“พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” เปิดเฟสใหม่ “เบลล่า เดล มอนเต้” บ้านพักตากอากาศบน “เขาใหญ่” ราคา 28-159 ล้านบาท ชี้ตลาดบ้านตากอากาศระดับลักชัวรีเป็นบลูโอเชียน เพราะซัพพลายมีไม่มาก ขณะที่ราคาบ้านปรับขึ้นได้ 20% หลังราคาที่ดินเขาใหญ่พุ่งขึ้น 5 เท่า!
“วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต” กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ประกาศเปิดเฟส 2 ต่อเนื่องของโครงการ “เบลล่า เดล มอนเต้” ในชื่อ “เบลล่า เดล มอนเต้ ครีก วัลเลย์”
เฟสนี้จะเปิดขายบ้านเดี่ยวรวม 24 ยูนิต มีการเพิ่มภูมิทัศน์ในลักษณะ “ครีก” หรือลำธารที่ไหลจากร่องเขา และเพิ่มแบบบ้านไซส์เล็กให้เลือก ราคาเริ่มที่ 28 ล้านบาท ไปจนถึงระดับคฤหาสน์ราคา 159 ล้านบาท มูลค่าโครงการเฟส 2 รวม 1,600 ล้านบาท เปิดขายอย่างเป็นทางการวันที่ 2-4 ธันวาคม 2566
โครงการ เบลล่า เดล มอนเต้ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2564 เป็นโครงการบ้านพักตากอากาศในเขาใหญ่ ออกแบบภูมิทัศน์และสถาปัตยกรรมด้วยแรงบันดาลใจจาก “Lake Como” ประเทศอิตาลี และเป็นบ้านแบบพูลวิลล่าทั้งหมด โดยเฟส 1 ของโครงการแบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 30 ยูนิต และเปิดราคาเริ่ม 29.9 ล้านบาท (ราคาขณะนั้น) มูลค่าโครงการเฟส 1 รวม 1,500 ล้านบาท
“เขาใหญ่” ทำเลตากอากาศของ “บ้านหลังที่ 3”
แม้จะเปิดตัวท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 แต่วงศกรณ์ระบุว่า โครงการเบลล่า เดล มอนเต้เฟส 1 กลับขายดีสวนทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ เนื่องจากกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูงไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมากนัก และมองว่าในวิกฤตเป็นโอกาสที่จะซื้อสินทรัพย์ในราคาดี ทำให้ภายในเวลา 2 ปี เฟส 1 ของโครงการเหลือขายเพียง 500 ล้านบาทเท่านั้น
วงศกรณ์กล่าวว่า บริษัทมีการสำรวจความเห็นของลูกค้าพบว่า กลุ่มผู้มีความมั่งคั่งมักจะเลือกซื้อบ้านหลังที่ 2 ที่เป็นบ้านพักตากอากาศในทำเลชายทะเลก่อน ส่วนบ้านหลังที่ 3 มักจะเลือกทำเลภูเขา
ในทำเลบ้านพักตากอากาศบนเขา จุดที่ถือว่าเป็นทำเลยอดฮิตของทุกคนคือ “เขาใหญ่” รองลงมาคือ “เชียงใหม่” ส่วนทำเลอื่นๆ จะเป็นบริเวณกาญจนบุรีและราชบุรี
เหตุที่เขาใหญ่เป็นที่ต้องการมากกว่าเชียงใหม่ เกิดจากระยะเดินทางที่ใกล้กว่า สามารถขับรถมาพักผ่อนเสาร์-อาทิตย์ได้ และเป็นพื้นที่ที่ดีเวลอปเปอร์มีการพัฒนาไปมาก หลายโครงการออกแบบบรรยากาศแบบยุโรปที่ให้ความสวยงามและลักชัวรี
อย่างไรก็ตาม ตลาดบ้านพักตากอากาศในเขาใหญ่ส่วนใหญ่จะแข่งขันกันในช่วงราคา 10-30 ล้านบาทต่อหลังเป็นหลัก ในกลุ่มบ้านระดับราคา 30 ล้านบาทขึ้นไปมีค่อนข้างน้อย โดยจะมีโครงการดังอยู่เพียง 2 แห่งที่พัฒนามานานก่อนหน้านี้คือ “ทอสกานา วัลเลย์” กับ “สวอนเลค เขาใหญ่”
ทำให้พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคมองว่ากลุ่มราคานี้คือ “บลูโอเชียน” และสามารถสร้างความแตกต่างในตลาดได้ ด้วยขนาดโครงการเล็กกว่าและเป็นโครงการปิด ทำให้เป็นส่วนตัวมากกว่าสำหรับลูกบ้าน
ราคาที่ดินเขาใหญ่พุ่ง 5 เท่าใน 6 ปี
ด้านราคาที่ดินเบลล่า เดล มอนเต้นั้นเพอร์เฟคจัดซื้อเข้ามาเมื่อปี 2560 เป็นแปลงที่ดินใหญ่ 180 ไร่ ซื้อมาในราคา 2 ล้านบาทต่อไร่ แต่ปัจจุบันราคาที่ดินบริเวณนี้ (ไม่ติดถนนธนะรัชต์) ราคาพุ่งไปถึง 10 ล้านบาทต่อไร่ หรือขึ้นมาแล้ว 5 เท่า แต่ก็ยังถือว่าต่ำกว่าที่ดินทำเลทองติดถนนธนะรัชต์ที่ปรับราคาไปถึง 15-20 ล้านบาทต่อไร่
วงศกรณ์กล่าวว่า ที่ดินเขาใหญ่จึงเทียบได้กับถนนกรุงเทพกรีฑาของกรุงเทพฯ แม้จะอยู่ในต่างจังหวัดแต่ราคาค่อนข้างสูงและปรับขึ้นทุกปี
ทำให้ราคาที่ดินและบ้านในโครงการเบลล่า เดล มอนเต้เฟส 2 ปรับขึ้นมาประมาณ 20% เมื่อเทียบโปรดักส์เดียวกันกับบ้านเฟส 1 เนื่องจากเป็นการปรับตามราคาตลาด
อย่างไรก็ตาม บริษัทก็มีการออกแบบบ้านใหม่ไซส์เล็กลงด้วยในชื่อแบบบ้าน “Amanti” เป็นบ้าน 2 ชั้นพื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม. ราคา 28 ล้านบาท เป็นการปรับแบบบ้านให้ทำแพ็กเกจราคาลดลง และมีไซส์ที่เหมาะกับกลุ่ม “DINK-Double Income No Kids” คู่แต่งงานที่มีรายได้สองทางแต่ไม่มีลูก ซึ่งต้องการบ้านหลังเล็กโรแมนติกสำหรับไลฟ์สไตล์คู่รักมากกว่า
ที่ดิน 180 ไร่ของเพอร์เฟคนั้นยังเหลือเฟสพัฒนาเพิ่มได้อีกประมาณ 2 เฟส ซึ่งต้องรอติดตามว่าจะเป็นโครงการลักษณะใดต่อไป
- “นารายณ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป” บุกตลาดลักชัวรี่ เปิด “มาราสก้า โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ต” เขาใหญ่ และเกาะสมุย
- “ประภาวดี โสภณพนิช” เจียระไนเพชรเม็ดงาม “เวลา นาใต้” แหล่งตากอากาศแห่งใหม่ฝั่งอันดามัน
ช่วงหลังผ่านโควิด-19 ทำเล “เขาใหญ่” นับว่าเป็นทำเลที่น่าจับตาของโครงการพักผ่อนตากอากาศ วัดได้จากการเข้ามาทำตลาดของ “เชนใหญ่” จากต่างประเทศ เริ่มจากโรงแรม “อินเตอร์คอนติเนนตัล เขาใหญ่” โรงแรมเชนระดับโลกแห่งแรกที่เข้ามาปักหมุดเมื่อปี 2565 ตามด้วยโครงการ “บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์” ที่เป็นโครงการ Branded Residence แห่งแรกบนเขาใหญ่ เริ่มเปิดขายไปเมื่อต้นปี 2566