ไม่ง้อ! ‘ออสเตรเลีย’ ได้ ‘อินเดีย’ ตลาดส่งออกใหม่หลังถูก ‘จีน’ กีดกัน

Photo : Shutterstock
ความตึงเครียดระหว่าง ‘ออสเตรเลีย’ และ ‘จีน’ เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากออสเตรเลียสนับสนุนการเรียกร้องให้มีการสอบสวนเกี่ยวกับการจัดการกับ COVID-19 ของจีน ส่งผลให้จีนได้ดำเนินมาตรการหลายอย่างเพื่อจำกัดการนำเข้าสินค้าจากออสเตรเลีย ซึ่งออสเตรเลียก็ไม่ง้อ พร้อมกับมองหาตลาดใหม่เพื่อบรรเทาความเสียหาย

หลังจากที่ออสเตรเลียสนับสนุนการเรียกร้องให้มีการสอบสวนเกี่ยวกับการระบาดของ COVID-19 ที่มาจากจีนนั้น ทำให้รัฐบาลจีนได้ดำเนินมาตรการหลายอย่างเพื่อจำกัดการนำเข้าของออสเตรเลีย ตั้งแต่การเก็บภาษีไปจนถึงการกำหนดข้อห้ามและข้อจำกัดอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสินค้าของออสเตรเลีย เช่น ข้าวบาร์เลย์ ไวน์ เนื้อวัว ฝ้าย และถ่านหิน

โดยรวมแล้ว เป้าหมายในการส่งออกของออสเตรเลียมีมูลค่าประมาณ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 1.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของออสเตรเลีย ตามข้อมูลของสถาบันโลวีในออสเตรเลีย ขณะที่ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วไม่กี่แห่งในโลกที่มีการเกินดุลการค้ากับจีน เนื่องจากจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย

จากปัญหาดังกล่าวนักวิเคราะห์คาดว่า ออสเตรเลียจะได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดนี้อย่างเลวร้าย แต่ดูเหมือนว่ามาตรการของจีนอาจไม่ส่งผลเสียต่อออสเตรเลียได้มากอย่างที่คิดซะแล้ว เพราะออสเตรเลียกำลังหาตลาดใหม่สำหรับสินค้าของประเทศ

“การส่งออกไปยังจีนได้ทรุดตัวลง แต่การค้าที่สูญเสียไปนี้ส่วนใหญ่ดูเหมือนจะพบตลาดอื่นแล้ว” โรแลนด์ ราจาห์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันโลวีกล่าว

A haul truck is being loaded with dirt and ore at a mine site while another haul truck waits in the foreground.

โดยรวมแล้วการส่งออกของออสเตรเลียไปยังจีนมีหลายสินค้าที่ได้รับผลกระทบยกเว้น ถ่านหิน ที่ทรงตัวตลอดเกือบปี 2020 โดยมีมูลค่าที่ 9 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากหาตลาดส่งออกอื่นเข้ามาทดแทนจีนได้แล้ว ซึ่งสินค้าที่ยังสามารถไปได้ดี ได้แก่ ถ่านหิน, ไม้ซุง, อาหารทะเล และข้าวบาร์เลย์

ภายในเดือนมกราคม 2021 การส่งออกถ่านหินของออสเตรเลียไปยังส่วนอื่น ๆ ของโลกเพิ่มขึ้น 9.5 พันล้านดอลลาร์ต่อปีเมื่อเทียบกับก่อนการสั่งห้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกไปยังประเทศอินเดีย ผลที่ได้คือ ความขัดแย้งกับจีนไม่ได้ทำลายเศรษฐกิจของออสเตรเลียอย่างที่หลายคนคิด

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมที่ยังประสบปัญหาก็คือ เนื้อ และ ไวน์ โดยอุตสาหกรรมไวน์ของออสเตรเลียต้องดิ้นรนเพื่อชดเชยการสูญเสียตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดระดับพรีเมียม โดยเมื่อต้นปี จีนได้กำหนดหน้าที่ต่อต้านการทุ่มตลาดสำหรับไวน์ของออสเตรเลียบางประเภท โดยอ้างว่าออสเตรเลียได้ทุ่มตลาดและอุดหนุนการส่งออกไวน์ของตนแล้ว และส่งผลเสียต่อภาคการผลิตไวน์ในประเทศของจีนด้วย

‘จีน’ ยืดเวลาขึ้นภาษี ‘ไวน์’ จากออสเตรเลีย 218% ไปอีก 5 ปี

ส่วนการส่งออกเนื้อที่จีนระงับการนำเข้าจากซัพพลายเออร์เนื้อของออสเตรเลียบางรายนั้น ไม่ได้เกิดจากความตึงเครียดทางการค้ากับจีนเท่านั้น แต่ยังอาจมีสาเหตุหลักมาจากปัญหาภัยแล้งครั้งล่าสุดด้วยเช่นกัน ขณะที่การส่งออกทองแดงไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก แม้ว่าราคาทองแดงจะสูงขึ้นถึงหนึ่งในสามเมื่อเทียบกับระดับก่อนเกิดการระบาด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าออสเตรเลียมีปัญหาในการขนส่งทองแดงด้วย

แม้จะชะลอผลกระทบที่เกิดจากจีน แต่ออสเตรเลียไม่นิ่งนอนใจกำลังตามล่าหาตลาดใหม่ ๆ เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับจีนไม่มีสัญญาณของการลดระดับลง โดย Michael McCormack รองนายกรัฐมนตรีกล่าวเมื่อพฤษภาคมว่าประเทศกำลังมองหาการกระจายตลาดของสินค้าในประเทศ

Source