Alphabet – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 10 Feb 2025 06:19:01 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 สรุปบรรดา ‘บิ๊กเทค’ วางงบลงทุน ‘AI’ เท่าไหร่ในวันที่ ‘DeepSeek’ แสดงให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องใช้เงินมหาศาล https://positioningmag.com/1510100 Mon, 10 Feb 2025 05:45:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1510100 ในวันที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่ทุ่มเงินมหาศาลในการพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model – LLM) เพื่อใช้เป็นโมเดลพื้นฐานการประมวลผลของ Generative AI แต่การมาของ DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัพด้าน AI จากจีน ที่เหมือนมาตบหน้าบิ๊กเทค เพราะใช้เงินลงทุนน้อยกว่า ดังนั้น ไปดูกันว่าบริษัทบิ๊กเทค วางแผนทุ่มเงินเท่าไหร่ แม้ว่า DeepSeek จะแสดงให้เห็นว่าไม่ต้องใช้เงินเยอะก็ตาม

เฉพาะ 4 ยักษ์ใหญ่ลงทุนเพิ่มรวมเกือบ 1 แสนล้านดอลลาร์

นับตั้งแต่โลกรู้จักกับ ChatGPT ในปี 2022 บริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีหลายรายต่างทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในโครงการ AI โดยมุ่งขยายศูนย์ข้อมูลด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ของ Nvidia จำนวนมาก และพัฒนาโมเดลต่าง ๆ ของตนเอง

แต่การมาของ DeepSeek ก็มาทำให้เกิดคำถามว่า บริษัทยักษ์ใหญ่จำเป็นต้องลงทุนมหาศาลขนาดนั้นไหม เพราะ DeepSeek ใช้เงินลงทุนเพียง 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้หุ้นของผู้ผลิตชิป AI อย่าง Nvidia และ Broadcom ลดลงรวมกัน 800,000 ล้านดอลลาร์ ในวันเดียว

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนการมาของ DeepSeek จะไม่ได้ทำให้การลงทุนด้าน AI ของเหล่าบิ๊กเทคนั้นลดลง โดยเมื่อรวมเม็ดเงินการลงทุนของ Meta, Amazon, Alphabet และ Microsoft มีมูลค่าสูงถึง 320,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 230,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีที่ผ่านมา หรือมากกว่าปีก่อนถึงเกือบ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Amazon: 100,000 ล้านดอลลาร์

สำหรับ Amazon บริษัทเทคโนโลยีและอีคอมเมิร์ซของสหรัฐฯ ประกาศว่าปีนี้จะลงทุน มากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2024 ที่ใช้เงินลงทุน 83,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Andy Jassy ซีอีโอ กล่าวว่า เงินส่วนใหญ่จะใช้กับ AI ในส่วนของ Amazon Web Services

Microsoft: 80,000 ล้านดอลลาร์

เมื่อเดือนที่แล้ว Microsoft เปิดเผยว่าจะจัดสรรเงิน 80,000 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2025 สำหรับการก่อสร้างศูนย์ข้อมูลที่สามารถรองรับการประมวลผล AI โดย แบรด สมิธ ซีอีโอ กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายมากกว่าครึ่งหนึ่งจะเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา

ภาพจาก Shutterstock

Alphabet: 75,000 ล้านดอลลาร์

Alphabet ตั้งเป้าการใช้ลงทุนด้าน AI ปีนี้ที่ 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่าจะมีการใช้จ่าย 16,000 – 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสแรก โดย Anat Ashkenazi หัวหน้าฝ่ายการเงินกล่าวในการรายงานผลประกอบการว่า การใช้จ่ายส่วนใหญ่จะใช้กับ โครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิค โดยส่วนใหญ่จะใช้กับเซิร์ฟเวอร์ รองลงมาคือ ศูนย์ข้อมูลและระบบเครือข่าย

Meta: 65,000 ล้านดอลลาร์

ส่วน มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Meta ได้กำหนดงบประมาณด้านการลงทุนด้าน AI ของบริษัทไว้ที่ 60,000 – 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับระบุว่า ปี 2025 จะเป็นปีแห่งการกำหนดทิศทางของ AI และการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วย ปลดล็อกนวัตกรรมทางประวัติศาสตร์และขยายความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของอเมริกา

ภาพจาก Shutterstock

Apple: เน้นร่วมมือกับพันธมิตร

สำหรับ Apple อาจจะประเมินได้ค่อนข้างยากว่ามีการใช้งบลงทุนด้าน AI มากน้อยแค่ไหน เพราะงบส่วนใหญ่จะปรากฏในค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เนื่องจากบริษัท ใช้ความสามารถในการฝึกอบรมจากผู้ให้บริการระบบคลาวด์ เช่น โมเดลที่รองรับปัญญาประดิษฐ์ของ Apple นั้นได้รับการฝึกฝนจาก Google Cloud นอกจากนี้ Apple ยังใช้ความสามารถในการฝึกอบรมระบบคลาวด์จาก AWS และ Azure อีกด้วย

ขณะเดียวกัน Tim Cook ซีอีโอ กล่าวว่า Apple ใช้แนวทางแบบผสมผสานในการลงทุน โดยมีสิ่งที่พัฒนาภายใน แต่ก็มีพันธมิตรบางรายที่ทำธุรกิจด้วยภายนอก ซึ่งการลงทุนนั้นจะปรากฏอยู่ในธุรกิจของพวกเขา

Tesla: 5,000 ล้านดอลลาร์

ด้าน Tesla ได้เคยเปิดเผยในปี 2024 ว่า ค่าใช้จ่ายด้านทุนที่เกี่ยวข้องกับ AI อยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และบริษัทคาดว่าค่าใช้จ่ายด้าน AI จะคงที่เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยปัจจุบัน Tesla ได้สร้างคลัสเตอร์การฝึกอบรมที่เรียกว่า Cortex ในโรงงานในรัฐเท็กซัส เพื่อใช้สำหรับการฝึกอบรมโมเดลเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติและหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ของบริษัทที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา

จะเห็นว่าแต่ละบริษัทอัดงบลงทุนกับ AI มหาศาล แต่นั่นก็ไม่ใช่การตำน้ำพริกละลายแม่น้ำอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะอย่าง Amazon, Google และ Microsoft ที่แม้จะลงทุนเยอะ แต่จะยิ่งส่งผลดีอย่างมากต่อธุรกิจคลาวด์ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ต่างก็ต้องการเครื่องมือประมวลผล AI เพิ่มเติม และพวกเขาวางแผนที่จะรันเวิร์กโหลดที่ใหญ่ขึ้นในคลาวด์

]]>
1510100
รู้จัก ‘WIZ’ สตาร์ทด้านอัพไซเบอร์ซิเคียวริตี้ ที่ ‘Google’ กำลังทุ่ม 2.3 หมื่นล้านเหรียญเพื่อปิดดีล! https://positioningmag.com/1482847 Tue, 16 Jul 2024 09:48:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1482847 Alphabet เจ้าของ Google อยู่ในการเจรจาเพื่อซื้อ Wiz สตาร์ทอัพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์สําหรับคลาวด์คอมพิวติ้ง ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในราคาประมาณ 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์  ซึ่งถ้าดีลดังกล่าวสำเร็จ จะถือเป็นการเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่สุดของ Alphabet

สำหรับ Wiz ถือเป็นบริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติอิสราเอลที่ทำธุรกิจด้านการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ โดยมี Assaf Rappaport เป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ก่อตั้ง Adallom ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งถูกขายให้กับ Microsoft ในราคา 320 ล้านเหรียญ เมื่อประมาณเกือบ 10 ปีก่อน

หลังจากขายธุรกิจไปได้ 3 ปี เขาก็ลาออกจาก Adallom เพื่อรวมตัวกับเพื่อน ๆ เพื่อสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพใหม่ จนมาปี 2020 ได้ก่อตั้ง Wiz ที่ให้บริการด้านระบบรักษาความปลอดภัยบน คลาวด์ โดยตลาดคลาวด์มีมูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านเหรียญ และมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 20%

Assaf Rappaport

หลังก่อตั้งได้ 9 เดือน Wiz สามารถระดมทุน Series A มูลค่า 100 ล้านเหรียญ และ 5 เดือนจากนั้น ก็สามารถระดมทุน Series B มูลค่า 120 ล้านเหรียญ ภายในเวลา 18 เดือน บริษัทสามารถทำรายได้ถึง 100 ล้านเหรียญ และเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนปี 2023 สามารถสร้างรายได้ประมาณ 350 ล้านเหรียญ ซึ่งช่วยให้ได้รับการลงทุนเพิ่มเติม 1 พันล้านเหรียญ เดือนพฤษภาคม 2024 ด้วยการประเมินมูลค่า 1.2 หมื่นล้านเหรียญ ส่งผลให้ Wiz เป็น บริษัทซอฟต์แวร์ที่เติบโตเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา

โดยจุดเด่นของ Wiz คือ ช่วยให้ผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์มองเห็นภาพรวมของระบบคลาวด์ทั้งหมด ขณะที่กลยุทธ์ของ Wiz จะเน้นมุ่งไปที่ บริษัทยักษ์ใหญ่ โดยจะระดมทุนมหาศาลเพื่อเร่งการจ้างงานและเร่งเครื่องการเติบโตของบริษัท ปัจจุบัน 40% ของบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 100 เป็นลูกค้าของบริษัท อาทิ Fox, Morgan Stanley และ LVMH 

ล่าสุด Alphabet บริษัทแม่ของ Google ได้เจรจากับ Wiz หลังจากที่บริษัทระดมทุนได้ โดย Alphabet อาจเสนอเงินสูงถึง 2.3 หมื่นล้านเหรียญ เพื่อซื้อบริษัท ซึ่งสูงกว่ามูลค่าที่ประเมินเกือบ 2 เท่า และหากดีลสำเร็จ ดีล ดังกล่าวกลายเป็นดีลที่มีมูลค่าสูงสุดของบริษัท แซงหน้าดีลการซื้อ Motorola ที่มีมูลค่า 1.25 หมื่นล้านเหรียญ เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว  อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขของข้อตกลงยังไม่เสร็จสิ้นและการเจรจาอาจล่มได้

ทั้งนี้ ในเดือนมีนาคม 2022 Alphabet ได้ซื้อบริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ Mandiant ในราคา 5.4 พันล้านเหรียญ เพื่อช่วยให้บริษัทต่าง ๆ จัดการกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้ดีขึ้นและสนับสนุนธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้ง โดย Google พยายามจะดันรายได้ในฝั่ง Google Cloud เพื่อเป็นการกระจายรายได้นอกเหนือจากธุรกิจโฆษณา และแม้ว่ายอดขายบนคลาวด์จะเติบโตขึ้น แต่ก็ประสบปัญหาในการแข่งขันกับบริการที่คล้ายคลึงกันจาก Microsoft และ Amazon

“การซื้อ Wiz แสดงให้เห็นว่า Google กําลังเดิมพันครั้งใหญ่ในพื้นที่ความปลอดภัยทางไซเบอร์เพื่อเสริมธุรกิจ  คลาวด์” Dan Ives กรรมการผู้จัดการและนักวิเคราะห์วิจัยหุ้นอาวุโสที่ Wedbush กล่าว

CNN / Forbes / CCN

]]>
1482847
Youtube ประกาศสู้ศึก Podcast ชูจุดเด่น ‘พอดแคสต์แบบวิดีโอ’ ท้าชน 2 คู่แข่งสำคัญ Spotify และ Apple https://positioningmag.com/1473606 Wed, 15 May 2024 01:47:45 +0000 https://positioningmag.com/?p=1473606 Youtube ประกาศสู้ศึก Podcast โดยชูจุดเด่นในเรื่องของ ‘พอดแคสต์แบบวิดีโอ’ เพื่อที่จะชนกับคู่แข่งรายสำคัญอย่าง Spotify และ Apple ซึ่งปัจจุบันตัวเลขผู้ฟังนั้นยังเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้บริษัทเห็นโอกาสในการขยายช่องทางผู้ฟัง

Youtube โดยล่าสุดบริษัทเตรียมลุยตลาดพอดแคสต์ (Podcast) ที่มีผู้ฟังเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีคู่แข่งรายสำคัญนั่นก็คือ Spotify และ Apple ที่เป็น 2 ผู้เล่นใหญ่ในตลาดนี้ โดยมองว่าแพลตฟอร์มของบริษัทสามารถที่จะเป็นจุดที่ผู้ฟังสามารถหารายการใหม่ๆ ในสิ่งที่ตัวเองสนใจได้

ในงานสัมมนาของผู้ผลิต Podcast ซึ่งจัดโดย Youtube เมื่อไม่นานมานี้ ทีมงานผู้บริหารของ Youtube ถึง 2 รายได้กล่าวถึงความนิยมในแพลตฟอร์มสำหรับผู้ฟัง Podcast ไม่ว่าจะเป็นการฟังด้วยเสียงเพียงอย่างเดียว หรือแม้แต่ Podcast ที่เป็นวิดีโอก็เช่นกัน

ขณะที่ Johanna Voolich ผู้บริหารสูงสุดด้านผลิตภัณฑ์ของ Youtube เคยกล่าวใน Blog ของบริษัทว่า สูตรลับของ YouTube คือคำแนะนำของแพลตฟอร์ม ช่วยให้ผู้คนค้นพบสิ่งใหม่ๆ หรือเจาะลึกสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ (ผ่าน Podcast) ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้ผลิต Podcast เข้าถึงผู้ชมใหม่ๆ ที่พบได้บน YouTube เท่านั้น

Emma Sweet ผู้จัดการฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับ Podcast และเพลง ของ Youtube กล่าวว่า บริษัทได้ให้ความสำคัญกับ Podcast แม้ว่าจะไม่ใช่วิดีโอ ผลงานของผู้ผลิตก็สามารถขึ้นโชว์บนหน้าแรกได้ และนอกจาก Youtube Music แล้ว บริษัทยังขยายทางเลือกให้กับผู้ฟังสามารถฟัง Podcast ได้

นอกจากนี้ Youtube เองเตรียมที่จะพัฒนาระบบการฟังข้ามอุปกรณ์ ให้ผู้ฟังสามารถที่จะฟัง Podcast ได้สะดวกเพิ่มมากขึ้น ถ้าหากมีการสลับใช้งานอุปกรณ์เช่น ฟัง Podcast บนคอมพิวเตอร์ที่บ้าน แล้วมาใช้งานบนโทรศัพท์มือถือต่อ เป็นต้น

ทางด้านในส่วนของผู้ผลิต Podcast นั้นในการอัปโหลดรายการขึ้นไปยัง Youtube Music นั้นก็สามารถมีรายการอยู่บน Youtube ได้ทันที ไม่ต้องอัปโหลดซ้ำ ไม่เพียงเท่านี้ถ้าหากผู้ผลิต Podcast ได้อัปโหลด Podcast ทั้ง 2 รูปแบบทั้งแบบมีเสียงอย่างเดียว หรือมีวิดีโอด้วย ผู้ใช้งานสามารถกดเปิดปิดว่าจะดูวิดีโอได้ทันที

ข้อมูลจาก eMarketer และ PodcastIndex ชี้ว่าจำนวนผู้ฟัง Podcast นั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปีนับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา ตัวเลขล่าสุดในปี 2021 อยู่ที่ 383.7 ล้านราย เติบโตมากถึง 15.5% และคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะยังเติบโตเรื่อยๆ

คู่แข่งรายสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น Spotify หรือแม้แต่ Apple เองได้เอาจริงเอาจังในส่วนของ Podcast เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้ฟังมีจำนวนที่มาก และยังมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยให้ผู้ฟังสามารถที่จะหารายการโปรดหรือรายการแนวที่ชอบได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

หลังจากนี้ศึกของแพลตฟอร์มในการฟัง Podcast นั้นจะดุเดือดกว่านี้อย่างแน่นอน เพราะหลายบริษัทได้มีการลงทุนในเรื่องดังกล่าวไปไม่น้อย

ที่มา – 9to5Google, Business Insider

]]>
1473606
Google ปลดพนักงานบางส่วนอีกครั้ง แต่ไม่ได้ระบุจำนวน ชี้ทำตามแผนปรับโครงสร้างองค์กรให้มีประสิทธิภาพขึ้น https://positioningmag.com/1470258 Thu, 18 Apr 2024 01:30:48 +0000 https://positioningmag.com/?p=1470258 Google ประกาศปลดพนักงานบางส่วนแต่ไม่ได้ระบุจำนวน ขณะเดียวกันก็มีแผนย้ายพนักงานไปประจำที่สำนักงานแห่งอื่นทั้งในและต่างประเทศ โดยแผนดังกล่าวตามมาหลังจากที่ CEO ของบริษัทเตรียมที่จะปรับโครงสร้างองค์กรอีกครั้ง

Business Insider และ Reuters รายงานข่าวว่า Google ได้เตรียมปลดพนักงานบางส่วน และยังเตรียมที่จะโยกย้ายพนักงานบางส่วน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้นเป็นช่วงเวลาที่บริษัทเทคโนโลยีนั้นต้องการที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายภายใต้สภาวะเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน

โฆษกของ Google ได้กล่าวกับ Reuters ว่าการปลดพนักงานในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการปลดพนักงานจำนวนมาก และมีผลกระทบแค่ในส่วนการบริหารภายใน อย่างไรก็ดีไม่ได้มีการบอกว่ามีการปลดพนักงานจำนวนมากน้อยแค่ไหน และระยะในการปลดพนักงานยาวนานแค่ไหน

นอกจากนี้โฆษกของ Google ยังได้กล่าวว่า นับตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2023 และปี 2024 เป็นต้นมาบริษัทได้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและทำงานได้ดีขึ้น ลดความซับซ้อนของโครงสร้างองค์กร และจัดสรรทรัพยากรให้สอดคล้องกับลำดับความสำคัญ

แผนกที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการปลดพนักงานรอบนี้คือแผนกการเงินและแผนกอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ดีในการปลดพนักงานครั้งนี้ พนักงานสามารถที่จะสมัครตำแหน่งงานภายในที่บริษัทได้เปิดรับได้

ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนที่จะโยกย้ายพนักงานบางส่วนไปยังสำนักงานอื่นๆ ที่ Google ได้ลงทุนทั้งในสหรัฐอเมริกา เช่น แอตแลนตา ฯลฯ หรือแม้แต่ในต่างประเทศ เช่น ในประเทศอินเดีย ไอร์แลนด์ ฯลฯ

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา Sundar Pichai ซึ่งเป็น CEO ของ Google ได้ส่งข้อความให้กับพนักงานในบริษัท โดยกล่าวว่าในปี 2024 นี้บริษัทอาจต้องมีการปลดพนักงาน เพื่อที่จะปรับโครงสร้างองค์กร รวมถึงรีดประสิทธิภาพขององค์กรด้วย

ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะต้นทุนทางการเงินที่ยังสูง จากอัตราดอกเบี้ยที่ยังไม่มีท่าทีที่จะลดลง ส่งผลทำให้บริษัทหลายแห่งต้องหันกลับมาลดต้นทุนในการปลดพนักงานอีกครั้ง ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งอาจมีการปลดพนักงานระลอกใหม่ตามมา

]]>
1470258
Google กำลังพิจารณาเก็บเงินค่าใช้ AI แบบพรีเมียมในบริการค้นหาข้อมูล มองเป็นแหล่งทำรายได้ใหม่ของบริษัท https://positioningmag.com/1469099 Thu, 04 Apr 2024 07:29:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1469099 ‘กูเกิล’ กำลังพิจารณาเก็บเงินค่าใช้ AI แบบพรีเมียมในบริการค้นหาข้อมูล มองเป็นแหล่งทำรายได้ใหม่ของบริษัท หลังจากที่บริษัทได้นำระบบดังกล่าวผนวกในบางบริการของบริษัทมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Gmail หรือแม้แต่ Google Docs

Financial Times รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวในบริษัทว่า Google กำลังพิจารณาที่จะเก็บค่าบริการการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของบริษัทในชื่อ Gemini แบบพรีเมียมในระบบค้นหาข้อมูล หรือ Google Search โดยลูกค้าที่จ่ายเงินบริการดังกล่าวจะสามารถได้ฟังก์ชันการทำงานที่มากกว่าคนทั่วไป

แหล่งข่าวของสื่อรายดังกล่าวชี้ว่า Google กำลังพิจารณาตัวเลือกต่างๆ รวมถึงการเพิ่มฟีเจอร์การค้นหาด้วยพลัง AI ให้กับสมาชิพรีเมียมที่จ่ายเงินให้กับบริการดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้นำ Gemini ซึ่งเป็น AI ของบริษัทผนวกเข้ากับบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Gmail และ Google Docs ให้กับลูกค้ามาแล้ว

ไม่เพียงเท่านี้ แผนการดังกล่าวยังถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทได้นำบริการหลักของบริษัทที่ไม่เคยเก็บค่าบริการเลยนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท และนำฟังก์ชันการทำงานแบบพรีเมียมมาเก็บค่าบริการเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่ไม่ได้จ่ายเงินกับบริการดังกล่าวยังสามารถใช้งานระบบดังกล่าวได้ปกติ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวตามหลังมาจากที่ OpenAI เจ้าของ ChatGPT ได้เริ่มเก็บเงินค่าบริการใช้ AI แบบพรีเมียม ซึ่ง Google เองมองว่าบริษัทสามารถที่นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาหารายได้เพิ่มเติมได้ด้วยเช่นกัน หลังจากบริการดังกล่าวของคู่แข่งมีผู้ใช้งานจำนวนมาก

ในช่วงที่ผ่านมา Google ได้พยายามพัฒนาระบบ AI เพื่อที่จะสู้กับ OpenAI เพราะไม่งั้นแล้วบริษัทอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว ทำให้บริษัทต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน ในการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวให้เท่ากับหรือเหนือกว่าคู่แข่ง

รายได้ของบริการค้นหาข้อมูลและโฆษณานั้นคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของบริษัท ซึ่งในปี 2023 ที่ผ่านมานั้นรายได้ในส่วนดังกล่าวสูงถึง 175,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ดีแหล่งข่าวของสื่อรายดังกล่าวได้ชี้ว่า ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของผู้บริหารของบริษัทว่าจะดำเนินตามแผนดังกล่าวหรือไม่

]]>
1469099
“Waymo” ขยายบริการ “แท็กซี่ไร้คนขับ” เข้าลอส แอนเจลิสเป็นเมืองที่ 4 ในสหรัฐฯ https://positioningmag.com/1466479 Fri, 15 Mar 2024 09:55:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1466479 “Waymo”ริษัท “แท็กซี่ไร้คนขับ” ภายในเครือ “Alphabet” ประกาศเปิดบริการในเมือง “ลอส แอนเจลิส” เป็นเมืองที่ 4 ในสหรัฐฯ ขึ้นแท่นผู้นำตลาดอันดับ 1 อย่างไรก็ตาม การใช้งานจริงยังมีปัญหาภาคปฏิบัติหลายอย่าง

บริษัท “Waymo” ภายใต้เครือ Alphabet (เจ้าของเดียวกับ Google) ประกาศขยายบริการแท็กซี่ไร้คนขับ “Waymo One” เข้าสู่เมือง “ลอส แอนเจลิส” หลังได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการสาธารณูปโภคแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย (CPUC) เป็นที่เรียบร้อย

ลอส แอนเจลิส จึงเป็นเมืองที่ 4 ในสหรัฐฯ​ ที่มีบริการ Waymo One ต่อจาก ออสติน รัฐเท็กซัส, ฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา และซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย และนับได้ว่า Waymo ขึ้นแท่นเป็นผู้นำในตลาดแท็กซี่ไร้คนขับขณะนี้

พื้นที่ในลอส แอนเจลิส ที่อนุญาตให้รถแท็กซี่ไร้คนขับ Waymo เข้าไปวิ่งได้มีพื้นที่ประมาณ 163 ตารางกิโลเมตร โดยเบื้องต้นทาง Waymo มีฟลีตรถบริการทั้งหมด 50 คัน และจะยังไม่ให้รถขับขึ้นทางด่วนได้เพื่อความปลอดภัย

ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกที่เปิดบริการเต็มตัว จะให้บริการเฉพาะกลุ่มผู้ที่สนใจกว่า 50,000 รายที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้ว และจะให้บริการฟรีเพื่อทดสอบระบบก่อน ก่อนที่จะเริ่มเก็บเงินตามปกติต่อไป

อย่างไรก็ตาม แม้จะขยายพื้นที่ได้แต่จริงๆ แล้วแท็กซี่ไร้คนขับก็ยังไม่ได้ทำงานได้สมบูรณ์แบบ ดูจากการเปิดบริการใน 3 เมืองก่อนหน้านี้ที่มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอยู่เป็นระยะ ทั้งอุบัติเหตุรถชนคนและตัวรถถูกคนกลั่นแกล้งทำร้าย

สำนักข่าว Los Angeles Times รายงานเหตุหลายอย่างที่เป็นอุบัติเหตุไม่คาดคิด เช่น

  • เมื่อเดือนก่อน Waymo ในเมืองซานฟรานซิสโกเพิ่งจะขับชนจักรยานเพราะมองไม่เห็นว่าจักรยานคันนี้กำลังขี่ตามท้ายรถบรรทุก
  • ในฟีนิกซ์ รถ Waymo เข้าไปชนท้ายรถกระบะเพราะว่ารถกระบะคันนั้นมีส่วนเสริมพ่วงหลัง ทำให้แท็กซี่ไร้คนขับกะระยะไม่ถูก
  • ที่มหาวิทยาลัย University of Southern California แท็กซี่ Waymo ในช่วงทดลองเข้าไปชนกับประตูรั้ว เพราะรถไม่เข้าใจว่าประตูรั้วกำลังค่อยๆ ปิดเข้ามา มาเห็นอีกทีก็เบรกไม่ทันแล้ว

ไม่ใช่แค่รถที่ชนคน แต่คนก็ทำร้ายรถได้ เช่น มีรายงานว่าประชาชนแกล้งเผารถยนต์ Waymo (ที่ไม่มีคนข้างใน) หรือแกล้งนำกรวยจราจรมาตั้งรอบๆ เพื่อไม่ให้รถขับออกไปได้

Waymo
Waymo แท็กซี่ไร้คนขับในเครือ Alphabet

นักข่าวของ Los Angeles Times ยังทดสอบนั่งรถ Waymo ด้วยตนเองด้วย และพบปัญหาในด้านการใช้งานที่ผู้พัฒนาก็อาจจะคาดไม่ถึง เช่น

  • Waymo เลือกจอดส่งคนในจุดเสี่ยงอย่างทางเข้าออกจากตึก แทนที่จะขยับไปข้างหน้าอีกหน่อย
  • คนขับรถยนต์คันอื่นเมื่อเห็นว่าเป็น Waymo ก็เกิดอยาก ‘ทดสอบระบบ’ และพยายามขับปาดหรือเบรกกะทันหันใส่รถไร้คนขับ
  • รถยนต์ Waymo ไม่หยุดเมื่อถูกตำรวจจราจรโบก
  • มีเสียงตะโกนบนถนนว่าพบชายพกปืนในบริเวณนั้น ซึ่งถ้าเป็นรถที่ใช้มนุษย์ขับน่าจะเกิดสัญชาตญาณเอาตัวรอดและรีบถอยรถหนี แต่เนื่องจาก Waymo ไม่เข้าใจ ทำให้รถจอดหยุดนิ่งอยู่กับที่

ปัญหาของ Waymo มีเป็นระยะๆ แต่ยังไม่หนักหนาสาหัสเท่ากับ “Cruise” บริษัทแท็กซี่ไร้คนขับของ General Motors ซึ่งเกิดอุบัติเหตุใหญ่เมื่อปลายปีก่อนที่ซานฟรานซิสโก

อุบัติเหตุครั้งนั้นเริ่มจากรถยนต์ปกติคันหนึ่งชนคนข้ามถนนจนผู้ประสบเหตุกระเด็นมาในเลนข้างๆ Cruise ไร้คนขับที่วิ่งตามมาชนคนซ้ำและลากผู้ประสบเหตุไปไกลกว่า 6 เมตรก่อนที่จะเริ่มเบรก เกิดเป็นคำถามถึงการตอบสนองด้านความปลอดภัยของ Cruise ว่ามีเพียงพอหรือไม่ และสุดท้าย General Motors ต้องหยุดให้บริการ Cruise ทั่วสหรัฐฯ ไปก่อน

นอกจากประเด็นความปลอดภัยของรถแล้ว กลุ่มแรงงานคนขับรถแท็กซี่ยังประท้วงด้วยว่า Waymo One จะทำให้คนนับหมื่นคนในลอส แอนเจลิสต้องตกงาน ทำให้เส้นทางการทำธุรกิจแท็กซี่ไร้คนขับไม่ใช่งานง่ายในการเติบโตเลย

 

ที่มา: Los Angeles Times, Reuters

#Waymo #Alphabet #แท็กซี่ไร้คนขับ #รถไร้คนขับ #นวัตกรรม #Positioningmag

]]>
1466479
CEO ของ Google บอกพนักงานว่ายังมีการปลดพนักงานเพิ่มในปีนี้ ให้เหตุผลปรับโครงสร้างบริษัทไม่ให้ซับซ้อน https://positioningmag.com/1459297 Thu, 18 Jan 2024 03:54:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1459297 Sundar  Pichai ซึ่งเป็น CEO ของ Google ได้ส่งจดหมายถึงพนักงาน โดยได้กล่าวว่าปีนี้จะยังมีการปลดพนักงานเพิ่ม โดยเขาให้เหตุผลถึงการปรับโครงสร้างบริษัทไม่ให้ซับซ้อน และยังรวมถึงการลงทุนของบริษัทที่ต้องใช้เม็ดเงินมหาศาล

The Verge รายงานข่าวโดยอ้างอิงจดหมายของ Sundar  Pichai ซึ่งเป็น CEO ของ Google ที่ได้ส่งให้กับพนักงานในบริษัท โดยหัวเรือใหญ่ของ Google กล่าวว่าในปี 2024 นี้บริษัทอาจต้องมีการปลดพนักงาน เพื่อที่จะปรับโครงสร้างองค์กร รวมถึงรีดประสิทธิภาพขององค์กรด้วย

จดหมายดังกล่าว Sundar ได้กล่าวว่า “เรามีเป้าหมายที่ทะเยอทะยานและบริษัทจะลงทุนในสิ่งที่สำคัญมากในปีนี้ แต่ในการลงทุนดังกล่าวต้องใช้เม็ดเงินมหาศาล และมันเป็นเรื่องที่น่าลำบาก” ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้น CEO ของ Google เตรียมที่จะปรับโครงสร้างองค์กรอีกครั้ง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้นตามมาจากบริษัทได้ปลดพนักงานฝ่ายขายโฆษณาเป็นจำนวนหลักหลายร้อยคน รวมถึงพนักงานของ Youtube ราวๆ 100 ราย

CEO รายดังกล่าวยังได้กล่าวเสริมว่าการปลดพนักงานในปีนี้ทำไปเพื่อปรับโครงสร้างในองค์กร รวมถึงลดความซับซ้อนขององค์กรลง และการปลดพนักงานครั้งนี้จะไม่เหมือนกับการปลดพนักงานในปี 2023 ที่ผ่านมาที่บริษัทได้ปลดพนักงานไปมากถึง 12,000 คน

Sundar ยังกล่าวว่าบางทีมนั้นอาจได้รับผลกระทบจากการปลดพนักงานดังกล่าว และเขาก็ทราบดีว่ามันยากมากที่จะเห็นเพื่อนร่วมงานและทีมได้รับผลกระทบจากปลดพนักงานในปีนี้

ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็น Google หรือแม้แต่ Amazon ยังมีการปลดพนักงานจำนวนมาก โดยสาเหตุสำคัญนั้นมาจากความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังรวมถึงต้นทุนทางการเงินจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังสูง ส่งผลทำให้บริษัทหลายแห่งยังต้องปรับลดพนักงาน

]]>
1459297
รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมบีบ Apple และ Google เปิดเสรี App Store ให้ผู้เล่นรายอื่นเข้ามาแข่งขันได้ https://positioningmag.com/1457316 Wed, 27 Dec 2023 08:35:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1457316 รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมบีบ Apple และ Google เปิดเสรี App Store ให้ผู้เล่นรายอื่นเข้ามาแข่งขันได้ ผ่านข้อกฎหมายที่คาดว่าจะยื่นต่อสภาภายในปี 2024 ที่จะถึงนี้ ทำให้ผู้เล่นรายใหญ่ไม่สามารถที่จะผูกขาดแพลตฟอร์ม รวมถึงผู้เล่นรายใหม่สามารถเข้ามาแข่งขันได้

Nikkei Asia รายงานข่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่น เตรียมออกกฎหมายบีบให้ Apple และ Google เปิดระบบให้สามารถติดตั้ง App Store รวมถึงระบบจ่ายเงินภายในแอปจากผู้เล่นรายอื่นได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ 2 บริษัทสามารถครองตลาดญี่ปุ่นมากจนเกินไป

สื่อญี่ปุ่นได้รายงานว่าข้อกฎหมายที่มีกำหนดส่งไปยังรัฐสภาในปี 2024 จะจำกัดการเคลื่อนไหวผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอย่าง Apple และ Google เพื่อรักษาผู้ใช้ไว้ในระบบนิเวศของผู้ให้บริการเอง และปิดกั้นคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นในส่วน App Store (ของ Apple) และ Play Store (ของ Google) ระบบชำระเงิน

นอกจากนี้ข้อกฎหมายดังกล่าวยังรวมถึง การค้นหา (ซึ่งจะกระทบกับ Google) ระบบเบราว์เซอร์ รวมถึงระบบปฏิบัติการ ในส่วนของการลงโทษนั้น JFTC จะมีค่าปรับสำหรับการละเมิด คาดว่าบทลงโทษจะอยู่ที่ประมาณ 6% ของรายได้จากที่เป็นส่วนของปัญหา

ในช่วงที่ผ่านมา App Store สร้างรายได้มหาศาลให้กับ Apple เป็นอย่างมาก เช่นในปี 2021 นั้นรายได้มากถึง 64,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และทำให้ผู้พัฒนาหลายรายไม่พอใจ เนื่องจากต้องโดนหักส่วนแบ่งระบบชำระเงินซึ่งอาจมากถึง 30% ส่งผลแก่ผู้พัฒนาได้รับรายได้ลดลง จนทำให้ผู้พัฒนาอย่าง EPIC Games ต้องฟ้องศาลจนกลายเป็นคดีความ

ขณะที่ Google เองเช่นกันที่เป็นเจ้าของ Play Store โดยในปี 2021 มีรายได้ถึง 47,900 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้บริษัทกำลังโดนคณะกรรมาธิการการค้าที่เป็นธรรมของญี่ปุ่นเริ่มสอบสวนว่าบริษัทเทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริการายดังกล่าวได้ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดในบริการค้นหาหรือไม่

การเดินเกมดังกล่าวของญี่ปุ่นตามมาจากมาตรการในสหภาพยุโรปที่ต้องการลดอำนาจการผูกขาดแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Apple และ Google ซึ่งสหภาพยุโรปมองว่ามีอำนาจต่อรองมากเกินไป

ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นมองว่าโมเดลดังกล่าวที่เตรียมนำมาใช้จะช่วยไม่ให้ผู้เล่นรายใหญ่เกิดการครอบงำตลาดขึ้นมา โดยกฎหมายนี้มีจุดมุ่งหมายบังคับให้ App Store และระบบการชำระเงินของผู้เล่นรายอื่นสามารถเข้าสู่แพลตฟอร์มได้ ตราบใดที่ผู้ให้บริการรายใหม่เหล่านี้มีความปลอดภัยและปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

]]>
1457316
CEO ของ Alphabet เผยเตรียมนำแชทบอท AI ผนวกในบริการค้นหาข้อมูลของ Google https://positioningmag.com/1426675 Thu, 06 Apr 2023 16:55:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1426675 Sundar Pichai ผู้บริหารสูงสุดของ Alphabet ได้กล่าวว่าบริษัทเตรียมนำแชทบอท AI ผนวกในบริการค้นหาข้อมูลของ Google หลังจากในช่วงที่ผ่านมา ChatGPT ได้สร้างแรงกดดันให้กับบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งในช่วงที่ผ่านมา และอาจกระทบกับความสามารถในการแข่งขันของบริษัทหลังจากนี้ได้

Sundar Pichai ซึ่งเป็น CEO ของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ผู้ให้บริการค้นหาข้อมูล ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ The Wall Street Journal ว่าบริษัทเตรียมที่จะนำแชทบอท AI มาผนวกเข้ากับบริการค้นหาข้อมูล หลังจากที่ ChatGPT ได้สร้างแรงกดดันให้กับบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งในช่วงที่ผ่านมา

เขาได้ชี้ว่าความก้าวหน้าของ AI จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของ Google ในการตอบคำถามค้นหาต่างๆ ซึ่งทาง Alphabet ได้พัฒนา AI ขึ้นมาในชื่อ Bard โดยสร้างขึ้นจากเทคโนโลยี LaMDA ของ Google โดยจะฝึกฝนเจ้าแชทบอทด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ โดยโมเดลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับข้อมูลในโลกออนไลน์จำนวนมากเพื่อสร้างการตอบสนองต่อผู้ใช้งาน

ในช่วงที่ผ่านมา Google กำลังเผชิญความเสี่ยงอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่ายิ่งธุรกิจค้นหาข้อมูล หลังจาก ChatGPT ของ OpenAI สร้างความฮือฮาในการตอบคำถาม และผลลัพธ์ต่างๆ ในการใช้งานที่น่าทึ่ง ขณะเดียวกันคู่แข่งอย่าง Microsoft เองก็ไม่รอช้าที่จะนำระบบแชทบอทดังกล่าวเข้ามาผนวกกับบริการค้นหาของ Bing

สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการมาของ ChatGPT ทำให้ Alphabet ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน ในการพัฒนาระบบ AI ขึ้นมาเพื่อที่จะไม่ให้บริษัทสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน ซึ่ง Google ครองส่วนแบ่งธุรกิจค้นหาข้อมูลมากกว่า 90% ในปัจจุบัน

นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า Google วางแผนที่จะอนุญาตให้ผู้ใช้โต้ตอบโดยตรงกับแชทบอท AI ของบริษัทผ่านบริการค้นหา ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจยกระดับประสบการณ์การค้นหาที่โชว์ลิงก์ต่างๆ ในแบบเดิมที่เป็นมาตรฐานของการค้นมากว่า 20 ปีนี้ด้วย

อย่างไรก็ดีหัวเรือใหญ่ของ Alphabet ไม่ได้กล่าวถึงช่วงเวลาที่จะนำระบบแชทบอทดังกล่าวให้บริการกับผู้ใช้งานในช่วงเวลาใด แต่เขาได้กล่าวว่าตอนนี้บริษัทกำลังทดสอบบริการดังกล่าวในหลายรูปแบบอยู่ในตอนนี้

]]>
1426675
Google เปิดตัว Bard แชทบอทพลัง AI เพื่อสู้กับ ChatGPT คู่แข่งรายสำคัญ https://positioningmag.com/1418200 Tue, 07 Feb 2023 07:19:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1418200 Google ประกาศเปิดตัว Bard แชทบอทคู่แข่ง ChatGPT อีกรายที่ใช้ระบบ AI หลังจากที่แชทบอทของ OpenAI นั้นมีประสิทธิภาพในการทำงานอันน่าทึ่ง จนบริษัทต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากในระยะยาวบริษัทอาจโดนท้าทายจากแชทบอทของคู่แข่งได้

สำหรับ Bard แชทบอท AI นี้สร้างขึ้นจากเทคโนโลยี LaMDA ของ Google (ย่อมาจาก Language Model for Dialogue Applications) ซึ่งฝึกฝนเจ้าแชทบอทด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ โดยโมเดลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับข้อมูลในโลกออนไลน์จำนวนมากเพื่อสร้างการตอบสนองต่อผู้ใช้งาน

นอกจากนี้หัวเรือใหญ่ของ Google ยังกล่าวว่า “Bard เป็นการผสมผสานความรู้อันกว้างไกลของโลกเข้ากับพลัง ความฉลาด และความคิดสร้างสรรค์ของแบบจำลองภาษาขนาดใหญ่ของเรา”

ในช่วงที่ผ่านมา Google กำลังเผชิญความเสี่ยงอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่ายิ่งธุรกิจค้นหาข้อมูล หลังจาก ChatGPT ของ OpenAI สร้างความฮือฮาในการตอบคำถาม และผลลัพธ์ต่างๆ ในการใช้งานที่น่าทึ่ง

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีข่าวลือว่าแชทบอทจากคู่แข่งรายนี้จะนำไปผนวกกับ Bing เว็บไซต์ค้นหาข้อมูลของ Microsoft คู่แข่งในธุรกิจค้นหาข้อมูลเจ้าสำคัญ ทำให้บริษัทต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน

การพัฒนา Bard ของ Google นั้นในทีมนักพัฒนาพนักงานบางคนถูกสั่งไม่ต้องเข้าประชุมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน แสดงให้เห็นความสำคัญของเจ้าแชทบอท AI นั้นเหมือนความเป็นความตายของบริษัทที่ต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน

ก่อนหน้านี้ Sundar Pichai ซึ่งเป็น CEO ของบริษัทและ Jeff Dean ประธานเจ้าหน้าที่ด้าน AI ต่างมองว่า Google จะต้องเปิดตัว Bard ให้ได้ภายในปีนี้

หลังจากนี้ Google จะนำ Bard เข้าผนวกกับระบบค้นหาของบริษัท 

ที่มา – CNN, BBC

]]>
1418200