เเบรนด์กีฬา – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sat, 02 Apr 2022 02:15:42 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ตลาดฟื้น! Under Armour ไตรมาสแรกโต 20-25% แต่จะโตเต็มที่ต้องรอ “นักท่องเที่ยว” กลับมา https://positioningmag.com/1380140 Fri, 01 Apr 2022 14:30:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1380140 Under Armour มองภาพปี 2565 สดใสกว่าช่วงสองปีที่ผ่านมา ไตรมาสแรกยอดขายเติบโต 20-25% เตรียมดันกิจกรรมการตลาดตลอดปี เพราะผู้บริโภคกลับมาออกกำลังกาย-เล่นกีฬาหลัง COVID-19 คลี่คลาย อย่างไรก็ตาม ยังขาดกำลังซื้อ “นักท่องเที่ยว” ที่จะทำให้ยอดขายกลับมาเป็นปกติ

“ปริศนา ศิริสมถะ” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูเอ สปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารแบรนด์เครื่องกีฬาสายเพอร์ฟอร์มานซ์ “Under Armour” (อันเดอร์ อาเมอร์) กล่าวถึงตลาดเสื้อผ้ารองเท้ากีฬาปี 2565 ว่า เห็นแนวโน้มที่จะดีขึ้นกว่าปีก่อน เพราะถึงแม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อต่อวันยังสูง แต่ความรุนแรงของโรคไม่เท่ากับที่ผ่านมา ทำให้คนรู้สึกมั่นใจในการกลับมาใช้ชีวิต สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้

แนวโน้มนี้เห็นชัดเจนตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีซึ่งทั้งทราฟฟิกเข้าร้านและยอดขายของ Under Armour กลับมาโต 20-25% เทียบกับไตรมาสแรกปีก่อน

(ซ้าย) “ปริศนา ศิริสมถะ” ผู้จัดการทั่วไป และ (ขวา) “เทพฤทธิ์ ไรวินท์” ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท ยูเอ สปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด ด้านหน้าผลงานศิลปะสไตล์ไทยใน Under Armour Brand House สยามเซ็นเตอร์

สินค้าของ Under Armour นั้นเป็นหมวดเพอร์ฟอร์มานซ์ที่เน้นการออกกำลังกายและเล่นกีฬาถึง 85-90%

หากแบ่งตามประเภทกีฬาในไทย ส่วนใหญ่ 60% จะเป็นสินค้าสำหรับเทรนนิ่ง ใส่ในการฝึกซ้อมฟิตเนส อีก 15-20% เป็นหมวดกีฬาวิ่ง และที่เหลือ 20-25% เป็นสินค้ากีฬาต่างๆ เช่น บาสเกตบอล ฟุตบอล กอล์ฟ และเสื้อผ้าไลฟ์สไตล์

ทำให้ยอดขายขึ้นอยู่กับโอกาสการออกกำลังกายของลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาในช่วง COVID-19 ถือว่าแบรนด์ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก แต่ปริศนาเชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่ฟื้นตัวพ้นจุดต่ำสุดแล้ว

 

ปรับโฉมร้านให้เป็นมิตรมากขึ้น

เพื่อตอบรับการกลับมาของตลาด ปริศนากล่าวว่า ปีนี้แบรนด์ได้ปรับโฉม Under Armour Brand House เริ่มสองสาขาแรกที่เมกา บางนา และ สยามเซ็นเตอร์ โดยเป็นการปรับตามคอนเซ็ปต์ “City Concept Store” ตามนโยบายระดับโลกของแบรนด์

Under Armour
ภายใน Under Armour สาขาสยามเซ็นเตอร์ หลังปรับโฉมใหม่

การปรับปรุงครั้งนี้จะทำให้ลุคของร้านมีความเป็นมิตรมากขึ้น และมีการ localize การตกแต่ง ยกตัวอย่างสาขาสยามเซ็นเตอร์ จะสื่อสารผ่านฟีเจอร์วอลล์ในห้องลองชุดที่ออกแบบโดย อัครพงษ์ “โอ๊ต” เพ็ชผล ศิลปินชาวไทย มีภาพของยักษ์ เสาชิงช้า ภูเขาทอง ฯลฯ สื่อถึงที่ตั้งร้านซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ

“ลุคเดิมของร้าน Under Armour จะมีความเป็นชายสูง ดูเป็นนักกีฬาอาชีพ ทำให้ลูกค้าอาจจะไม่กล้าเข้ามาชม แต่ลุคใหม่จะให้ความละมุนมากขึ้น เข้าถึงง่ายขึ้น” ปริศนากล่าว

 

โหมกิจกรรมการตลาดตลอดปี

ด้าน “เทพฤทธิ์ ไรวินท์” ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท ยูเอ สปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงกลยุทธ์การตลาดของแบรนด์ในปีนี้ จะมาในแคมเปญ Access to Sports, Gift of the Game เน้นเรื่องการเปิดโอกาสให้คนเข้าถึงกีฬามากขึ้น สร้างแรงบันดาลใจให้คนเล่นกีฬาได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของร่างกาย ก้าวข้ามความรู้สึกของตัวเอง

ตัวอย่าง 3 กิจกรรมหลักที่มีในปีนี้ ได้แก่

  • Curry 3 ON 3 Thailand 2022 เปิดโอกาสให้เยาวชนวัย 15-18 ปี ตั้งทีมเข้ามาแข่งบาสเกตบอล โดยมี 68 ทีมทั่วประเทศสมัครเข้ามาแข่งขัน และได้ผู้ชนะรับทุนการศึกษาไปแล้วเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ เมกา บางนา
  • All Out Mile โปรแกรมฝึกวิ่งในระยะ 1 ไมล์ (ประมาณ 6 กม.) ให้เร็วที่สุด โดยจะจัดให้มีการวิ่งสองรอบ รอบแรกเป็นการทดสอบตัวเองว่าเราใช้เวลาเท่าไหร่ในการวิ่ง 1 ไมล์ จากนั้น Under Armour จะมีโปรแกรมช่วยโค้ชให้วิ่งเร็วขึ้นภายใน 30 วัน และจะทดสอบรอบสองเพื่อดูว่าคุณวิ่งเร็วขึ้นเท่าไหร่จากการโค้ชนี้
ไอเทม NFT ของ Under Armour ในแพลตฟอร์ม WIRTUAL
  • จับมือกับ WIRTUAL แพลตฟอร์ม Exercise to earn และ Jet Fitness แอปฯ นี้ เป็นแอปฯ ที่เชื่อมต่อข้อมูลการออกกำลังกายกับอุปกรณ์วัดผลต่างๆ เช่น Garmin, Fitbit, Apple และทุกการขยับร่างกายจะเป็นการ ‘ขุดเหรียญ’ โทเคนเฉพาะของแพลตฟอร์มคือ “WIRTUAL Token” โทเคนนี้สามารถแลกเป็นเงินเฟียตและใช้จ่ายในแอปฯ ได้ โดยทาง Under Armour มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าให้กับอวาตาร์ในแอปฯ เป็นลักษณะ NFT ผู้ที่ต้องการจะต้องร่วมอีเวนต์ของแบรนด์เพื่อนำไปแลก NFT มาสวมใส่ให้อวาตาร์ และเมื่อสวมใส่แล้วจะทำให้อัตราความเร็วในการขุดเหรียญไวยิ่งขึ้น

ขณะที่การโปรโมตแบรนด์ปีนี้ก็ยังมีต่อเนื่องผ่านนักกีฬาและอินฟลูเอนเซอร์ โดยนักกีฬาคีย์หลัก 2 ท่านของปีนี้จะเป็น “ซาร่านุสรา ต้อมคำ” นักวอลเลย์บอลไทยที่ไปสู่ระดับโลก และ “ซุปเปอร์บอน” นักมวยไทยชื่อดังจากรายการ One Championship

 

ฟื้นแล้ว…แต่ยังไม่เต็มที่หากไม่มี “นักท่องเที่ยว”

เมื่อถามถึงการขยายสาขาปี 2565 ปริศนาระบุว่า แม้ช่วงก่อนหน้านี้แบรนด์มักจะเปิด Brand House ใหม่ปีละ 1 สาขา แต่ปีนี้จะยังไม่มีการเพิ่มสาขา เช่นเดียวกับสองปีที่เผชิญ COVID-19 เพราะยอดขายที่ฟื้นตัวแล้วก็ยังไม่เท่ากับก่อนเกิดโรคระบาด จึงต้องการจะมุ่งเน้นทำยอดขายในสาขาที่มีให้กลับมาเป็นปกติก่อน

Under Armour
มุมคนเล่นกอล์ฟ ตอบโจทย์คนไทยที่หันมาตีกอล์ฟกันมากขึ้น

เหตุที่การฟื้นตัวยังไม่ 100% เกิดจากยอดขายของ Under Armour เกินครึ่งหนึ่งมาจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยหน้าสาขาที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ถ้าหากต่างชาติยังไม่เข้าประเทศไทยมากเหมือนในอดีต แบรนด์ก็ยังได้รับผลกระทบ

อย่างไรก็ตาม แบรนด์มีการปรับเข้าหาคนไทยมากขึ้น เช่น ปรับหน้าเว็บไซต์ให้มีภาษาไทย เพิ่มสินค้าที่เป็นเทรนด์ของคนไทยมากขึ้น อย่างรองเท้าวิ่ง และเสื้อผ้ากีฬากอล์ฟที่กลับมาฮิตอีกครั้ง

ด้านการแข่งขันในตลาด Under Armour จะยังคงเน้นความเป็นสินค้าที่ขายเทคโนโลยีล้ำสมัย ช่วยให้การออกกำลังกายของลูกค้าดีขึ้น ทำให้แบรนด์มีการจัดโปรโมชันไม่บ่อยครั้งเท่าแบรนด์อื่นๆ ซึ่งเชื่อว่าลูกค้าที่เป็นเป้าหมายยังคงตอบรับ ยกตัวอย่างไตรมาสแรกปีนี้นับว่ามีการลดราคาน้อยกว่าปีก่อน แต่กลับได้ยอดขายมากกว่าเดิม

]]>
1380140
Adidas ผลิตกางเกงกีฬาแก้ปัญหา “วันมามาก” ประเดิมแคมเปญบุกตลาด “ผู้หญิง” https://positioningmag.com/1337036 Tue, 15 Jun 2021 05:34:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1337036 เรื่องที่ผู้หญิงทุกคนต้องเจอแต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงคือ การเล่นกีฬาใน “วันมามาก” ความไม่สบายตัวและความกังวลเป็น ‘pain point’ ที่ Adidas หยิบมาใช้ผลิตนวัตกรรมกางเกงรัดรูปสำหรับผู้หญิง TechFit Period Proof ป้องกันประจำเดือนซึมเปื้อน โดยเป็นสินค้าตัวแรกในแคมเปญระยะยาว Watch Us Move ที่จะพัฒนาสินค้าเพื่อแก้ปัญหาให้ผู้หญิงกับการออกกำลังกาย

1 ใน 4 ของเด็กผู้หญิงทั่วโลก “เลิก” เล่นกีฬาในช่วงเริ่มเติบโตเป็นวัยรุ่น โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญคือเพราะความกลัวเรื่องการซึมเปื้อนของประจำเดือนระหว่างเล่นกีฬา Adidas เปิดข้อมูลนี้เพื่อสื่อให้เห็นถึง ‘อินไซต์’ ผู้บริโภคที่สำคัญที่แบรนด์นำมาใช้พัฒนาสินค้า

ปัญหาประจำเดือนซึมเปื้อนเป็นเรื่องที่ผู้หญิงต้องเจอแต่ไม่มีใครพูดถึง แม้แต่นักกีฬาก็ตาม โดย Adidas จัดสำรวจนักกีฬาหญิง 14,000 คนพบว่า นักกีฬาส่วนใหญ่ไม่เคยพูดถึงหรือปรึกษาปัญหาช่วงมีประจำเดือนระหว่างเล่นกีฬากับโค้ช (82.3% ในอังกฤษ และ 75.8% ในสหรัฐฯ) และไม่เคยได้รับการศึกษาเกี่ยวกับประเด็นนี้ในโรงเรียน (81.5% ในอังกฤษ และ 65.3% ในสหรัฐฯ)

กางเกง TechFit Period Proof จาก Adidas

หลังพบอินไซต์ดังกล่าว Adidas ใช้เวลา 2 ปีพัฒนานวัตกรรมเป็นกางเกงรัดรูปสำหรับเล่นกีฬา TechFit Period Proof ตอบโจทย์ปัญหาประจำเดือนซึมเปื้อน โดยกางเกงตัวนี้ใช้เนื้อผ้าซ้อน 3 ชั้นบริเวณเป้ากางเกง สามารถป้องกันจุดซึมเปื้อนได้ (*ยังต้องสวมใส่ผ้าอนามัยไว้ด้านใน)

เทคโนโลยี Flow Shield เนื้อผ้าซ้อน 3 ชั้นป้องกันการซึมเปื้อน

ไม่ใช่เฉพาะการผลิตสินค้า Adidas วางแคมเปญนี้ให้เป็นการ “แก้ปัญหา” ผู้หญิงในวงการกีฬาแบบรอบด้าน เพราะการเป็นประจำเดือนไม่ได้มีปัญหาเฉพาะการซึมเปื้อน แต่รอบเดือนยังส่งผลต่อร่างกายและจิตใจของผู้หญิงด้วย

แบรนด์จึงร่วมมือกับ Dr.Georgie Bruinvels ผู้อำนวยการด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาและหัวหน้านักกีฬาหญิงของ Orreco ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาในลอนดอน สร้างแผนผังความเข้าใจเกี่ยวกับประจำเดือน และแผนการเล่นกีฬาที่เหมาะกับรอบเดือน ข้อมูลนี้จะเป็นข้อมูลเปิดให้โรงเรียน ครู ผู้ปกครองนำไปใช้ได้ เป้าหมายคือการส่งเสริมการศึกษา และทำให้ “ประจำเดือนเป็นเรื่องที่พูดถึงได้”

ตัวอย่างจากคู่มือทำความเข้าใจประจำเดือนและการออกกำลังกายที่เหมาะสม จากแคมเปญ Adidas Stay in Play

การแก้ปัญหาเรื่องประจำเดือนกับกีฬาเป็นก้าวแรกของ Adidas ในแคมเปญระยะยาวคือ “Watch Us Move” ซึ่งมุ่งเป้าแก้ปัญหาให้ผู้หญิงในวงการกีฬาโดยเฉพาะ ทั้งในแง่ของนวัตกรรมสินค้า บริการ และสนับสนุนความแตกต่างหลากหลายในชุมชนสตรี ผ่านความเข้าใจว่าอะไรคือกำแพงกั้นผู้หญิงออกจากการเล่นกีฬา ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย จิตใจ หรือสังคม ในลักษณะเดียวกับเรื่องประจำเดือนคือต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง คู่ไปกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์

ขณะนี้แบรนด์ยังไม่เปิดเผยว่าจะมีสินค้าใดออกมาอีก แต่ Kim Buerger ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ด้านเครื่องแต่งกายสำหรับผู้หญิงของ Adidas แย้มว่า ประเด็นที่แบรนด์กำลังให้ความสนใจ เช่น สตรีมีครรภ์, ผู้หญิงพลัสไซส์, ชุดว่ายน้ำ เป็นต้น

Buerger กล่าวว่า ผู้หญิงยังไม่ได้รับความสนใจมากพอในตลาดกีฬา แต่จริงๆ แล้วมีศักยภาพ เพราะผู้หญิงต่างต้องการจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น และ Adidas ต้องการจะเข้าไปในตลาดนี้โดยเชื่อว่ายังมีพื้นที่อีกมากในแง่ขนาดตลาด

กลยุทธ์บุกตลาดผู้หญิงของ Adidas เริ่มขึ้นมาแล้วกว่า 5 ปี สอดคล้องกับเทรนด์ตลาดที่กำลังเติบโต โดยสำนักวิจัย Allied Market Research ระบุไว้เมื่อปี 2017 ว่า ตลาดเสื้อผ้ากีฬาของผู้หญิงทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 1.19 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะโตเฉลี่ยปีละ 7.7% ต่อเนื่องไปถึงปี 2025

]]>
1337036
Nike มองรายได้ปีนี้ “ดีเกินคาด” ปรับเป้ายอดขายเพิ่ม คนเเห่ซื้อออนไลน์พุ่ง เทรนด์สุขภาพอยู่ยาว https://positioningmag.com/1311261 Sat, 19 Dec 2020 14:17:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1311261 เเบรนด์กีฬายักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Nike พลิกฟื้นขาดทุนกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง มองว่ารายได้รวมของปีนี้ จะดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังยอดขายออนไลน์เติบโตอย่างมากจากวิกฤตโรคระบาด

การเเพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ผู้คนใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น เเละหันมาทำกิจกรรมต่างๆ เช่น วิ่งหรือขี่จักรยาน ทำให้ชุดกีฬาของเเบรนด์ต่างๆ ได้รับความนิยมขึ้นอย่างมาก โดยในช่วงล็อกดาวน์ มีผู้เข้าใช้งาน
เเอปพลิเคชันของ Nike จำนวนมากเเละมีการสั่งซื้อสินค้าต่อเนื่อง ทำให้มีรายได้ส่วนนี้มาช่วยพยุงยอดขายสาขาที่หดหายไป

Jessica Ramirez นักวิเคราะห์ฝ่ายค้าปลีกของ Jane Hali & Associates ให้ความเห็นว่า การทุ่มลงทุนในอีคอมเมิร์ซของ Nike ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา สร้างความได้เปรียบครั้งใหญ่ เหนือคู่แข่งสำคัญอย่าง Adidas เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนเเปลงเข้าสู่ดิจิทัลมากขึ้น

ความพร้อมเเละการใช้งานง่ายของเว็บไซต์ Nike รวมถึงการรวบรวมข้อมูลสินค้าและบริการที่สอดรับความต้องการของลูกค้า ช่วยให้สามารถกำหนดเป้าหมายไปยังผู้บริโภคได้อย่างเหมาะสม เเม้ในช่วงที่ผู้คนต้องประหยัดเเละระะมัดระวังการใช้จ่าย

ยอดขายออนไลน์ของ Nike เติบโตถึง 84% โดยเฉพาะในตลาดอเมริกาเหนือที่เติบโตมากกว่า 100% และพื้นที่อื่นๆ ทั่วโลกก็เติบโตเป็นอัตราเลขสองหลัก สอดคล้องกับกระเเสการออกกำลังกายกลางเเจ้งในหลายพื้นที่ ได้เริ่มกลับมาอีกครั้ง ก็มีส่วนทำให้ยอดขายของ Nike ฟื้นตัวขึ้นจากช่วงวิกฤตได้ดี

Nike รายงานผลประะกอบการงวดไตรมาส 2/63 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2020 มีรายได้เพิ่มขึ้น 9% มาอยู่ที่ 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ที่ 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ด้านกำไรสุทธิไตรมาส 2 อยู่ที่ 1.25 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% คิดเป็นกำไรต่อหุ้นที่ 78 เซ็นต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกำไรต่อหุ้นไว้ที่ 62 เซ็นต์

ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารก็ลดลง 2% สู่ระดับ 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 นั้นทำให้ Nike ไม่ต้องใช้ทุ่มงบโฆษณา หรือจัดกิจกรรมกระตุ้นตลาดมากเท่ากับปีก่อน ๆ

จากปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตเหล่านี้ ทำให้ Nike ได้ปรับคาดการณ์รายได้ในปีปฏิทิน 2021 (มิ.. 2020-.. 2021) จากเดิมที่คาดกว่าจะโตเเค่หลักเดียวเเต่ตอนนี้คาดว่าจะโตได้ถึงสองหลักอย่างเเน่นอน โดยกลุ่มลูกค้าที่บริษัทจะมุ่งตีตลาดต่อไปนั่นก็คือกลุ่มวัยรุ่นนั่นเอง

 

ที่มา : Reuters, Nike 

]]>
1311261
New Normal การออกกำลังกาย Reebok เผย 3 รูปแบบพัฒนา “หน้ากาก” เเห่งโลกอนาคต https://positioningmag.com/1280196 Fri, 22 May 2020 12:54:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1280196 หากคุณเป็นคนชอบวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือชอบทำกิจกรรมกลางเเจ้ง คงกำลังมองหา “หน้ากาก” ที่จะช่วยให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างสะดวกสบายเเละปลอดภัย ท่ามกลางโรคระบาด

เเต่ก็เป็นเรื่องที่ “ยากมาก” เพราะหน้ากากที่ใช้ออกกำลังกายส่วนใหญ่ที่มีขายในท้องตลาด ไม่ได้ถูกออกเเบบ
มาเพื่อกรองอนุภาคต่างๆ เเต่เป็นการจำลองระดับออกซิเจนให้ต่ำ เพื่อช่วยฝึกซ้อมวิ่งในพื้นที่ที่ตั้งอยู่บนความสูง
เหนือระดับน้ำทะเล อย่างพวกวิ่งขึ้นเขาหรือปีนเขา เพิ่มความแข็งแรงของระบบหายใจ

ตอนนี้ Reebok เเบรนด์สินค้ากีฬาชื่อดัง กำลังทำวิจัยเพื่อผลิตหน้ากากให้ตอบสนองความต้องการของคนในปัจจุบันที่ต้องปกปิดใบหน้า ป้องกันเชื้อโรคเเละไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน นวัตกรรมใหม่นี้จะทำให้เราได้เห็นว่า “หน้ากาก” จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในช่วงทศวรรษต่อจากนี้

ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าจากปัจจัยมลพิษที่สูงขึ้น ประกอบกับการระบาดใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นบ่อย จะทำให้หน้ากาก
กลายเป็นส่วนหนึ่งในการออกกำลังกายของเรา เเม้จะผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 ไปแล้วก็ตาม

Don Albert หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมของ Reebok ยุโรป บอกว่า ตอนนี้ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในเอเชีย
ผู้คนหันมาสวมหน้ากากในการออกกำลังกายมากขึ้น ถือว่าเป็น New Normal (วิถีชีวิตใหม่) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Albert เเละทีมของเขากำลังพัฒนา “หน้ากากต้นเเบบ” ที่จะปกป้องผู้ที่ออกกำลังกายจากอนุภาคอันตรายต่างๆ
ขณะเดียวกันก็ต้องมีระดับออกซิเจนเหมาะสมกับผู้สวมใส่ เเม้ตอนนี้จะอยู่ในช่วงเริ่มต้น เเต่ก็ทำให้เรามองเห็นรูปแบบของ “หน้ากากแห่งอนาคตเเบบดิสโทเปีย” ของเรา

“คงจะดีไม่น้อย ถ้าเราสามารถสร้างหน้ากากที่ผู้คนอยากสวมใส่มันจริงๆ ไม่ใช่เพราะจำเป็นต้องใส่” Albert กล่าว

เเละนี่คือรูปแบบของหน้ากากแห่งอนาคตของ Reebok เพื่อการออกกำลังกาย โดยเปิดตัวมา 3 เเบบดังนี้

THE SENSORIAL MASK

หน้ากากนี้มีรูปแบบคล้ายกับเเบบที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เเต่จะมีการเปิดเผยให้เห็นช่วงปากอย่างชัดเจน เนื่องจากผลวิจัยผู้ใช้ของ Reebok ส่วนใหญ่มองว่ากีฬาเเละการออกกำลังกาย เป็นกิจกรรมทางสังคมที่พวกเขาต้องการเเสดงอารมณ์เเละเห็นใบหน้าของผู้อื่น ดังนั้นหน้ากากนี้จะช่วยกรองอนุภาคต่างๆ เเละยังคงช่วยให้ผู้สวมใส่ได้สื่อสารกับสิ่งรอบตัว อีกทั้งหน้ากากนี้จะมีการติดเซ็นเซอร์ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจเเละอัตราการหายใจ ที่ดูได้ผ่าน
เเอปพลิเคชันด้วย

Photo : Reebok

THE IMMERSION MASK

หน้ากากนี้ดูแปลกมากที่สุด เหมือนเป็นหมวกที่ครอบทั้งใบหน้า โดยจะมีเครื่องช่วยหายใจเพื่อรักษาสมดุล ซึ่งถูกออกเเบบมาสำหรับผู้สวมใส่ที่อยากได้รับการปกป้องขั้นสุด ขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้สวมใส่หายใจได้อย่างสะดวกด้วย

เเม้จะดูใส่ลำบากกว่าเเบบอื่น เเต่หน้ากากนี้มีศักยภาพที่จะให้ข้อมูลมากที่สุด เนื่องจากมันจะมีเซ็นเซอร์ทั่วทั้งใบหน้าและส่วนหัว นอกจากนี้ยังสามารถปรับสภาพภายในหน้ากากได้ตั้งแต่อุณหภูมิไปจนถึงระดับออกซิเจน

อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยบอกว่าหน้ากากนี้เมื่อสวมใส่เเล้วอาจจะรู้สึกร้อน โดยเฉพาะในพื้นที่เขตร้อนหรืออบอุ่น เเต่ดีสำหรับพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เเละหน้ากากเหล่านี้คงไม่ได้ใช้กันทั่วโลก เพราะในหลายประเทศก็มี “มีบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับการสวมหน้ากาก” ที่ไม่เหมือนกัน

Photo : Reebok

THE SYMBIOSIS MASK

สำหรับหน้ากากรูปแบบที่ 3 ผู้วิจัยบอกว่าเป็นความพยายามขั้นสุดของการผลิตหน้ากากแห่งอนาคต เพราะจะมีการ
ทำเครื่องช่วยหายใจที่ฝังตัวอยู่กับสารอินทรีย์อย่างสาหร่ายเเละมอส เพื่อทำให้ได้อากาศบริสุทธ์ ในกรณีนี้หน้ากากจะกรองอนุภาคอันตรายอย่างไวรัสได้ด้วย

“เห็นเเล้วว่าสาหร่ายช่วยฟอกอากาศที่มีมลภาวะได้อย่างไร ดังนั้นเราจึงคิดว่าระบบนี้ก็อาจทำให้มีอากาศบริสุทธิ์
ตามธรรมชาติในหน้ากากได้”

Photo: Reebok

เเม้ว่าตอนนี้ Reebok จะยังไม่ได้ทุ่มเงินเพื่อผลิตหน้ากากมากนัก เเต่งานวิจัยนี้ก็ทำให้เห็นว่าบริษัทมองทิศทาง
ของหน้ากากอนามัยอย่างไร เเละในที่สุด วิกฤตโรคระบาดที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ก็จะทำให้เเบรนด์กีฬาต่างๆ ต้องหันมาลงทุนใน “หน้ากากออกกำลังกาย” อีกไม่กี่ปีข้างหน้าอย่างเเน่นอน เพราะจะสิ่งนี้จะกลายมาเป็น “สิ่งจำเป็น”
สำหรับออกกำลังกายในโลกอนาคต

 

ที่มา : fastcompany / Reebok’s fitness masks point to an even more dystopian future

 

]]>
1280196