ทำเลกรุงเทพกรีฑา – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 08 Feb 2023 13:34:27 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “เดอะเนสท์” ผนึกทุนญี่ปุ่น KRD เปิดบ้านเดี่ยวหรู 2 โครงการใหม่ฝั่งตะวันออกกรุงเทพฯ https://positioningmag.com/1418447 Wed, 08 Feb 2023 12:20:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1418447 “เดอะเนสท์” บริษัทอสังหาฯ ตระกูล “มหากิจศิริ” จับมือทุนญี่ปุ่น “KRD” ต่อเนื่อง เตรียมแผนเปิดตัวบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์อีก 2 โครงการ ทำเลกรุงเทพกรีฑา และทำเลศรีนครินทร์-สวนหลวง

“อุษณา มหากิจศิริ” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดแผนการลงทุนปี 2566 เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ โดยร่วมทุนกับพันธมิตร “บริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด” (KRD) บริษัทอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น ได้แก่

1.โครงการ เอเวียน (AVIAN) ศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท ที่ดิน 42 ไร่ จำนวน 166 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เริ่มต้น 12.9 ล้านบาท

2.โครงการ แอร์รี่ (AERIE) ศรีนครินทร์-สวนหลวง มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ที่ดิน 9 ไร่ จำนวน 43 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ราคาเริ่ม 22.9 ล้านบาท

ทั้งนี้ ทั้งสองโครงการไม่ใช่การจับมือกันครั้งแรก เพราะเดอะเนสท์และ KRD ร่วมลงทุนและเปิดโครงการแรกไปเมื่อปี 2565 ที่โครงการแอร์รี่ (AERIE) ศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา มูลค่าโครงการ 3,900 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 3 ชั้นระดับไฮเอนด์ ราคาเริ่ม 16 ล้านบาท เฟสแรก 60 หลัง ทำยอดขายแล้ว 40%

เดอะเนสท์
โครงการแอร์รี่ (AERIE) ศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา

นอกจากนี้ ทาง KRD ยังมีการร่วมลงทุนกับอีกบริษัทหนึ่งที่มหากิจศิริถือหุ้นคือ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) ในโครงการคอนโดมิเนียมหรู 125 สาทร มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท ซึ่งเปิดขายเมื่อปี 2565 เช่นกัน

อุษณากล่าวถึงการร่วมทุนครั้งนี้ว่า กลุ่มทุนญี่ปุ่นมีการดูแลโครงการอย่างใกล้ชิด ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการก่อสร้างและดึงซัพพลายเออร์จากญี่ปุ่นเข้ามาในหลายส่วน เช่น ALSOK บริษัทรักษาความปลอดภัยจากญี่ปุ่น ซึ่งมาเปิดบริษัทไทยเป็นครั้งแรกและเริ่มให้บริการที่แอร์รี่ ศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา

ความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายจะยังมีในโครงการต่อๆ ไป อุษณาระบุว่าขณะนี้บริษัทกำลังเจรจา KRD เพื่อลงทุนต่อเนื่อง โดยปีนี้ยังสนใจโครงการแนวราบในกรุงเทพฯ เป็นหลัก ทำเลที่สนใจส่วนใหญ่เป็นกรุงเทพฯ ตะวันออก เช่น บางนา-ตราด

ด้านเป้าหมายรับรู้รายได้ปี 2566 ของเดอะเนสท์ตั้งไว้ที่ 2,700 ล้านบาท ยอดโอนปีนี้นอกจากโครงการแนวราบแล้ว ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “The Nest Condo” พร้อมโอนปีนี้อีก 5 ทำเล คือ เพลินจิต, สุขุมวิท 22, สุขุมวิท 64, สุขุมวิท 71 และจุฬา-สามย่าน

]]>
1418447
“แสนสิริ” ลุยต่อ 31 โครงการครึ่งปีหลัง’65 บูมทำเล “กรุงเทพกรีฑา” เปิดบ้านเดี่ยว 3 ระดับราคา https://positioningmag.com/1393997 Tue, 26 Jul 2022 08:39:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1393997 “แสนสิริ” เปิดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก ทำยอดขายไปแล้ว 52% จากเป้า ครึ่งปีหลัง 2565 ลุยต่อเนื่อง เปิดตัว 31 โครงการ มูลค่ารวม 31,200 ล้านบาท ไฮไลต์โครงการสำคัญ เปิดบ้านเดี่ยว 3 ระดับราคา 3 แบรนด์บนทำเล “กรุงเทพกรีฑา” พื้นที่ที่แสนสิริมีที่ดินรวมกว่า 500 ไร่ พร้อมวางเป้ากลับมาเป็น “ผู้นำ” ในกลุ่ม “คอนโดมิเนียม” อีกครั้ง

“อุทัย อุทัยแสงสุข” ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกปี 2565 ของบริษัท โดยมีการเปิดตัวไป 15 โครงการ มูลค่ารวม 18,800 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 12 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ

ด้านยอดขายและยอดโอน ครึ่งปีมียอดขายรวม 18,300 ล้านบาท จากเป้า 35,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 52% จากเป้า ยอดโอนครึ่งปี 14,000 ล้านบาท จากเป้า 35,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ทั้งนี้แสนสิริมีแบ็กล็อกรอโอนอยู่ในมือแล้ว 10,500 ล้านบาทในครึ่งปีหลังนี้

สำหรับการบุกครึ่งปีหลังของแสนสิริ จะเปิดตัวทั้งหมด 31 โครงการ มูลค่ารวม 31,200 ล้านบาท แบ่งเป็น

  • 9 โครงการบ้านเดี่ยว
  • 2 โครงการแนวราบแบบผสมหลายโปรดักส์
  • 5 โครงการทาวน์เฮาส์
  • 15 โครงการคอนโดฯ

โดยการเปิดตัวแนวราบจะมีการกระจายตัวทุกเซ็กเมนต์ ตั้งแต่แบรนด์ “นาราสิริ” ที่เป็นบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ จนถึง “สิริ เพลส” แบรนด์ทาวน์โฮมราคาเข้าถึงได้ ส่วนคอนโดฯ จะมีแบรนด์ เดอะ เบส, เดอะ มูฟ และ คอนโด มี

 

ไฮไลต์ทำเล “กรุงเทพกรีฑา”

โครงการแนวราบที่สำคัญของแสนสิริครึ่งปีหลังนี้ต้องจับตาทำเล “กรุงเทพกรีฑา” ทำเลนี้แสนสิริมีที่ดินอยู่กว่า 500 ไร่ เคยขึ้นโครงการ เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 1 และ 2 รวม 154 ไร่ ซึ่งปิดการขายแล้วทั้งหมด และปีนี้แสนสิริจะกลับมาเปิดตัวบ้าน 3 แบรนด์ 3 ระดับราคา ได้แก่

  • นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา 57 ไร่ บ้านเดี่ยวระดับราคา 50-95 ล้านบาท (*เปิดขายพิเศษก่อนพรีเซลไปแล้ว ทำยอดขาย 70% ของโครงการก่อนเปิดตัว)
  • บูก้าน (BuGaan) กรุงเทพกรีฑา 19 ไร่ บ้านเดี่ยว 3 ชั้นราคา 25-40 ล้านบาท
  • บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา 85 ไร่ บ้านเดี่ยวราคา 13-35 ล้านบาท

รวมทั้งหมดแสนสิริจะมีการเปิดตัวโครงการสะสม 315 ไร่บนที่ดินทำเลนี้ และยังเหลืออีก 185 ไร่ที่คาดว่าจะเปิดตัวได้ต่อเนื่องอีก 3 ปี มูลค่าโครงการในพื้นที่รวมกว่า 30,000 ล้านบาท ถือเป็นทำเลทองในการสร้างคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของบริษัท

 

ขอกลับมาเป็น “ผู้นำคอนโดฯ”

แสนสิริอาจจะมีการผ่อนคันเร่งกับตลาดคอนโดฯ ไปบ้างในช่วงเกิดโรคระบาด แต่ครึ่งปีหลังนี้เห็นได้ชัดว่าจะมีการกลับมาโหมตลาดอีกครั้ง ด้วยแผนเปิด 15 คอนโดฯ มูลค่ารวม 5,250 ล้านบาท

โครงการแนวสูงที่เปิดเผยได้ในขณะนี้ ได้แก่ เดอะเบส ริเวอร์วิว ทำเล 400 เมตรจาก BTS คลองสาน มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท เปิดตัวพฤศจิกายนนี้ และกลุ่มแบรนด์ “คอนโด มี” 4 ทำเล คือ สินสาคร, บางนา-บางบ่อ, อ่อนนุช-พระราม 9 และ นวนคร (เฟสใหม่) และยังมีแผนจะเปิดตัวคอนโดฯ ต่างจังหวัดอีกแห่งหนึ่งที่ จ.ขอนแก่น ด้วย

เห็นได้ว่าปีนี้แสนสิริจะยังเน้นคอนโดฯ ระดับกลางจนถึงเข้าถึงได้ง่าย เน้นทำเลตามแนวรถไฟฟ้า พ่วงด้วยทำเลที่ใกล้แหล่งงานหรือแหล่งชุมชนภายใต้แบรนด์คอนโดมี

 

Speed to Market กลยุทธ์เร็วตอบสนองตลาด

อุทัยกล่าวต่อว่า ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะยังใช้กลยุทธ์ “Speed to Market” อย่างต่อเนื่อง และจะพัฒนาให้เร็วขึ้นกว่าที่เคยทำได้ เพื่อให้ตอบสนองตลาดหรือลูกค้าได้เร็วที่สุด

ส่วนปัจจัยบวกลบในตลาด ขณะนี้หลายฝ่ายมีความกังวลกับภาวะเงินเฟ้อ แต่แสนสิริมองอีกมุมหนึ่งว่าในวิกฤตยังมีโอกาส เพราะจะเห็นว่าภาคธุรกิจสำคัญ 2 ธุรกิจของไทยเริ่มฟื้นตัวแล้ว ได้แก่ ภาคส่งออกที่ดีขึ้นเพราะค่าเงินบาทอ่อน และการท่องเที่ยวของไทยที่เปิดได้เต็มที่ ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจไทยดีขึ้นก็จะส่งผลต่อเนื่องถึงภาคอสังหาฯ โดยเฉพาะกลุ่มลักชัวรีที่จะได้อานิสงส์ก่อน เป็นเหตุให้แสนสิริเลือกเปิดตัวโครงการกลุ่มบ้านเดี่ยวเป็นหลัก และยังคงกลยุทธ์เน้นการเป็นผู้นำในตลาดลักชัวรี

“เราจะลดเวลาการทำงานต่างๆ ลง เพราะต้นทุนทุกวันนี้สัมพันธ์กับเวลา เวลาคือดอกเบี้ย เวลาคือแรงงานที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ เช่น การก่อสร้างที่เคยทำได้ใน 6-7 เดือน ต้องลดเหลือ 5-6 เดือน หรือการเปิดตัวโครงการต้องเตรียมตัว 14 เดือน เราจะลดเหลือ 10-12 เดือน เราจะเหยียบคันเร่งกับกลยุทธ์นี้ต่อเนื่องและให้เร็วกว่าเดิม” อุทัยกล่าว

]]>
1393997