ฮุนได – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 21 Feb 2025 08:37:42 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘ฮุนได’ เตรียมเปิดตัวรถใหม่ 6 รุ่น วางเป้าเติบโต 10% แตะ 4,100 คัน พร้อมช่วยละลายภาพจำ ‘แบรนด์รถตู้’ https://positioningmag.com/1511865 Fri, 21 Feb 2025 08:10:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1511865 ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างมากในตลาด รถยนต์ เนื่องจากการมาของแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่จาก จีน แต่แบรนด์สัญชาติเกาหลีใต้อย่าง ฮุนได (Hyundai) ก็สู้ยิบตา โดยเตรียมออกรถใหม่ถึง 6 รุ่นในปีนี้ พร้อมวางเป้าเติบโต 10% ทำยอดแตะ 4,100 คัน

เตรียมเปิดตัวรถใหม่ 6 รุ่น

วัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์ฮุนไดลดลง -27% อยู่ที่ 3,780 คัน โดยสัดส่วน 55-60% เป็นรถตู้ H1 และ Staria 

สำหรับแผนของฮุนไดในปีนี้ จะเปิดตัวรถใหม่อย่างน้อย 6 รุ่น โดยเริ่มจากเปิดตัว IONIQ 5 N Line และจะเปิดตัวเพิ่มอีก 2 รุ่น ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 หรือ มอเตอร์โชว์ 2025 (Motor Show 2025) และในช่วง กลางปี จะเปิดตัวรุ่นใหม่อีก 3 รุ่น โดยทั้ง 6 รุ่นที่จะเปิดตัวมีทั้งรถสันดาป (ICE) รถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) และ รถยนต์ไฮบริด (HEV)

ในส่วนของเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย หรือ ดีลเลอร์ ปัจจุบัน ฮุนไดมีทั้งหมด 36 แห่ง โดยรวมทั้งดีลเลอร์ฮุนได และ IONIQ ที่มีจำนวน 20 แห่ง ซึ่งเติบโตจาก 8 แห่งในปีที่ผ่านมา โดยปีนี้คาดว่าจะมีจำนวนดีลเลอร์เพิ่มขึ้นอีก 3-4 แห่ง รวมเป็น 40 แห่ง และในอนาคตมีแผนจะให้ทุกดีลเลอร์สามารถขายรถยนต์ไฟฟ้าได้

“เพราะดีลเลอร์ฮุนไดเขามี Khow how ในการดูแลรถไฟฟ้ากันอยู่แล้ว ดังนั้น จากนี้คงจะหาดีเลอร์เพิ่มได้ไม่ยาก แต่ปัญหาคือ เราต้องการโชว์รูมที่สวยหน่อย ซึ่งหลายคนอาจยังไม่พร้อมลงทุนในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ แต่เราก็มีงบช่วยประมาณ 50% ถ้าจะรีโนเวต”

ปักเป้า 4,100 คัน พร้อมละลายภาพจำแบรนด์รถตู้

วัลลภ อธิบายว่า ที่ปีนี้ฮุนไดเปิดตัวรถถึง 6 รุ่น ถือเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้ถึงเป้าหมาย 4,100 คัน หรือเติบโต +10% เนื่องจากที่ผ่านมา ฮุนไดเปิดตัวรถใหม่น้อย และรถที่ขายได้คือ รถตู้ ทำให้กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็น กลุ่มครอบครัวที่ลูกเริ่มโต

ดังนั้น การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ มากขึ้น นอกจากจะเป็นการสร้างสีสันให้กับแบรนด์แล้ว ยังช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าอายุน้อยลง และมีตัวเลือกให้ได้ลองสัมผัสกับแบรนด์ฮุนไดง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม มองว่ายอดขายครึ่งหนึ่งในปีนี้คาดว่าจะยังคงเป็น รถตู้ 

“เราต้องมองทุกมุมว่าเรามีโอกาสตรงไหน ที่คู่แข่งเราทำไม่ได้ แต่ปัญหาคือ ในอดีตเรายึดติดกับรถตู้ ทำให้ภาพแบรนด์เลยดูแก่ ดังนั้น โจทย์คือต้องทำภาพแบรนด์ให้ทันสมัยขึ้น ผ่านการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ มากขึ้น และอนาคตสัดส่วนยอดขายรถตู้จะค่อย ๆ ลดลง เพราะระยะยาวตลาดรถตู้ในไทยน่าจะอยู่ไม่เกิน 4,000 คัน”

โรงงานพร้อมต้นปีหน้า ผลิตได้ 5,000 คัน

หลังบริษัทได้เข้าร่วมมาตรการ EV 3.5 เต็มรูปแบบ บริษัทก็เดินหน้าจัดตั้ง บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) เพื่อเปิดโรงงานประกอบรถยนต์ของฮุนไดโดยลงทุนไป 1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มการผลิตในช่วงต้นปี 2026 ตั้งเป้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 5,000 คัน/ปี/กะการทำงาน

“ถ้าทำงานเพิ่ม 2 กะ จะสามารถผลิตได้สูงสุด 10,000 คัน/ปี แต่ตอนนี้เราโฟกัสที่ผลิตใช้ในประเทศก่อน ไม่ได้มองถึงการส่งออก เพราะมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น”

ปีก่อนเหนื่อย ปีนี้ก็เหนื่อย

สำหรับภาพรวมตลาดในปีนี้ คาดว่าตลาดจะหดตัวประมาณ -5% คิดเป็นจำนวนประมาณ 5.7 แสนคัน เนื่องจากยังไม่เห็นปัจจัยบวกจากภายนอกในตอนนี้ ส่วน ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า คาดว่าจะมียอดขายอยู่ 7-8 หมื่นคัน ทั้งนี้ทั้งนั้น อาจขึ้นอยู่กับผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามา ซึ่งอาจดันยอดให้เติบโตกว่านี้

“ปีที่ผ่านมาตลาดหดตัวประมาณ 27% ถือว่าเหนื่อยทุกค่าย เพราะทุบราคากันหมด โดยยอดขายเราก็หดตัวใกล้เคียงตลาด ปีนี้มองว่ายังต้องช่วยเหลือตัวเองต่อไป เพราะยังไม่เห็นปัจจัยบวก โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมาตลาดหดตัว -7%”

สำหรับปัญหา หนี้เสีย ตอบยากว่า ดีขึ้น หรือไม่ เพราะภาครัฐมีมาตรการ คุณสู้เราช่วย ขณะที่ภาพรวมการอนุมัติสินเชื่อยานยนต์ในตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 60% ขณะที่อัตราของฮุนไดอยู่ที่ 80% ซึ่งถือว่าดีกว่าตลาด แต่เมื่อเทียบกับอดีต ถือว่าลดลง จากเดิมที่อยู่ 95%

“ตอนนี้เราบอกไม่ได้ว่า NPL ดีขึ้นไหม แต่เราก็ต้องช่วยตัวเองไปก่อน เช่นออกโปรผ่อน 0% นาน 84 เดือน ซึ่งลูกค้าค่อนข้างดี ทำให้แบงก์กล้าปล่อย”

]]>
1511865
Hyundai ตั้งเป้ารุกตลาดอาเซียน มองอินโดนีเซียเป็นฮับ EV ของบริษัทในภูมิภาคนี้ แม้รถญี่ปุ่นจะครองตลาดก็ตาม https://positioningmag.com/1457269 Wed, 27 Dec 2023 03:30:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1457269 ฮุนได ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากเกาหลีใต้ ตั้งเป้ารุกตลาดในอาเซียนมากขึ้น โดยมองถึงการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า อย่างประเทศไทย หรือมาเลเซีย ที่เป็นผู้นำเทรนด์ในละแวกนี้ ขณะเดียวกันก็มองประเทศใหญ่อย่างอินโดนีเซียเป็นฮับสำคัญของบริษัท และยังรวมถึงประเทศอย่างอินเดียด้วย

Korea Herald รายงานข่าวว่า ฮุนได (Hyundai) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากเกาหลีใต้ ตั้งเป้ารุกตลาดในอาเซียนมากขึ้น โดยมองถึงการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย ขณะเดียวกันก็มองประเทศใหญ่อย่างอินโดนีเซียเป็นฮับสำคัญของบริษัท

ปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ Hyundai ต้องหันมามองตลาดในอาเซียนคือ ไทย และ มาเลเซีย ถือเป็น 2 ประเทศที่เป็นผู้นำในการเปลี่ยนจากรถยนต์ที่ใช้เครื่องสันดาปมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกันอินโดนีเซียและเวียดนามเองก็ไล่หลังตามมาติดๆ เช่นกัน

ในอินโดนีเซียซึ่งเป็นตลาดสำคัญนั้น Hyundai ได้จับมือกับ LG Energy Solution ในการวางเครือข่ายสถานีชาร์จ อย่างไรก็ดีการรุกตลาดอินโดนีเซียถือว่ามีอุปสรรคไม่น้อยเนื่องจากผู้เล่นรายใหญ่ที่ครองตลาดคือผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ Hyundai ต้องกลับมามองตลาดอาเซียน คือ การพึ่งพาตลาดรถยนต์ในประเทศจีนมากเกินไปในช่วงที่ผ่านมา ได้สร้างผลกระทบต่อบริษัทมหาศาลนับตั้งแต่ปี 2017 หลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้กับจีนลดระดับลงจากปัญหาที่เกาหลีใต้ได้ติดตั้งระบบป้องกันภัยขีปนาวุธ THAAD ของสหรัฐอเมริกา

สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลทำให้ยอดขายรถยนต์ของ Hyundai ในจีนลดลง จนทำให้ปัจจุบันบริษัทเหลือโรงงานผลิตเพียงไม่กี่โรงงานเท่านั้น และบริษัทเองยังพร้อมที่จะขายโรงงานที่มีอยู่ในประเทศจีนให้กับผู้ที่สนใจด้วย

ไม่เพียงเท่านี้ตลาดรัสเซียซึ่ง Hyundai เป็นผู้เล่นรายใหญ่ มีส่วนแบ่งการตลาดราวๆ 25% ก็พบกับปัญหาเนื่องจากรัสเซียได้บุกยูเครน ทำให้เกิดมาตรการคว่ำบาตรจากหลายประเทศ ทำให้ท้ายที่สุดบริษัทต้องตัดสินใจขายโรงงานในแดนหมีขาวซึ่งสามารถผลิตรถยนต์ได้ราวๆ 230,000 คันต่อปี ซึ่งโรงงานดังกล่าวเริ่มดำเนินกิจการในปี 2011

ความล้มเหลวใน 2 ประเทศดังกล่าว Korea Herald ได้สัมภาษณ์ผู้ที่อยู่ในแวดวงยานยนต์เกาหลีได้ชี้ว่าปัจจัยความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ดังกล่าวนั้นอยู่เหนือการควบคุมของ Hyundai และทำให้ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตยานยนต์จากเกาหลีเองจะต้องหาตลาดใหม่ๆ ทดแทน

นอกจากอาเซียนแล้ว Hyundai ยังเตรียมรุกตลาดในประเทศอินเดียเพิ่มขึ้นด้วย โดยเตรียมส่งรถยนต์หลายรุ่นเข้าสู่ตลาด เนื่องจากจำนวนประชากรที่มากถึง 1,400 ล้านคน ทำให้อินเดียกลายเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่อันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา และจีน ซึ่งปัจจุบันบริษัทครองตำแหน่งเบอร์ 2 ของตลาด รองจากทาทา ซึ่งเป็นแบรนด์อินเดีย

]]>
1457269
“ฮุนได” ทุ่ม 5.5 พันล้านเหรียญ เปิดโรงงาน “รถยนต์ไฟฟ้า” ในสหรัฐฯ ขอขึ้น Top 3 ของตลาด https://positioningmag.com/1386344 Tue, 24 May 2022 07:32:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1386344 Hyundai Motor Group หรือ “ฮุนได” ลงทุนไซต์โรงงานผลิต “รถยนต์ไฟฟ้า” และแบตเตอรี ในสหรัฐฯ ด้วยเม็ดเงินลงทุน 5,540 ล้านเหรียญสหรัฐ หวังบุกตลาดสหรัฐฯ เต็มตัว ขอขึ้นเป็น Top 3 รถอีวีที่ขายดีที่สุดภายในปี 2026 เบียดตลาดแย่งกับ Tesla ที่เมื่อปี 2021 ครองตลาดถึง 75%

“ฮุนได” เตรียมลงทุนโรงงานบนที่ดินขนาดเกือบ 7,400 ไร่ ในรัฐจอร์เจีย ใกล้กับเมืองท่าซาวานนาห์ เพื่อผลิต “รถยนต์ไฟฟ้า” กำลังผลิตสูงสุด 300,000 คันต่อปี คาดว่าโรงงานจะมีการจ้างงานในพื้นที่กว่า 8,000 คน และน่าจะเริ่มการผลิตได้ในปี 2025

“สหรัฐฯ มีความสำคัญเสมอมาต่อแผนการตลาดระดับโลกของเครือเรา เรามีความยินดียิ่งที่จะได้เป็นพันธมิตรกับรัฐจอร์เจียเพื่อไปสู่เป้าหมายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและสร้างความยั่งยืนในสหรัฐฯ” ชุงอึยซุน ประธานบริษัท Hyundai Motor Group กล่าวในงานแถลงข่าว โดยโรงงานแห่งนี้จะเป็นโรงงานสำหรับผลิตอีวีแห่งแรกของฮุนไดในทวีปอเมริกาเหนือ

ก่อนหน้านี้ฮุนไดมีการตั้งฐานผลิตโรงงานรถยนต์สันดาปอยู่แล้วในรัฐอะลาบามา ส่วนโรงงานแห่งนี้ที่จะผลิตรถอีวี จะมีการตั้งสายผลิตแบตเตอรีรถร่วมด้วย แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเป็นการผลิตเพื่อซัพพลายแบตเตอรีรถให้กับ Kia แบรนด์ในเครือที่ตั้งฐานผลิตรถอีวีอยู่ในรัฐจอร์เจียด้วยเหมือนกัน

พิธีลงนามความร่วมมือการก่อตั้งโรงงานฐานผลิตรถอีวีของฮุนไดในจอร์เจีย (ภาพจาก: ไบรอัน เคมป์ ผู้ว่าการรัฐจอร์เจีย)

กระแสการลงทุนโรงงานรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ ของบริษัทต่างๆ มีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น General Motors หรือ Ford ต่างก็ทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างใหม่หรือขยายโรงงานเดิมตอบรับรถอีวี ท่ามกลางเทรนด์โลกที่ต้องการจะลดผลจากภาวะโลกร้อนน

สำหรับฮุนไดนั้นวางเป้าหมายว่าบริษัทต้องการจะเป็น Top 3 กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในสหรัฐฯ ภายในปี 2026 ซึ่งจะทำให้บริษัทมียอดขายรถอีวีแตะ 3.2 ล้านคันต่อปีภายในปี 2030 คู่แข่งของฮุนไดไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น Tesla ที่เหมาตลาดรถยนต์ไฟฟ้าสหรัฐฯ ไปกว่า 75% เมื่อปี 2021

  • ขอท้าชิง! “Rivian” วางเป้าดึงมาร์เก็ตแชร์ 10% ในตลาด “รถยนต์ไฟฟ้า” ภายในปี 2030
  • โตโยต้า ทุ่ม 3.4 พันล้านดอลลาร์ เตรียมสร้างโรงงานผลิตแบตฯ รถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ

การเลือกตั้งโรงงานในจอร์เจียครั้งนี้ ทำให้ฮุนไดเป็นบริษัทรถอีวีแห่งที่สองที่เลือกรัฐจอร์เจีย หลังจาก Rivian สตาร์ทอัพรถอีวีที่เน้นด้านรถกระบะ ประกาศไปเมื่อปลายปีก่อนว่าจะมีการตั้งโรงงานมูลค่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทางตะวันออกของเมืองแอตแลนตา

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกมองสหรัฐฯ เป็นเป้าหมาย เป็นเพราะนโยบายแข็งขันของ “โจ ไบเดน” ที่ต้องการให้สหรัฐฯ เปลี่ยนมาใช้รถอีวีโดยด่วน เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และทำให้การผลิตภายในประเทศสูงขึ้นด้วย

Source

]]>
1386344
‘ฮุนได’ หวนคืนตลาดญี่ปุ่น ในรอบ 12 ปี คว้าโอกาสปั้นยอดขาย ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ https://positioningmag.com/1373226 Tue, 08 Feb 2022 11:16:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1373226 ‘ฮุนได’ (Hyundai) เเบรนด์รถยนต์เกาหลีใต้ หวนคืนสู่ตลาดญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังถอนตัวไปนานกว่า 12 ปี เพราะทำยอดขายได้ไม่ดีนัก เเต่ในวันนี้จะกลับมาด้วยกระเเสความนิยมของ ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นการเจาะ ‘ตลาดใหม่’ ในตลาดเดิมที่ ‘โตโยต้า’ ครองส่วนเเบ่งอยู่ถึง 40% 

โดยฮุนไดจะประเดิมจำหน่ายรถยนต์ SUV ไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจนรุ่น Nexo และรถยนต์ไฟฟ้าครอสโอเวอร์ ขนาดกลางรุ่น Ioniq 5 ในญี่ปุ่น ตามเป้าหมายที่จะครองส่วนเเบ่ง 10% ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกให้ได้ภายในปี 2025

“ตอนนี้เรายังไม่ได้ตั้งเป้าหมายยอดขาย (ในญี่ปุ่น) แต่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม หลังเริ่มเปิดรับคำสั่งซื้อทางออนไลน์ในเดือนพ.ค.นี้” Shigeaki Kato ประธาน Hyundai Mobility Japan กล่าวในงานเปิดตัวที่กรุงโตเกียว

โดยครั้งนี้ ฮุนไดจะมุ่งเน้นไปที่การทำตลาดเพื่อขายออนไลน์ และกำลังร่วมมือกับบริการ ‘car sharing’ ที่ดำเนินการโดย DeNA บริษัทเกมออนไลน์ และบริษัทประกันภัย Sompo Holdings

‘ฮุนได’ เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ ที่มีเเบรนด์ในเครืออย่าง Kia ครองส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์ในเกาหลีใต้มากที่สุด เคยเข้ามาทำธุรกิจในญี่ปุ่น เมื่อปี 2001 แต่ทว่าสามารถทำยอดขายได้เพียง 15,000 คันเท่านั้น จึงตัดสินใจถอนธุรกิจออกไปในปี 2009 ทั้งนี้ ปัจจุบันมีรถยนต์ยี่ห้อฮุนไดเพียง 600 คันที่ยังคงขับอยู่ในญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นมียอดขายรถยนต์ใหม่ราว 5 ล้านคันต่อปี เเละในจำนวนนี้ประมาณ 9 ใน 10 เป็นแบรนด์ญี่ปุ่น โดยแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ ‘โตโยต้า’ ซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่มากถึง 40%

อย่างไรก็ตาม กระแสความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น ได้เปิดโอกาสให้เเบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดได้อย่าง Tesla รวมไปถึงผู้ผลิตรถยนต์เก่าเเก่อย่าง Volkswagen เเละ Stellantis (เเบรนด์ Peugeot) ด้วย

แม้ว่าในปีที่แล้ว ญี่ปุ่นจะมียอดขายรถยนต์ EV เพียง 20,000 คัน แต่กลุ่มนี้ก็เติบโตขึ้นเกือบครึ่งจากปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดขายรถยนต์โดยรวมจะลดลง ตามสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาทั่วโลก เเต่สมาคมผู้นำเข้ารถยนต์แห่งญี่ปุ่น (JAIA) เปิดเผยว่า การนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้ากลับพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์เกือบ 3 เท่า เป็น 8,610 คันทีเดียว

  • Hyundai เปิดตัว ‘E-pit’ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำ ชาร์จเร็ว 5 นาที วิ่งได้ถึง 100 กิโลเมตร
  • ‘ฮอนด้า’ ปิดโรงงานแม่ หั่นกำลังผลิตเหลือ 60% เพื่อมุ่งสู่รถอีวีเต็มตัว

 

ที่มา : Reuters , NHK 

]]>
1373226
Hyundai ปิดดีลซื้อกิจการ Boston Dynamics สำเร็จ ลุยพัฒนา ‘หุ่นยนต์’ เสริมการสัญจรอัจฉริยะ https://positioningmag.com/1338200 Tue, 22 Jun 2021 09:34:53 +0000 https://positioningmag.com/?p=1338200 อีกความเคลื่อนไหวของวงการยานยนต์เเห่งอนาคต เมื่อ Hyundai ยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ ปิดดีลเข้าซื้อกิจการ Boston Dynamics สำเร็จ ขึ้นถือหุ้นใหญ่ 80% ด้วยมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.5 หมื่นล้านบาท) เตรียมต่อยอดพัฒนา ‘หุ่นยนต์’ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ยกระดับการสัญจรอัจฉริยะ

‘Boston Dynamics’ ก่อตั้งเมื่อปี 1992 เป็นธุรกิจที่แยกออกมาจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) โดยในปี 2013 ทาง Google ได้เข้ามาซื้อกิจการเป็นเจ้าเเรก ต่อมาได้ขายให้กลุ่ม SoftBank จากญี่ปุ่นในช่วงปี 2017

ทั้งนี้ หลังการเข้ามาของ Hyundai ทาง SoftBank จะยังคงถือหุ้นอยู่ราว 20%

Boston Dynamics โด่งดังมาจากการพัฒนา ‘Spot’ หุ่นยนต์สุนัขสีเหลืองขาลุย ที่สามารถสำรวจพื้นที่ต่างๆ เข้าไปในที่เเคบเเละมืด เเละปีนที่สูงในอย่างคล่องเเคล่ว ถูกนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม อย่างธุรกิจขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ สำรวจป่า เหมืองเเร่ หรือเเม้กระทั่งตอนจับคนไม่ใส่หน้ากากในช่วงโควิด-19

  • “สิงคโปร์” ใช้หุ่นยนต์น้องหมา ช่วยเตือนให้คนเว้นระยะห่างในสวนสาธารณะ

นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว ‘Stretch’ หุ่นยนต์เชิงพาณิชย์ตัวแรกของบริษัท ที่ออกแบบมาเฉพาะ สำหรับคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า

การเข้าซื้อกิจการ Boston Dynamics ของ Hyundai ในครั้งนี้ มีเป้าหมายใหญ่ คือการสร้าง ‘Robotics Value Chain’ ที่ครอบคลุมเครือข่ายทั้งการผลิตส่วนประกอบเเละสร้างหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติต่างๆ

พร้อมทรานส์ฟอร์มบริษัทสู่ผู้ให้บริการโซลูชัน ‘Smart Mobility’ การสัญจรอัจฉริยะ รองรับเทรนด์ในอนาคต ซึ่งก่อนหน้านี้ Hyundai ได้ทุ่มลงทุนไปในหลายเทคโนโลยี เช่น ระบบขับเคลื่อนด้วยตนเอง ปัญญาประดิษฐ์ โรงงานอัจฉริยะ ฯลฯ

“ในด้านวิทยาการหุ่นยนต์ บริษัทมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนและส่งเสริมความปลอดภัย เพื่อความก้าวหน้าของมนุษยชาติ”

  • อนาคตเเรงงาน อีก 5 ปี “หุ่นยนต์-ระบบอัตโนมัติ” จะทำงานเเทนมนุษย์กว่า 85 ล้านตำเเหน่ง

ข้อตกลงนี้คาดว่าจะช่วยให้ Hyundai และ Boston Dynamics ใช้ประโยชน์จาก ‘จุดแข็ง’ ของกันและกัน ทั้งในด้านการผลิต โลจิสติกส์ การและระบบอัตโนมัติ ขยายไลน์สินค้า การบริการ และส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก

เมื่อไม่นานมานี้  Boston Dynamics ถูกวิจารณ์เรื่องการนำหุ่นยนต์สุนัข Spot ไปใช้ในกองทัพ เเต่อย่างไรก็ตาม ในคลิปโปรโมตความร่วมมือใหม่ล่าสุดกับ Hyundai จะเป็นการนำหุ่นยนต์สุนัขมา ‘ช่วยนำทาง’ สำหรับคนตาบอดและเป็นผู้ช่วยในโรงพยาบาล เป็นต้น

 

ที่มา : Engadget , Techcrunch , hyundainews 

]]>
1338200
งานเข้า! ‘ฮุนได’ เรียกคืนรถอีวีกว่า 8.2 หมื่นคัน หลังเจอ ‘แบตเตอรี่ไฟไหม้’ https://positioningmag.com/1321187 Sun, 28 Feb 2021 08:20:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1321187 ‘ฮุนได’ (Hyundai) จะเรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้า 82,000 คันทั่วโลกเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ หลังจากรายงานเหตุเพลิงไหม้ของแบตเตอรี่รถประมาณ 15 คัน แม้จะเป็นจำนวนที่ค่อนข้างน้อย แต่การเรียกคืนของฮุนไดก็เป็นการส่งสัญญาณว่าข้อบกพร่องของรถยนต์ไฟฟ้าสามารถสร้าง ‘ต้นทุนที่สูง’ ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ได้

ฮุนได แบรนด์รถยนต์รายใหญ่สัญชาติเกาหลีใต้ กำลังเรียกเก็บแบตเตอรี่จากรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 82,000 คัน หลังพบความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดไฟไหม้ โดยอาจกระทบกับรถยนต์รุ่น Kona Cars ที่ผลิตในช่วงปี 2018-2020 และรุ่น Loniq โดยการเรียกคืนนี้รถอีวีของครั้งนี้ของสร้างความเสียหายกว่า 1 ล้านล้านวอนหรือกว่า 2.7 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว

เพราะการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งลูกเป็นมาตรการที่รุนแรง เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในปริมาณที่ใกล้เคียงกับการเปลี่ยนเครื่องยนต์ทั้งหมดของรถยนต์สันดาป ดังนั้น ค่าเสียหายของฮุนไดที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่รถทั้งหมด เป็นอีกข้อบ่งชี้ว่าแบตเตอรี่ EV มีราคาแพงเพียงใดเมื่อเทียบกับราคาของรถยนต์ทั้งคัน จนกว่าต้นทุนของแบตเตอรี่จะลดลงจากการผลิตที่มากขึ้นทั่วโลก และการประหยัดจากขนาดต้นทุนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะยังคงสูงกว่ารถยนต์เบนซินที่เทียบเคียงได้

“โดยรวมแล้วความปลอดภัยและความทนทานของแบตเตอรี่จะมีความสำคัญมากขึ้นหากบริษัทรถยนต์ต้องการหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายในการเรียกคืนแบตเตอรี่จำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค”

Hyundai

อย่างไรก็ตาม ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เมื่อแบตเตอรี่มีราคาถูกลง รถอีวีอาจมีราคาถูกกว่ามากขึ้น เนื่องจากรถอีวีมีชิ้นส่วนที่ใช้น้อยลง ซึ่งนั่นทำให้มีเวลาในการประกอบน้อยลงถึง 30% เมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไป และชิ้นส่วนที่น้อยลงอาจหมายความว่าการเรียกคืนควรน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้ระบบสันดาป

สำหรับแบตเตอรี่ที่ไหม้นั้น ฮุนไดระบุว่า การสอบสวนเหตุเพลิงไหม้แสดงให้เห็นว่าเซลล์แบตเตอรี่ที่ผลิตโดย LG มีข้อบกพร่องอาจทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรได้ โดยปัจจุบัน ฮุนไดยังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้จัดจำหน่ายแบตเตอรี่ LG Energy Solutions เพื่อพิจารณาว่าบริษัทใดจะต้องรับผิดชอบค่าความเสียหายนี้

Source

]]>
1321187