เที่ยว – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 10 Jul 2024 09:16:40 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘มาเก๊า’ กับความพยายามชู ‘จุดขายใหม่’ นอกจากกาสิโน เพื่อแข่งโกยนักท่องเที่ยวกับนานาประเทศ https://positioningmag.com/1482229 Wed, 10 Jul 2024 08:17:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1482229 ทุกวันนี้ มาเก๊า เป็นเขตปกครองพิเศษของสาธารณรัฐประชาชนจีน เช่นเดียวกับฮ่องกง ซึ่งใครที่ไปเที่ยวฮ่องกง ก็อาจจะเคยข้ามฝากไปเที่ยวมาเก๊ากันมาบ้าง เพราะถือว่าเป็น เมืองแห่งกาสิโนของโลก เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม แค่จุดขายเรื่องนี้เรื่องเดียวอาจไม่พออีกต่อไป

เมืองกาสิโนโลกกำลังถูกท้าทาย

แม้ว่า มาเก๊า จะถูกเรียกว่า เมืองแห่งกาสิโนของโลก แต่ปัจจุบันนี้หลายประเทศก็เริ่มมีแนวคิดที่จะเปิดกาสิโนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว อย่างในอาเซียนเองก็มีที่เห็นชัด ๆ ก็มี กัมพูชา ทำให้มาเก๊าเองนอกจากจะต้องพัฒนาจุดแข็งเดิมให้ดียิ่งขึ้น ก็ต้องชูอะไรใหม่ ๆ นอกจากแค่เรื่องกาสิโนมาดึงดูดนักท่องเที่ยว

“การที่หลายประเทศหันมาทำกาสิโนไม่ใช่เรื่องใหม่ อย่างในญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ก็มี รวมถึงในตลาดอาเซียน ซึ่งเรามองว่าตอนนี้ยังไม่มีผลกระทบ แต่เราก็ต้องทำการประชาสัมพันธ์ร่วมกับเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพลกซ์ และต้องพัฒนาเพื่อให้แข่งขันกับตลาดอื่นได้” มาเรีย เฮเลน่า เดอ เซนน่า เฟอร์นานเดซ ผู้ว่าการท่องเที่ยวมาเก๊า กล่าว

ลบภาพมีแต่กาสิโน

มาเก๊ามี แผน 5 ปี เพื่อจะทำให้การท่องเที่ยวมาเก๊ามีความหลากหลาย โดยเรียกว่า Tourism 1+4 โดยในส่วนของกาสิโนยังคงเน้น แต่จะเพิ่มการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กีฬา การช้อปปิ้ง และสุขภาพ รวมถึงเน้นไปที่กลุ่ม B2B หรืองาน MICE เช่น งานแฟร์, งานคอนเสิร์ต และงานประชุมสัมมนาต่าง ๆ เป็นต้น

“มาเก๊ามีหลายกิจกรรมหรือจุดขายไม่ใช่แค่ทาร์ตไข่หรือกาสิโน แต่เราอยากเปลี่ยนภาพจำใหม่ว่ามาเก๊ามีกิจกรรมให้ทำเยอะ เช่น ธีมแลป บันจี้จัมพ์ อุโมงค์ลม และวัด รวมถึงการดึงคอนเสิร์ตให้มาจัดที่มาเก๊า รับรองว่ามาแต่ละครั้งได้เที่ยวไม่ซ้ำแน่นอน”

ที่ผ่านมา มาเก๊าเองพยายามประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวมาเก๊าอย่างต่อเนื่อง เช่น งานเมกาโรดโชว์ Experience Macao ในประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไทย โดยในไทยเพิ่งจัดไปเมื่อวันที่ 14-16 มิถุนายน ที่ผ่านมา หรือการครบรอบ 25 ปีที่มาเก๊ากลับมาเป็นจีนแผ่นดินใหญ่ ก็มีของขวัญให้นักท่องเที่ยว 250,000 ชิ้น

ไทยติด Top 5 นักท่องเที่ยวต่างชาติ

ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวหลักของมาเก๊า 70% เป็นคนจีน 20% เป็นคนฮ่องกง และ 2% เป็นคนไต้หวัน ส่วนที่เหลืออีก 7% เป็นชาวต่างชาติ โดยอันดับ 1 คือ เกาหลีใต้ ตามด้วย ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และ ไทยครองที่ 5

ปัจจุบัน มีเที่ยวบินที่เดินทางจากไทยสู่มาเก๊าสัปดาห์ละ 45 เที่ยวบิน ก่อนสถานการณ์โควิด ปี 2562 คนไทยเดินทางเที่ยวมาเก๊า 151,521 คน และใช้เวลาในมาเก๊าเฉลี่ย 1.4 คืนต่อคนต่อครั้ง ส่วนในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวไทย 102,163 คน ใช้เวลาอยู่นานขึ้นเป็น 2.3 คืนต่อคนต่อครั้ง ยอดการใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 300 ดอลลาร์ต่อคน หรือราว 10,800 บาท และในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 มีนักท่องเที่ยวไทย 65,000 คน คิดเป็น 93% เมื่อเทียบกับระดับก่อนโควิด

“นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เข้าเป็นปกติอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวไทยก็เช่นกัน แต่ที่ต่างกันคือ นักท่องเที่ยวไทยเป็นสายมูชอบเข้าวัดขอพร นอกจากนี้ก็หาของกิน และช้อปปิ้ง โดยเฉพาะเข้าร้าน POP MART”

แข่งกับทุกประเทศทั่วโลกเพื่อดึงนักท่องเที่ยว

หลังจากการระบาด หลายประเทศให้ความสำคัญกับรายได้จากนักท่องเที่ยว ดังนั้น มาเก๊าไม่ได้แข่งแค่กับประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะทุกประเทศก็มีแคมเปญการท่องเที่ยว และโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ดังนั้น มาเก๊าเองก็ต้องตอบสนองความคาดหวังของนักท่องเที่ยวที่มาให้ได้ เพราะการแข่งขันจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

“นอกจากจะกระตุ้นนักท่องเที่ยวเเล้ว ต้องกระตุ้นคนในมาเก๊าให้มีจิตใจที่พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย เพราะประชาชนก็เป็นเหมือนทูตด้านการท่องเที่ยวเหมือนกัน เพื่อสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยว” มาเรีย ทิ้งท้าย

]]>
1482229
คนไทยมองบวก ‘พร้อมเที่ยว’ ในประเทศ เน้นสถานที่ใหม่ หนุนธุรกิจท้องถิ่น ชอบเเพ็กเกจรวม https://positioningmag.com/1358033 Sun, 24 Oct 2021 12:34:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1358033 ส่องเทรนด์การท่องเที่ยวหลังโควิด คนไทย ‘มองบวก’ พร้อมออกเดินทางเที่ยวในประเทศ กว่า 1 ใน 3 มีแผนออกเที่ยวภายใน 2 เดือนแรกหลังปลดล็อก เน้นตามหาสถานที่ใหม่ๆ สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น ชอบเเพ็กเกจรวมหลายกิจกรรมสุดคุ้ม 

Agoda (อโกด้า) แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยว เปิดเผยถึงผลการสำรวจในหัวข้อ เทรนด์การท่องเที่ยวเมื่อการเดินทางกลับมาอีกครั้ง ปี 2021

โดยทำการสำรวจใน 4 ประเทศคือ กลุ่มคนไทย 2,072 คน ระหว่าง 26-30 สิงหาคม 2564 คน ประเทศฟิลิปปินส์ 1,102 คน ระหว่าง 10-14 มิถุนายน 2564 คนมาเลเซีย 1,107 คน ระหว่าง 20-24 พฤษภาคม 2564 และเวียดนาม 1,103 คน ระหว่าง 15-19 กรกฎาคม 2564 ในรูปแบบออนไลน์

คนไทยพร้อมเที่ยว 

ผลสำรวจ ระบุว่า คนไทยส่วนใหญ่ (20%) พร้อมที่จะไปท่องเที่ยวในประเทศอีกครั้ง เมื่อข้อจำกัดด้านการท่องเที่ยวถูกยกเลิก และเมื่อปลอดภัยที่จะเดินทาง รองลงมา คือ คนมาเลเซีย (12%) คนฟิลิปปินส์ (8%) และคนเวียดนาม (5%)

“คนไทยเพศชาย (50%) มีแนวโน้มที่จะท่องเที่ยวภายในประเทศภายใน 6 เดือนข้างหน้า มากกว่าคนไทยเพศหญิง (45%) เล็กน้อย” 

โดยผู้ตอบแบบสำรวจเพศชาย (22%) มีความคิดอยากออกเดินทางทันทีเมื่อข้อจำกัดด้านการท่องเที่ยวถูกยกเลิก มากกว่าผู้ตอบแบบสำรวจเพศหญิง (19%)

Gen X อยากเที่ยวมากสุด 

ภายในกรอบระยะเวลาเดียวกัน พบว่า คนไทย Gen X (1965-1980) มีความอยากท่องเที่ยวมากที่สุด 51% ตามมาด้วย millennial หรือ Gen Y (1981-1996) มีสัดส่วน 49%, baby boomer (1946-1964) สัดส่วน 47% และ Gen Z (1997-2009) สัดส่วน 41%

คนไทยส่วนใหญ่ มองว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะเป็นไปในแง่ดี โดย 3 ใน 5 คาดหวังว่าจะสามารถท่องเที่ยวได้อีกครั้ง ซึ่ง 38% ของคนกลุ่มนี้คาดหวังว่าจะท่องเที่ยวแบบไม่มีข้อจำกัดได้

ส่วนอีก 23% คาดหวังว่าจะท่องเที่ยวได้ แต่คงยังมีข้อจำกัด หรือต้องท่องเที่ยวผ่านแทรเวลบับเบิล (travel bubble) หรือแทรเวลคอริดอร์ (travel corridor) เท่านั้น

Happy female traveling on boat, Krabi Thailand

ตามหาสถานที่ใหม่ ๆ เช่าโรงเเรมท้องถิ่น 

ด้านพฤติกรรมนั้นพบว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 คนไทยไปท่องเที่ยวสถานที่ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากขึ้น โดยผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ บอกว่า การไปเที่ยวสถานที่ใหม่ ๆ รองลงมาคือ การไปเที่ยวสถานที่ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักแทนสถานที่ท่องเที่ยวหลัก และการไปเที่ยวสถานที่ที่เคยไปแล้ว โดยมองในมุมใหม่

นอกจากประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวใหม่ ๆ แล้ว ยังมองเรื่องการสนับสนุนโรงแรมอิสระ รวมถึงธุรกิจในท้องถิ่น และการจองแพ็กเกจท่องเที่ยวพิเศษ ที่มีอาหารและเครื่องดื่ม โปรโมชันสปา หรือการอัพเกรดห้องพักรวมอยู่ด้วย

ผลการสำรวจดังกล่าว ยังแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงด้านประเภทของสถานที่ท่องเที่ยวด้วย โดยอาการเบื่อบ้าน รวมถึงการต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้คนไทยหันไปสนใจการไปท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ป่าไม้/ภูเขาและชนบท มากกว่าการไปท่องเที่ยวในเมือง/ชานเมือง

 

]]>
1358033
Standard Chartered มอง ‘ท่องเที่ยวไทย’ ใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปีถึงจะฟื้น ฉุดเศรษฐกิจอ่อนเเอ https://positioningmag.com/1355860 Sun, 10 Oct 2021 11:23:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1355860 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย’ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย’ 3 ปีกว่าจะฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดได้ เเม้ว่ารัฐจะเตรียมการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสเเล้วภายในเดือนหน้านี้ก็ตาม

สำนักข่าว Bloomberg รายงานบทวิเคราะห์ของ ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคาร Standard Chartered ระบุว่า การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย ที่มีสัดส่วนถึง 15% ของ GDP จะเป็นไปอย่างช้าๆ ส่งผลทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน จะยังคงอ่อนแอในช่วง 2 ปีข้างหน้า

เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวลำบาก หากภาคการท่องเที่ยวไม่ดีขึ้น เเละอาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจอ่อนแอลงในช่วงปี 2022-2023”

รัฐบาลไทย วางเเผนจะยกเลิกมาตรการกักตัวนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังหลายจังหวัด รวมทั้งกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 1 .. เป็นต้นไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเปลี่ยนไปใช้กลยุทธ์อยู่ร่วมกับโควิด-19 เเทน

เเต่ Standard Chartered มองว่าแผนการเปิดประเทศอาจสะดุดหากสถานการณ์โรคระบาดในไทย มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยลดลงเหลือ 73,932 คน จากจำนวนเกือบ 40 ล้านคนในปี 2019 ที่เคยสร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ไทยยังต้องการนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 6 ล้านคน เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปใน 8 เดือนแรก จนถึงเดือน ส..ของปีนี้ ซึ่งอยู่ที่ 8,500 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในปีหน้า มีการประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 4 ล้านคนเข้ามา ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เทียบเท่ากับ 1% ของ GDP โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะจับจ่ายใช้สอยราว 1,500 เหรียญสหรัฐ หรือ 50,775 บาทต่อคน ระหว่างเดินทางท่องเที่ยวในไทย

ทิม กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามองคือ นักท่องเที่ยวจีนซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 28% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดของไทยในปี 2019 “ไม่น่าจะกลับมาเป็นจำนวนมากในเร็วๆ นี้เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางที่เข้มงวด

ส่วนนักท่องเที่ยวอินเดีย ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในเดือนพ.. จากช่วงเทศกาลดิวาลี ก็ยังจะไม่เท่ากับจำนวนของนักท่องเที่ยวจากจีน

ทั้งนี้ เมื่อเดือน ส..ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ปรับลดคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมาไทย เพียงเหลือ 150,000 คนในปีนี้ และ 6 ล้านคนในปี 2022

 

ที่มา : Bloomberg

 

]]>
1355860
ปิ๊งไอเดีย “SCB Shop Deal” ซื้อ-ขาย ดีลท่องเที่ยวราคาถูก ช่วย SMEs หารายได้ช่วงวิกฤต https://positioningmag.com/1275129 Fri, 24 Apr 2020 07:41:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1275129 ไทยพาณิชย์ ปิ๊งไอเดียช่วย “ธุรกิจท่องเที่ยว” หารายได้ช่วงวิกฤต COVID-19 เปิดตัว SCBShopDeal เว็บไซต์ใช้ฟรี ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ศูนย์รวมดีลลดราคากระหน่ำ 30-60% ให้ซื้อล่วงหน้า รอไปเที่ยวหลัง “คลายล็อกดาวน์” ตั้งเป้ายอดขาย 50 ล้านบาท ภายในมิ.ย.นี้ ด้านสภาอุตฯ ท่องเที่ยว มองธุรกิจวูบยาว ผู้ประกอบการเตรียมฟื้นต้นปีหน้า

ชวนคน “ชอบดีล” ช่วย SMEs ไทย

จากสถานการณ์การเเพร่ระบาดของ COVID-19 สะเทือนทุกภาคส่วน ธุรกิจการท่องเที่ยวไทยกระทบหนัก ขายรายได้ เสี่ยงปิดกิจการ จึงต้องพยายามปรับตัวจาก “ออฟไลน์” สู่ “ออนไลน์”

นำมาสู่ความร่วมมือของไทยพาณิชย์ (SCB) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ผุดแนวคิดสร้างช่องทางการขายออนไลน์เพื่อหารายได้ในยามวิกฤต

โดยจะทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมดีลส่วนลดพิเศษจากลูกค้าผู้ประกอบการรายย่อยของธนาคาร ในระยะแรกจะเปิดโอกาสให้กับ SMEs ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง มีจุดเด่น ดังนี้

  • SMEs จัดแพ็กเกจข้อเสนอขึ้นขายบนเว็บไซต์ได้ โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่เรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น
  • ใช้งานง่าย เป็นเว็บไซต์ สามารถค้นหาตามหมวดหมู่ เมื่อสนใจดีลไหนสามารถจ่ายเงินได้สะดวกผ่าน
    SCB EASY หรือจ่ายผ่าน QR Code ของแอปพลิเคชันธนาคารอื่นๆ ได้ (ในช่วงเดือน พ.ค.จะมีการให้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเเละสามารถใช้เเต้มบัตรเเลกซื้อดีลได้)
  • ผู้ซื้อจะได้รับส่วนลดเป็น Voucher เเละสิทธิพิเศษอื่นๆ ส่งหลักฐานการจองให้ผ่านมือถือ นำไปใช้บริการได้ในภายหลัง “เมื่อพร้อม”
  • มีดีลส่วนลดพิเศษให้สูงสุดตั้งเเต่ 30-60%
  • เว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากธุรกิจที่มาลงทะเบียนจะต้องผ่านการพิจารณาจาก SCB ททท. เเละ สทท
  • ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการคนไทย ให้มีกระเเสเงินสด เพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้

ดร. อารักษ์ สุธีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด และ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ บอกว่า “เเพลตฟอร์ม SCBShopDeal สร้างเสร็จได้ภายใน 3 สัปดาห์เท่านั้น ด้วยความตั้งใจของทีมงานที่ต้องการช่วยเหลือสังคม ด้วยการนำความสามารถด้านเทคโนโลยีที่มีอยู่มาใช้เพื่อ “ช่วยชาติ” และ “ช่วยลูกค้า” โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการ SMEs ในกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เป็นกลุ่มแรกๆ”

สำหรับการต่อยอด SCBShopDeal เมื่อหลังพ้นวิกฤตครั้งนี้ จะยังคงเป็นเเพลตฟอร์มของคนไทยเพื่อคนไทย เป็นอีกช่องทางการขายออนไลน์ในระยะยาวให้กับผู้ประกอบการ ถือเป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสให้ได้เรียนรู้เครื่องมือดิจิทัล รวมถึงจะทำให้เรารู้จักลูกค้า เข้าใจผู้บริโภค ซึ่งในอนาคตจะมีฟีเจอร์อื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าต่อไป

ด้าน อภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ผลกระทบจาก COVID-19 ขยายวงกว้างลุกลามไปส่วนของสังคมไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นกลุ่มลูกค้าเปราะบาง ส่วนธุรกิจธนาคารก็ได้ผลกระทบไม่น้อยเช่นกัน โดย 3 เเนวทางที่ SCB นำมาช่วยเหลือลูกค้าหลักๆ ได้เเก่

  • ช่วยให้ลูกค้า “ตัวเบา” ซึ่งจะออกมาเป็นมาตรการพักชำระหนี้ทั้งต้นทั้งดอก เพิ่มเงินทุนจากซอฟต์โลน
  • ช่วยลดต้นทุน โดยมีการจัดสัมมนา จัดอบรมคอร์สเพื่อนำธุรกิจสู่ออนไลน์ นำดิจิทัลเข้ามาช่วยทำให้มีรายได้
  • ร่วมมือกับ SCB10X ทำโปรเจกต์ดิจิทัลช่วยผู้ประกอบการ อย่างเช่นการเปิดตัว SCBShopDeal
    ที่วางเป้ายอดขายไว้ที่ 50 ล้านบาท ภายใน มิ.ย.นี้ จากนั้นจะมีโปรเจกต์อื่นๆ มีออกมาอีก

“เป้าหมายของธนาคารก็ขึ้นอยู่กับความอยู่รอดของลูกค้า หากสถานการณืดีขึ้น ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงหรือมีวัคซีนรักษาได้ในต้นปีหน้า ธุรกิจก็จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ดังนั้นต้องช่วยกันประคับประคองให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้”

Photo : Shutterstock

ท่องเที่ยวซบยาวถึงสิ้นปี รอปลด “ล็อกดาวน์” หนุนไทยเที่ยวไทย

รุจิรัศมิ์ ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ธุรกิจท่องเที่ยวในเมืองไทยว่า ได้รับผลกระทบหนัก โดยเมื่อช่วงเดือน ม.ค. ยังสามารถรับนักท่องเที่ยวได้ตามปกติ มียอดราว 4 ล้านคน เเต่เริ่มลดลงหนัก ตั้งเเต่ช่วงเดือน ก.พ. ที่ยอดนักท่องเที่ยวหายไปกว่าครึ่งเหลือ 2 ล้านคน เเละเดือน มี.ค.เหลือเเค่ 8 เเสนคน ล่าสุดในเดือน เม.ย.ที่เคยเป็นไฮซีซั่นช่วงสงกรานต์ มีนักท่องเที่ยวในไทยอยู่หลักพันคนเท่านั้น

โดยภารกิจหลักที่ ททท. จะสนับสนุนหลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์คือส่งเสริม “ไทยเที่ยวไทย” ให้คนไทยที่เคยวางเเผนจะไปเที่ยวต่างประเทศซึ่งมีกว่าปีละ 10 ล้านคน หันมาเที่ยวในประเทศมากขึ้น

“สิ่งที่ธุรกิจท่องเที่ยวต้องเตรียมความพร้อม คือด้านสุขอนามัย รองรับการเปิดเมือง เพื่อให้พร้อมกลับมาทำธุรกิจใหม่ เพิ่มความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวว่ามีความปลอดภัย ส่วนนักท่องเที่ยวไทยก็ต้องเตรียมพร้อมไปช่วยจับจ่ายใช้สอยในประเทศ เพื่อให้ธุรกิจกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง

ขณะที่ ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บอกว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นราย มีเเรงงานที่เกี่ยวข้องไม่น้อยกว่า 4 ล้านรายซึ่งกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักเนื่องจากไทยเคยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 40 ล้านคนต่อปี เงินสะพัด 2 ล้านล้านบาท เเต่ตอนนี้ “หายหมด”

“เเม้จะเคยมองว่าสถานการณ์ดีขึ้นช่วงเดือน 6-7 เเต่เมื่อรุนเเรงขึ้นก็คาดว่าจะลากยาวไปถึงสิ้นปี การฟื้นฟูสภาพธุรกิจคงต้องรอจะเริ่มดีขึ้นก็คงช่วงต้นปีหน้า”

]]>
1275129