

นอกจากนี้ Microsoft ยังปิดดีลค่ายเกม Activision Blizzard ในมูลค่าสูงถึง 68,700 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่ประกาศว่าจะเข้าซื้อตั้งแต่ต้นปี 2021 แต่ดีลก็ต้องสะดุดเนื่องจากถูกหน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักรและยุโรประงับการเข้าซื้อ เพราะกังวลว่าอาจจะ ผูกขาดธุรกิจเกม โดยหลังจากที่ Microsoft ได้ Activision Blizzard ทำให้ Microsoft ขึ้นแท่นเป็นบริษัทเกมอันดับ 3 ของโลก เป็นรองจาก Tencent และ Sony 

สำหรับ Activision Blizzard ถือเป็นค่ายเกมที่มีเกมดัง ๆ มากมาย อาทิ Call of Duty, Candy Cruch, Overwatch, Diablo และ Warcraft

ปีแห่งการลดคนของบริษัทไอที

เริ่มปลดพนักงานตั้งแต่ปี 2022 ลากยาวมาถึง 2023 ที่รวม ๆ แล้วแตะหลักแสนคนเลยทีเดียว สำหรับพนักงานบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของโลกที่แทบจะนับนิ้วไม่ไหว โดยข้อมูลจาก Trueup แพลตฟอร์มติดตามการเลิกจ้างงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลกพบว่า ปีนี้มีบริษัทเทคโนโลยีถึง 1,992 ราย ที่ทำการปลดพนักงาน รวมแล้วเป็นจำนวนสูงถึง 428,335 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ธ.ค. 2023) ซึ่ง สูงกว่าปีก่อนถึง 50% โดยบริษัทใหญ่ ๆ ที่ลดคน ได้แก่

  • Amazon – 27,000 คน
  • Google – 12,000 คน
  • Microsoft – 10,000 คน
  • Meta – 10,000 คน
  • Nokia – 14,000 คน
  • Spotify – 1,500 คน
  • Dell – 6,650 คน
  • Accenture – 19,000 คน
  • Zoom – 1,300 คน

NFT ที่ล่มสลาย

NFT หรือ Non-fungible token กระแสรุ่งพุ่งแรงในปี 2021-2022 ที่ตลาดสามารถเติบโตได้ถีง 21,000% มีมูลค่าตลาดทะลุ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ในปี 2023 ตลาด NFTs ไม่ต่างอะไรจากอากาศ เพราะ 95% ของงานศิลปะดิจิทัลในตลาดลดมูลค่าลงเหลือ 0 ETH ส่วนคอลเลกชันที่ยังมีการถือครองแลกเปลี่ยน 5% ที่เหลือนั้นส่วนใหญ่มีราคาเพียงชิ้นละ 5-100 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 180-3,600 บาท) กลายเป็นว่านักสะสม 23 ล้านคน คงเอามือมาก่ายหน้าผากไม่พอแล้ว

ยกตัวอย่าง Bored Ape Yacht Club หนึ่งในคอลเลกชัน NFT ชื่อดังที่เคยมีมูลค่าหลายล้าน กลับตกลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองปี โดยคอลเลกชัน NFTs Bored Ape Yacht Club ของคนดังอย่าง Justin Bieber ที่เคยซื้อมาในราคา 1.3 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันมูลค่าลดลงประมาณ 95% เหลือเพียงประมาณ 59,000 ดอลลาร์เท่านั้น

จาก Twitter สู่ X และ Threads คู่แข่งใหม่

นับตั้งแต่ที่ อีลอน มัสก์ เข้ามาเป็นเจ้าของ Twitter แพลตฟอร์มก็อยู่ในช่วงขาลง นอกจากนี้ มัสก์ยังเลือกที่จะ รีแบรนด์ใหม่ จาก Twitter เป็น X ชื่อฟังก์ชันอย่าง ทวีต และ รีทวีต ก็เปลี่ยนชื่อเป็น โพสต์ และ รีโพสต์ เหมือนแพลตฟอร์มปกติทั่วไป อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่มัสก์เปลี่ยนจาก Twitter เป็น X ก็เพราะเป้าหมายที่ต้องการเปลี่ยนแพลตฟอร์มให้เป็นซูเปอร์แอปฯ

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะขาลงของ Twitter หรือเปล่า ที่ทำให้ Meta เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลฯ อย่าง Facebook และ Instagram ได้เปิดตัว Threads แพลตฟอร์มที่มีฟีเจอร์คล้ายกับ Twitter โดยในช่วงที่เปิดตัวเพียงแค่ 7 ชั่วโมงที่เปิดให้โหลด Threads ก็มียอดผู้ใช้กว่า 10 ล้านราย แม้ว่าหลังจากนั้นการใช้งานจะลดลงฮวบฮาบก็ตาม

ปีแห่งการขึ้นราคาสตรีมมิ่ง

2 แพลตฟอร์มใหญ่อย่าง Netflix และ Disney+ ต่างจับมือกัน ขึ้นราคา โดยหลังจากที่ Netflix ประสบความสำเร็จในการป้องกันการแชร์รหัสผ่าน โดยใครที่มีปาร์ตี้นอกเหนือจากบ้านเดียวกันต้องจ่ายเพิ่มอีก 99 บาท แต่ดูเหมือนแค่นั้นยังไม่พอ เพราะในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Netflix ได้ประกาศขึ้นราคาสำหรับบางแผนการใช้งานใน 3 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส แม้ไทยจะยังไม่ขึ้นราคา แต่ก็ไม่รู้ว่าปีหน้าจะรอดไหม

ส่วน Disney+ Hotstar ในไทยขึ้นแน่นอน โดยตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายนเป็นต้นไป จะมีการปรับเปลี่ยนใหม่จาก 799 บาทต่อปี จะใช้ได้สำหรับมือถือเท่านั้น ถ้าจะรับชมผ่านทีวีต้องสมัคร Disney+ Hotstar พรีเมียม ซึ่งมีค่าบริการรายเดือน 289 บาท และค่าบริการรายปี 2,290 บาท และในปีหน้าคาดว่าแพลตฟอร์มจะออกมาตรการป้องกันการแชร์รหัสผ่านเหมือนกับ Netflix ด้วย

สมาร์ทโฟนตัวแพงขายดี

อ้างอิงจากข้อมูลของ IDC พบว่า ตลาดสมาร์ทโฟนไทยช่วง Q3/2023 เติบโตขึ้น 1.6% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ถือเป็นการสิ้นสุดการหดตัวติดต่อกัน 6 ไตรมาสติด และที่น่าสนใจคือ การเติบโตในกลุ่มพรีเมียม (ราคา 35,000 บาทขึ้นไป) เติบโตได้ถึง +25.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแรงหนุนจากการเปิดตัวรุ่นใหม่ เช่น iPhone 15 series ของ Apple และ Galaxy Z Flip5 และ Galaxy Z Fold5 ของ Samsung 

ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจหากผู้เล่นหลายรายจะเน้นหนักไปที่สมาร์ทโฟนเรือธง รวมถึง สมาร์ทโฟนจอพับ เพื่อที่จะดึงดูดผู้บริโภคกระเป๋าหนักให้มาซื้อ เพราะปัญหาเศรษฐกิจไม่กระทบคนมีเงิน ทำให้ผู้บริโภคในกลุ่มนี้สามารถ เปลี่ยนมือถือบ่อยกว่า และมีแนวโน้มจะ ซื้อในราคาที่สูงขึ้น ทำให้สินค้าในกลุ่มนี้มีการ แข่งขันราคาน้อย กว่ากลุ่มล่าง ดังนั้น แบรนด์มือถือก็คิดแล้วว่าจะไปหั่นราคาแข่งกันในตลาดเริ่มต้นทำไม มาจับพรีเมียมดีกว่าเพราะผู้บริโภคยอมจ่าย

จะเห็นว่ากระเเสบางอย่างที่เคยมาแรงสุด ๆ ในปีที่ผ่านมา กลับกลายเป็นดาวดับในปีนี้ เช่น NFT ที่แทบจะกลายเป็นของไร้ค่าไปเลย ซึ่งก็ต้องมาดูกันว่าปีหน้าในวงการไอทีจะมีอะไรใหม่ ๆ ที่ขึ้นมาเป็นกระแสอีกบ้าง หรืออะไรที่ในปีนี้ที่จะกลายเป็นดาวดับในปีหน้า

]]>
1457349
‘โนเกีย’ เล็งโละพนักงานถึง 14,000 ตำแหน่งเพื่อลดต้นทุน หลังผลประกอบการ Q3 ดิ่งฮวบ! https://positioningmag.com/1448702 Thu, 19 Oct 2023 07:22:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1448702 โนเกีย (Nokia) ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของฟินแลนด์ เตรียมปลดพนักงานมากถึง 14,000 คน เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เนื่องจากบริษัทกำลังเผชิญกับสภาพแวดล้อมทางการตลาดที่ท้าทาย

ปัจจุบัน โนเกีย ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่บริษัทเผชิญกับอุปสรรคจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และจากการลดการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานโดยผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ โดยไตรมาส 3 โนเกียรายงานรายได้สุทธิ ลดลง 20% เมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาเหลือ 4.98 พันล้านยูโร กำไรลดลง 69% เหลือ 133 ล้านยูโร

ขณะที่รายได้หลักจาก ธุรกิจเครือข่ายมือถือ ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท ลดลง 24% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยกำไรจากการดำเนินงาน ลดลง 64% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากผู้ให้บริการในสหรัฐฯ และยุโรปลดการลงทุนด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 5G ลง

จากผลประกอบการที่ไม่ดี ส่งผลให้โนเกียต้อง ลดพนักงานมากถึง 14,000 ตำแหน่ง เพื่อจะ ลดต้นทุน โดยคาดว่าการลดพนักงานครั้งนี้อาจช่วยให้บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรได้ 10-15% ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะลดต้นทุนรวมระหว่างปี 2566-2569 ให้ได้ 800-1.2 พันล้านยูโร ปัจจุบัน โนเกียมีพนักงานทั่วโลกประมาณ 86,000 คน

Source

]]>
1448702