มาตรการป้องกัน COVID-19 – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 23 Aug 2022 08:46:08 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “ญี่ปุ่น” ไปทีละขั้น เตรียมยกเลิกมาตรการตรวจ COVID-19 ก่อนเข้าประเทศ เร็วๆ นี้ https://positioningmag.com/1397239 Tue, 23 Aug 2022 07:42:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1397239 เร็วๆ นี้ประเทศ “ญี่ปุ่น” อาจเริ่มผ่อนคลายมาตรการตรวจ COVID-19 ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนบิน หลังเสียงจากกลุ่มนักธุรกิจกดดัน

สื่อท้องถิ่นญี่ปุ่น Nikkei รายงานว่า ญี่ปุ่นกำลังจะผ่อนคลายมาตรการการเข้าประเทศมากขึ้น โดยจะมีการยกเลิกการขอผลตรวจ COVID-19 เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามกำหนดของรัฐ คาดว่าจะเริ่มยกเลิกมาตรการดังกล่าวภายใน 2-3 สัปดาห์นี้

ญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศของโลกที่ยังคงมาตรการอันเข้มงวดในการข้ามพรมแดน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา ท่ามกลางบรรยากาศการเปิดประเทศอย่างเสรีในปีนี้

ฮิโรคาสึ มัทสึโน่ หัวหน้าเลขานุการคณะรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่าการลดความเข้มงวดมาตรการการเข้าประเทศจะเริ่มขึ้นเมื่อใด บอกแต่เพียงว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับจำนวนเคสผู้ป่วย COVID-19 ในญี่ปุ่นเองและในต่างประเทศด้วย

“พร้อมกับการทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด เราจะสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจร่วมด้วย และสำหรับการควบคุมพรมแดน เราจะผ่อนคลายมาตรการไปตามขั้นตอนขณะที่ยังคงจัดสมดุลของทั้งสองสิ่งนี้ไปด้วยกัน” มัทสึโน่กล่าว

Photo : Shutterstock

ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เคยให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า เขาต้องการจะทำให้มาตรการการเข้าประเทศของญี่ปุ่น เป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลกมากกว่านี้

ถัดมาในเดือนมิถุนายน ญี่ปุ่นถึงจะได้รับรองนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกในรอบ 2 ปีที่ปิดประเทศไป แต่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ก็ต้องเข้ามาภายใต้มาตรการที่เข้มงวด เช่น ต้องทำเอกสารวีซ่า ต้องเข้ามาผ่านคณะทัวร์ที่มีตารางท่องเที่ยวชัดเจนและมีไกด์ประจำ และยังจำกัดจำนวนคนที่เข้าประเทศได้ในแต่ละวัน

แม้ว่าญี่ปุ่นจะปกป้องพรมแดนอย่างเข้มงวด แต่เคสผู้ป่วย COVID-19 ในประเทศก็ยังพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเคยขึ้นไปแตะสูงสุดที่วันละ 250,000 คน

 

ประชาชนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่อยากเปิดประเทศ

ด้านความเห็นของคนในชาติญี่ปุ่นนั้นแตกต่างกันไป สำหรับกลุ่มนักธุรกิจในญี่ปุ่นนั้นเรียกร้องมาตลอดว่า ญี่ปุ่นควรจะเร่งผ่อนคลายมาตรการเข้าพรมแดน มิฉะนั้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังได้ โดยในกลุ่มชาติ G7 นั้นเรียกร้องสิทธิให้คนในชาติตนเองได้สิทธิไม่ต้องขอวีซ่าเข้าญี่ปุ่นก่อนชาติอื่นๆ ด้วยเพื่อให้การทำธุรกิจคล่องตัวขึ้น (G7 ประกอบด้วย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ)

Photo : Shutterstock

ในทางกลับกัน คนทั่วไปในประเทศดูจะไม่ค่อยอยากต้อนรับนักท่องเที่ยวกลับมา จากการสำรวจเมื่อเดือนพฤษภาคม 2022 (ก่อนเปิดพรมแดน) สถานีโทรทัศน์ NHK จัดสำรวจความเห็นและพบว่า 65% ของผู้ถูกสำรวจเห็นด้วยกับการมีมาตรการการเข้าประเทศที่เข้มงวด

ผลสำรวจนี้ไม่น่าแปลกใจเท่าใดนักเพราะประชากรญี่ปุ่นเกือบ 1 ใน 3 เป็นคนสูงวัยอายุมากกว่า 65 ปี ทำให้มีความหวั่นกลัวต่อโรค COVID-19 มากกว่า และโดยพื้นฐานแล้วคนญี่ปุ่นมีความอนุรักษนิยม ไม่เปิดรับชาวต่างชาติมากนัก

รวมถึงปัญหา นักท่องเที่ยวล้นเมือง (overtourism) ในช่วงก่อนเกิดโรคระบาด ยังคงเป็นภาพจำที่ทำให้คนญี่ปุ่นบางส่วนไม่พอใจกับนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้ทำลายความสงบในท้องถิ่น

ยิ่งการท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนเพียง 5% ของจีดีพีญี่ปุ่น ยิ่งทำให้ไม่น่าแปลกที่ประเทศนี้ยังเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งบนโลกที่ผ่อนคลายมาตรการ COVID-19 อย่างช้าๆ

Source: Aljazeera, CNBC

]]>
1397239
ไต้หวันเข้มจัด! คิดค่าปรับชาย “หนีกักตัว” 7 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท https://positioningmag.com/1316555 Wed, 27 Jan 2021 09:09:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1316555 ชายไต้หวันกลับจากจีนแผ่นดินใหญ่ ลักลอบออกจากสถานที่กักตัว 7 ครั้ง ถูกปรับเป็นเงิน 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 1.07 ล้านบาท) สะท้อนความเข้มงวดของไต้หวันอีกครั้ง

ชายที่ไม่ถูกเปิดเผยชื่อรายหนึ่งอาศัยอยู่ในเมืองไทจง ไต้หวัน อยู่ระหว่างกักตัวในอพาร์ตเมนต์ส่วนตัว (Home Quarantine) หลังจากกลับจากทำธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่เขาฝ่าฝืนกฎการกักตัว ลักลอบออกจากที่พัก 7 ครั้งในรอบ 3 วัน

TTV News สื่อท้องถิ่นไต้หวัน รายงานว่า ชายคนนี้ลักลอบออกจากอพาร์ตเมนต์เพื่อไปช้อปปิ้ง ซ่อมรถ และอื่นๆ จนเพื่อนบ้านพบเห็นและเข้าไปต่อว่า จึงเกิดการทะเลาะวิวาทกัน และเรื่องไปถึงหูตำรวจในที่สุด

หน่วยงานรัฐท้องถิ่นของไทจงยืนยันว่า ชายผู้นี้กลับจากจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 64 ตามกฎต้องกักตัวอยู่กับบ้าน 14 วัน แต่กลับฝ่าฝืนกฎ โดย Lu Shiow-yen นายกเทศมนตรีเมืองไทจง กล่าวประณามการกระทำนี้ว่าเป็น “การทำผิดอย่างร้ายแรง” และเสริมว่าชายคนนี้ “ต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง”

ดังนั้น ชายคนนี้จะถูกปรับเป็นเงิน 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 1.07 ล้านบาท) ซึ่งเป็นโทษสูงที่สุดที่จะเรียกปรับสำหรับกรณีการลักลอบหนีกักตัวในไต้หวันจากเหตุ COVID-19 แต่ถ้ามีการลักลอบแล้วใช้ขนส่งสาธารณะด้วย จะถูกเรียกปรับเป็น 2 เท่า

นอกจากนี้ การกักตัวในจำนวนวันที่เหลือ ทางภาครัฐจะ “งด” จ่ายเงินชดเชย 1,000 ดอลลาร์ไต้หวันต่อวันให้ชายคนนี้อีกด้วย

ไต้หวันคือหนึ่งในพื้นที่ที่ควบคุมการระบาดของ COVID-19 ได้ดีที่สุดในโลก จากการปิดเกาะอย่างรวดเร็ว ระดมปูพรมตรวจโรคและตามตัวผู้มีความเสี่ยง (contact tracing) รวมถึงมีมาตรการที่เข้มงวดมาก

ตัวอย่างเช่น เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ชายฟิลิปปินส์คนหนึ่งเคยถูกปรับเป็นเงิน 3,500 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 3,747 บาท) จากการออกจากจากห้องที่พักกักตัวในโรงแรมแค่ 8 วินาที โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด หรือย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน ชายไต้หวันในไทเปผู้หนึ่งก็เคยถูกปรับสูงสุด 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวันแบบนี้มาแล้ว เพราะหนีกักตัวออกไปเที่ยวไนต์คลับ สะท้อนภาพว่าไต้หวันยังคงเข้มงวดแม้เวลาผ่านไปเกือบปีก็ตาม

จนถึงปัจจุบัน ไต้หวันซึ่งมีประชากร 23 ล้านคน มีเคสผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพียง 889 คน และผู้เสียชีวิต 7 คนเท่านั้น อ้างอิงข้อมูลจาก Johns Hopkins University

Source

]]>
1316555
“ญี่ปุ่น” เตรียมลงโทษผู้ฝ่าฝืนมาตรการป้องกัน COVID-19 “แฉชื่อ-ถอนวีซ่า” หนักสุด “เนรเทศ” https://positioningmag.com/1314511 Fri, 15 Jan 2021 09:07:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1314511 ญี่ปุ่นระงับการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติทั้งหมดแล้ว พร้อมเสนอแก้กฎหมายลงโทษผู้ฝ่าฝืน โดยเปิดเผยชื่อ ยกเลิกสถานะพำนัก หรือเนรเทศออกนอกประเทศ

รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจระงับการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติ รวมทั้งกลุ่มธุรกิจจาก 11 ประเทศและดินแดนที่ได้สิทธิ์พิเศษก่อนหน้า ซึ่งในกลุ่มนี้รวมทั้งประเทศไทยด้วย ทำให้ผู้ที่ยังคงเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ในขณะนี้มีเพียงชาวญี่ปุ่น, ผู้ที่มีสิทธิ์พำนักในญี่ปุ่น (มีไซริวการ์ด) และผู้ที่มีความจำเป็นด้านมนุษยธรรม เช่น มาร่วมพิธีศพของญาติ หรือการคลอดบุตรของญาติที่อยู่ในญี่ปุ่น

มาตรการนี้เริ่มดำเนินการแล้วในวันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม และจะบังคับใช้ไปจนกว่าจะมีการยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉิน คือวันที่ 7 กุมภาพันธ์ (หากไม่มีการขยายระยะเวลา)

นอกจากนี้ ผู้ที่เข้าประเทศญี่ปุ่นต้องลงนามในเอกสารยืนยันว่าจะอยู่ที่บ้านหรือสถานที่พักเป็นเวลา 14 วัน พร้อมแจ้งข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ของพวกตน หากฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาเปิดเผยชื่อ ยกเลิกสถานะผู้อยู่อาศัย หรือขับออกนอกประเทศ

รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังจะเสนอแก้ไขกฎหมายควบคุมโรคติดต่อ หลังพบผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการกักตัว ออกนอกพื้นที่จนเกิดการแพร่ระบาดไปทั่ว รวมทั้งธุรกิจบางแห่งที่ไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอให้ลดเวลาทำการเพราะไม่ได้รับเงินชดเชย โดยกฎหมายขณะนี้ทำได้เพียง “ขอความร่วมมือ” ไม่มีมาตรการ “ลงโทษ”

(Photo : Shutterstock)

ภายใต้แผนการนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจะมอบอำนาจทางกฎหมายให้แก่ผู้ว่าการจังหวัดมากขึ้นเพื่อสกัดดการแพร่ระบาดของโรค ผู้ว่าการจังหวัดจะสามารถออกคำสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจในจังหวัดของตนปรับเปลี่ยนเวลาทำการได้ โดยไม่ต้องรอการประกาศภาวะฉุกเฉินจากรัฐบาล หากผู้ประกอบธุรกิจปฏิเสธไม่ทำตาม ผู้ว่าการจังหวัดก็จะมีอำนาจสั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ รวมทั้งลงโทษด้วยมาตรการทางปกครอง หรือกำหนดโทษปรับได้

ร่างกฎหมายนี้ยังจะทบทวนมาตรการควบคุมโรคติดต่อ ให้สามารถลงโทษประชาชนที่ปฏิเสธมาตรการควบคุมโรค การกักตัวเอง การร่วมมือติดตามเส้นทางการติดเชื้อ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นโทษปรับเงิน หรือมาตรการทางสังคมอื่น

นอกจากนี้ยังให้อำนาจ ผู้ว่าการจังหวัดสั่งให้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่หนัก หรือไม่แสดงอาการต้องพักรักษาตัวที่บ้านหรือสถานที่ที่กำหนดไว้ หากปฏิเสธจะถูกลงโทษหรือบังคับให้เข้ารักษาตัว

รัฐบาลจะรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายค้านในการแก้ไขกฎหมายในวันพุธที่ 13 และหวังว่าคณะรัฐมนตรีจะผ่านความเห็นชอบอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า

Source

]]>
1314511