นักท่องเที่ยวไทย – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 27 Aug 2024 08:03:39 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 คนไทยยัง “เที่ยวไทย” แต่ยอดใช้จ่ายเข้าโหมดประหยัด ททท. วางแผนใช้ “กิจกรรม” ดึงเม็ดเงิน https://positioningmag.com/1487506 Tue, 27 Aug 2024 04:47:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1487506 เป้าหมายการท่องเที่ยวภายในประเทศปี 2567 ช่วง 7 เดือนแรกจำนวนคนไทย “เที่ยวไทย” เป็นไปตามคาด แต่ยอดใช้จ่ายหลุดเป้าอย่างแรง นักท่องเที่ยวเข้าโหมดประหยัดลดการช้อปปิ้ง ททท. วางแคมเปญรับมือ “เที่ยวที่ใช่ ออกไปทำกิจกรรมที่ชอบ” กระตุ้นคนไทยทำกิจกรรมสันทนาการระหว่างท่องเที่ยวให้มากขึ้น

“สมฤดี จิตรจง” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. วางเป้าหมายปี 2567 ผลักดันตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศ ต้องการกระตุ้นนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวในไทย 200 ล้านคนครั้ง เป้ารายได้ 1.08 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวในประเทศแล้ว 160 ล้านคนครั้ง คิดเป็นเม็ดเงินรายได้ 5.82 แสนล้านบาท จะเห็นได้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มจะเป็นไปตามเป้า แต่เม็ดเงินรายได้กลับน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากเศรษฐกิจซบเซาทำให้คนไทยแม้จะยังออกท่องเที่ยวแต่ต้องเริ่มรัดเข็มขัด

เมื่อเจาะลึกใน 4 หมวดการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง คือ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าช้อปปิ้ง และค่ากิจกรรมนันทนาการ พบว่าส่วนที่นักท่องเที่ยวไทยลดการใช้จ่ายอย่างมากคือ “ค่าช้อปปิ้ง”

“ที่ขาดหายไปอย่างหนักคือการช้อปปิ้ง เพราะคนไทยเริ่มประหยัดการใช้จ่ายระหว่างท่องเที่ยว คนไทยรู้สึกว่าของที่ขายในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไม่แตกต่างกัน ทำให้ไม่รู้สึกว่าอยากจ่าย” สมฤดีกล่าว

Happy female traveling on boat, Krabi Thailand

ถือเป็นโจทย์หนึ่งที่ ททท. กำลังไขคำตอบหาสินค้าประจำถิ่นที่ลอกเลียนแบบได้ยาก เพื่อชูให้เป็นสินค้าที่ควรซื้อเมื่อมาท่องเที่ยว เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประจำถิ่น ในจังหวัดต่างๆ มีสุราชุมชนที่ผลิตจากวัตถุดิบในถิ่นนั้นเท่านั้น เช่น เหล้าอุ เหล้าสาโท ไวน์ผลไม้ กำลังหาทางส่งเสริมเพื่อให้เป็นสินค้าเพื่อช้อป ชิม และนำไปเป็นของฝาก

ขณะเดียวกัน ในภาพระยะสั้นของปีนี้ สมฤดีชี้ให้เห็นว่ายังมีหมวดใช้จ่ายด้าน “กิจกรรม” ที่ยังมีช่องว่างให้เติบโต เพราะปกติแล้วคนไทยจะใช้จ่ายกับหมวดนี้น้อยกว่าหมวดอื่นเมื่อไปท่องเที่ยว แต่ ททท. จะมีการกระตุ้นให้เห็นว่ามีกิจกรรมมากมายให้ทำผ่านแคมเปญ “เที่ยวที่ใช่ ออกไปทำกิจกรรมที่ชอบ” เช่น ดำน้ำดูปะการัง ล่องแก่ง พายเรือคายัค ขับรถเอทีวี ปีนผา เรียนมวยไทย นวดไทย ฝึกวาดชามตราไก่ ตีกอล์ฟ เต้นสวิงแดนซ์ ฯลฯ มีนันทนาการหลายอย่างในไทยที่เหมาะกับคนทุกแบบ

ปัจจุบันค่าใช้จ่าย “ไทยเที่ยวไทย” เฉลี่ยจะอยู่ที่ 4,000 บาทต่อคนต่อทริป ตัวเลขอาจจะดูค่อนข้างต่ำเพราะคนไทยนิยมเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับค่อนข้างมาก ทำให้ไม่มีค่าที่พัก แต่สมฤดีมองว่าต่อจากนี้ค่าใช้จ่ายมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นเพราะคนไทยเริ่มมีเทรนด์ “พักสบาย” มองโรงแรมเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ต้องไปมากยิ่งขึ้น

]]>
1487506
4 เดือนแรกปี 2024 คนไทย “เที่ยวเกาหลี” ลดฮวบ -21% สาเหตุหลักไม่อยากเสี่ยง “ติดตม.” https://positioningmag.com/1478924 Wed, 19 Jun 2024 11:27:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1478924 สถิติพบคนไทย “เที่ยวเกาหลี” ช่วง 4 เดือนแรกปี 2024 ลดฮวบ -21% สวนทางกับภาพรวมการท่องเที่ยวเกาหลีใต้ที่ฟื้นตัว 87% จากปีก่อน สาเหตุหลักเพราะคนไทยไม่อยากเสี่ยง “ติดตม.”

สำนักข่าว Yonhap News Agency รายงานข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศเกาหลีใต้พบว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2024 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าประเทศเกาหลีใต้ 119,000 คน ซึ่งลดลง -21.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สวนทางกับภาพรวมการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าประเทศเพิ่มขึ้น 86.9% ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้

หากมองเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) นักท่องเที่ยวไทยเคยครองแชมป์อันดับ 1 สัญชาตินักท่องเที่ยวจาก SEA ที่เข้าไปเที่ยวเกาหลีใต้มากที่สุดในช่วงก่อนโควิด-19 แต่ด้วยตัวเลข 4 เดือนแรกปีนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวไทยตกไปอยู่อันดับ 3 ในกลุ่มนักท่องเที่ยว SEA ที่เข้าเกาหลีใต้มากที่สุด รองจาก “เวียดนาม” (163,000 คน) และ “ฟิลิปปินส์” (158,000 คน)

ตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยที่เข้าเกาหลีใต้เพียง 119,000 คน ยังคิดเป็นสัดส่วนเพียง 59% ของจำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เข้าเกาหลีใต้ใน 4 เดือนแรกของปี 2019 (ก่อนเกิดโรคระบาด) เทียบกับตัวเลขนักท่องเที่ยวโดยรวมของเกาหลีใต้ที่กลับมามีสัดส่วน 88% ของปี 2019 ถือว่าตลาดท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมาสูงมากแล้ว

หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน ปูซาน

สาเหตุที่คนไทยยังไม่กลับไปเที่ยวเกาหลีใต้มากเท่าในอดีต ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเกาหลีใต้มองว่าเป็นเพราะ “ความรู้สึกเชิงลบ” ของคนไทยจากกรณีที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ของเกาหลีใต้ปฏิเสธไม่ให้คนไทยเข้าประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ

โดยขั้นแรกก่อนเดินทาง คนไทยจะต้องกรอกข้อมูลในระบบ K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) สำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศเกาหลีใต้ 112 ประเทศ (*มีนักท่องเที่ยว 22 ประเทศเท่านั้นที่ได้รับยกเว้นทั้งวีซ่าและการกรอก K-ETA เช่น ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน แต่ชาวไทยไม่ได้อยู่ในลิสต์นี้)

ชาวไทยจำนวนมากถูกปฏิเสธตั้งแต่ขั้นตอนการกรอก K-ETA โดยไม่มีคำอธิบายสาเหตุที่ไม่ได้รับการอนุมัติ

ซ้ำร้ายกว่านั้นคือนักท่องเที่ยวไทยบางคนที่ได้รับอนุมัติ K-ETA แล้วก็ยังถูก ตม. เกาหลีใต้ปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศและส่งกลับไทยทันที ทั้งหมดทำให้ชาวไทยรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

ตัวอย่างการพูดคุยเกี่ยวกับ #แบนเกาหลี เมื่อปีก่อน ส่งผลต่อเนื่องให้ปีนี้คนไทยตัดสินใจไปเกาหลีน้อยลง

เรื่องราวการถูกปฏิเสธเข้าเมืองโดย ตม. เกาหลีใต้กลายเป็นกระแสในโซเชียลมีเดียไทยตั้งแต่ปลายปี 2023 อีกด้วย ผ่านการติดแฮชแท็ก #แบนเกาหลี เล่าประสบการณ์การถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเมืองด้วยเหตุผลที่น่ากังขา ประสบการณ์เลวร้ายที่ถูกเผยแพร่ต่อเหล่านี้จึงทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวไทยเข้าเกาหลีใต้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรมของเกาหลีใต้ให้เหตุผลว่า ความเข้มงวดต่อคนไทยเป็นเพราะคนไทยเป็นสัญชาติหลักที่มักจะหนีเข้าเมืองมาเป็นแรงงานผิดกฎหมายในเกาหลี ทางกระทรวงฯ มิได้มีอคติเลือกปฏิบัติต่อคนไทยแต่อย่างใด

ทั้งนี้ สำหรับสัญชาตินักท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยวในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นมากที่สุดใน 4 เดือนแรกปีนี้ คือ “จีน” จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในเกาหลีพุ่งขึ้นถึง 470% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน รองลงมาคือ “ญี่ปุ่น” เพิ่มขึ้น 86% ตามด้วย “ฟิลิปปินส์” เพิ่มขึ้น 76% “อินโดนีเซีย” เพิ่มขึ้น 51% “มาเลเซีย” เพิ่มขึ้น 35% “เวียดนาม” เพิ่มขึ้น 29% และ “สิงคโปร์” เพิ่มขึ้น 11%

Source

]]>
1478924
“กินถูก ช้อปแพง” พฤติกรรม “นักท่องเที่ยวไทย” ในต่างประเทศ สรุปอินไซต์สงกรานต์’67 โดย “YouTrip” https://positioningmag.com/1471614 Tue, 30 Apr 2024 07:16:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1471614 “YouTrip” สรุปอินไซต์นักท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศช่วงสงกรานต์ 2567 ยังคง “เที่ยวล้างแค้น” การใช้จ่ายโต 150% “ญี่ปุ่นจีน” สองประเทศสุดฮิต พฤติกรรมคนไทย “กินถูก ช้อปแพง” อาหารเน้นถูกและเร็วผ่าน “7-Eleven” – “ฟาสต์ฟู้ด” แต่ช้อปปิ้งกระหน่ำร้านแบรนด์เนม เสื้อผ้า ของเล่น

“จุฑาศรี คูวินิชกุล” ผู้ร่วมก่อตั้ง YouTrip ประเทศไทย เปิดเผยอินไซต์นักท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศ สถิติจากการใช้จ่ายผ่านบัตรทราเวลการ์ดของ YouTrip พบว่า ยอดใช้จ่ายช่วงสงกรานต์ปี 2567 เพิ่มขึ้น 150% จากปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่ากระแส “เที่ยวล้างแค้น” ของคนไทยยังอยู่และเพิ่มสูงขึ้นด้วย

ส่วนประเทศยอดฮิตที่คนไทยไป อันดับ 1 คือ “ญี่ปุ่น” ประเทศสุดฮิตตลอดกาล ซึ่งสงกรานต์ที่ผ่านมาเป็นช่วงที่สกุลเงินเยนอ่อนค่าทำให้ยิ่งได้รับความนิยม YouTrip พบว่าการใช้จ่ายผ่านบัตร 1 ใน 3 เกิดขึ้นผ่านสกุลเงินเยน

“ญี่ปุ่น” จุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 ของคนไทยในช่วงสงกรานต์ 2567

“ภิรมย์ทิศ ทองแถม ณ อยุธยา” หัวหน้ากลุ่มงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บมจ.การบินไทย ให้ข้อมูลเสริมว่า ญี่ปุ่นเป็นปลายทางยอดนิยมที่สุดของคนไทย โดยเส้นทางบินที่นิยมมากที่สุดคือ “โตเกียว” แต่สงกรานต์ที่ผ่านมาจะมีเส้นทางมาแรงคือ “ซัปโปโร” ที่คนไทยนิยมมากขึ้น

ขณะที่ “มิเชล โฮ” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Klook ประจำประเทศไทยและฟิลิปปินส์ พบว่าเทรนด์การเที่ยวญี่ปุ่นของคนไทยนิยม “รถเช่า” มากขึ้น อาจจะเกิดจากค่าโดยสารรถไฟในญี่ปุ่นแพงขึ้นจนทำให้คนไทยหาวิธีการเดินทางแบบอื่นแทน

“จีน” กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 2 ของนักท่องเที่ยวไทย หลังมีการเปิดฟรีวีซ่า (Photo : Shutterstock)

ส่วนอันดับ 2 ที่คนไทยไปเที่ยวมากช่วงสงกรานต์ 2567 คือ “จีน” YouTrip พบว่า การใช้จ่ายพุ่งขึ้นถึง 466% อานิสงส์จาก “ฟรีวีซ่า” ทำให้คนไทยนิยมไปเที่ยว และด้วยสังคมไร้เงินสดของประเทศจีน ทำให้การใช้จ่ายเกือบทั้งหมดต้องใช้ผ่านบัตรหรือแอปพลิเคชัน

“วาสิต ล่ำซำ” รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.เมืองไทยประกันภัย กล่าวเสริมว่า ในแง่ “ประกันการเดินทาง” ก็ได้อานิสงส์เช่นกัน หลังจากเปิดฟรีวีซ่าทำให้คนไทยซื้อประกันการเดินทางไปจีนสูงขึ้นเป็นอันดับ 3 รองจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ จากก่อนหน้าเปิดฟรีวีซ่าการซื้อประกันเดินทางไปจีนอยู่ในอันดับ 7 สะท้อนว่าการเปิดฟรีวีซ่ามีผลกับคนไทยมาก

 

คนไทยเที่ยวต่างประเทศ “กินถูก ช้อปแพง”

จุฑาศรีกล่าวต่อถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนไทยผ่าน YouTrip พบว่า 54% ใช้จ่ายเงินกับการ “ช้อปปิ้ง” โดยเฉพาะร้านแบรนด์เนม เช่น Goyard, Louis Vuitton, Prada รองมาคือร้านเสื้อผ้าทั่วไปและร้านในกระแส เช่น POP MART, Uniqlo, GU

ขณะที่การใช้จ่าย 14% ใช้กับ “อาหาร” เน้นร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-Eleven และร้านฟาสต์ฟู้ด เช่น แมคโดนัลด์ บางส่วนใช้ในซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งสะท้อนว่าคนไทยมีการทำอาหารทานเองเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อประหยัดงบ

สรุปภาพรวมนักท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศ จะเห็นได้ว่าชอบประหยัดค่าอาหารไว้ซื้อของ เพราะในต่างประเทศมีสินค้ารุ่นที่เมืองไทยไม่มี ราคาถูกกว่า คนไทยจึงนิยมซื้อสินค้าเหล่านี้กลับบ้าน

YouTrip

สำหรับ YouTrip เป็นสตาร์ทอัพที่ทำธุรกิจบัตรทราเวลการ์ดและบริการดิจิทัลวอลเล็ตรองรับหลายสกุลเงิน (Multi-currency Wallet) ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกที่สิงคโปร์เมื่อปี 2561 ก่อนขยายเข้าไทยปี 2562 โดยมีธนาคารกสิกรไทยให้ความร่วมมือสนับสนุน ล่าสุดมีการระดมทุนรอบ Series B ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2566 ได้รับเงินลงทุนรอบล่าสุด 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ YouTrip มีเงินระดมทุนสะสมแล้ว 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จุฑาศรีกล่าวว่า ในสิงคโปร์ขณะนี้ YouTrip ถือเป็นดิจิทัลวอลเล็ตแบบหลายสกุลเงินอันดับ 1 ส่วนที่ประเทศไทยถือเป็นบริษัทที่โตเร็วที่สุด โดยยอดการใช้จ่ายเติบโตขึ้น 3 เท่าในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา

นักท่องเที่ยวไทย YouTrip

]]>
1471614
Traveloka ออกโปรฯ รับกระแสไทยเที่ยวนอก คาดนทท.พุ่ง 25-40% หลังปลดล็อก Thailand Pass https://positioningmag.com/1386253 Mon, 23 May 2022 11:38:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1386253 แพลตฟอร์ม OTA ยกระดับความคึกคักต้อนรับเปิดประเทศ “Traveloka” เปิดแคมเปญโปรโมชันลดสูงสุด 60% ปลุกกระแสคนไทยเที่ยวต่างประเทศ คาดปัจจัยหลักปลดล็อกคนไทยกลับเข้าประเทศไม่ต้องกรอก Thailand Pass ตั้งแต่ 1 มิ.ย.นี้ จะทำให้คนไทยเที่ยวนอกมากขึ้น 25-40% ในช่วงครึ่งปีหลัง ด้าน 3 ประเทศยอดฮิต ได้แก่ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และกัมพูชา

สัญญาณการท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัว โดยเริ่มจากการท่องเที่ยวในประเทศก่อน จนล่าสุดการเดินทางระหว่างประเทศเริ่มผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กระแสท่องเที่ยวต่างประเทศทยอยกลับมา

“ปณิชา ธนณาเคนทร์” ผู้อำนวยการ Traveloka ประจำประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทพบสัญญาณที่เป็นปัจจัยส่งเสริมให้คนไทยสนใจเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น ได้แก่

  • คนไทยกว่า 70% ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม และ 40% ของคนไทยได้รับเข็มกระตุ้นแล้ว
  • ประเทศไทยจะเริ่มผ่อนคลายให้คนไทยไม่ต้องลงทะเบียน Thailand Pass เมื่อกลับเข้าประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้
  • หลายประเทศเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว เช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้
  • นักท่องเที่ยวชาวไทย 73% วางแผนจะเดินทางใน 3 เดือนข้างหน้า

เมื่อสำรวจเทรนด์การท่องเที่ยวของคนไทย พบว่าการท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมที่คนไทยสนใจมากขึ้น ดังนี้

  • 20% สนใจการเดินทางโดยเครื่องบิน (แตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่คนไทยยังหวาดหวั่นต่อการขึ้นเครื่องบินเนื่องจากโรคระบาด)
  • เมื่อถามว่าสนใจเที่ยวที่ไหน? 41% ต้องการเที่ยวในประเทศ รองลงมา 21% สนใจเที่ยวยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา และ 18% สนใจเที่ยวในเอเชีย
  • สำหรับจุดหมายปลายทางต่างประเทศ ประเทศยอดนิยม ได้แก่ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ กัมพูชา โดยรวมแล้วเพราะ 3 ประเทศนี้เป็นประเทศที่อยู่ใกล้ไทย ใช้เวลาเดินทางไม่นาน เป็นจุดหมายที่คนไทยจะใช้เป็นการเริ่มต้นออกเดินทางต่างประเทศ กรณีสิงคโปร์ เพราะมีจุดดึงดูดที่เป็นแม่เหล็ก เช่น Universal Studio เกาะเซนโตซ่า เหมาะกับกลุ่มครอบครัว เกาหลีใต้ ดึงดูดผู้ที่สนใจ K-pop K-drama กลุ่มวัยรุ่นจะชื่นชอบมาก ส่วนกัมพูชา เป็นเพราะมีแหล่งธรรมชาติที่น่าสนใจ
สิงคโปร์ ประเทศที่คนไทยอยากไปที่สุดในช่วงนี้ เพราะอยู่ใกล้ เดินทางสะดวก (Photo : Shutterstock)

“Thailand Pass เมื่อปลดล็อกให้คนไทยแล้ว จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่อยากเดินทางต่างประเทศมากขึ้น ทำให้คนไทยที่จะไปต่างประเทศในช่วงครึ่งปีหลังนี้น่าจะเพิ่มถึง 25-40% เทียบกับช่วงก่อนจะมีการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว” ปณิชาคาดการณ์

ด้าน “เชอร์ลีย์ เลสมานา” ผู้บริหารฝ่ายการตลาด Traveloka กล่าวเสริมว่า คนไทยยังเลือกท่องเที่ยวภายในประเทศอยู่มาก แต่จะเห็นว่า 2 เดือนที่ผ่านมาเทรนด์การเที่ยวต่างประเทศเริ่มฟื้นขึ้นแล้ว โดยคนไทยเที่ยวต่างประเทศในช่วงหลัง COVID-19 จะเห็นว่าเริ่มวางแผนทริปที่ยาวขึ้น เพราะจะได้เที่ยวหลายที่ในการออกนอกประเทศครั้งเดียว ขณะเดียวกันเริ่มต้องการความยืดหยุ่นในการจองห้องพักและเที่ยวบินสูงขึ้น เพราะสถานการณ์โรคอาจมีความไม่แน่นอนได้

ด้วยกระแสการท่องเที่ยวต่างประเทศเริ่มกลับมา ทำให้ Traveloka จัดแคมเปญ International Travel Fair ขึ้น แคมเปญนี้จะให้ส่วนลดสูงสุด 60% สำหรับบริการการเดินทางและไลฟ์สไตล์ในต่างประเทศ สำหรับผู้ที่จองภายในวันที่ 25-31 พ.ค. 65 แบ่งเป็น

  • หมวดโรงแรมลดสูงสุด 60%
  • หมวดตั๋วเครื่องบินลดสูงสุด 30% จัด flash deal ทุกวัน
  • หมวดกิจกรรมประสบการณ์ลดสูงสุด 1,000 บาท
  • ส่วนลดเอ็กซ์คลูซีฟจากพาร์ทเนอร์

แคมเปญนี้ยังเปิดให้สามารถอัปเกรดการจองเป็น “Flexible” ยืดหยุ่นทั้งการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และกิจกรรม สามารถเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินได้ไม่จำกัด สามารถยกเลิกการจองโรงแรมฟรีหรือชำระเงินเมื่อเช็กอิน รวมถึงกิจกรรมก็สามารถขอรีฟันด์คืนเงินหรือเปลี่ยนแปลงตารางเวลาได้

Now the world is possible รวบรวมข้อมูลอัปเดตล่าสุดของประเทศที่เปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว ทำให้ลูกค้าสะดวก มาที่เดียวได้ข้อมูลครบ และจองทั้งทริปได้เลย

นอกจากนี้ Traveloka ยังเปิดหน้าพิเศษบนแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ในชื่อ “Now the world is possible” เป็นไซต์สำหรับอัปเดตข้อมูลการท่องเที่ยวประเทศต่างๆ ที่พร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่กฎเกณฑ์เข้าประเทศ อัปเดตที่พัก ร้านอาหาร ที่เป็นปัจจุบัน โดยอาศัยความร่วมมือกับบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวในประเทศนั้น เพื่อให้ลูกค้าได้ข้อมูลครบถ้วนในหน้าเดียว และจะช่วยให้ข้อมูลเพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการเที่ยวต่างประเทศเล็งเห็นว่าขณะนี้โลกเปิดสำหรับการท่องเที่ยวแล้วจริงๆ

เชอร์ลีย์กล่าวปิดท้ายว่า แคมเปญนี้ต้องการจะดึงดูดทั้งชาวไทยที่ชื่นชอบการเดินทางต่างประเทศอยู่แล้ว และที่ยังไม่เคยออกต่างประเทศมาก่อน ให้สนใจการเดินทางหลัง COVID-19 ด้วยดีลพิเศษที่มีให้ และจะเป็นการช่วยการฟื้นตัวของพาร์ทเนอร์ด้านการท่องเที่ยวทั้งหมดของ Traveloka ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน โรงแรม หรือผู้จัดกิจกรรมต่างๆ

]]>
1386253