กีดกันทางการค้า – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 11 Aug 2022 05:19:18 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Realme ลดเป้ารายได้ใน “จีน” ลงจากปัญหาเศรษฐกิจ ฟากตลาด “อินเดีย” ระส่ำถูกรัฐเพ่งเล็ง https://positioningmag.com/1395893 Thu, 11 Aug 2022 04:48:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1395893 สมาร์ทโฟนแบรนด์ Realme ต้องยอมลดเป้าเติบโตใน “จีน” ลงจาก 50% เหลือ 30% หลังจากเศรษฐกิจจีนสะดุดเพราะการล็อกดาวน์ระลอกใหม่ ขณะที่เป้าเติบโตในตลาดต่างประเทศยังคงไว้ที่ 50% แต่ตลาดหลักอย่าง “อินเดีย” ยังต้องจับตา เนื่องจากนโยบายรัฐเพ่งเล็ง อาจ “แบน” บริษัทจีนที่ขายมือถือราคาต่ำเกินไป

Madhav Sheth รองประธานบริษัทและหัวหน้าฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ Realme เปิดเผยว่า บริษัทมีการปรับเป้าการเติบโตในปีนี้ จากสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนไป

“สิ่งสำคัญที่สุดคือเรายังโตอยู่ในบางตลาด ไม่ได้โตเร็วเท่าที่เราคาด แต่แน่นอนว่าเราจะโตต่อไป” Sheth กล่าว

Realme เป็นบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2018 และมี Oppo เป็นผู้ผลิตให้ ก่อนหน้านี้แบรนด์ตั้งเป้ายอดขายทั่วโลกปี 2022 จะเติบโตถึง 50% เพื่อให้การเติบโตยังเท่าๆ กับที่ทำได้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทสามารถทำยอดขายได้สูง ส่งมอบสมาร์ทโฟนไป 60 ล้านเครื่องทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประเทศจีนเกิดการระบาดระลอกใหม่ของโรค COVID-19 และทำให้เกิดการล็อกดาวน์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ Realme ต้องยอมลดเป้าการขายในประเทศลง เป้าเติบโตลดจาก 50% เหลือ 30% แต่เป้าหมายการเติบโตต่างประเทศยังคงไว้ที่ 50%

Realme
Realme C25s มือถือรุ่นราคาประหยัด

อุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนนั้นกำลังเผชิญกับปัจจัยลบหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นกระแสเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นขาลง ความขัดแย้งในภูมิศาสตร์การเมือง และการดิสรัปต์ของซัพพลายเชนการผลิตซึ่งเกิดจากโรคระบาด

ตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดของโลกก็เผชิญปัญหาเดียวกัน ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคต่ำลง และส่งให้แบรนด์สมาร์ทโฟนจีนต้องหาทางหารายได้ทดแทนจากต่างประเทศให้มากขึ้น

 

ตลาด “อินเดีย” อาจไม่ราบรื่น

อินเดียนั้นเป็นประเทศแรกๆ ที่ Realme เข้าไปทำตลาด และต่อมาถือเป็นหนึ่งในตลาดหลัก จากฐานผู้บริโภควัยหนุ่มสาวมีความต้องการสินค้าราคาประหยัด ตรงกับพอร์ตของแบรนด์

IDC บริษัทวิจัยตลาดออกผลสำรวจเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2022 พบว่า แบรนด์ Realme ถือเป็นสมาร์ทโฟนอันดับ 2 ของอินเดีย โดยเฉพาะไตรมาส 2/2022 มีการส่งมอบไป 6.1 ล้านเครื่อง เติบโต 23% จากปีก่อนหน้า และเป็นแบรนด์ที่โตเร็วที่สุดในกลุ่ม Top 5 สมาร์ทโฟนขายดีในอินเดีย

ขณะที่บริษัทวิจัยตลาดอีกแห่งหนึ่งคือ Canalys ออกผลสำรวจเมื่อเดือนก.ค. 2022 จัดอันดับให้ Realme ยังอยู่ในอันดับ 3 รองจากอันดับ 1 คือ Samsung และอันดับ 2 คือ Xiaomi

อินเดีย COVID-19
(Photo by Yawar Nazir/Getty Images)

อย่างไรก็ตาม บริษัทจีนกำลังเผชิญปัญหาในตลาดอินเดียที่ถือเป็นตลาดสมาร์ทโฟนขนาดใหญ่อันดับสองของโลก เพราะจากการรายงานของสำนักข่าว Bloomberg ระบุว่า รัฐบาลอินเดียกำลังเพ่งเล็งบริษัทสมาร์ทโฟนจีน และอาจจะเริ่ม “แบน” ผู้ผลิตจีนที่ขายสมาร์ทโฟนในราคาต่ำกว่า 12,000 รูปีต่อเครื่อง (ประมาณ 5,300 บาท) เพราะต้องการผลักดันพลิกฟื้นอุตสาหกรรมการผลิตของอินเดียที่ถดถอยลงในช่วงที่ผ่านมา

ขณะนี้ปรากฏชื่อแบรนด์สมาร์ทโฟนจีนที่จะถูกสืบสวนโดยเจ้าหน้าที่รัฐอินเดีย เช่น Xiaomi, Huawei Technologies และ Vivo (แบรนด์พี่น้องอีกแบรนด์หนึ่งของ Realme)

ทั้งนี้ Sheth ระบุว่า Realme ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการจากรัฐอินเดียว่าจะมีการแบนเกิดขึ้น และบริษัทพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐอยู่เสมอ

 

Realme ลงทุนเพิ่มในอินเดียเพื่อเลี่ยงถูก “แบน”

แม้ว่าจะมีความท้าทาย แต่ Realme ได้วางแผนจะเพิ่มการลงทุนสายการผลิตในอินเดีย เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐที่ต้องการให้สินค้า “Made in India” มีเพิ่มมากขึ้น

ก่อนหน้านี้บริษัทมีการลงทุนไปแล้ว 3.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 120 ล้านบาท) เพื่อผลิตหูฟังในอินเดีย ซึ่งทำให้มีการจ้างงานคนในท้องถิ่นมากกว่า 1,000 ตำแหน่ง

หูฟัง Realme Buds Q

“ภายในสิ้นปีนี้ เราตั้งเป้าว่าทั้งอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ (เช่น สมาร์ทวอชต์) และอุปกรณ์การฟัง จะผลิตในท้องถิ่นอินเดียได้ 100% และเราจะเริ่มการผลิตแทบเล็ตในอินเดียด้วย” Sheth กล่าว

นอกจากตลาดอินเดียที่ Realme ต้องยึดไว้ให้มั่น แบรนด์ยังมีเป้าจะขยายตลาดในประเทศบ้านเกิดให้ได้มากขึ้น รวมถึงตลาดยุโรปที่แบรนด์ต้องการจะเปลี่ยนภาพลักษณ์เป็นสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ ลบภาพการเป็นแบรนด์ราคาประหยัดให้ได้

ขณะนี้ Realme เป็นสมาร์ทโฟนขายดีอันดับ 5 ในยุโรป ในไตรมาส 2/2022 แบรนด์เติบโตได้ถึง 21% ตามการรายงานของ Counterpoint Research

บริษัทยังไม่ย่อท้อต่อแผนการเปลี่ยนตนเองเป็นสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ แม้ว่าจะมีความท้าทายมากมาย “ความปรารถนาของเราที่จะเติบโตในเซ็กเมนต์นี้มีสูงมาก แม้ว่าจะอยู่ในห้วงของการเริ่มต้นดิสรัปชันทั้งดีมานด์ของผู้บริโภคและตลาดก็ตาม” Sheth กล่าว

Source

]]>
1395893
ยังไม่หายเคือง! ‘จีน’ เมินนำเข้าถ่านหินจาก ‘ออสเตรเลีย’ หันหา ‘รัสเซีย’ แทน https://positioningmag.com/1358992 Thu, 28 Oct 2021 07:17:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1358992 ในขณะที่จีนพยายามแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพลังงาน ประเทศก็เดินหน้าเพิ่มการนำเข้าถ่านหิน โดยครั้งนี้หันไปหาถ่านหินจาก ‘รัสเซีย’ แทน โดยปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า จากเดิมที่จีนเคยมี ‘ออสเตรเลีย’ เป็นคู่ค้ารายใหญ่สุด

ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ปัญหาวิกฤตพลังงานของจีนยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น จนส่งผลให้จำเป็นต้องตัดไฟโรงงานทั่วประเทศจีน โดยปัญหาด้านพลังงานดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากรัฐบาลพยายามที่จะสร้างสมดุลระหว่างความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

อย่างไรก็ตาม จากปัญหาดังกล่าวทำให้การนำเข้าถ่านหินของจีนในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 76% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคิดเป็น 32.9 ล้านตัน โดยข้อมูลศุลกากรแสดงให้เห็นว่า ถ่านหินส่วนใหญ่มาจากรัสเซียและอินโดนีเซีย ไม่ใช่ออสเตรเลีย จากที่ในปี 2019 จีนนำเข้าถ่านหินความร้อนประมาณ 38% ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าจากออสเตรเลีย

‘จีน’ ยืดเวลาขึ้นภาษี ‘ไวน์’ จากออสเตรเลีย 218% ไปอีก 5 ปี

ทั้งนี้ จีนนำเข้าถ่านหินความร้อนจากรัสเซียประมาณ 3.7 ล้านตันในเดือนกันยายน ตามข้อมูลศุลกากรที่เข้าถึงผ่าน Wind Information ซึ่งเพิ่มขึ้น 28% จากเดือนสิงหาคมและเพิ่มมากกว่า 230% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยรวมแล้วการนำเข้าถ่านหินความร้อนของจีนจากรัสเซีย เพิ่มขึ้นเป็น 2-3 เท่านับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบกับปี 2020 และถือว่าสูงกว่าระดับก่อนเกิดการระบาดของ COVID-19 ในปี 2019

ในส่วนของประเทศอินโดนีเซีย จีนนำเข้าถ่านหินเทอร์มอลเป็นจำนวน 3 ล้านตันเมื่อเดือนที่แล้ว เพิ่มขึ้น 19% จากเดือนสิงหาคม และเพิ่มขึ้น 89% จากเดือนกันยายน 2020 ข้อมูลศุลกากรเผย

อย่างไรก็ตาม ออสเตรเลียเคยเป็นแหล่งถ่านหินนำเข้าที่ใหญ่ที่สุดของจีน แต่ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้นหลังจากออสเตรเลียสนับสนุนการสอบสวนว่ารัฐบาลจีนจัดการกับการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ดังนั้น แม้ว่าจีนจะมีความต้องการถ่านหินเพิ่มขึ้น แต่ข้อมูลของหน่วยงานศุลกากรแสดงให้เห็นว่าการนำเข้าถ่านหินเทอร์มอลจากออสเตรเลียยังคงเป็น ศูนย์

ไม่ง้อ! ‘ออสเตรเลีย’ ได้ ‘อินเดีย’ ตลาดส่งออกใหม่หลังถูก ‘จีน’ กีดกัน

Source

]]>
1358992