เป๊ปซี่โค – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 17 Aug 2022 13:38:32 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ถอดรหัส ‘ค่านิยม 5 ประการ’ คัมภีร์ของ ‘ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย’ ที่พาทั้งคนและองค์กรสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน https://positioningmag.com/1396575 Thu, 18 Aug 2022 04:00:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1396575

หลังจากต้องเผชิญกับการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ก็ถึงเวลาแล้วที่ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) ได้ปรับวัฒนธรรมองค์กรให้เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเป็นการผสมผสานข้อดีของทั้งของ ซันโทรี่ และ เป๊ปซี่โค หรือเรียกได้ว่าเป็นการผสานแนวคิดของตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน โดย เพียงจิต ศรีประสาธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลและบรรษัทสัมพันธ์ จะมาบอกเล่าถึงแนวคิด ค่านิยม 5 ประการ และเคล็ดลับการบริหารจัดการคนให้มีอัตราการลาออกที่ต่ำกว่าตลาด ทั้งที่ Talent ของบริษัทเป็นที่หมายปองของหลาย ๆ องค์กร


ค่านิยม 5 ประการ หัวใจสำคัญขับเคลื่อนองค์กร

เพียงจิต เล่าว่า ค่านิยม 5 ประการ เป็นการผสมผสานแนวคิดของทั้ง 2 องค์กร คือ ซันโทรี่ และ เป๊ปซี่โค เพื่อปรับให้มีความทันสมัยและเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น ได้แก่

  1. Yatte Minahare : การมีจิตวิญญาณของผู้กล้าลงมือทำ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ไม่ลังเลที่จะทำเพื่อให้เกิดการตอบสนองที่เร็ว แก้ปัญหาคิดวิเคราะห์ในเชิงสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์แยกแยะในการแก้ไขปัญหา และจะไม่ต่อว่าหากล้มเหลว แต่ต้องเรียนรู้ เพื่อให้กล้าลงมือทำ
  2. Gemba Focused : เข้าถึงและเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค (consumer) ลูกค้า (customer) และ เพื่อนร่วมงาน (colleague) อย่างแท้จริง รวมทั้งแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ในการสร้างสรรค์ พัฒนา และส่งมอบสิ่งที่มีคุณค่าให้แก่พวกเขา

  1. Better Together : เน้นการทำงานร่วมกันเป็นทีม ไม่มี “ทีมเธอ ทีมฉัน” มีแต่ ทีมเรา สามารถทำงานร่วมกันได้ทุกแผนก เพื่อสนับสนุนให้เกิดมุมมองที่แตกต่างและมีความหลากหลาย รวมถึงสร้างให้เกิดวัฒนธรรมการยอมรับความแตกต่าง และต้องทำงานโดยไม่คำนึงถึงลำดับขั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมของทีมให้ดียิ่งขึ้น
  2. Future Oriented : นอกจากเรียนรู้จากความผิดพลาดแล้ว ต้องศึกษาเทรนด์ของผู้บริโภค เพื่อมองหาเทรนด์การเติบโตในอนาคต ทุกปีบริษัทจะมีการเซ็ทกลยุทธ์องค์กรทั้งระยะใกล้และไกล แต่โฟกัสที่การเติบโตจากภายในและยั่งยืน (Organic Growth) ไม่เร่งรีบ และจะมีการกลับมาย้อนดูกลยุทธ์ที่วางไว้ เพื่อดูว่ายังเหมาะกับสถานการณ์หรือเทรนด์หรือไม่
  3. Commitment to Growth : แสวงหาความก้าวหน้าในอาชีพ ดังนั้น พนักงานทุกคนต้องพัฒนาศักยภาพเพื่อจะเติบโตร่วมกับองค์กร แต่ก็ต้องสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัว


ทำอย่างไรให้พนักงานเข้าใจค่านิยม

ที่ผ่านมา ผู้บริหารจะไม่อยู่แค่ในออฟฟิศ แต่มีการลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับลูกค้า พนักงาน และคู่ค้า ทุกเดือน เพื่อที่จะได้รับรู้ปัญหาหน้างาน รับรู้ความต้องการพนักงานและลูกค้า เพื่อให้เกิดความรักความผูกพันและทำงานร่วมกับองค์กร มีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด มีตัวแทนจากทุกฟังก์ชั่นมารวมกันเพื่อร่วมกันระดมสมอง ถกปัญหา เพื่อจะหาไอเดียใหม่ ๆ และมีจัดกิจกรรมอย่างการ ให้พนักงานตำแหน่งเล็กสุด อวยพรพนักงานช่วงปีใหม่ จากปกติเป็นผู้บริหารหรือหัวหน้า เพื่อสร้างบรรยากาศต่าง ๆ ให้ดี และมี เวทีให้เขาได้ตั้งคำถาม เพื่อรับฟังความเห็นพนักงานทุกระดับ

แม้ค่านิยมหรือวัฒนธรรมองค์กรจะดี แต่ในฐานะที่เธอเป็นผู้บริหารฝ่าย HR ความท้าทายของเธอคือ จะทำอย่างไรให้พนักงานทั้ง 1,000 คน ขององค์กรเข้าใจและนำค่านิยมทั้ง 5 ไปปฏิบัติหรือซึมซับมัน ดังนั้น จึงมีการจัดทำโปสเตอร์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ การจัดเวิร์คช้อป การเทรนนิ่ง มีการทำ Pre-Survey Post-Survey โดยเลือกให้พนักงานจดบันทึกใส่ สมุด ถึงการนำแนวคิดทั้ง 5 มาปรับใช้ และฝ่าย HR จะอ่านทั้งหมด และอีกสิ่งที่ท้าทายคือ การเผยแพร่ค่านิยมนี้ให้กับคนภายนอกองค์กร เพื่อเชื่อว่าคนภายนอกก็สามารถนำไปปรับใช้ได้


เคล็ดลับบริหารให้เป็นที่ต้องการขององค์กรอื่น

เพียงจิต เชื่อมั่นว่า ด้วยค่านิยมนี้ทำให้ Talent ขององค์กรเป็นที่ต้องการขององค์กรอื่น ๆ เพราะได้ปลูกฝั่งถึง Growth และ Agile Mindset ที่ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้อย่างรวดเร็ว และพร้อมจะผลักดันให้ตัวเองและบริษัทเติบโต และพร้อมทรานซ์ฟอร์มตัวเองตลอดเวลา

ดังนั้น ความท้าทายด้านการบริหารจัดการคนในปัจจุบันคือ ทำยังไงให้พนักงานเห็นคุณค่าในสิ่งที่บริษัทได้ลงทุนและความมุ่งมั่นที่บริษัทสัญญาว่าจะดูแลเขาอย่างดี

“หากไม่นับช่วงโควิด ที่ผ่านมาการลาออกค่อนข้างสูง บางคนมองว่าไปที่ใหม่เงินเดือนขึ้น แต่กลายเป็นว่า องค์กรใหม่ไม่เห็นดูแลเราดีเหมือนบริษัทเก่า”

ที่ผ่านมา องค์กรมีการดูแลพนักงานอย่างดี อาทิ ช่วงโควิดก็มีการแจกจ่ายวัคซีนอย่างทั่วถึง ไม่เฉพาะพนักงานประจำ แต่รวมถึง Outsource และพนักงานขนส่งของด้วย อีกทั้งองค์กรยังให้ความสำคัญกับการสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัว อย่างที่ผ่านมาก็มี Flex schedule เวลาการเข้าทำงานเฉลี่ยอยู่ที่ 10.00-16.00 น. มี Flex Friday โดยวันศุกร์จะให้ทำงานแค่ครึ่ง เพื่อให้เอาเวลาไปทำกิจกรรมต่าง ๆ และตอนนี้กำลังศึกษาเรื่อง Hybrid Working Place อยู่

“เราเชื่อว่าถ้ามีคนเข้าออกตลอดเวลา ธุรกิจก็ไม่สามารถดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การดูแลพนักงานจึงสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญ โดยปัจจุบัน อัตราการลาออกของเรามีเพียง 4-5% เท่านั้น จากค่าเฉลี่ยของตลาด FMCG ที่ 10% นอกจากนี้ 97% ของข้อเสนอที่เรายื่นไปให้มาทำงานด้วยก็ได้รับการตอบรับ หรือคนที่เคยลาออกไปแล้วอยากกลับมาทำงานด้วย

สุดท้าย เพียงจิต ย้ำว่า ค่านิยม 5 ข้อของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกคนไม่เฉพาะแค่ในองค์กรเท่านั้น และเชื่อมั่นว่าสามารถตอบสนองความต้องการในอนาคตได้อีกด้วย

]]>
1396575
“ซันโทรี่” คัมแบ็ก “ทีพลัส ชาอู่หลง” หวนตลาดชา ควงคู่หูใหม่ “เป๊ปซี่โค” https://positioningmag.com/1322024 Thu, 04 Mar 2021 16:35:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1322024 “ทีพลัส” (TEA+) คัมแบ็กตลาดชาพร้อมดื่มอีกครั้ง หลังจากหายจากเชลฟ์ไปกว่า 5 ปี งานนี้ “ซันโทรี่” ได้คู่หูใหม่ “เป๊ปซี่โค” จับแบรนด์ปัดฝุ่นใหม่ สร้างโอกาสการเติบโตจากกลุ่มชาอู่หลง

จาก “ทิปโก้” สู่ “เป๊ปซี่โค”

จริงๆ แล้วทีพลัสไม่ใช่แบรนด์ใหม่ในตลาดแต่อย่างใด แต่เคยทำตลาดมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2556 ในตอนนั้น “ซันโทรี่” แบรนด์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นได้เป็นพันธมิตรกับ บริษัท ทิปโก้ เอฟ แอนด์ บี จำกัด หรือทิปโก้นั่นเอง ใช้ชื่อแบรนด์ “ซันโทรี่ ทีพลัส ชาอู่หลง” มีทั้งหมด 3 รสชาติ รสต้นตำรับ ผสมมะนาว และไม่มีน้ำตาล ขนาด 500 มล. ในราคา 20 บาท แถมยังเลือก “บอม ธนิน” หนึ่งในคุณชายจุฑาเทพเป็นพรีเซ็นเตอร์อีกด้วย

ในยุคนั้นเองเป็นยุคที่ตลาดชาพร้อมดื่มเฟื้องฟูอย่างมาก แบรนด์ใหญ่ก็โหมตลาด แบรนด์อื่นๆ ในตลาดเครื่องดื่มก็ขอเอี่ยวด้วย จริงๆ แล้วซันโทรี่เคยพยายามที่จะบุกตลาดชาพร้อมดื่มในไทยมาแล้วในแบรนด์ “มิเรอิ” แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก จนได้นำแบรนด์ทีพลัสเข้ามา

แต่แล้วความพยามในครั้งนั้นก็ต้องสะดุดอีกครั้ง เมื่อมีปัญหาบางประการในเรื่องสัญญากับทางพาร์ตเนอร์หลักอย่างทิปโก้ ทีพลัสจึงหายจากการทำตลาดไปในที่สุด

เลือดซามูไรนักสู้ของซันโทรี่ก็ไม่หยุดแค่นั้น ซันโทรี่ที่ได้พาร์ตเนอร์ใหม่อย่าง “เป๊ปซี่โค” มีการประกาศร่วมทุนในเดือนพฤศจิกายน 2560 ได้เปิดตัว บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด อย่างเป็นทางการในวันที่ 5 มีนาคม 2561 เป็นการพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการเครื่องดื่มไทย

เปิดศักราช 2564 ซันโทรี่ได้นำแบรนด์ทีพลัสมาปัดฝุ่นใหม่ เพื่อบุกตลาดชาพร้อมอีกครั้ง ทีพลัสถือว่าเป็นแบรนด์แฟลกชิปของซันโทรี่ในประเทศญี่ปุ่น มีการทำตลาดมา 40 ปี เป็นเบอร์ 1 ในตลาดมาตลอด นอกจากจะทำตลาดในประเทศไทยแล้ว ยังมีที่เวียดนาม และอินโดนีเซียด้วย

อชิต โจชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

“ซันโทรี่กับเป๊ปซี่โคมีความสัมพันธ์กันมากว่า 40 ปี ทั้งสองแบรนด์มีจุดแข็งที่ต่างกัน มีพอร์ตสินค้าที่หลากหลาย มีการพัฒนาสินค้าในระดับอาเซียน ชาอู่หลงจากซันโทรี่มีประสบการณ์กว่า 40 ปี เป็นเบอร์ 1 ในตลาด เป็นสินค้าแฟลกชิป จึงนำแบรนด์นี้กลับมาทำตลาดใหม่ในเมืองไทย”

อชิต โจชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด
อชิต โจชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด

ชาอู่หลงตลาดเล็ก แต่โอกาสเพียบ!

เมื่อดูภาพรวมของตลาดชาพร้อมดื่มในไทยปี 2563 มูลค่า 11,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7.6% ในตลาดเครื่องดื่ม 145,515 ล้านบาท แต่ในตลาดชาพร้อมดื่มนั้นสัดส่วนใหญ่ยังเป็นชาเขียว ชาอู่หลงมีสัดส่วนน้อยมากราวๆ 1-2% เท่านั้น

ตลาดชาอู่หลงในไทยมีผู้เล่นหลักแค่ 3 ราย Pokka (พอกกา), Kukurin (คุคุริน) และ ITOEN (อิโตเอ็น จำหน่ายแค่ที่เซเว่นฯ) ทีพลัสได้เข้ามาเป็นรายที่ 4 นั่นเอง ซึ่ง 3 รายที่ว่านี้ไม่ได้มีการทำการตลาดมากนัก มีแค่สินค้าบนเชลฟ์วางเท่านั้น

จริงๆ แล้วจากที่ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคได้ทำการสำรวจ พบว่าคนไทย 99% รู้จักชาอู่หลง 56% มองว่าดีต่อสุขภาพ แน่นอนว่าในส่วนนี้จึงกลายเป็นโอกาสครั้งใหญ่ของทีพลัสที่จะเข้าไปจับจอง สร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคให้ได้

สมชัย เกตุชัยโกศล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า

“ที่ผ่านมาตลาดชาพร้อมดื่มในไทยส่วนใหญ่จะขับเคลื่อนด้วยโปรโมชัน ไม่ได้มาจากผู้บริโภคจริงๆ ซื้อเพราะอยากได้รางวัล แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเทรนด์รักสุขภาพเริ่มมามากขึ้น ผู้บริโภคมองหาเครื่องดื่มน้ำตาลน้อย หรือไม่มีน้ำตาล ทำให้เครื่องดื่มกลุ่มมมีน้ำตาลโตขึ้น 2 เท่า ต่อไปเทรนด์ผู้บริโภคจะมองหาชาเพื่อสุขภาพจริงๆ มากขึ้น”

สมชัย เกตุชัยโกศล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด
สมชัย เกตุชัยโกศล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด

เล่นโมเดล 2 ราคา

การกลับมาครั้งนี้ทีพลัสได้ส่ง 2 สูตรลงตลาด ได้แก่ สูตรกลมกล่อม และสูตรไม่มีน้ำตาล มีการชูว่าเป็นเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ เพราะสูตรกลมกล่อมมีน้ำตาล 3 กรัม/100 มิลลิกรัม และมีสาร OTPP (Oolong Tea Polymerized Polyphenol) สารตามธรรมชาติที่มีในชาอู่หลง 70 มิลลิกรัมต่อขวด สารนี้มีจุดเด่นในการช่วยลดการดูดซึมไขมันได้ ทางแบรนด์จึงเลือกสื่อสารว่าเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้

อีกทั้งยังออก 2 ไซส์ 2 ราคา เกาะเทรนด์ในตลาด โดยราคา 18 บาท ขนาด 490 มิลลิลิตร และราคา 25 บาท ขนาด 500 มิลลิลิตร

ถ้าถามว่าทำไมต้องออก 2 ราคา… เป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งในการวางจำหน่ายคนละช่องทาง ราคา 18 บาทจำหน่ายทางโชห่วย ร้านอาหาร จะมีราคาย่อมเยากว่า ราคาไม่ถึง 20 บาท ผู้บริโภคยินดีจ่ายได้ ส่วนราคา 25 บาท จำหน่ายในช่องทางโมเดิร์นเทรด ร้านสะดวกซื้อต่างๆ กลุ่มนี้ผู้บริโภคจะมีกำลังซื้อมากกว่า

“การกลับมาครั้งนี้ต้องสร้างการรับรู้ว่าทีพลัสได้กลับมาอีกครั้ง ต้องกระจายสินค้าไปอยู่ในจุดที่ผู้บริโภคซื้อได้ สร้างแบรนด์ ให้เกิดการทดลองชิม ที่ผ่านมาได้ทดลองแจกไปแล้ว 1.6 ล้านขวด ใช้งบการตลาดถึง 200 ล้านบาท” 

ลุยเสริมพอร์ตสุขภาพ

การนำแบรนด์ทีพลัสกลับมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง เป็นหนึ่งในเส้นทางของซันโทรี่ เป๊ปซี่โคในการเสริมพอร์ตสินค้าเพื่อสุขภาพ รวมถึงยังมองถึงตลาดที่ยังไม่มีสินค้าอย่างกาแฟพร้อมดื่ม และเครื่องดื่มชูกำลัง ตั้งเป้าอยากมีครบทุกเซ็กเมนต์

อชิต เสริมว่า “เราต้องการสร้างพอร์ตสินค้าเพื่อสุขภาพ เพราะรายได้ส่วนใหญ่เป็นน้ำอัดลม 80% พยายามเอาพอร์ตของทั้ง 2 ฝ่ายมาทำตลาดใหม่ๆ กลุ่มสินค้าสปอร์ตดริ้งก์มีแบรนด์เกเตอเรต น้ำดื่มมีอควาฟิน่า ส่วนกลุ่มชามีลิปตัน และทีพลัส น้ำอัดลมมีแบรนด์เป๊ปซี่ ตอนนี้ขาดกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง และกาแฟพร้อมดื่ม มีความสนใจอยู่ แต่ยังไม่ได้บอกว่าจะต้องมี แต่ก็อยากมีครบทุกเซ็กเมนต์”

สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องดื่มในปี 2563 ติดลบ 6.4% แต่เป๊ปซี่โคเติบโต 0.1% โดยที่กลุ่มน้ำอัดลมกระทบน้อยสุด ติดลบแค่ 1%

อ่านเพิ่มเติม

]]>
1322024
“เป๊ปซี่โค” ทุ่ม 2,280 ล้านบาท ตอกเสาเข็มขยาย “ฐานผลิต” ในกวางตุ้ง https://positioningmag.com/1311288 Sun, 20 Dec 2020 07:32:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1311288 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เป๊ปซี่โค (PepsiCo) บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยวข้ามชาติ ระบุว่าได้เริ่มการก่อสร้างฐานการผลิตอาหารในมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน โดยเป็นโรงงานผลิตอาหารแห่งแรกของบริษัทที่ตั้งขึ้นในจีนตอนใต้

ด้วยพื้นที่การก่อสร้างราว 24,000 ตารางเมตร โรงงานแห่งใหม่นี้จะตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงในเมืองโฝซาน มณฑลกวางตุ้ง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 5.3 เฮกตาร์ (ราว 33 ไร่) โดยในโรงงานจะมีสายการผลิต 1 สายสำหรับมันฝรั่งทอดแผ่นบาง และสายการผลิต 2 สายสำหรับมันฝรั่งทอดบรรจุกระป๋อง รวมถึงอาคารสนับสนุน อาทิ โกดังสำหรับการจัดเก็บวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูป

โครงการก่อสร้างครั้งนี้ใช้เงินลงทุนราว 500 ล้านหยวน (ราว 2,280 ล้านบาท) โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มกระบวนการผลิตอย่างเป็นทางการได้ในเดือนกันยายน ปี 2022 และคาดว่าจะมีกำลังการผลิต 25,000 ตันต่อปี

เป๊ปซี่โคระบุว่าตำแหน่งที่ตั้งของโรงงานแห่งใหม่นี้ถูกคัดเลือก โดยพิจารณาจากการสั่งสมทรัพยากรโดยกลุ่มอุตสาหกรรมของเมืองโฝซานเป็นหลัก รวมถึงเครือข่ายการคมนาคมขนส่งที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนความสะดวกสบายและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีระบบระเบียบในเขตเศรษฐกิจอ่างกว่างตง-ฮ่องกง-มาเก๊า (GBA)

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป๊ปซี่โคขยายขอบเขตการลงทุนในจีนอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน บริษัทมีโรงงานผลิตอาหาร 7 แห่ง ฟาร์มสาธิตการปลูกมันฝรั่ง 6 แห่ง และฟาร์มแบบสหกรณ์ 18 แห่งในจีน

]]>
1311288
ครั้งแรกใน 30 ปี! ‘เป๊ปซี่’ ปรับขวดขนาด 2 ลิตรให้ใช้ง่ายขึ้นแถม ‘บางลง’ 25% https://positioningmag.com/1306381 Tue, 17 Nov 2020 03:58:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1306381 ขวดพลาสติกของ ‘เป๊ปซี่ (Pepsi)’ ขนาด 2 ลิตร ได้รับการออกแบบใหม่ให้ใช้งานง่ายขึ้น แถมบางลงอีก 25% ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีเลยทีเดียว

ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ลูกค้าเป๊ปซี่ในสหรัฐอเมริกาจะเริ่มเห็น ‘โฉมใหม่’ ของ ‘เป๊ปซี่’ รวมถึงสินค้าอื่น ๆ อาทิ MTN DEW (née Mountain Dew), Crush, Dr. Pepper และ Schweppes Ginger Ale ในขนาด 2 ลิตรที่ได้รับการปรับปรุงให้บางกว่าขวดเก่าถึง 25% พร้อมกับออกแบบให้ใช้งานง่ายขึ้น โดยขนาดของขวดใหม่นี้มีเส้นรอบวง 10.4 นิ้ว จากเดิมที่มีเส้นรอบวง 13.4 นิ้ว ส่งผลให้ขวดใหม่จับถนัดมือกว่า นอกจากนี้ฉลากของขวดใหม่ยังใช้วัสดุน้อยลง 24% เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ขวดใหม่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่เป๊ปซี่จะเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้สามารถรีไซเคิลได้ 100% หรือต้องสามารถย่อยสลายได้ภายใน 5 ปีข้างหน้า

การออกแบบใหม่นี้ช่วยให้ผู้บริโภคหยิบขวดออกจากชั้นวางและเทได้ง่ายขึ้นมาก และเราต้องผลิตให้ได้จำนวนมหาศาล เพื่อสร้างสิ่งนี้ให้เกิดในระดับปฏิบัติการ” เอมิลี่ ซิลเวอร์ รองประธานฝ่ายนวัตกรรมและความสามารถของเป๊ปซี่อเมริกาเหนือ กล่าว

ที่ผ่านมา ขวดขนาด 2 ลิตรของโค้กที่มีการออกแบบรูปทรงคล้ายกันมานานกว่า 10 ปี แต่มีรายงานว่ายอดขายเพิ่มขึ้นหลังจากมีการปรับเปลี่ยนโฉมสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยรายงานของ NPR ได้เปิดเผยว่าผู้ซื้อ ในการศึกษาขนาดเล็กมักจะหันไปสนใจการออกแบบขวดที่ง่ายต่อการหยิบ

เบื้องต้น เป๊ปซี่ 2 ลิตรโฉมใหม่กำลังจะเปิดตัวใน Chicago, Minneapolis-St. Paul and Wisconsin และจะเปิดตัวให้ทั่วอเมริกาในอนาคตอันใกล้ แต่สำหรับการขายในระดับโลกนั้นยังไม่มีการเปิดเผยว่าจะวางขายเมื่อไหร่

Source

]]>
1306381
COVID-19 ทำคนเครียดพุ่ง เป๊ปซี่ ชิงเปิดตัว “Driftwell” เครื่องดื่มใหม่ ช่วยผ่อนคลาย นอนหลับง่ายขึ้น https://positioningmag.com/1297307 Wed, 16 Sep 2020 07:47:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1297307 จากการเพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ผู้คนมีความเครียดเเละนอนไม่หลับกันเพิ่มมากขึ้น ยักษ์ใหญ่เเห่งวงการเครื่องดื่มโลกอย่างเป๊ปซี่ โคได้โอกาสออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “Driftwell” มาเพื่อเจาะตลาดนี้

“Driftwell” เป็นเครื่องดื่มตัวใหม่ของเป๊ปซี่ จะเริ่มวางจำหน่ายทั่วสหรัฐฯ ผ่านช่องทางออนไลน์ในเดือนธันวาคมนี้ พร้อมจะวางขายในร้านค้าปลีก ภายในไตรมาสแรกของปี 2021

โดยมีการชูจุดเด่นว่า หากดื่มเเล้วจะช่วยให้ผ่อนคลายเเละนอนหลับได้ง่ายขึ้น ด้วยการผสมแอลธีอะนีน” (L-theanine) กรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ ให้การยอมรับ ซึ่งพบได้ในชาเขียว ชาดำ และเห็ดบางชนิด

ที่มาของเครื่องดื่ม Driftwell นี้ เกิดจากโครงการการแข่งขันเสนอไอเดียภายในบริษัทของเป๊ปซี่ เพื่อนำไปต่อยอดผลิตเป็นสินค้าที่จำหน่ายในตลาดได้จริง โดย Emily Silver ผู้บริหารดูแลฝ่ายนวัตกรรม บอกว่า Driftwell เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากไอเดียของพนักงานที่ทำออกมาวางขายจริงได้เร็วที่สุดของบริษัท

โดย Driftwell จะถูกจัดอยู่ในประเภท Functional Water หรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ บรรจุในกระป๋องขนาด 7.5 ออนซ์ เหมาะที่จะดื่มในช่วงค่ำๆ ก่อนถึงเวลาเข้านอนโดยไม่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำในตอนกลางคืน มาพร้อมกลิ่นของแบล็กเบอร์รีและลาเวนเดอร์มีส่วนผสมของแอลธีอะนีนถึง 200 มิลลิกรัม ซึ่งมีงานวิจัยสนับสนุนว่า สารดังกล่าวมีส่วนช่วยลดความเครียดในสมอง ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดความกังวลและปรับอารมณ์ก่อนนอนได้

สำหรับตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในอเมริกา ในปี 2019 มีมูลค่ากว่า 2.97 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 9.27 หมื่นล้านบาท) ตามรายงานของ Euromonitor เเละคาดว่าในปีนี้จะมียอดขายเติบโตได้เกือบ 5% จากความนิยมในเครื่องดื่มที่ช่วยผ่อนคลายที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากสถานการณ์วิกฤตโรคระบาดหนักในสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อ กระทบเศรษฐกิจเเละไม่มีความเเน่นอน ทำให้ชาวอเมริกันเกิดความเครียดมากขึ้นนั่นเอง

ขณะเดียวกัน ตลาดเครื่องดื่มลูกผสมเเบบ “ไฮบริด” ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกันในยุคนี้ จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการเครื่องดื่มที่สดชื่น แต่ต้องเป็นมิตรต่อสุขภาพ กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่มีโอกาสทางการตลาดสูงโดยคู่เเข่งอย่าง โคคาโคล่า” ก็เตรียมวางจำหน่าย Coca-Cola With Coffee หรือโค้กผสมกาแฟ เพื่อเจาะตลาดอเมริกา ในช่วงเดือนมกราคม ปี 2021 

…ต้องรอลุ้นว่าจะเข้าไทยหรือไม่

 

ที่มา : CNBC , CNN

 

 

 

 

]]>
1297307
“เป๊ปซี่โค” แต่งตั้ง “เหวิน หยวน ตัน” อดีตประธาน Walmart จีน เป็น CEO ภูมิภาค APAC https://positioningmag.com/1282167 Fri, 05 Jun 2020 06:01:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1282167 PepsiCo (เป๊ปซี่โค) ประกาศแต่งตั้ง เหวิน หยวน ตัน (Wern-Yuen Tan) ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และจีน APAC โดยดูแลการดำเนินการของเป๊ปซี่โค ทั้งหมดในภูมิภาค

ตันจะเริ่มต้นตำแหน่งใหม่ในวันที่ 15 มิถุนายน 2563 จะประจำอยู่ที่สิงคโปร์ และจะรายงานต่อ รามอน ลากัวร์ตา (Ramon Laguarta) ซีอีโอของ เป๊ปซี่โค

“เราทุกคนที่ เป๊ปซี่โค มีความยินดีที่ได้ต้อนรับ เหวิน หยวน มาเป็นซีอีโอคนใหม่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงและโอกาสที่ ไม่เคยพบเจอมาก่อน” รามอน ลากัวร์ตา ซีอีโอของ เป๊ปซี่โค กล่าว

“เหวิน หยวน ได้ผลักดันนวัตกรรมที่เปลี่ยนวงการและผลลัพธ์ตลอดช่วงการทำงาน เขาจะนำประสบการณ์และความเข้าใจลูกค้าในภูมิภาค APAC ที่มีความหลากหลายจากการดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ในด้านการค้าปลีก การบริการอาหาร และการให้คำปรึกษา การเป็นผู้นำของเขาจะเป็นเครื่องมือในการเร่งการเติบโตโดยใช้ประโยชน์จากขนาดของเรา และสร้างโซลูชันที่เหมาะสมมากขึ้นกับตลาดที่มีความสำคัญเหล่านี้” 

ก่อนร่วมงานกับเป๊ปซี่โค ตันรับตำแหน่งประธาน และซีอีโอ วอลมาร์ท ประจำประเทศจีน (Walmart China) ซึ่งเขานำทีมพนักงานกว่า 100,000 คน และรับผิดชอบรายได้กว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ในกลุ่มธุรกิจ Walmart, Sam’s Club และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่ง เขานำ Walmart China ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง จนเป็นผู้นำในวงการในด้านนวัตกรรมและ การค้าปลีกผ่านระบบดิจิทัล

ก่อนจะเข้าร่วมงานกับวอลมาร์ทในปี 2560 ตันดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารของ แมคโดนัลด์ ไต้หวัน เขามีประสบการณ์ในภาคธุรกิจด้านบริการอาหาร ช่วงที่เขาเริ่มทำงาน เขาเป็นประธานของ บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (Boston Consulting Group) ซึ่งมีหน้าที่คอยให้คำแนะนำแก่ลูกค้าด้านการค้าปลีกและผู้บริโภคเกี่ยวกับกลยุทธ์การเติบโต นวัตกรรม และระบบการทำงาน ตันเริ่มต้นอาชีพโดยการรับราชการในรัฐบาลสิงคโปร์

ตัน กล่าว “เป๊ปซี่โค มีสถานะที่แตกต่างในการขยายส่วนแบ่งตลาดด้วยสถานภาพที่หยั่งรากลึกทั่วภูมิภาคแห่งนี้และข้อเสนอที่ไม่มีใครเทียบ นอกจากนี้ ยังมีความสามารถขายสินค้าได้หลายช่องทางอยู่ในทั่วภูมิภาค APAC ผมหวังว่าการทำงานร่วมกับรามอนและทีมผู้บริหาร จะผลักดันการเติบโตและโซลูชันที่เหมาะสมกับตลาดท้องถิ่นในภูมิภาคที่มีความหลากหลายนี้”

]]>
1282167