ฮ่องกงแลนด์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 24 May 2024 12:56:33 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ส่องโมเดล “ถนนหอการค้าไทย” จาก “เพอร์เฟค” ตัดถนนเปลี่ยนทำเล ดึง 8 อสังหาฯ ชื่อดังร่วมสร้างเมืองใหม่ https://positioningmag.com/1475036 Fri, 24 May 2024 12:17:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1475036 “เพอร์เฟค” โชว์เคสโมเดลธุรกิจบน “ถนนหอการค้าไทย” ถนนส่วนบุคคลความยาว 4 กิโลเมตรที่บริษัทลงทุนตัดและดูแลเองเพื่อ “พลิกทำเล” จากที่ดินตาบอดสู่ย่านที่อยู่อาศัย 1,300 ไร่ พร้อมดึงอสังหาฯ ชื่อดังรวม 8 ค่ายซื้อที่ดินจับมือลงทุนสร้างเมืองใหม่ไปด้วยกัน

“ถนนหอการค้าไทย” จ.นนทบุรี เป็นถนนใหม่ที่เพิ่งตัดเสร็จเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ถนนเส้นนี้มีความยาว 4 กิโลเมตร เชื่อมต่อจากฝั่งถนนชัยพฤกษ์ ทะลุไปออกถนนทางหลวง 345 และเป็นถนนขนาดใหญ่ 6 เลนพร้อมเกาะกลางปลูกต้นไม้ตกแต่ง

ปัจจุบันสองข้างทางถนนเรียงรายด้วยหมู่บ้านสารพัดแบรนด์ เพราะเจ้าของถนนและที่ดินรอบข้างคือ “บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” เป็นผู้เก็บสะสมที่ดิน ลงทุนตัดถนนเอง และดูแลบำรุงรักษาถนน เพื่อพลิกทำเลมาเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย

ถนนหอการค้าไทย
แผนที่ที่ดิน 1,300 ไร่ของเพอร์เฟคและพันธมิตรที่มาร่วมลงทุนซื้อที่ดิน-พัฒนาโครงการ

“วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต” กรรมการผู้จัดการ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มเข้ามาทยอยซื้อที่ดินในย่านนี้มาเกิน 10 ปีแล้ว หลังจากเล็งทำเลแล้วมองว่าที่ดินย่านถนนรัตนาธิเบศร์และถนนแจ้งวัฒนะกำลังจะ ‘เต็ม’ ในไม่ช้า ทำให้เชื่อว่าความเจริญจะขยายข้ามแม่น้ำมาทางสะพานพระราม 4 เข้าสู่ถนนชัยพฤกษ์

ทำให้เพอร์เฟคซุ่มลงทุนซื้อที่ดินตาบอดที่ลึกเข้าไปจากถนนชัยพฤกษ์ซึ่งสมัยนั้นยังเป็นทุ่งนา เมื่อเก็บที่ดินได้รวมกว่า 1,300 ไร่ บริษัทจึงทุ่มทุน 400 ล้านบาทเพื่อตัด “ถนนหอการค้าไทย” พลิกทำเลจากที่ดินตาบอดให้กลายเป็นทำเลที่เข้าออกถนนใหญ่ได้ถึง 2 ทาง โดยถนนนี้สร้างเสร็จปี 2557 และเป็นจุดเริ่มต้นในการชักชวนเพื่อนร่วมวงการมาลงทุน

 

ช่วยกันลงทุนเพื่อให้ทำเล ‘เกิด’ เร็ว

สไตล์การลงทุนของเพอร์เฟคมักจะชอบเก็บที่ดินแปลงใหญ่และแบ่งขายให้นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เจ้าอื่น ไม่ได้ลงทุนเองทั้งหมด แปลงนี้ก็เช่นกัน ปัจจุบันมีอสังหาฯ ทั้งหมด 8 ค่ายที่มาลงทุนหรือจับจองที่ดินอยู่บนถนนหอการค้าไทย ได้แก่ เพอร์เฟค, ฮ่องกงแลนด์, เอสซี แอสเสทฯ, แสนสิริ, พฤกษา, เอพี, พราว เรียล เอสเตท และเซ็นทรัลพัฒนา

พื้นที่นี้มีการพัฒนาโครงการไปแล้ว 920 ไร่ รวมทุกค่าย 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกันกว่า 30,000 ล้านบาท และทางเพอร์เฟคมีการประเมินว่าถ้าทุกค่ายพัฒนาที่ดินในมือจนครบ 1,300 ไร่ จะมีมูลค่าโครงการบนพื้นที่นี้รวมกว่า 50,000 ล้านบาท และจะทำให้มีครอบครัวเข้ามาอาศัยในบริเวณนี้กว่า 4,600 หลังคาเรือน!

ถนนหอการค้าไทย
จำแนกที่ดินในพื้นที่ถนนหอการค้าไทย

วงศกรณ์อธิบายว่า ที่ตัดสินใจปล่อยขายให้อสังหาฯ เจ้าอื่นด้วย เพราะการมีหลายบริษัทมาพัฒนาโครงการพร้อมกัน จะทำให้ทำเล ‘เกิด’ เร็วกว่ามีบริษัทเดียว ด้วยการช่วยกันโปรโมตทำการตลาดจะทำให้คนรู้จักถนนหอการค้าไทยเร็วขึ้น และลูกค้าก็จะมีทางเลือกมากขึ้น มีบ้านหลายแบบ หลายราคา

ถนนเส้นนี้มีบ้านที่ยังอยู่ระหว่างขายให้เลือกหลายโครงการ เช่น โครงการ “แกรนด์ พลีโน่ แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์” ของค่ายเอพี ซึ่งเป็นบ้านแฝดที่เพิ่งเปิดตัว ราคาเริ่ม 6.09 ล้านบาท ขยับขึ้นมาเป็นบ้านเดี่ยว “เดอะ ปาล์ม แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์” ของค่ายพฤกษา ราคาเริ่ม 8.99 ล้านบาท หรือจะเป็น “บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์” ของค่ายเอสซี แอสเสทฯ ราคาเริ่ม 9.99 ล้านบาท รวมถึงมีระดับคฤหาสน์ในโครงการ “เลค เลเจนด์ แจ้งวัฒนะ” โครงการร่วมทุนของเพอร์เฟคกับฮ่องกงแลนด์ ที่ทำราคาสูงสุดหลังละ 130 ล้านบาท

ส่วนพันธมิตรใหม่ที่เพิ่งเข้ามาอย่าง “พราว เรียล เอสเตท” และ “เซ็นทรัลพัฒนา” จะเข้ามาพัฒนาโครงการแนวราบเช่นกัน แต่ยังอยู่ระหว่างออกแบบว่าจะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยประเภทใดในระดับราคาไหน

 

“SISB” เพิ่มให้เมืองครบเครื่อง หวังหาพาร์ทเนอร์ทำ “คอมมูนิตี้ มอลล์”

นอกจากการดึงที่อยู่อาศัยหลากหลายแบรนด์แล้ว ชุมชนบนถนนหอการค้าไทยยังมีการดึง “โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ (SISB) นนทบุรี” เข้ามาอยู่บนถนนเส้นนี้ด้วย ซึ่งทำให้มีตัวเลือกด้านการศึกษาให้กับบุตรหลาน

ถนนหอการค้าไทย
ถนนหอการค้าไทย

ส่วนพื้นที่รีเทลนั้น บริเวณรอบๆ ถนนหอการค้าไทยมีการเปิดศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 2557 ไม่ว่าจะเป็น “เดอะ คริสตัล พีทีที ชัยพฤกษ์” “โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์” หรือ “โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์”

แต่ภายบนถนนหอการค้าไทยเองยังไม่มีคอมมูนิตี้ มอลล์ จะมีเฉพาะโลตัสและอาคารพาณิชย์ ซึ่งทางวงศกรณ์กล่าวว่าบริษัทยังมีพื้นที่ที่กันไว้สำหรับพัฒนาคอมมูนิตี้ มอลล์ได้ อยู่ระหว่างเจรจาหาพันธมิตรที่สนใจลงทุน

สรุปรวมที่ดินบนถนนหอการค้าไทยยังเหลือแปลงที่ดินว่างอีก 386 ไร่จาก 1,300 ไร่ (*ไม่รวมแปลงของ ม.หอการค้าไทยที่มี 215 ไร่) ทั้งหมดนี้กระจายอยู่ในมือพันธมิตรทั้ง 8 บริษัท โดยวงศกรณ์คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีก 5 ปีกว่าที่จะพัฒนาหมด และจะทำให้ชุมชนนี้สมบูรณ์และคึกคักยิ่งกว่าวันนี้

]]>
1475036
“เพอร์เฟค-ฮ่องกงแลนด์” เปิดตัว “บ้านร้อยล้าน” ตลาดบ้านหรูไปได้ดี กลุ่ม Young Rich เติบโตสูง https://positioningmag.com/1388179 Wed, 08 Jun 2022 09:55:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1388179
  • “พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” จับมือ “ฮ่องกงแลนด์” เปิดตัวโครงการ “เลค เลเจนด์ บางนา-สุวรรณภูมิ” บ้านร้อยล้าน ริมทะเลสาบร้อยไร่ ดึงลูกค้านักธุรกิจไทย-จีน
  • มองตลาดปี 2565 กลุ่มบ้านหรูยังไปได้ดีต่อเนื่องจากปีก่อน ลูกค้าไม่กระทบจากเศรษฐกิจ เล็งกลุ่ม ‘Young Rich’ รวยเร็วด้วยตนเอง
  • “เลค เลเจนด์ บางนา-สุวรรณภูมิ” โครงการที่สองของ “พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” ที่ร่วมทุนกับ “ฮ่องกงแลนด์” และถือเป็นโครงการที่มีบ้านแพงที่สุดมากที่สุดที่เพอร์เฟคเคยพัฒนา ปัจจุบันทำยอดขายไปกว่า 1,000 ล้านบาทแล้ว แม้ยังไม่เปิดตัวแบบแกรนด์โอเพนนิ่ง

    “วิลเลียม เจมส์ พาร์ค ไบร์ท” Director เอชเคแอล (ไทยดีเวลลอปเม้นท์) จำกัด กล่าวย้อนถึงการเข้ามาลงทุนในไทยของบริษัท เกิดขึ้นครั้งแรกช่วงปี 2543 แต่เข้ามาพัฒนาเพียง 1 โครงการและยังไม่มีการพัฒนาโครงการอื่นต่อ จนกระทั่งปี 2561 ที่กลับเมืองไทยอีกครั้ง เลือกกระจายการลงทุน 4 โครงการกับผู้ประกอบการ 3 แห่ง ได้แก่ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค, บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (โครงการมิกซ์ยูสแปลงสถานทูตอังกฤษ) และบมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (คอนโดมิเนียม ถ.วิทยุ ตรงข้ามสถานทูตอังกฤษเดิม)

    เพอร์เฟค ฮ่องกงแลนด์
    เลค เลเจนด์ บางนา-สุวรรณภูมิ

    สำหรับการร่วมทุนกับเพอร์เฟค ขณะนี้มี 2 โครงการ คือ เลค เลเจนด์ แจ้งวัฒนะ มูลค่าโครงการ 5,400 ล้านบาท เปิดตัวเมื่อปี 2563 เป็นบ้านเดี่ยวราคา 26-115 ล้านบาท และ เลค เลเจนด์ บางนา-สุวรรณภูมิ มูลค่าโครงการ 6,300 ล้านบาท ที่พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว

    ฮ่องกงแลนด์นั้นมีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาฯ มา 130 ปี ทั้งในจีน ฮ่องกง ไทย และอินโดนีเซีย มีความเชี่ยวชาญทั้งโครงการเชิงพาณิชย์และที่พักอาศัย โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาฯ ระดับซูเปอร์ลักชัวรี โดยปัจจุบันมีสำนักงานทั้งในฮ่องกงและสิงคโปร์

    อาคารคลับเฮาส์ริมทะเลสาบ

    “วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต” กรรมการผู้จัดการ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กล่าวถึงโครงการ “เลค เลเจนด์ บางนา-สุวรรณภูมิ” มาสเตอร์พีซแห่งใหม่จากบริษัท ตั้งอยู่บนถนนกิ่งแก้ว ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เนื้อที่โครงการ 83 ไร่ (ไม่รวมทะเลสาบ) พัฒนาเป็นบ้านซูเปอร์ลักชัวรี 127 หลัง แบ่งเป็นบ้านเลคไซด์ วิลล่า ริมทะเลสาบ 46 หลัง ราคา 99-130 ล้านบาท และ บ้านการ์เดน วิลล่า 81 หลัง ราคาเริ่มต้น 42 ล้านบาท

    โถงชั้นล่าง บริเวณครัวฝรั่ง ทานอาหาร และห้องนั่งเล่น ของบ้านแบบเลคไซด์ วิลล่า เพดานแบบดับเบิ้ลวอลุ่ม รับวิวทะเลสาบได้เต็มที่
    สระว่ายน้ำพร้อมพื้นที่ Lake Terrace สามารถปรับเป็นพื้นที่จัดเลี้ยงได้

    ไฮไลต์ของโครงการนี้คือการออกแบบบ้านล้อมรอบทะเลสาบขนาด 100 ไร่ แรงบันดาลใจจาก Lake Como ประเทศอิตาลี และเป็นบ้าน 3 ชั้นแบบเล่นระดับ contoured landscape ผู้อยู่อาศัยจะเดินเข้าบ้านจากชั้นกลางบ้าน หากเดินลงชั้นล่างจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องครัว-ทานอาหาร และสระว่ายน้ำริมทะเลสาบ ส่วนชั้นบนจะเป็นส่วนห้องนอนและรูฟท็อป ทำให้การอยู่อาศัยเสมือนพักในรีสอร์ตใกล้ชิดธรรมชาติ

    เพอร์เฟค ฮ่องกงแลนด์
    ห้องนั่งเล่นในบ้านแบบการ์เดน วิลล่า เทกวิวสวนส่วนตัวของบ้าน

    เนื่องจากเป็นบ้านริมทะเลสาบ ทำให้ใช้การก่อสร้างแบบพิเศษเพื่อแก้ไขเรื่องดินอ่อนของกรุงเทพฯ ด้วยเทคโนโลยี Vacuum Consolidation Method (VCM.) ดูดน้ำออกจากดินเพื่อให้ดินแน่น ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับการก่อสร้างรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิ

     

    ไทย-จีนสนใจ ขายแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท

    วงศกรณ์กล่าวต่อว่า โครงการนี้ได้รับความสนใจทั้งจากชาวไทยและชาวจีน ทำยอดขายไปแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท จากการขายบ้าน 12 หลัง โดยกลุ่มคนจีนจะซื้อผ่านนิติบุคคลที่จดทะเบียนในไทย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการที่ลงทุนทำธุรกิจในไทยอยู่แล้ว และต้องการที่พักอาศัยประเภทแนวราบ จากโลเคชั่นของโครงการนี้อยู่ในย่านอุตสาหกรรมและใกล้สนามบิน ทำให้เป็นทำเลที่ดึงดูดกลุ่มเจ้าของธุรกิจ

    วิลเลียมเสริมว่า พฤติกรรมผู้บริโภคหลังผ่าน COVID-19 มีแนวคิดที่เปลี่ยนไป จากเคยสนใจคอนโดฯ ขณะนี้หันมาสนใจบ้านเดี่ยวมากกว่า เพราะต้องการพื้นที่มากขึ้นและได้ใกล้ชิดอากาศบริสุทธิ์ ทำให้บ้านเดี่ยวขายดี

    (ซ้าย) “วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต” กรรมการผู้จัดการ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และ (ขวา) “วิลเลียม เจมส์ พาร์ค ไบร์ท” Director เอชเคแอล (ไทยดีเวลลอปเม้นท์) จำกัด

    การร่วมทุนกันของเพอร์เฟคและฮ่องกงแลนด์จะยังมีต่อไป โดยวงศกรณ์เผยว่า ปี 2566 จะมีการร่วมทุนกันอีกหนึ่งโครงการ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวย่านแจ้งวัฒนะ แต่ลดระดับลงมาเป็นกลุ่มไฮเอนด์ราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป

     

    “บ้านหรู” ยังแข็งแกร่ง – กลุ่ม Young Rich มาแรง

    ตั้งแต่ต้นปี 2565 เพอร์เฟคเคยประกาศไว้ว่าบริษัทมีแผนเปิดโครงการเป็นกลุ่มบ้านหรู 40% ของพอร์ตเปิดตัวใหม่ปีนี้ ซึ่งมากกว่าปกติที่จะมีสัดส่วนราว 2025% มาถึงช่วงกลางปีก็ยังเห็นได้ชัดว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง

    วงศกรณ์อ้างอิงข้อมูลจาก AREA เมื่อปี 2564 ตลาดบ้านลักชัวรีราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป มีมูลค่าตลาด 43,500 ล้านบาท โดยเพอร์เฟคมีสัดส่วนในตลาดนี้ 6% ส่วนปี 2565 ตลาดบ้านลักชัวรีเพิ่มขึ้นมาเป็น 47,000 ล้านบาท และเพอร์เฟคขึ้นมามีส่วนแบ่งตลาดเป็น 11% เห็นได้ว่าตลาดบ้านลักชัวรียังคงเติบโต

    ลักษณะกลุ่มลูกค้าบ้านซูเปอร์ลักชัวรีก็เปลี่ยนไป กลุ่ม ‘Young Rich’ อายุประมาณ 40 ปีกลายเป็นเป้าหมายผู้ซื้อ เพราะยุคนี้มีคนรุ่นใหม่ที่รวยเร็ว สร้างตัวด้วยตนเองทั้งจากการทำธุรกิจและกลุ่มยูทูปเบอร์ที่ประสบความสำเร็จ ต่างจากในอดีตที่ผู้ซื้อบ้านหรูมักจะเป็นคนวัย 60 ปีขึ้นไปที่ซื้อเพราะมีการขยายเจนเนอเรชันในครอบครัว ทำให้บ้านลักชัวรีเป็นที่ต้องการสูง

    อัตราเงินเฟ้อไทยที่ขึ้นมาถึง 7-8% ก็ยิ่งทำให้การยึดตลาดลักชัวรีเป็นหลักเหมาะสมกับสถานการณ์มากกว่า โดยวงศกรณ์ฉายภาพว่า ต้นทุนการก่อสร้างขณะนี้ปรับขึ้นมาแล้ว 7-10% ซึ่งจะส่งผลกับราคาบ้านอย่างน้อย 5% ตั้งแต่ครึ่งปีหลังนี้ และแน่นอนว่าการปรับขึ้นในกลุ่มลักชัวรีจะทำได้ง่ายกว่า เพราะลูกค้ามีความอ่อนไหวด้านราคาน้อยกว่า ผลกระทบจากเศรษฐกิจค่อนข้างน้อย ยังกู้สินเชื่อบ้านได้ง่าย

    “ลองนึกภาพบ้านราคา 5 ล้านบาท ถ้าต้องขึ้นราคา 5% ก็คือเพิ่มอีก 250,000 บาท การขึ้นมาเท่านี้มีผลกับความรู้สึกลูกค้าที่จะซื้อบ้าน” วงศกรณ์กล่าว

    ]]>
    1388179
    คอนเฟิร์มแล้ว ! เซ็นทรัลควงฮ่องกงแลนด์ คว้าที่ดินสถานทูตอังกฤษ 1.9 หมื่นล้าน คาดทำมิกซ์ยูส https://positioningmag.com/1155359 Thu, 01 Feb 2018 11:05:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1155359 รอคอยกันมาร่วม 1 ปี ในที่สุดก็ได้ “ผู้ชนะประมูลที่ดินสถานทูตอังกฤษ” เนื้อที่ 25 ไร่ บนถนนวิทยุอย่างเป็นทางการ  

    โดยกระทรวงการต่างประเทศ สหราชอาณาจักร ได้แจ้งถึงขายที่ดินดังกล่าวให้กับ “ฮ่องกงแลนด์” และ “กลุ่มเซ็นทรัล” ร่วมทุนกันคว้าประมูลไปในราคาตารางวาละ 2 ล้านบาท รวม 420 ล้านปอนด์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 19,000 ล้านบาท ส่งผลให้ที่ดินแปลงดังกล่าวติดทำเนียบการ “ทุบสถิติ” ราคาที่ดินแพงที่สุดในประเทศไทย

    สำหรับการได้ที่ดินแปลงใหญ่ 25 ไร่ กลุ่มเซ็นทรัล คาดว่า พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ เพื่อเชื่อมต่อกับโครงการเซ็นทรัลเอ็มบาสซี และการได้พันธมิตรอย่างฮ่องกงแลนด์ จะซีนเนอร์ยีธุรกิจอสังหาฯ ให้มีศักยภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการมีอาคารสำนักงานในพื้นที่ดังกล่าว จะช่วยเพิ่ม Traffic หรือประชากรได้มากขึ้น ส่งผลดีกับเซ็นทรัลเอมบาสซีได้ด้วย

    ฮ่องกงแลนด์” ถือเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของฮ่องกง และเป็นบริษัทในเครือของจาร์ดีน แมธทีสัน กรุ๊ป ซึ่ง มีโครงการอสังหาฯประเภทอาคารสำนักงาน โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ค้าปลีก อยู่ทั่วทั้งเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปินส์ กัมพูชา เป็นต้น

    “ที่ดินแปลงขนาดใหญ่ จะทำอสังหาฯ ประเภทเดียว เช่น คอนโดมิเนียม ก็ต้องเป็นโครงการหรูเป็น 10 ตึก ราคาขายต้องไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.)ทุกห้อง คงไม่ไหว การทำโครงการมิกซ์ยูส และมีฮ่องกงแลนด์มาร่วมทุนก็จะช่วยยกระดับศูนย์การค้าแอมบาสซีได้ยิ่งขึ้น” สุรเชษฐ กองชีพ นักวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ ให้มุมมอง

    ทั้งนี้ ที่ดินดังกล่าว มีการเปิดประมูลเมื่อปี 2559 โดยมี บริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย เป็นบริษัทที่ดำเนินการจัดประมูล และมีผลผู้ชนะตั้งแต่ต้นปี 2560

    +++ 5 ปี ราคาที่ดินพุ่งแรง 20-25%

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การซื้อขายที่ดินทำเลทองย่านใจกลางธุรกิจ (Central Business District : CBD) เช่น สาทร สีลม ราชดำริ เพลินจิต ชิดลม หลังสวน และสุขุมวิทถึงอโศก ราคามีการปรับตัวขึ้นสูงมาก และมีการทุบสถิติการซื้อขายกันอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะ “ที่ดินแปลงงาม” หายากขึ้นเรื่อยๆ แต่ผู้พัฒนาอสังหาฯ ยังมีความต้องการเพื่อนำมาพัฒนาโปรเจกต์ที่อยู่อาศัยหรูๆ เมื่อ “ซัพพลาย” น้อยลงๆ แต่ “ดีมานด์” ยังคงมีอยู่สูง กลไกการตลาดเลยทำใหราคาขยับแรง โดยเฉพาะช่วง 5 ปีมานี้ พุ่งขึ้นเฉลี่ยปีละ 20-25% เมื่อเทียบกับอดีตขึ้นเพียง 10-15%

    แนวโน้มราคาที่ดินยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะตราบใดที่ตลาดยังมีความต้องการ แต่ที่ดินทำเลทองติดถนนเหลือน้อย และเริ่มขยับเข้าไปตามตรอก ซอกซอยมากขึ้น และส่วนใหญ่ยังอยู่บนถนนสุขุมวิท ไล่ไปถึงพร้อมพงษ์ ทองหล่อ และเป็นบ้านที่อยู่อาศัย ส่วนราคาจะพุ่งไปไกลแค่ไหน คงไม่มีใครประเมินได้ เพราะขึ้นอยู่กับว่าบรรดาดีเวลลอปเปอร์ ซื้อที่ไปพัฒนาโปรเจกต์แล้วขายออกหรือเปล่า ถ้ายังขายออก ราคาที่ดินก็วิ่งต่อไป

    “ราคาที่ดินย่านชิดลมมีการปรับตัวขึ้นสูงที่สุด ส่วนแนวโน้มราคาในอนาคต ขึ้นกับว่าดีเวลลอปเปอร์ทำโครงการแพงแล้วยังมีผู้บริโภคซื้อไหม ถ้ามี ผู้ประกอบการก็ยังทำของแพงขาย แต่หลังๆ ตลาดอสังหาฯ ลักชัวรี่ขายช้าลง เพราะคนไทยที่มีกำลังซื้อได้ก็ไม่เยอะ ต้องขายต่างชาติมากขึ้น พอคนซื้อน้อยลง ก็เลยทำให้ราคาที่ดินเริ่มตันๆ อยู่ที่ 2 ล้านบาทต้นๆ ต่อตารางวามาสัก 2 ปีแล้ว” สุรเชษ บอก

    +++ดีเวลลอปเปอร์ทุบสถิติซื้อที่แพง

    เมื่อมีดีเวลลอปเปอร์ “ชิงดำ” ทำเลทอง เลยทำให้ราคาขายขยับขึ้น สุดท้ายก็ไปจบที่ราคาแพงเว่อร์และ “ทุบสถิติ” เป็นว่าเล่น ส่วนใครซื้อแปลงไหน Positioning รวบรวมไว้ดังนี้

    ราคาที่ดินทำเลทอง

    • เอสซี แอสเสท ซื้อที่ดินย่านหลังสวน ติดโรงเรียนมาแตร์เดอี ราคา 3.1 ล้านบาทต่อตารางวา
    • เซ็นทรัล+ฮ่องกงแลนด์ ซื้อที่ดินสถานทูตอังกฤษ ราคา 2 ล้านบาทต่อตารางวา
    • เอสซี แอสเสท ซื้อที่ดินติดถนนชิดลม ราคา 1.9 ล้านบาทต่อตารางวา
    • ควอลิตี้เฮ้าส์ ซื้อที่ดินติดบีทีเอสนานา ราคา 1.8 ล้านบาทต่อตารางวา
    • กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ซื้อที่ดินโครงการปาร์คนายเลิศ 1.8 ล้านบาทต่อตารางวา
    • สิงห์ ซื้อที่ดินติดบีทีเอสทองหล่อ ราคา 1.75 ล้านบาทต่อตารางวา
    ]]>
    1155359