TOYOTA – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 07 Oct 2024 11:28:25 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “Toyota” ทุ่ม 500 ล้านเหรียญลงทุนกับสตาร์ทอัพ “แท็กซี่บินได้” คาดเปิดบริการจริงปี 2026 https://positioningmag.com/1493172 Mon, 07 Oct 2024 10:13:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1493172 “Toyota” ทุ่มทุน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 16,700 ล้านบาท) ร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัพ “Joby Aviation” ผู้ออกแบบ “แท็กซี่บินได้” คาดเริ่มเปิดบริการจริงในปี 2026 ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

การลงทุนครั้งนี้ของ Toyota Motor Corp. กับ Joby Aviation ไม่ใช่ครั้งแรก บริษัทยักษ์ยานยนต์ญี่ปุ่นมีการลงทุนสะสมแล้ว 894 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 30,000 ล้านบาท) กับ Joby โดยการเลือกลงทุนกับบริษัทผู้ออกแบบ “แท็กซี่บินได้” ของ Toyota เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทที่จะเปลี่ยนนิยามของบริษัทเองให้เป็นผู้ทำ “ธุรกิจยานพาหนะเคลื่อนที่” และ “ตระหนักถึงความฝันของการใช้พาหนะเดินอากาศเพื่อการเดินทางประจำวัน”

สำหรับ Joby เมื่อรวมการระดมทุนในรอบล่าสุดนี้แล้ว พวกเขามีการระดมทุนสะสมไปถึง 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 83,700 ล้านบาท) ตามการรายงานของ Crunchbase สตาร์ทอัพแห่งนี้ยังเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ไปแล้วตั้งแต่ปี 2021 โดยได้รับการประเมินมูลค่าบริษัทไว้ที่ 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท)

Joby เป็นบริษัทผู้ออกแบบยานพาหนะประเภท “แท็กซี่บินได้” โดยใช้พลังงานไฟฟ้า หรือ eVTOL (Electric Vertical Take-off and Landing Air Taxi) ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

ปัจจุบันคุณสมบัติของยานพาหนะที่บริษัทออกแบบสามารถบินได้ด้วยความเร็วสูงสุด 200 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 322 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และบินได้ระยะทางไกลที่สุด 150 ไมล์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ประมาณ 241 กิโลเมตร) สามารถบรรทุกคนขับได้ 1 คนพร้อมกับผู้โดยสาร 4 คนในคราวเดียว บริษัทยกตัวอย่างการใช้งานว่า แท็กซี่บินได้จะสามารถบินจากกลางเมืองนิวยอร์กย่านแมนฮัตตันสู่สนามบิน JFK ได้ภายใน 7 นาทีเท่านั้น

บริษัทยังบอกด้วยว่า ยานพาหนะของบริษัทจะนำไปใช้ในบริบทสังคมเมืองและจะเป็นระบบ “ร่วมโดยสาร” สามารถจองผ่านแอปพลิเคชันได้ และคาดว่าจะเริ่มเปิดบริการใน “ดูไบ” UAE ได้ภายในปี 2026

ขณะที่การระดมทุนรอบล่าสุดของ Joby จะนำเงินลงทุนไปใช้กับการผลิตเชิงพาณิชย์ของตัวยานพาหนะและการรับใบรับรองที่จำเป็นต่างๆ โดยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทระบุว่าขั้นตอนการออกใบรับรองในขั้นที่ 4 จาก 5 ขั้นนั้นสำเร็จไปแล้วประมาณ 1 ใน 3

ยานพาหนะเดินอากาศรุ่นนำร่องของ Joby นั้นสร้างเสร็จเป็นตัวที่ 3 เรียบร้อยแล้ว โดยทางผู้ลงทุนหลักอย่าง Toyota มีการส่งวิศวกรมาทำงานร่วมกับวิศวกรของ Joby ที่รัฐแคลิฟอร์เนียด้วย

การแข่งขันในธุรกิจ “แท็กซี่บินได้” นั้นไม่ได้มีแค่เจ้าเดียว ยังมีสตาร์ทอัพรายอื่นๆ ที่ออกแบบยานพาหนะลักษณะนี้ เช่น Archer Aviation แต่การระดมทุนได้สูงขนาดนี้ภายในรอบเดียวของ Joby ถือเป็นความสำเร็จของสตาร์ทอัพทำแท็กซี่บินได้ที่ไม่ได้เห็นกันมานานหลายปี

Source

]]>
1493172
Toyota ยังเป็นเบอร์ 1 ยอดขายรถยนต์มากสุด แซงแชมป์เก่า Volkswagen เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน https://positioningmag.com/1437023 Tue, 30 Jan 2024 07:45:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1437023 ‘โตโยต้า’ ได้แจ้งจำนวนยอดขายรถยนต์ของบริษัทนั้นมากถึง 11.2 ล้านคันทั่วโลก ทำให้บริษัทยังเป็นเบอร์ 1 ของผู้ผลิตรถยนต์ และยังแซงแชมป์เก่าจากเยอรมันอย่าง Volkswagen เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน แต่ในปีนี้บริษัทอาจประสบปัญหายอดขายลดลงหลังบริษัทลูกเผชิญเรื่องอื้อฉาวด้านความปลอดภัย

Toyota ผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่น ได้แจ้งยอดขายรถยนต์ของบริษัทและบริษัทลูกในปี 2023 ที่ผ่านมาทั่วโลกมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา นอกจากนี้ยอดขายรถยนต์ยังแซงหน้าคู่แข่งจากเยอรมันอย่าง Volkswagen เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน

ยอดขายรถยนต์ของบริษัทและบริษัทลูกในปี 2023 ที่ผ่านมาของ Toyota เติบโต 7.2% อยู่ที่ 11.2 ล้านคัน และมีรถที่ผลิตได้ทั้งหมด 11.5 ล้านคัน ซึ่งจำนวนดังกล่าวมากกว่าคู่แข่งจากเยอรมันอย่าง Volkswagen ซึ่งมียอดขายทั้งหมด 9.2 ล้านคัน

ถ้าหากนับแค่ Toyota อย่างเดียว ในปี 2023 ที่ผ่านมาบริษัทผลิตรถยนต์ได้ 10.3 ล้านคัน

โดยผู้ผลิตรถยนต์รายดังกล่าวนั้นผลิตรถยนต์ไฮบริดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของรถยนต์ที่ผลิตได้ทั้งหมด ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ 104,018 คันคิดเป็นสัดส่วนแค่ 1% เท่านั้น

ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นรายนี้ผ่านสถานการณ์ Supply Chain หยุดชะงักในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ชิปขาดแคลน จนทำให้ Toyota ต้องปรับลดการผลิตมาแล้วในปี 2021 และยังรวมถึงการฟื้นตัวของความต้องการรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่ยุโรป

อย่างไรก็ดีภายในปี 2024 นี้บริษัทลูกอย่าง Daihatsu อาจผลิตรถยนต์ได้ลดลง หลังจากบริษัทเผชิญเรื่องอื้อฉาวด้านความปลอดภัยในรถยนต์ 64 รุ่น จนทำให้บริษัทต้องลดการผลิตลง 25%

]]>
1437023
Toyota ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 6 รุ่น เจาะตลาดยุโรปภายใน 2026 ตั้งเป้าขายได้มากกว่า 250,000 คันต่อปี https://positioningmag.com/1454466 Tue, 05 Dec 2023 11:50:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1454466 Toyota ถือเป็นอีกแบรนด์ที่อยู่ในช่วงสภาวะการเปลี่ยนผ่านจากการใช้เครื่องยนต์สันดาปมาเป็นเครื่องยนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้น้อยลง ล่าสุดบริษัทได้ประกาศแผนที่จะรุกตลาดในทวีปยุโรปด้วยรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 6 รุ่น และในอนาคตจะมีการเปิดตัวรถยนต์ที่ใช้ Fuel Cell ด้วย

Toyota ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากญี่ปุ่นได้ประกาศผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 6 รุ่น โดยจะเริ่มวางจำหน่ายได้ทั้งหมดภายในปี 2026 โดยรถยนต์ไฟฟ้าที่บริษัทได้เน้นจำหน่ายจะเป็นประเภท SUV รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาดเล็ก ซึ่งบางรุ่นนั้นมีจำหน่ายได้ไวสุดภายในปี 2024 นี้

โดยผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากญี่ปุ่นรายนี้คาดหวังว่าในปี 2026 หลังจากการวางจำหน่ายจะมียอดขายได้มากกว่า 250,000 คันต่อปี หรือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 20% ของยอดขายรถยนต์ที่ขายในทวีปยุโรปหลังจากนี้

สำหรับเป้าหมายในปี 2026 นั้นบริษัทจะมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าต่อปีอยู่ที่ราวๆ 1.5 ล้านคัน ซึ่งก่อนหน้านี้แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นรายนี้นั้นในมุมของผู้บริโภคแล้วนั้นอาจยังหารถยนต์ประเภทพลังงานสะอาดได้ยาก

ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ประธานและ CEO ของ Toyota Motor Europe ยังโฟกัสกับเทคโนโลยีที่ใช้ไฮโดรเจนด้วย โดยบริษัทยังมั่นใจในการเลือกเส้นทางดังกล่าว และมองว่าทางเลือกดังกล่าวจะช่วยทวีปยุโรปลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ในปี 2026 บริษัทยังเตรียมตัวที่จะเปิดตัวรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยี Fuel Cell ด้วย ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวที่บริษัทจะเปิดตัวถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 แต่บริษัทไม่ได้กล่าวรายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด

]]>
1454466
‘โตโยต้า’ เริ่มทดสอบ ‘รถยนต์พลังไฮโดรเจน’ บนถนนจริงเป็นครั้งแรกในออสเตรเลีย https://positioningmag.com/1451937 Wed, 15 Nov 2023 09:26:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1451937 แม้ว่าในตลาดรถอีวี ค่ายรถญี่ปุ่นอาจกำลังเสียท่าให้กับ จีน แต่ก็ยังมีรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน ที่ โตโยต้า (Toyota) หมายมั่นปั้นมือมารุกตลาดรถยนต์พลังงานสะอาด โดยล่าสุด บริษัทได้เริ่มทดสอบรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนบนถนนสาธารณะครั้งแรก ก่อนนำไปสู่การขายในเชิงพาณิชย์

เพื่อที่จะพยายามผลักดันให้ รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน เป็นทางเลือกให้กับรถยนต์พลังงานสะอาด โตโยต้า จึงทดลองนำรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนเข้าร่วมการแข่งขันแบบเอนดูรานซ์ 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตเพื่อทดสอบความทนทานของรถยนต์ในญี่ปุ่นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และนับเป็นครั้งแรกในโลกที่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ไฮโดรเจนเข้าร่วมการแข่งขันจริงจังอย่างเป็นทางการ

ล่าสุด โตโยต้าได้นำ รถตู้ HiAce ดัดแปลงพิเศษ ที่ขับเคลื่อนด้วยก๊าซไฮโดรเจน วิ่งบนถนนในเขตชานเมือง เมืองเมลเบิร์น เพื่อประเมินสมรรถนะและศักยภาพในการทำงานของรถยนต์ในกรณีการใช้งานจริง

“การทดสอบดังกล่าวนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อฝึกฝนเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฮโดรเจนที่กลั่นกรองผ่านมอเตอร์สปอร์ตให้ดียิ่งขึ้นไปอีกเพื่อการใช้งานจริง” โตโยต้า กล่าว

ทั้งนี้ หนึ่งในสาเหตุที่โตโยต้าทดสอบรถพลังงานไฮโดรเจนในประเทศออสเตรเลียก็เพราะ ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีไฮโดรเจนอุดมสมบูรณ์ และมีความต้องการที่จะนำไฮโดรเจนมาใช้งาน อย่างไรก็ตาม รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่ใช้ในเชิงพาณิชย์อยู่แล้วนั้นใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า ในขณะที่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ไฮโดรเจนนั้นมีข้อได้เปรียบเนื่องจากมีชิ้นส่วนหลายส่วนที่เหมือนกันกับรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน ทำให้ค่ายรถญี่ปุ่นได้เปรียบในด้านการผลิตและบำรุงรักษา

Source

]]>
1451937
‘โตโยต้า’ ฟาดกำไร Q1 กว่า 1.1 ล้านล้านเยน โต 94% พร้อมเร่งหาทาง “ลดต้นทุนรถอีวี” แข่งจีน! https://positioningmag.com/1439557 Wed, 02 Aug 2023 06:25:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1439557 ขึ้นแท่นเป็นค่ายรถยนต์ที่มี ยอดขายอันดับ 1 ยืนยาว 4 ปีซ้อน โดยล่าสุด โตโยต้า (Toyota) ได้รายงานผลประกอบการ ไตรมาส 1 ตามปีงบการเงิน 2023 (เมษายน-มิถุนายน) โดยผลกำไรเติบโตเกือบ 2 เท่า และที่น่าสนใจคือ รถยนต์ไฮบริด ที่มีการเติบโตจากหลักพันไปเป็นหลักหมื่น

ผลประกอบการของ โตโยต้า ในช่วงไตรมาส 1 ตามปีงบการเงิน 2023 อยู่ที่ 10.5 ล้านล้านเยน เติบโต +24.2% โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (operating profit) 1.12 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น +94% และกำไรสุทธิ (net profit) อยู่ที่ 1.31 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น +78%

โดยโตโยต้า สามารถขายรถยนต์ได้ 2.53 ล้านคัน โดย 34% ของยอดขายเป็น รถยนต์หรู ทั้งแบรนด์โตโยต้าและเล็กซัสที่น่าสนใจคือ รถไฮบริดและรถพลังงานไฟฟ้าอื่น ๆ มียอดขายถึง 29,000 คัน เพิ่มขึ้นจาก 4,000 คั ที่จำหน่ายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

โตโยต้า ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการและยอดขายของบริษัทเติบโตนั้นเป็นเพราะปัญหาขาดแคลนชิปที่ลดลง ขณะที่ยอดขายของบริษัทก็เติบโตในทุกภูมิภาคทั่วโลก นอกจากนี้ ราคาของรถยนต์ในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปก็มีราคาดีขึ้น รวมถึงปัจจัยหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงทำให้รายได้ในหน่วยเงินเยนสูงขึ้น

โดยหากแยกเป็นแต่ละภูมิภาคพบว่า ผลประกอบการใน ญี่ปุ่น นั้นยังแข็งแกร่ง โดยมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีก่อนหน้าเป็น 7 แสนล้านเยน คิดเป็นกว่า 60% ของกำไรจากการดำเนินงานทั้งหมด ส่วนในตลาด อเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นตลาดหลักอีกแห่งก็มีความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค เนื่องจากผลกระทบของการขาดแคลนชิปหลังการระบาดใหญ่ลดลง

Koji Sato ที่เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารต่อจาก Akio Toyoda เมื่อต้นปีนี้ เคยยอมรับว่า โตโยต้าล้าหลังในด้านรถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้น บริษัทจะต้อง ตามให้ทัน โดยบริษัทจะต้องทำงานในเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งล่าสุด โตโยต้าได้ประกาศว่าจะ เสริมสร้างการพัฒนาเทคโนโลยี EV ในประเทศจีน โดยตั้งเป้าที่จะ ลดต้นทุนการผลิตรถอีวีลงอย่างมาก รวมถึงการพัฒนาฐานซัพพลายเออร์ในท้องถิ่นเพื่อให้สามารถแข่งขันได้มากขึ้น

โดยตลาดรถอีวีในจีนมีการแข่งขันสูงมาก จากเดิมที่เคยมองว่าเป็นโอกาสของผู้เล่นต่างประเทศ แต่ปัจจุบันกลับมีค่ายรถยนต์ในประเทศเกิดใหม่จำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีการดัมพ์ราคาจาก เทสลา (Tesla) ที่กำลังทำให้เกิดการแข่งราคาอย่างหนักในตลาด

สำหรับผลประกอบการในปีงบประมาณนี้ โตโยต้าคาดว่าจะมีรายได้รวม 38 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น +2.3% ส่วนกำไรสุทธิ (net profit) อยู่ที่ 2.58 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น +5.2% ส่วนรายได้จากการดำเนินงาน (operating income) อยู่ที่ 3 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น +10.1%

ทั้งนี้ หุ้นของโตโยต้า ที่เคยเพิ่มขึ้น 1.15% ก่อนการประกาศผลประกอบการ และหลังจากที่รายงานผลกำไรทำให้หุ้นปิดเพิ่ม 2.5% ที่ 2,445.5 เยน

reuters / japantoday

]]>
1439557
Toyota เตรียมส่งรถยนต์ไฟฟ้าสู่ตลาด 10 รุ่นภายในปี 2026 คาดขายได้ 1.2 ล้านคันได้ https://positioningmag.com/1426789 Fri, 07 Apr 2023 12:44:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1426789 ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Toyota ได้เตรียมเข็นรถยนต์ไฟฟ้า 10 รุ่นเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาภายในปี 2026 แม้ว่าจะโดนข้อครหาจากนักลงทุนถึงกลุ่มสิ่งแวดล้อมที่มองว่าความเคลื่อนไหวของบริษัทช้ากว่าผู้เล่นรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทจากประเทศจีนก็ตาม โดยคาดว่ายอดขายนั้นจะมากถึง 1.2 ล้านคันก็ตาม

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า Toyota ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น เตรียมส่งรถยนต์ไฟฟ้าเข้าสู่ท้องตลาด 10 รุ่นภายในปี 2026 ภายใต้สภาวะตลาดที่มีการแข่งขันสูงจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากยุโรป สหรัฐอเมริกา หรือแม้จากประเทศจีน ที่กำลังแข่งขันอย่างดุเดือด

ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกเมื่อวัดจากยอดขายจะจัดตั้งหน่วยงานใหม่โดยเฉพาะเพื่อมุ่งเน้นไปที่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่อไปโดยเฉพาะ ผู้บริหารระดับสูงกล่าวสรุปขณะที่พวกเขาร่างแผนภายใต้ทีมผู้นำชุดใหม่ ซึ่งปัจจุบัน Toyota มีรถยนต์ไฟฟ้าเพียงแค่ 3 รุ่นเท่านั้น

ความเคลื่อนไหวของ Toyotra นั้นเพื่อจะตอบสนองในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าแซงหน้าตลาดรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ประเภทสันดาป และตลาดในแดนมะกันถือว่าเป็นตลาดรถยนต์นอกประเทศญี่ปุ่นที่สร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม

สาเหตุสำคัญอีกประการที่ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นรายนี้ต้องประกาศการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าก็คือ General Motors หรือ GM มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น สวนทางกับ Toyota ที่มียอดขายรถยนต์ตกลงถึงเกือบ 9% เมื่อเทียบกับคู่แข่งจากสหรัฐอเมริการายนี้

นักลงทุนและกลุ่มสิ่งแวดล้อมได้วิจารณ์ว่า Toyota ปรับตัวที่จะผลิตรถยนต์ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ช้า โดยกล่าวว่าบริษัทได้สูญเสียความสามารถในการแข่งขันให้กับ Tesla และผู้เล่นรายอื่น ๆ ที่มีความต้องการที่เติบโตจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงผู้เล่นจากประเทศจีนด้วย

โดยก่อนหน้านี้ Akio Toyoda อดีตหัวเรือใหญ่ของ Toyota เคยกล่าวว่า “ตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้ายังไม่ใช่กระแสหลักอย่างที่สื่อประโคมข่าว แต่จะใช้เวลาอีกนาน เช่นเดียวกับรถยนต์ไร้คนขับที่เราทุกคนคิดว่าจะเป็นเทรนด์”

Koji Sato ในวัย 53 ปี ซึ่งเขาได้เป็นประธานของ Lexus ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์หรูของบริษัท และได้ทำงานในบริษัทตั้งแต่ปี 1992 และได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารภายในบริษัทหลากหลายตำแหน่งนับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมานั้นได้ขึ้นมาเป็นผู้บริหารสูงสุดของ Toyota แทน Akio Toyoda

อย่างไรก็ดี Koji Sato ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ของ Toyotaๆ ซึ่งเป็นงานแรกของเขาในตำแหน่งสูงสุด แต่เสริมว่ารถยนต์ประเภท Hybrid ยังคงเป็นเสาหลักที่สำคัญของบริษัท แม้ว่าจะมีคาดการณ์จากวิจัยหลายแห่งว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 50% ภายในช่วง 10 ปีข้างหน้าก็ตาม

Toyota คาดว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาของบริษัทจะขายได้ 1,500,000 คันภายในปี 2026 ซึ่งมากกว่าคาดการณ์จาก S&P Global Mobility ที่คาดว่าตลาดในสหรัฐอเมริกาจะมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในปีดังกล่าวถึง 1,200,000 คัน

]]>
1426789
ไม่แผ่ว! ยอดขายทั่วโลกของ ‘โตโยต้า’ ในเดือนก.พ. พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะลุ 7 แสนคัน https://positioningmag.com/1425756 Fri, 31 Mar 2023 00:58:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1425756 ถือว่าเริ่มต้นปีได้อย่างแข็งแรง สำหรับ โตโยต้า (Toyota) แบรนด์รถยนต์ที่มียอดขายอันดับ 1 ของโลก 3 ปีซ้อน โดยปี 2022 ทำมียอดจำหน่ายทั้งหมด 10.5 ล้านคัน และในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยอดขายของโตโยต้าก็เติบโตได้กว่า 10% สูงสุดเป็นประวัติการณ์

โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 10.3% จากปีที่แล้ว เป็น 773,271 คัน ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนนี้ โดยมีปัจจัยหนุนจากยอดขายในประเทศดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ก็เริ่มดีขึ้น

โดย ยอดขายในญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 53.2% เป็น 155,840 คัน หลังจากที่ลดลงอย่างหนักในปีที่แล้วเนื่องจากการขาดแคลนชิ้นส่วนและผลกระทบจากข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของ COVID-19 ส่วน ยอดขายรถยนต์ในต่างประเทศปรับตัวขึ้น 3.0% แตะที่ 617,431 คัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ ยอดขายในจีนเพิ่มขึ้น 0.9% โดยได้แรงหนุนจากการเปิดตัวรถยนต์โตโยต้ารุ่นใหม่ ๆ

ในส่วนของภาคการผลิตรถยนต์ภายในประเทศปรับตัวขึ้น 11.2% แตะ 281,521 คัน ส่งผลให้ยอดการผลิตรถยนต์ทั่วโลกของโตโยต้าพุ่งขึ้น 2% แตะที่ 755,839 คัน แม้วว่าการผลิตในต่างประเทศของโตโยต้าลดลง 2.7% เหลือ 474,318 คัน เนื่องจากการผลิตในจีนลดลง 14.1% ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม แม้จะมียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ แต่โตโยต้ายังเจอกับปัญหาการส่งมอบรถยนต์ที่ล่าช้า เนื่องจากข้อจำกัดในการผลิตซึ่งเกิดจากการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะการส่งมอบในญี่ปุ่นมีความล่าช้าเป็นพิเศษ เนื่องจากผลิตโมเดลระดับไฮเอนด์ที่มีฟังก์ชันขั้นสูงซึ่งต้องอาศัยชิปจำนวนมาก

ทั้งนี้ โตโยต้าได้ปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ทั่วโลกสำหรับปีงบการเงินที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2023 ลงสู่ระดับ 9.1 ล้านคัน จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 9.2 ล้านคัน เนื่องจากผลกระทบของปัญหาขาดแคลนชิป ขณะที่เป้าหมายการผลิตในเดือนมีนาคม โตโยต้าวางเป้าที่จะผลิตรถยนต์ให้ได้ 900,000 คัน

Source

]]>
1425756
กำไร ‘โตโยต้า’ ลดลง 18% เนื่องจากเจอปัญหา ‘ต้นทุน’ ทำพิษโดยเฉพาะชิปที่ขาดแคลน https://positioningmag.com/1418923 Fri, 10 Feb 2023 13:29:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1418923 แม้ โตโยต้า (Toyota) จะยังรักษาแชมป์ค่ายรถเบอร์ 1 ของโลกปี 2022 ด้วยยอดขายเกือบ 10.5 ล้านคัน แต่ด้วยปัญหาขาดแคลนชิปที่ผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลกต่างต้องเผชิญเหมือน ๆ กัน บวกกับปัญหาเงินเฟ้อและเงินเยนอ่อนค่า ทำให้ต้นทุนของบริษัทสูงขึ้นจนกระทบกับผลกำไร

แม้โตโยต้าจะรักษาอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์ทั่วโลก 3 ปีซ้อน แต่เนื่องจาก เงินเยนที่อ่อนค่า ในขณะที่ ราคาวัสดุพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะ ชิปที่ขาดแคลน ได้ส่งผลกระทบต่อผลกำไรของโตโยต้าอย่างมาก โดยผลประกอบการรวม 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ (เม.ย. 2022-ธ.ค. 2022) อยู่ที่ 27.5 ล้านล้านเยน เติบโตขึ้น 18% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

แม้รายได้จะเติบโตแต่กำไรกลับไม่โตตาม โดยโตโยต้ามี กำไรสุทธิ 1.89 ล้านล้านเยน ลดลง 18% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อน นับเฉพาะไตรมาส 3 (ต.ค.-ธ.ค) กำไรลดลง 8% อยู่ที่ 7.27 แสนล้านเยน ลดลงจาก 7.91 แสนล้านเยนในปีก่อนหน้า ทั้งนี้ โตโยต้ายังคงเป้ากำไรสุทธิทั้งปีงบประมาณ (ที่สิ้นสุดเดือน มี.ค. 2023) ที่ 2.36 ล้านล้านเยน หรือ ลดลง 17.2%

“ผู้แทนจำหน่าย ซัพพลายเออร์ และโรงงานผลิตทำงานหนักภายใต้สถานการณ์ที่แผนการผลิตผันผวนอย่างมากเนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์และภัยธรรมชาติ กำลังรับภาระจากซัพพลายเออร์ของเราที่เกิดจากราคาวัสดุและพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น เพื่อให้กิจกรรมเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันได้” โตโยต้า ระบุ

เซอิจิ ซุงิอุระ นักวิเคราะห์อาวุโสของสถาบันวิจัยโตไก โตเกียว มองว่า โตโยต้ายังอยู่ในสถานะที่ดีกว่าแบรนด์คู่แข่ง เนื่องจากบริษัทนั้น มีอำนาจต่อรองสูง กับซัพพลายเออร์ชิ้นส่วน นอกจากนี้ การตัดสินใจของจีนที่จะยุตินโยบายปลอดโควิดและอาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ถือเป็นปัจจัยบวกเช่นกัน ดังนั้น แนวโน้มยอดขายรถยนต์จึงเป็นไปในทิศทางที่ดี

ในเดือนมกราคมปี 2023 โตโยต้าตั้งเป้าหมายการผลิตที่มั่นใจที่ 10.6 ล้านคัน ซึ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมา และสูงปี 2019 ที่มียอดผลิต 9 ล้านคัน ถึงจะวางเป้าไว้สูง แต่ปัญหาขาดแคลนชิปอาจทำให้ยอดการผลิตอาจหายไป 10% จากเป้าหมาย

]]>
1418923
CEO ของ Toyota ประกาศลงจากตำแหน่งแล้ว สื่อนอกชี้บริษัทเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่หลังจากนี้ https://positioningmag.com/1416824 Thu, 26 Jan 2023 08:58:15 +0000 https://positioningmag.com/?p=1416824 Akio Toyoda ซึ่งเป็นประธานบริษัท รวมถึง CEO ของบริษัทรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง Toyota ได้ประกาศลงจากตำแหน่งแล้ว หลังจากอยู่ในตำแหน่งมานาน 13 ปี นับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ซึ่งการลงจากตำแหน่งในวันนี้ได้ความประหลาดใจให้กับนักลงทุน รวมถึงนักวิเคราะห์ไม่น้อย

สำนักข่าว Reuters ได้ชี้ว่าการลงจากตำแหน่งของ Akio Toyoda ส่วนหนึ่งมาจากบริษัทเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัวไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์หลังจากนี้

ปัจจุบัน Toyota กำลังถูกท้าทายจากผู้เล่นหน้าใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งรถยนต์ไฟฟ้า หรือแม้แต่การพัฒนารถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงแบบไฮโดรเจน ต่างก็ถูกท้าทายโดยผู้ผลิตรถยนต์หลายแบรนด์ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตจากประเทศจีน ไปจนถึงคู่แข่งสำคัญอย่างบริษัทผลิตรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรป

โดย Akio Toyoda เป็นหลานชายของ Kiichiro Toyoda ผู้ก่อตั้งบริษัท Toyota Motor ได้เข้ารับตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของ Toyota นับตั้งแต่ปี 2009 และได้พาบริษัทฝ่ามรสุมต่างๆ มากมาย ซึ่งเขากล่าวว่า “เมื่อมองย้อนกลับไป 13 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาแห่งการดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดวันต่อวัน และนั่นคือความรู้สึกจริง ๆ ของผม”

สำหรับผู้ที่จะมารับตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของ Toyota นั่นก็คือ Koji Sato ในวัย 53 ปี ซึ่งเขาได้เป็นประธานของ Lexus ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์หรูของบริษัท และได้ทำงานในบริษัทตั้งแต่ปี 1992 และได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารภายในบริษัทหลากหลายตำแหน่งนับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา

Koji Endo นักวิเคราะห์อาวุโสของ SBI Securities ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่น ได้ให้มุมมองกับ Reuters ว่า เขาไม่คิดว่า Akio Toyoda จะลงจากตำแหน่ง และมองว่าเขาจะดำรงตำแหน่งไปสักพักด้วยซ้ำ และมองว่า Koji นั้นมีอายุที่น้อย เมื่อเทียบกับผู้บริหารคนอื่นๆ ของ Toyota ซึ่งเขาสามารถดำรงตำแหน่งหลังจากนี้ได้อย่างยาวนาน และช่วงเวลาหลังจากนี้เป็นเหมือนการฝึกงาน (ในการเป็น CEO) ของเขา

ประธานและ CEO ของ Toyota ยังได้กล่าวชื่นชมว่าที่หัวเรือคนใหม่ว่า “Koji เป็นคนที่ทำงานหนัก และยังได้เรียนรู้ปรัชญาของบริษัทอีกด้วย” และเขายังกล่าวเสริมว่า “Toyota ต้องการคนหนุ่ม มีพลัง รวมถึงความแข็งแกร่ง” ซึ่งเขาอยากให้ทุกคนสนับสนุนการทำงานของ Koji ด้วย

ที่มา – CNBC, Reuters [1], [2]

]]>
1416824
ซีอีโอ ‘โตโยต้า’ ชี้ ‘รถอีวี’ ยังไม่ใช่กระแสหลัก และนโยบายเลิกใช้ ‘รถสันดาป’ ยากจะทำตาม https://positioningmag.com/1403018 Tue, 04 Oct 2022 04:24:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1403018 หลายคนมองว่า ‘โตโยต้า’ (Toyota) ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของโลกนั้น ช้า เกินไปสำหรับตลาดรถอีวี แต่ อากิโอะ โทโยดะ ซีอีโอของบริษัทก็ยังเชื่อว่ารถอีวียังไม่ใช่ กระแสหลัก อย่างที่ข่าวประโคมกัน และมองว่าข้อบังคับที่จะ เลิกใช้รถยนต์สันดาป เป็นไปได้ยากที่จะสำเร็จ

อากิโอะ โทโยดะ ซีอีโอ โตโยต้า มอเตอร์ ไม่เชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะถูกนำมาใช้เร็วตามที่ผู้ควบคุมนโยบายและคู่แข่งคิด เนื่องด้วยเหตุผลหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน ราคา และความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค ซึ่งปัจจัยดังกล่าวถือเป็นตัวอย่างของอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น

นอกจากปัจจัยดังกล่าวแล้ว เรื่องข้อบังคับที่จะ ยกเลิกไม่ให้ใช้รถยนต์สันดาป ภายในปี 2035 ในหลายประเทศ ซึ่งโทโยดะก็เชื่อว่า ยากในการปฏิบัติตาม และหากคนเริ่มหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ปัญหาการขาดแคลนซัพพลายเชนแบตเตอร์รี่ ก็จะตามมา โดยเฉพาะยังการขาดแคลน ลิเธียมและนิกเกิล เกรดแบตเตอรี่ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ซึ่งนำไปสู่ปัญหาด้านการผลิต

“ตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้ายังไม่ใช่กระแสหลักอย่างที่สื่อประโคมข่าว แต่จะใช้เวลาอีกนาน เช่นเดียวกับรถยนต์ไร้คนขับที่เราทุกคนคิดว่าจะเป็นเทรนด์”

อย่างไรก็ตาม โตโยต้าก็ไม่ได้ทิ้งการพาตัวเองเข้าสู่เทรนด์รถยนต์พลังงานสะอาด โดยได้เพิ่มงบลงทุน สองเท่า หรือราว 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 9 ปีจากนี้ และภายในปี 2025 โตโยต้าตั้งเป้าที่จะออกรถยนต์พลังงานสะอาด 15 รุ่น ไม่ว่าจะเป็นแบบไฮบริด, ปลั๊กอินไฮบริด, รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และรถอีวี 100% พร้อมกับตั้งเป้าหมายที่จะปล่อยคาร์บอนให้เป็นกลางภายในปี 2050

“สำหรับผมชัยชนะหมายถึงการทำสิ่งต่าง ๆ ที่แตกต่างออกไป ทำในสิ่งที่คนอื่นอาจสงสัย แต่เราเชื่อว่ามันจะทำให้เราอยู่เป็นผู้ชนะได้นานที่สุด”

สุดท้าย โทโยดะ ย้ำว่า โตโยต้าเปรียบเสมือนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ดังนั้น เป้าหมายของบริษัทยังคงเหมือนเดิม คือ สร้างความพอใจให้กับลูกค้าในวงกว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

Source

]]>
1403018