รายได้ประจำ (recurring income) – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 11 Apr 2024 06:33:41 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 จัดองค์กรสำเร็จ! “พฤกษา” มุ่งหน้าตลาด “กลางบน” โตต่อกลุ่มธุรกิจรายได้ประจำ “รพ.วิมุต” ลงทุนเพิ่ม 2 แห่ง https://positioningmag.com/1463238 Mon, 19 Feb 2024 10:32:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1463238
  • “พฤกษา โฮลดิ้ง” ลีนองค์กร-จัดระเบียบเสร็จตามเป้า ปี 2567 วางเป้ารายได้รวมเติบโต 8% เป็น 28,000 ล้านบาท กลุ่มรายได้ประจำเพิ่มสัดส่วนเป็น 9% ของรายได้รวม
  • กลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัยยังมุ่งหน้าในตลาด “กลางบน” จากสภาวะเศรษฐกิจยังอึมครึม ปีนี้เตรียมเปิดใหม่ 30 โครงการ 29,000 ล้านบาท “ครึ่งหนึ่ง” จะเป็นอสังหาฯ​ ระดับพรีเมียม
  • เครื่องยนต์หลักในกลุ่มรายได้ประจำอย่าง “รพ.วิมุต” ตั้งเป้าเติบโต 26% แผนระยะ 3 ปีเตรียมเปิด “เนอร์สซิงโฮม” เพิ่มเป็น 600 เตียง ก่อสร้างโรงพยาบาลสาขาใหม่อีก 2 สาขา
  • นับตั้งแต่กำเนิด “พฤกษา โฮลดิ้ง” ตั้งแต่ปี 2559 บริษัทนี้เริ่มวางทิศทางธุรกิจกระจายความเสี่ยงออกจากการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อขายเพียงอย่างเดียว และดูเหมือนในปี 2567 การวางฐานใหม่มาอย่างต่อเนื่องจะเริ่มเห็นผลชัดเจน

    “อุเทน โลหชิตพิทักษ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อปี 2566 พฤกษา โฮลดิ้ง ทำรายได้ไป 26,132 ล้านบาท (ลดลง -9% จากปีก่อนหน้า) และทำกำไรสุทธิ 2,205 ล้านบาท (ลดลง -20% จากปีก่อนหน้า)

    พฤกษา 2567
    ผลการดำเนินงานพฤกษา โฮลดิ้ง ปี 2566

    ขณะที่ปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 8% มูลค่าเพิ่มเป็น 28,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนของธุรกิจ “กลุ่มรายได้ประจำ” (Recurring Income) จะเพิ่มเป็น 9% ของรายได้รวม

    กลุ่มรายได้ประจำของพฤกษานั้นมีการวางฐานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีทั้งหมด 4 แกนหลัก ได้แก่

    • กลุ่มเฮลท์แคร์ ได้แก่ โรงพยาบาลวิมุต, โรงพยาบาลเทพธารินทร์ และธุรกิจเนอร์สซิ่งโฮม (ร่วมทุน 25% กับ เค.พี.เอ็น ซีเนียร์ ฮอสพิตัล กรุ๊ป)
    • กลุ่มอีคอมเมิร์ซ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ซินเนอร์จี โกรท จำกัด ทำรายได้จากการเสนอสินค้าและบริการผ่านแอปพลิเคชัน MyHaus, แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ com และ บริการตกแต่งภายในจาก Zdecor
    • กลุ่มธุรกิจใหม่ ได้แก่ อินโน พรีคาสท์ ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นพรีคาสท์คาร์บอนต่ำ และ อินโน โฮม คอนสตรัคชั่น ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่อยู่อาศัยแนวราบ
    • กลุ่มการลงทุนเพื่อขยายห่วงโซ่ธุรกิจ ได้แก่ การลงทุนในกองทุน CapitaLand SEA Logistics Fund เน้นด้านนวัตกรรมบริหารจัดการคลังสินค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ กองทุน CapitaLand Wellness Fund (C-Well) การลงทุนในอสังหาฯ ที่เน้นด้านการดูแลสุขภาพ
    พฤกษา 2567
    เป้าหมายการดำเนินงานพฤกษา โฮลดิ้ง ปี 2567

    ปัจจุบันกลุ่มเฮลท์แคร์ยังถือเป็นเครื่องยนต์หลักที่ทำรายได้ประจำให้กับพฤกษา แต่ในกลุ่มอื่นๆ อุเทนมองว่าจะเติบโตขึ้นเช่นกัน เช่น กลุ่มอีคอมเมิร์ซ ที่มีเป้าหมายรายได้ขึ้นไปแตะ 1,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี หรือ กลุ่มธุรกิจอินโน พรีคาสท์และอินโน โฮม คอนสตรัคชั่น ที่ขยายตัวรับผลิตพรีคาสท์และรับจ้างก่อสร้างนอกเครือพฤกษา เป็นโอกาสหารายได้ที่มากขึ้น

    ทั้งนี้ พฤกษา โฮลดิ้ง วางเป้าในอนาคตจะผลักดันให้รายได้ประจำมีสัดส่วนขึ้นมาถึง 25% ในรายได้รวมของบริษัท

    (จากซ้าย) “ปิยะ ประยงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน), “นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ” รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต จำกัด และ “อุเทน โลหชิตพิทักษ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)

     

    ปี 2566 “พฤกษา” ติดเบรกที่อยู่อาศัยเปิดใหม่อื้อ

    เจาะลงไปในรายละเอียดธุรกิจหลักของพฤกษาคือกลุ่มที่อยู่อาศัย “ปิยะ ประยงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ปี 2566 บริษัทมีการเปิดตัวโครงการเพียง 13 โครงการ มูลค่ารวม 14,200 ล้านบาท ทำยอดพรีเซลได้ 18,540 ล้านบาท และสร้างรายได้ 22,357 ล้านบาท (ลดลง -18% จากปีก่อนหน้า)

    การเปิดตัวโครงการใหม่เมื่อปีก่อนยอมรับว่าต่ำกว่าเป้าต้นปีที่เคยตั้งไว้ 22 โครงการ มูลค่ารวม 23,500 ล้านบาท สาเหตุที่ไม่ถึงเป้าเพราะสภาพเศรษฐกิจเมื่อปีก่อนไม่เหมาะกับการเปิดตัวโครงการในระดับกลางล่าง ซึ่งทำให้พฤกษาระงับโครงการทาวน์เฮาส์กลุ่มราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทไปหลายแห่ง

    13 โครงการที่ได้เปิดจริงของพฤกษาเมื่อปี 2566

    โครงการที่ถูกระงับไปจะมีการนำมาประเมินและเปลี่ยนรูปแบบโครงการแล้วแต่ศักยภาพทำเล ในบางทำเลอาจจะขยับโปรดักส์ขึ้นเป็นกลุ่มบ้านแฝดหรือบ้านเดี่ยวได้ หรือบางทำเลอาจจะเปลี่ยนมาพัฒนาโปรดักส์แนวใหม่ ‘บ้านกรีนเฮ้าส์’ ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ราคา 1 ล้านต้นๆ ได้พื้นที่ใช้สอยกว้างกว่าคอนโดฯ มีที่ดิน แต่ปรับที่จอดรถเป็นที่จอดรวมเหมือนกับคอนโดฯ

     

    อสังหาฯ ปี 2567 ยังต้องจับ “กลางบน” เป็นหลัก

    ขณะที่แผนธุรกิจที่อยู่อาศัยพฤกษาปี 2567 กลับมาเติบโตต่อ โดยมีเป้าเปิดโครงการใหม่ 30 โครงการ มูลค่ารวม 29,000 ล้านบาท เป้ายอดพรีเซล 27,000 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ 25,500 ล้านบาท

    พฤกษา 2567
    แผนธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท 2567

    ที่ผ่านมาในกลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัย พฤกษามีเป้าระยะยาวในการ ‘ลีน’ ตนเองมาโดยตลอด ลดการเปิดโครงการทับซ้อนทำเลและโปรดักส์ ทำให้มีโครงการในมือน้อยลง ซึ่งปิยะมองว่าปีนี้ถือเป็นปีที่พฤกษา ‘รีดไขมัน’ ออกจนอยู่ในระดับเหมาะสม เหลือโครงการระหว่างขาย 144 โครงการ มูลค่ารวม 62,900 ล้านบาท

    อย่างไรก็ตาม การเติมพอร์ตโครงการใหม่ยังคงยึดนโยบายเดิมคือ เน้นตลาด “กลางบน” เป็นหลัก

    โดยการเปิดตัวใหม่ 30 โครงการปีนี้จะแบ่งเป็น ทาวน์เฮาส์ 17 โครงการ บ้านเดี่ยว 10 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ภาพรวม 50% ของโครงการเปิดใหม่จะเป็นสินค้า “พรีเมียม” หมายถึงทาวน์เฮาส์ราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป, บ้านเดี่ยวราคา 7 ล้านบาทขึ้นไป และคอนโดฯ ราคา 4 ล้านบาทขึ้นไป (*ดูรายละเอียดตามกราฟด้านล่าง)

    เมื่อผสมรวมกับพอร์ตโครงการระหว่างขายที่มีอยู่เดิม จะทำให้พอร์ตสินค้าในมือที่พฤกษามีแบ่งได้ดังนี้

    • 30% กลุ่มราคามากกว่า 7 ล้านบาท
    • 30% กลุ่มราคา 3-7 ล้านบาท
    • 40% เป็นกลุ่มต่ำกว่า 3 ล้านบาท

    สัดส่วนนี้ปิยะมองว่าเป็นพอร์ต “สุขภาพดี” ในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ต่างจากเมื่อ 5 ปีก่อนที่พฤกษามีสินค้าราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทถึง 70% ของพอร์ต

    “Pine ประชาชื่น” โครงการแบรนด์ใหม่ บ้านแฝด 3 ชั้นเจาะตลาดมัลติเจนเนอเรชัน

     

    “รพ.วิมุต” เปิดใหม่อีก 2 แห่งที่ “ปิ่นเกล้า” “ทองหล่อ”

    ด้านธุรกิจสร้างรายได้ประจำอย่างโรงพยาบาล “นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต จำกัด ประกาศรายได้ปี 2566 ทำได้ 1,820 ล้านบาท เติบโต 50% และมีผู้ป่วยกลุ่ม non-COVID เพิ่มขึ้น 49%

    ปี 2567 บริษัทมีเป้าเพิ่มรายได้อีก 26% มูลค่าเพิ่มเป็น 2,300 ล้านบาท พร้อมตั้งงบลงทุน 3,500 ล้านบาทเพื่อลงทุนสร้าง “เนอร์สซิ่งโฮม” เพิ่มอีก 2 แห่งที่วัชรพลและแบริ่ง ซึ่งจะทำให้มีเตียงสะสม 240 เตียง, เพิ่มจำนวนเตียง รพ.วิมุต พหลโยธิน เป็น 150 เตียง และการรีแบรนด์รพ.เทพธารินทร์เป็น “รพ.วิมุต เทพธารินทร์”

    โรงพยาบาลวิมุต พหลโยธิน

    ขณะที่แผนระยะยาวของกลุ่มวิมุต มีแผนจะเปิดโรงพยาบาลวิมุตใหม่เพิ่ม 2 แห่ง คือ รพ.วิมุต ปิ่นเกล้า จำนวน 59 เตียง และ รพ.วิมุต ทองหล่อ ซึ่งจะเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกและข้อ รวมถึงจะลงทุนธุรกิจเนอร์สซิ่งโฮมต่อเนื่องให้ครบ 600 เตียงภายใน 3 ปี

    ต้องติดตามต่อว่ากลุ่มพฤกษาจะเป็นอย่างไรหลังจากจัดโครงสร้างองค์กรเรียบร้อย ได้เวลาเดินหน้าปั๊มรายได้จากทุกเครื่องยนต์ที่มีในปีนี้!

    ]]>
    1463238
    ทศวรรษที่ 3 ของ “เอสซี แอสเสท” มุ่งขยายพอร์ต “รายได้ประจำ” ปี 2567 ระวังการลงทุน-เศรษฐกิจไม่เอื้อ https://positioningmag.com/1462068 Thu, 08 Feb 2024 09:02:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1462068
  • “เอสซี แอสเสท” เข้าสู่ทศวรรษที่ 3 เดินหน้าขยายพอร์ต “รายได้ประจำ” สร้างความหลากหลายทางธุรกิจ วางเป้าสัดส่วนจากกลุ่มรายได้ประจำขึ้นเป็น 25% ของ EBITDA ภายในปี 2571
  • แผนธุรกิจปี 2567 ผ่อนคันเร่งเปิดตัวใหม่เหลือ 17 โครงการ มูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท เน้นหนัก 80% เป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป
  • วิเคราะห์เศรษฐกิจปีนี้ยังมีปัจจัยลบมากกว่าปัจจัยบวกเช่นเดียวกับปีก่อน เชื่อภาคอสังหาฯ ส่วนใหญ่เลือกลงทุนอย่างระมัดระวัง
  • “เอสซี แอสเสท” บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2547 เริ่มจากการพัฒนา “บ้านหรู” ก่อนขยายเข้าสู่ตลาดระดับกลางจนถึงกลางล่าง ปัจจุบันกำลังย่างเข้าสู่ยุคทศวรรษที่ 3 ของบริษัทตั้งแต่ปีนี้

    “ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ฉายภาพการลงทุนในทศวรรษใหม่ (2567-2576) ว่าจะเป็นยุค “The Evolution” เน้นสร้างรากฐานบริษัทให้มั่นคงเหมือนต้นไม้ใหญ่ แต่จะมีการลงทุนหลากหลายเปรียบเสมือนกิ่งก้านสาขาที่แผ่ออกไป โดยกำหนดเป้าหมายภายใน 5 ปีแรก (2567-2571) ไว้ 3 ด้าน ได้แก่

    1. ทำรายได้สะสม 5 ปี มูลค่ารวม 1.5 แสนล้านบาท ทยอยเติบโตต่อเนื่องทุกปี
    2. สร้างความมั่นคงทางการเงิน ลดอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ไม่เกิน 1.5 เท่า
    3. เพิ่มพอร์ตสินทรัพย์สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) หรือ ‘Engine 2’ ของบริษัท เพื่อให้สินทรัพย์กลุ่มนี้มีสัดส่วนใน EBITDA ไม่ต่ำกว่า 25% (*ปัจจุบันมีสัดส่วนใน EBITDA อยู่ 16%)

     

    ปี 2567 เปิดตัวใหม่น้อยลง

    ด้านแผนธุรกิจของเอสซี แอสเสทในปี 2567 ตั้งเป้าหมาย ดังนี้

    • ป้าพรีเซล 28,000 ล้านบาท
    • เป้ารายได้ 26,500 ล้านบาท
    • เป้าเปิดตัวโครงการใหม่ 17 โครงการ มูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท
    • เป้าการลงทุนสินทรัพย์ 25,000 ล้านบาท

    เอสซี แอสเสท

    ทั้งนี้ เมื่อปี 2566 เอสซี แอสเสททำยอดขายไปได้กว่า 27,900 ล้านบาท ทำให้เป้าหมายพรีเซลปีนี้ยังใกล้เคียงเดิม อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวโครงการใหม่เมื่อปีก่อน เอสซี แอสเสทเปิดตัวไป 25 โครงการ มูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าปี 2567 เอสซี แอสเสทผ่อนการเปิดตัวใหม่น้อยลงจากปีก่อนพอสมควร

    “ผมว่าทุกคนเห็นว่าเศรษฐกิจไม่ค่อยสดใส เราก็ไปต่อแบบระมัดระวัง ลงทุนแบบสมดุล แม้จะเปิดน้อยลงแต่การรับรู้รายได้จะมากขึ้น” ณัฐพงศ์กล่าว

    เอสซี แอสเสท
    แบรนด์ใหม่ “คอนนาเซอร์”​ (Connoisseur) บ้านเดี่ยวราคา 80 ล้านบาท ทำเลพัฒนาการ

    โดยปี 2567 นี้จะมีคอนโดมิเนียม 2 แห่งของบริษัทที่จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ คือ เรฟเฟอเรนซ์​ สาทร วงเวียนใหญ่ มูลค่า 4,000 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 60% และ สโคป ทองหล่อ มูลค่า 3,000 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 60%

    ส่วนการเปิดตัวใหม่ทั้ง 17 โครงการนั้น จะแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 15 โครงการ มูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท ไฮไลต์เป็นบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ “คอนนาเซอร์” พัฒนาการ ราคาบ้านเริ่ม 80 ล้านบาท ส่วนฝั่งคอนโดฯ จะมี 2 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “เรฟเฟอเรนซ์” ทำเลเอกมัย-ทองหล่อ และทำเลแคมปัสคอนโดย่านเกษตร

    ภาพรวมเซ็กเมนต์การเปิดตัวใหม่ปีนี้จะเป็นกลุ่มราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปประมาณ​ 80% ของพอร์ต ใกล้เคียงกับปีก่อน

    แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด บางนา กม.15 โครงการใหม่เปิดตัวปีนี้ ราคา 30-50 ล้านบาท

     

    คลังสินค้า-โรงแรม น่านน้ำเนื้อหอมยุคนี้

    ด้านการลงทุนสินทรัพย์สร้างรายได้ประจำ เอสซี แอสเสทเริ่มลงทุนมาแล้วระยะหนึ่งโดยมีทั้งอาคารสำนักงาน 6 อาคาร, คลังสินค้า 1 แห่ง จ.นครสวรรค์, โรงแรม 1 แห่งที่ “YAHN” (ย่าน) ราชวัตร และอะพาร์ตเมนต์ 4 แห่งในเมืองบอสตัน สหรัฐฯ สำหรับปีนี้จะมีการลงทุนเพิ่มเติม ได้แก่

    1. คลังสินค้า 3 แห่ง ที่ บางนา กม.20, บางนา กม.22 และแหลมฉบัง
    2. โรงแรม 2 แห่ง
      Kromo (ครอโม) Curio Collection by Hilton ทำเลสุขุมวิท 29 (ตรงข้ามเอ็มสเฟียร์) จำนวนห้องพัก 306 ห้อง
      โรงแรมทำเลพัทยา จำนวนห้องพัก 161 ห้อง
    Kromo (ครอโม) Curio Collection by Hilton ทำเลสุขุมวิท 29

    “อนาคตการลงทุนจะเน้นไปที่คลังสินค้าและโรงแรม โดยเฉพาะคลังสินค้าที่ลองลงทุนที่แรกในนครสวรรค์ได้ผลตอบรับที่ดี ปัจจุบันธุรกิจขนส่ง ‘แฟลช’ เช่าเต็มทั้งหมด การหาลูกค้าค่อนข้างเร็ว” ณัฐพงศ์กล่าว “ธุรกิจ ‘Engine 2’ ของเราจะมีการร่วมลงทุนกับบริษัทจากต่างประเทศด้วย จะมีการประกาศการเซ็นสัญญาเร็วๆ นี้”

     

    เศรษฐกิจยังเสี่ยง ไม่ต้องเร่งลงทุน

    ปี 2567 ถือเป็นปีที่เอสซี แอสเสทระมัดระวังมาก เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่เอื้อมากนัก โดยณัฐพงศ์มองว่าปีนี้จะเป็นปีที่ภาคอสังหาฯ เผชิญปัจจัยลบ 3 ด้านใหญ่ คือ

    • “ขายช้า” จากเศรษฐกิจโตต่ำ หนี้สูง ต้นทุนสูง และดอกเบี้ยสูง
    • “ทุนตึง” ทุกฝ่ายระวังตัวในการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นแบงก์ นักลงทุน คู่ค้า หรือลูกค้า ทำให้การหาเงินทุนยากขึ้น
    • “เหลื่อมล้ำ” ปลาใหญ่กว่ากินปลาใหญ่ ช่องว่างระหว่างปลาใหญ่กับปลากลาง/ปลาเล็กห่างขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ปลาใหญ่ก็ต้องแข่งขันกันเองในการหาเงินทุน

    ประกอบกับปีที่แล้วมีการเปิดตัวใหม่เข้าสู่ตลาดถึงกว่า 5 แสนล้านบาท ทำให้สต็อกระหว่างขายยังค่อนข้างมาก สามารถใช้โครงการเดิมดันยอดขายในปีนี้ได้

    “เท่าที่ดูแผนเปิดตัวใหม่ของหลายๆ บริษัทที่แถลงแล้วก็จะเห็นว่าส่วนใหญ่ลดการเปิดตัวประมาณ 10% เพราะทุกคนเลือกที่จะระวังตัว” ณัฐพงศ์กล่าว

    “ดีเวลอปเปอร์หลายรายกำลังปรับพอร์ตตัวเองให้สมดุลกับตลาด ไม่ให้เกิดภาวะฟองสบู่ ทุกรายมองแบบนี้หมดเพราะทุกคนใช้ดาต้าเดียวกันมากขึ้น” อรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น กล่าวเสริม

    อย่างไรก็ตาม อรรถพลเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังอาจจะมีสัญญาณที่ดีขึ้นกว่าปี 2566 ได้ เพราะอัตราดอกเบี้ยอาจจะมีแนวโน้มปรับลง และชาวต่างชาติน่าจะเริ่มเข้าลงทุนในตลาดคอนโดฯ ดีมานด์ในกลุ่มตลาดคอนโดฯ​ จึงน่าจะดีขึ้น

    ซีอีโอณัฐพงศ์ยังฝากถึงรัฐบาลด้วยว่า ควรพิจารณาผ่อนคลายความเข้มงวดหลักเกณฑ์​ LTV (Loan-to-value) ในกลุ่มบ้านหลังที่ 2 ขึ้นไป เพราะมองว่าผู้ที่ต้องการซื้อเป็นเรียลดีมานด์มากกว่าซื้อเก็งกำไร รวมถึงธนาคารพาณิชย์มีความระมัดระวังในการปล่อยกู้สูง และดอกเบี้ยสูงมากอยู่แล้ว ทำให้ควรจะปลดล็อกอัตรา LTV ให้ผ่อนคลายมากขึ้น

    ]]>
    1462068